หลี่หยางเยว่โตมาในกองทัพตั่งแต่เด็กจึงมีนิสัยที่เย็นชาอย่างมากไม่ว่าองค์หญิงหรือแม่นางคนใดมาคุยเรื่องมั่นหมายหลี่หยางเยว่ก็จะปฏิเสธทุกครั้ง เจี้ยนฉีที่ไม่เคยแม้แต่เห็นหน้าของรัชทายาทคนนี้ เพียงอาสัยคำพูดลือมาปากต่อปากของแม่นางน้อยเท่านั้นจึงไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงเป็นอย่างไร แต่มาวันนี้นางได้พบตัวตนแท้จริงของรัชทายาทกลับไม่กล้ามองแม้แต่หน้าของเค้าเจี้ยนฉีที่ไม่เคยมีความขัดแย้งกับรัชทายาทองค์นี้เลยแม้แต่ครั้งเดียวแต่เมื่อนางเพียงเผลอเหลือบตาไปมองก็เกิดความรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก เมื่อฝ่าบาทเห็นว่าเจี้ยนฉีมาแล้วจึงสั่งให้คนรับใช้ทั้งหลายออกไป และเริ่มถามอย่างจริงจังกับเจี้ยนฉีว่า "เจ้าคืออวี่เจี้ยนฉี บุตรสาวของแม่ทัพอวี่ที่ถูกชาวบ้านและคนในตระกูลหมายหัวว่าเป็นตัวอัปมงคลตั้งแก่กำเหนิดสินะ"เจี้ยนฉีที่ได้ยินแบบนั้นจึงก้มหน้าและพยักหัวตอบกับฝ่าบาท"ในเมืองหลิวอินเป็นเมืองที่ติดกับแม่น้ำเปียนจื่อมีคนสัญจรมากมายข้าที่กลัวว่าจะมีคนลอบเข้าเมืองจึงตั้งสายลับมากมายในเมืองคอยเฝ่ารายงานทุกๆเรื่องมาที่เมืองหลวง แต่กลับได้รู้ข่าวที่สายลับแอบสอดแนมของราชวังได้ไปสอดแนมที่ตระกูลเจ้าส่งข่าวมาว่า เจ้าที่เป็นลูกสาวแท้ๆของอวี่เฝิงสื่อกลับโดนทารุณหยามเหยียดอยู่ประจำจากคนในตระกูลและคนรับใช้พวกนั้น แต่เจ้ากลับอยู่ต่ออย่างไม่สนอะไรแม้ว่าตนจะกระเสือกกระสนเพียงใดก็ไม่คิดหนีจากตรงที่ทำให้เจ้าต้องเจ็บปวดทุกๆวัน ครั้งนี้ข้ามีทางเลือกมาให้เจ้าระหว่างการอยู่ที่จวนตระกูลอวี่อย่างทรมาน กับการทิ้งสกุลอวี่และมาอาสัยอยู่ในวังอย่างมีความสุข ถ้าหากว่าเจ้าเลือกที่จะทิ้งสกุลของเจ้าข้าจะสั่งให้ทหารไปขนย้ายทรัพย์สินที่จวนของเจ้า เพื่อให้เจ้าเข้ามาอยู่ที่วังหลวงและใช้ศักดินาเป็นน้องสาวของหลี่หยางเยว่และถ้าเจ้าเลือกแบบนี้เจ้าจะไม่ต้องทนทุกข์กลับกันชีวิตเจ้าจะพบแต่ความสุข"เมื่อเจี้ยนฉีได้ยินแบบนั้นจึงขอเวลากับฝ่าบาทเพื่อที่จะตัดสินใจ ตกดึกขณะที่เจี้ยนฉีกำลังนั่งชมจันทร์ ก็มีใครบางคนมาเคาะประตู เจี้ยนฉีจึงลุกไปแง้มประตูดูเมื่อพบว่าเป็นพี่หญิงเยว่หลิงจึงรีบเปิดประตูรับทันที เยว่หลิงเมื่อเข้ามาในจวนพักก็รีบยื่นชุดที่นางสั่งตัดให้เจี้ยนฉี และบอกกับนางให้นางรีบเปลี่ยนและออกไปรอนางที่รถม้าหน้าจวนพัก เจี้ยนฉีที่เห็นแบบนั้นจึงรีบเปลี่ยนชุดที่อู่เยว่หลิงมอบให้จากนั้นคนรับใช้ของเยว่หลิงก็ได้พานางไปที่รถม้า เมื่อเยว่หลิงเห็นเจี้ยนฉีที่ไส่ชุดที่นางให้ก็มีความรู้สึกตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็จูงมือนางขึ้นรถม้าทันทีพร้อมบอกกับเจี้ยนฉีว่าจะพานางไปเที่ยวเทศกาลโคมไฟ เจี้ยนฉีที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อลงจากรถม้าดันพบกับพ่อของเจี้ยนฉีและฮูหยินอวี่ อวี่ปิ่นฉง พร้อมย่าของนางพอดิบพอดี แต่เมื่อทั้งสองลงจากรถม้าแทนที่แม่และพ่อของนางจะเดินมาจูงมือนางอย่างอบอุ่นแต่กลับเดินมาหาพี่หญิงของนางที่แม้แต่ลูกก็ไม่ใช่พร้อมสวมกอดอย่างอบอุ่นและใช้น้ำเสียงท่อยคำที่แตกต่างจากตอนอยู่กับนางอย่างสิ่นเชิง