"อัครสาวก" คือตำแหน่งของผู้ที่ได้รับเลือกจากเทพเจ้าเช่นเดียวกันกับแชมป์เปี้ยน แต่ว่าอัครสาวกนั้นคือตำแหน่งที่มีอำนาจน้อยกว่าผู้เป็นแชมป์เปี้ยนเนื่องจากว่าอัครสาวก จะถูกเลือกโดยเทพเจ้าและต้องให้แชมป์เปี้ยนเป็นผู้แต่งตั้ง ตำแหน่งให้ ผู้ที่เป็นอัครสาวกจะได้รับพลังส่วนหนึ่งของเทพเจ้าไป โดยที่อัครสาวกไม่สามารถติดต่อกับเทพเจ้าได้โดยตรงเหมือนกับแชมป์เปี้ยน แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่เป็นอัครสาวกส่วนมากล้วนมีความสามารถในการเป็นฮันเตอร์ระดับ A+ กันทั้งนั้น หมายความว่าหนึ่งในฮันเตอร์ที่กำลังต่อสู้อยู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมีแนวโน้มที่จะเป็นฮันเตอร์แรงค์ A+ หรือหนึ่งในฮันเตอร์เหล่านี้มีแรงค์ A+ ปะปนอยู่
ถ้าพูดถึงเรื่องลำดับพลังของฮันเตอร์นั้นจะเห็นความแตกต่างได้ตั้งแต่แรงค์ A+ ขึ้นไป เนื่องจากว่าแรงค์นี้คือคอขวดของการขึ้นไปสู่แรงค์ S หรือที่รู้จักกันในชื่อสมบัติของโลก
"แต่ดูจากการที่ยังไม่สามารถกำจัดซิลเวนัสได้แบบนี้ แสดงว่าในหมู่ฮันเตอร์พวกนี้ไม่มีใครที่เป็นฮันเตอร์แรงค์A+ งั้นสินะ แถมตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะไม่รู้รูปแบบการป้องกันตัวของซิลเวนัสซะด้วยสิ" กรกล่าวขึ้นในขณะที่
มองกลุ่มฮันเตอร์อยู่ โดยที่พวกกลุ่มฮันเตอร์ได้พยายามโจมตีซิลเวนัสอย่างต่อเนื่อง
"ให้ตายสิไม่ว่าจะโจมตีเท่าไหร่ เจ้ามอนสเตอร์บ้านี้ก็ไม่ตายสักที" ริค นักดาบของปาร์ตี้กล่าวขึ้นในขณะที่กำแสดงสีหน้าหงุดหงิด
"ตอนแรกฉันก็นึกว่าเราจะจัดการมอนสเตอร์ตัวนี้ได้แล้วซะอีกแต่ไหงมันถึงได้มีเกาะหุ้มตัวเองแบบนี้ขึ้นมาล่ะ?" มิวรอน ฮิลเลอร์ของปาร์ตี้กล่าว
"ฉันว่าสถานการณ์ตอนนี้ดูไม่ค่อยดีเลยนะ เราจะหยุดการต่อสู้ไว้แค่นี้ดีมั้ย?" คาน แทงค์ของปาร์ตี้กล่าวขึ้น
"จะให้หยุด ทั้งๆที่เราก็สู้กับมันมาตั้งขนาดนี้แล้วเนี้ยนะ อีกอย่างซิลเวนัสเป็นมอนสเตอร์หายากที่จะดรอปไอเท็มอีกด้วยจะให้ทิ้งโอกาสแบบนี้ไปรึไง" ราซ นักฆ่ากล่าว
"ฉันว่าที่ราซ พูดก็ถูกนะพวกเราอุส่าลดHPของเจ้าซิลเวนัสไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว จะให้หยุดแค่นี้คงจะเสียดายแย่ แถมไอเท็มที่ดรอปจากพวกมอนสเตอร์สามารถขายได้ในราคาสูงอีกด้วยฉันว่าฉันเห็นด้วยกับราซนะ" แซม นักธนูกล่าวขึ้น
ตัดกลับมาที่ กร
"เจ้าพวกบ้านี่ เล่นโจมตีรัวๆใส่มอนสเตอร์ที่สะท้อนดาเมจได้แบบนั้น พอผลของการสะท้อน กลับมาทำงานเดียวก็ได้ตายกันยกตี้ซะหรอก" กรกล่าวขึ้นมาพร้อมกับทำสีหน้าแบบช่วยไม่ได้
