โลกมนุษย์ที่บรรยากาศที่วุ่นวายเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินกันไปมาบนท้องถนนและเสียงพูดคุยกันเสียงดังและไม่น่าสนใจอย่างที่คิดไว้ โลกมนุษย์ที่แสนน่าเบื่อสำหรับดาคเน็สถึงแต่ไนท์จะดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
"จะเอาไงต่อดีจะไปอยู่ไหนกัน" ไนท์พูดอย่างกระตือรือร้นและสายตากวาดมองไปทั่วๆ บริเวณ
" หาบ้าน " ดาคเน็สพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
"ของบ้านหลังใหญ่ๆ จะจัดปาร์ตี้" ไนท์พูด
"ในอีก 2 กิโลเมตรด้านหน้ามีบ้านประกาศขายอยู่ "ดาคเน็สพูดออกมาแล้วชี้นิ้วไปด้านหน้า
" รู้ได้ไงอะ สุดยอด"ไนท์ยกนิ้วโป้งขึ้นมาตรงหน้าดาคเน็ส
"เจ้ามันไม่ได้เรื่องแค่บำเพ็ญเพียรยังทำไม่ได้" ดาคเน็สพูดแทงใจดำใส่ไนท์
" ชิ "ไนท์ไม่พูดอะไรเพียงแต่สะบัดหน้าหนี.
ทั้งสามคนเดินมายังบ้านที่อยู่ตรงหน้าที่มีขนาดใหญ่มากลักษณะบ้านที่มีสวนต้นไม้อยู่ข้างด้านในของตัวบ้านนั้นมีฟอนิเจอร์ที่หรูหราพร้อมห้องนั่งเล่นและห้องครัวที่ดูทันสมัยส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอนที่จัดไว้พร้อมอยู่ได้เลย ทั้งสามคนตกลงซื้อบ้านหลังนี้
"ข้าจะออกไปด้านนอกเยื่ยมชมเมืองมนุษย์ให้สมแก่ใจ" ไนท์พูดเสร็จแล้วหันหลังและเดินออกไป
ดาคเน็สอยู่ดูบรรยากาศรอบๆ แต่กลับไม่ชอบที่มันดูโล่งจนเกินไปจึงใช้พลังเพื่อที่จะเสกตันไม้เพิ่ม จนทำให้บ้านนั้น กลับดูมืดคลื้มขึ้นมาทันใด
ดาคเน็สเพื่อที่จะตามหาดวงวิญญาณนั้นก่อนเวลาจึงได้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อที่จะสำรวจแดนมนุษย์ให้ละเอียดและให้คุ้นชินกับการใช้ชวิต
เวลา 18.12
ดาคเน็สได้ออกมาหาเบอะแสเกี่ยวกับดวงวิญญานนั้นท่ามกลางเมฆที่มืดคลื้มและเสียงฟ้าร้องไปทั่วบริเวณและได้ใช้พลังในการหายตัวจึงต้องแปรงกายกลับมาแบบเดิมที่มีดวงตาสีฟ้าและชุดสีดำสนิททั้งนี้ดาคเน็สได้ไปยืนอยู่บนต้นไม้ใหญ่เเห่งหนึ่ง เเล้วทันใดนั้นสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินมาอย่างกล้าๆ กลัว.
'เปรี้ยงงงงง!!!! ' เสียงฟ้าผ่าลงมายังต้นไม้ที่ดาคเน็สยืนอยู่และสิ้นเสียงฟ้าร้องกลับได้ยินเสียงใครคนนึงร้อง 'ผะผะผะผี!!!!! ' แล้วอยู่ๆ ก็สลบไป
"ข้าเนี้ยนะผี" ดาสเน็สได้ลงมายืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวผู้นั้นที่นอนหมดสติอยู่แล้วได้นั่งลงและอุ้มหญิงสาวคนนั้นขึ้นมา
.
.
.
.
ณโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
"ผี" ฉันสดุ้งขึ้นตื่นแบบตกใจและมองไปรอบๆ บริเวณกลับมองเห็นแค่พี่หลินและซินที่ยื่นอยู่จ้องหน้าฉันอยู่ทั้งสองคนทำสีหน้าบึงตึง
"พี่หลิน ซิน" ฉันเอ่ยปากพูดแต่ตัวยังสั่นๆ อยู่
"ฉันว่าแล้วแก ต้องก่อเรื่องอีก คาดสายตาไม่ได้เลยดีนะหมอบอกว่าแกแค่หมดสติ บอกมาแกกิน
ไอศครีมเยอะอีกใช่ไหม"พี่หลินพูดเสียงแข็งใส่ฉัน
" ป่าวเลยไม่ได้กินเมื่อคืนฉันเจอผีมันมีตาสีฟ้า น่ากลัวมาก" ฉันพูดเสียงสั่น.