ขณะนั้นเจี้ยนฉีทำได้แค่มองเท่านั้นไม่สามารถเข้าไปขัดความรักของพวกเค้า ได้แต่มองอย่างไรความหมายและเดินจากไป ขณะนั้นทำให้น้ำตาของเจี้ยนฉีได้ไหลพลาก พ่อของนางได้พูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำว่า"นานๆครั้งครอบครัวของเราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันวันนี้พ่อและแม่จะพาเยว่หลิงเที่ยวให้หน่ำใจ" เจี้ยนฉีที่ได้ยินแบบนั้นจึงเดินจากไปพร้อมน้ำตาที่ไหลพลางบนใบหน้า//'ข้าคนนอกสินะ'//จากนั้นเจี้ยนฉีก็รีบปาดน้ำตาและตั้งใจที่จะเที่ยวเล่นให้คุ้มกับที่ได้มา นางได้เดินไปตามถนนที่คึกคักทายปริศนาโคมไฟและชมกายกรรมมากมายทำให้นางมีความสุขมากจนลืมเรื่องในวันนี้ไปจนหมด อยู่ๆก็มีคนมาดึงนางเอาไว้นางที่เห็นแบบนั้นจึงรีบหันไปดู นางรู้สึกแปลกใจมากที่อยู่ๆคนที่ไม่รู้จักมาดึงตัวของนางเอาไว้จากนั้นเค้าก็เอ่ยปากพูดว่า"แม่นางเหตุใดถึงได้ไส่เสื้อผ้าที่ทำให้ตนดูไม่งามละเจ้างามขนาดนี้ควรที่จะไส่ชุดที่ดูดีนะ"จากนั้นคนๆนั้นก็ได้พานางไปที่ร้านขายเสื้อและเลือกซื้อชุดให้นางใหม่เมื่อนางได้เปลี่ยนชุดนั้นทำให้เจ้าของร้านตะลึงกับความงามของเจี้ยนฉีอย่างมาก จากนั้นชายที่พาเจี้ยนฉีมาเลือกซื้อชุดใหม่ก็เดินมาหานางและบอกว่า"นี้แหละคือความงามที่แท้จริง"จากนั้นก็มีทหารหลวงมาหาเค้า เจี้ยนฉียังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณชายคนนั้นก็ได้ออกไปกับทหารที่มาเรียก เรื่องนี้ทำให้เจี้ยนฉีสงสัยมากว่าที่จริงแล้วเค้าคือใครกันแต่นางก็ไม่อาจอยากรู้ได้ ในขณะที่เจี้ยนฉีกำลังสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ๆรัชทายาทหลี่หยางเยว่ก็พุ่งเข้ามาจับมือของเจี้ยนฉีและขอให้นางช่วยแล้วจูงมือเจี้ยนฉีออกจากร้านไป จากนั้นไม่นานเหล่าแม่นางก็พากันวิ่งตรงมาหารัชทายาทหลี่หยางเยว่ เจี้ยนฉีที่เห็นแบบนั้นจึงเข้าใจทันทีว่าทำไมรัชทายาทถึงขอให้นางช่วย "ข้ามีคนเดินเที่ยวเป็นเพื่อนแล้วไม่จำเป็นต้องรบกวนแม่นางทั้งหลาย"จากนั้นหลี่หยางเยว่ก็รีบจูงมือเจี้ยนฉีออกไปจากแม่นางที่มารุมกลุ่มนั้น "ถ้าหากหมดเรื่องแล้วข้าขอตัวก่อนพะยะคะ"เมื่อเจี้ยนฉีกำลังจะเดินกลับไปหลี่หยางเยว่ก็ได้รั้งนางเอาไว้และขอให้นางเที่ยวงานโคมไฟเป็นเพื่อน เจี้ยนฉีที่แปลกใจมากๆว่ารัชทายาทที่เงียบคลึมคนหนึ่งอยู่ๆกลับมาขอให้นางเที่ยวเป็นเพื่อนทั้งๆที่นางไม่เคยได้คุยด้วยแม้แต่ครั้งเดียวไม่เคยได้สนิทยิ่งพึ่งเคยได้เจอหน้ากันจริงๆด้วยซ่ำ แต่เค้ากลับมาขอให้นางไปเที่ยวเป็นเพื่อน เจี้ยนฉีนางยังสงสัยไม่จบหลี่หยางเยว่ก็ได้จูงมือนางวิ่งไปที่หอชุนอวี่ไปยังชั้นที่อยู่สูงสุดของหอ(หอชุนอวี่เป็นโรงเตี้ยมที่สูงที่สุดตั้งอยู่กลางเมืองหลวง)เมื่อทั้งสองขึ้นไปถึงก็ถึงเวลาจุดพรุไฟต้อนรับเทศกาลพอดีเจี้ยนฉีที่เห็นพรุไฟความเสียใจและข้อสงสัยที่อยู่ในใจก็หายสิ้นไปหมด "นี้คือครั้งแรกจริงๆที่ข้าได้เห็นพรุไฟ" เจี้ยนฉีพูดออกมาพร้อมน้ำตาพร่างไหล//'นี้สินะที่เรียกว่าความอบอุ่นที่แท้จริง'//
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 13
Comments
Abadon007
สวยมากเลยครับ
2023-07-18
1
Joysee Thokchom
แอดมีพลังใจให้เราอ่านต่อเสมอเลย 😍
2023-07-18
1