"สงสัยฉันคงต้องลงมือแล้วสินะ ระหว่างที่เดินลึกเข้ามาฉันก็ได้ใช้สกิลเทคิเนซิสในการสั่งหารพวกมอนสเตอร์รอบๆจนเลเวลสกิลเพิ่มขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว มันคงพอจะยกหินก้อนหนักๆได้แล้วล่ะมั้ง" กรกล่าวขึ้นและมองไปที่ก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ทางฝั่งของพวกฮันเตอร์
"ช่วยไม่ได้แฮะถ้ายังยืดเยื้อแบบนี้เดียวผล
ของบัฟEXP100% ก็จะสูญเปล่าไปกับเวลาที่เสียไปกับคนพวกนี้ ถ้าไม่มีการแจ้งเตือนมาว่ามีอัครสาวกอยู่ที่นี้ฉันก็คงจะเดินลึกเข้าไปในใจกลางของเมืองแห่งพฤกษาไปแล้ว" กรกล่าวขึ้นอย่างหัวเสียก่อนจะใช้เทเลคิเนซิสยกก้อนหินขนาดใหญ่ขึ้นมาจากดิน
"อะ….เอ๊ะ!? นะ…นี่ ก้อนหินมัน!?!" ฮิลเลอร์ที่อยู่ด้านหลังสุดกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ
ระยะของกร กับพวกฮันเตอร์ห่างกันประมาณ150เมตร การใช้เทเลคิเนซิสระยะไกลค่อนข้างจะควบคุมยากเพราะต้องมองเห็นวัตถุที่ควบคุมอยู่เสมอหรือต้องอยู่ในระยะที่สามารถสัมผัสกระแสมานาได้ สำหรับคนทั่วไปแล้วการจะสัมผัสกระแสมานารอบๆตัวได้นั้น จำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัวและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมนั้นๆเป็นเวลานาน บางคนอาจใช้เวลา 3-4 ปีในการฝึกฝนการสัมผัสมานา แต่สำหรับกรนั้นไม่ใช่ สำหรับอัจฉริยะแบบเขาแล้วการเรียนรู้และปรับตัวเหมือนเป็นเรื่องปกติที่ทำได้ง่ายๆคล้ายกับการหายใจ
[เทเลคิเนซิสได้รับการอัพเลเวล 1 > 3]
[เทเลคิเนซิส ปลดล็อค! สามารถยกวัตถุที่มีน้ำหนัก มากกว่า 1 ตันได้แล้ว!!]
ก้อนหินขนาดใหญ่ลอยขึ้นอยู่เหนือหัวของกลุ่มฮันเตอร์ มันลอยพุ่งไปทางฝั่งของเจ้าซิลเวนัส
อย่างรวดเร็ว!
ตู้ม!! เสียงของก้อนหินหล่นทับซิลเสนัสดังลั่นไปทั่วป่า
[สังหาร ซิลเวนัสสำเร็จ ได้รับ EXP 158,469]
[เลเวลอัพ!]
[ได้รับไอเท็ม]
[แหวนแห่งพงไพร +พลังป้องกัน 15%]
[เอฟเฟ็ค สกิลติดตัวซิลเวนัสทำงาน หลังจาก
มอนสเตอร์ถูกสังหารจะปล่อยมานาที่ดึงดูด
มอนสเตอร์โดยรอบมาหาตนเอง]
"ชิบล่ะ…เจ้านี้มันเป็นซิลเวนัสที่ได้รับการ
วิวัฒนาการงั้นหรอ!?" กรกล่าวขึ้นอย่างตกใจ
มอนสเตอร์ที่ได้รับการวิวัฒนาการเกิดจากการที่มอนสเตอร์ ได้รับหินมานาของมอนสเตอร์ประเภทอื่นมากเกินไป ไม่แน่ว่าซิลเวนัสตัวนี้อาจจะกินมอนสเตอร์ที่มีลักษณะดึงดูด
มอนสเตอร์ตัวอื่นเข้าไปจนได้รับเอฟเฟ็คพิเศษมาก็ได้
ด้วยเสียงที่ดังบวกกับการปล่อยมานาที่ดึงดูด
เหล่ามอนสเตอร์ของซิลเวนัสทำให้ตอนนี้พื้นที่
ที่กรอยู่เป็นแหล่งดึงดูดเหล่ามอนสเตอร์ทันที
"นี้มันเป็นสถานการณ์เลวร้ายแบบสุดๆอย่างที่ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยไม่ใช่หรอ…." กรกล่าวขึ้น
"ตรงนั้นมัน เวฟมอนสเตอร์งั้นหรอ?" กรกล่าวขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆ
"ซวยล่ะสิ…."