" ไม่ต้องมาอ้างผีที่ไหน แกกินเยอะ ก็รู้อยู่ว่ากินเยอะทีไรแล้วหมดสติตลอดไม่เคยฟัง "พี่หลินไม่เชื่อในเรื่องที่ฉันบอกเอาแต่ดุ
" ไม่ได้กินจริงๆ "ฉันพยายามบอกกับซินและพี่หลินอีกรอบแต่ทั้งสองคนกลับทำสีหน้าไม่เชื่อเหมือนเดิม
"เอาละนักข่าวมาเต็มหน้าโรงพยาบาลแล้ว หมอบอกว่าให้กลับบ้านได้"พี่หลินพูด
" แต่เดี๋ยวนะใครมาฉันมาโรงพยาบาล "ฉันเอ่ยถามอย่างสงสัย
"เห็นพยาบาลบอกว่ามีผู้ชายคนนึ่งมาส่งนะ น่าจะเป็นคนที่เจอพี่เหละ "ซินเอ่ยแทรก
ในเมื่อทุกอย่างเคลียรกันลงตัวฉันเลยเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ซินเอามาให้แล้วทั้งสามคนได้เดินไปยังฝูงชนนักข่าวที่ล้อมหน้าล้อมหลังจนทำให้ฉันเดินแทบไม่ได้
'แชะ แชะ แชะ!!! ' เสียงกล้องถ่ายภาพจากนักข่าวดังลั่นไปทั่วโรงพยาบาลบริเวณนั้นนักข่าวเยอะมาก
"ทุกคนคะออกไปรอด้านนอกก่อนนะคะที่นี้โรงพยาบาลเสียงดังไม่ได้ เดี่ยวน้องเรเน่ทำธุระเสร็จจะให้ออกไปสัมภาษณ์นะคะ "หลินเอ่ยปากบอกนักข่าว แล้วนักข่าวทุกคนทยอยเดินออกกันไปทำให้บรรยากาศในตอนนั้นเริ่มดีขึ้น
ฉันและพี่หลินได้เดินไปยังหน้าเคาเตอร์ที่มีพนักงานสองคนนั่งอยู่ตรงหน้าเคาเตอร์
"ขอสอบตามหน่อยค่ะรู้หรือไม่เมื่อวานใครพาฉันมาส่งที่โรงพยาบาลคะพอมีเบอร์ติดต่อไหม "ฉันเอ่ยถามพยาบาลที่ยืนอยู่
" เมื่อว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาส่งพี่เรเน่เขาหล่อแบบหล่อมากๆ แต่เขาไม่ได้บอกอะไรไว้นะคะ "พนักงานตอบไปด้วยเขิลไปด้วย
" ขอดูกล้องวงจรปิดได้ไหมคะ "ฉันเอ่ยถาม
"ได้ค่ะ" พนักงานตอบและนำฉันไปยังห้องที่ดูกล้องวงจรปิดในห้องนั้นมีหน้าจอเต็มไปหมด
"ขอดูกล้องในเวลาประมาณเกือบจะหนึ่ง ทุ่มของเมื่อวานหน่อยค่ะ" ฉันเอ่อบอกไปยังพนักงานที่ดูแลห้องวงจรปิดนี้
พนักงานเปิดดูไปเรื่อยเพื่อที่จะหาเวลาที่ใครพาฉันมาโรงพยาบาลจนถึงจังหวะนึ่งที่เหมือนเห็นตัวฉันลอยอยู่กลางอากาศ แต่เห็นเพียงแค่แวบเดียวทันใดนั้นหน้าจอก็ดับลง
"พี่หลินดู เหมือนตัวฉันลอยเลยอะคงไม่ใช่ผีมาส่งใช่ไหม" ฉันตกใจ พยายามตีแขนพี่หลินที่ยืนอยู่
" เพ้อเจ้อละผีบ้าอะไรมาส่งคน แกอะคิดมากเเล้ว หรือต้องไปให้หมอตรวจสมองอีกรอบละ"พี่หลินพูดพร้อมถอนหายใจ
" กล้องที่นี้น่าจะเสียเดียวลองเปลี่ยนกล้องใหม่ดูก็ได้ครับ" พี่พนักงานเอ่ย