"นี่! พวกคุณหน่ะ ถ้าขืนยืนอยู่แบบนั้นเดียวก็ซวยหรอกรีบหนีออกไปจากที่นี้เร็วๆซะ!" กรตะโกนกล่าวบอกพวกฮันเตอร์
"อ่ะ!?....แก? แกคือคนที่ยกก้อนหินนั่นงั้นหรอ!?" นักดาบกล่าวตอบกรด้วยความสับสนและสงสัยพร้อมกับความโมโหที่โดนลาสมอน
ตอนนี้มอนสเตอร์เริ่มที่จะมุ่งเป้ามาทางของกรแล้ว เสียงของฝูงมอนสเตอร์เริ่มดังเข้าใกล้มาเรื่อยๆ
"เอ๊ะ!?...นี้มันแผ่นดินไหวงั้นหรอ!?" มิวรอนกล่าวด้วยความตกใจ
"รีบออกจากที่นี้ให้ไวซะ ตอนนี้กำลังเกิดมอนสเตอร์เวฟ!!" กรกล่าวบอกพวกฮันเตอร์ที่อยู่ด้านล่างของต้นไม้
"มอนสเตอร์เวฟงั้นหรอ!? พูดบ้าอะไรของคุณกันที่นี้มันไม่มีเกตสักหน่อยนะมันจะไปม-" ไม่ทันที่แซมนักธนูของปาร์ตี้กล่าวจบ สกิลติดตัวของคลาสนักธนูก็ทำงาน
[ตรวจพบมอนสเตอร์บริเวณโดยรอบในรัศมี500 เมตร ตรวจพบมอนสเตอร์จำนวน 1000 ตัว]
"เอ๊ะ……!?" แซมกล่าวขึ้นในขณะที่กำลังมองการแจ้งเตือนจากระบบ
"นะ…หนึ่งพันงั้นหรอ…!?" แซมกล่าวขึ้นด้วยความตกใจและตั่วสั่นด้วยอาการช็อก
"แซมตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!" ริค กล่าวถามเพื่อนของเขาที่กำลังช็อกอยู่
"มะ….มอนสเตอร์นับพันตัวกำลังมาที่นี้ในเวลาไม่ถึง2นาที พวกเราจบสิ้นแล้วล่ะ…." แซมกล่าวขึ้น ด้วยความสิ้นหวัง
"นาย พูดบ้าอะไรนะ มอนสเตอร์นับพันงั้นหรอ?" ริคกล่าวด้วยความงุนงง
"เจ้าพวกบ้านั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ ทำไมถึงไม่รีบหนีไปล่ะ ให้ตายสิถ้าฉันรู้ว่าใครคืออัครสาวก ฉันจะปล่อยเจ้าพวกนี้ให้กลายเป็นบุฟเฟ่มอนสเตอร์ไปซะเลย ช่วยไม่ได้แฮะ" กรกล่าวขึ้นก่อนจะโดดลงมาจากต้นไม้
มอนสเตอร์ เริ่มที่จะกรู่เข้ามาทันทีหลังจากกรโดดลงมาจากต้นไม้ พวกฮันเตอร์ที่อยู่ข้างล่างต่างก็ตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น
[ใช้งานสกิล Essence of Healing]
[ได้รับมานาศักสิทธิ์]
[Essence of Healing กลายเป็นสกิลพิเศษ]
[สร้างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งการเยียวยา]
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 13
Comments