ในตอนที่พี่พนักงานเปิดดูหลายๆตัวเเต่ไม่เป็นผลเนื่องจากกล้องทุกตัวเป็นแบบเดียวกันทั้งหมดเห็นตัวฉันลอยอยู่แล้วไม่กี่วิหน้าจอก็ดับลงเหมือนกันทุกตัว
" ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากล้องเป็นอะไรดูได้แค่นี้นะครับผมคงต้องให้ช่างมาเช็คอีกรอบ "พี่พนักงานเอ่ย
" ไม่เป็นอะไรค่ะดูแค่นี้ก็ได้แล้วค่ะขอบคุณมากค่ะ "พี่หลินเอ่ยขอบคุณพนักงานแล้วลากแขนฉันออกไปจากห้อง
" พี่หลินยังดูไม่ละเอียดเลย" ฉันเอ่ยอย่างเซ็งๆ
"แค่นี้พอแล้วไม่ต้องดูแล้วนักข่าวรออยู่ คนที่มาส่งเเกก็คงเป็นที่เดินผ่านมาแถวนั้นแหละอย่าคิดมากไปได้แล้ว "พี่หลิน พูดแล้วลากมือฉันเดินออกไปยังหน้าของโรงพยาบาลแล้วเห็นพี่นักข่าวทุกคนยืนรออยู่
'แชะแชะแชะ!!! เสียงกล้องถ่ายรูปดังไปทั่งบริเวณเหมือนเดิมทำให้คนที่เดินไปมาแถวนั้นกลับสนใจแล้วก็ยังมีแฟนคลับของฉันที่วิ่งกรูกันเข้ามาจนบริเวณนั่น เต็มไปด้วยผู้คน
"ที่เข้าโรงพยาบาครั้งนี้ น้องเรเน่ป่วยเป็นอะไรรึป่าวคะ” นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถาม แล้วมีไมค์จำนวนมากยื่นตรงหน้าฉัน
" ไม่เป็นอะไรมากเลยค่ะเเค่เป็นลม เพราะพักผ่อนน้อย ขอบคุณทุกพี่ๆนักข่าวที่ให้ความสนใจคะ"ฉันเอ่ยตอบพร้อมยกมือไหว้
" แล้วมีอีกเรื่องที่อยากรู้ น้องเรเน่เป็นอะไรกับคุณโซกิเห็นมีข่าวมาว่าทั้งสองไปเดทกันที่ร้านอาหาร แห่งหนึ่ง"นักข่าว เอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมาและนักข่าวคนอื่นๆ ต่างตกใจและพยายามถามกันไปมาจนทำให้เสียงดัง จนทำให้ฉันเริ่มมีอาการปวดหัว
"พี่ๆ ใจเย็นๆ นะคะค่อยถามตอนนี้น้องเพิ่งหายป่วยร่างกายยังไม่ค่อยเเข็งเเรง" หลังจากที่พี่หลินบอกทุกคนต่างเงียบ
" กับโซกิเราสองคนเป็นแค่เพื่อนรวมงานกันแค่นั้นเลยค่ะ วันนั้นพอดีมีโปรเจ็กร่วมกันเลยมีคนเขานัดไปคุยที่ร้านอาหารแห่งนั้นมีแค่นี้เลยค่ะ "ฉันตอบ
" โปรเจ็กเกี่ยวกับอะไรหรอคะ "นักข่าวถาม
ตอนนั้นฉันเริ่ม ที่จะปวดหัวเป็นอย่างมากพี่หลินเห็นทีท่าไม่ดีของฉัน
"ขอโทษนะคะ เรื่องนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ทางเจ้าของโปรเจ็ก ครั้งนี้เขายังไม่ให้เปิดเผยตอนนี้น้องเรเน่เริ่มที่จะไม่ไหวแล้วต้องขอตัวก่อนนะคะ "พี่หลินเอ่ยถามแล้วลากมือฉันเดินไปขึ้นรถด้านหน้า.
กรี๊ดดดด!!!! เสียงกรี๊ดจากแฟนคลับฉันทั้งกรี๊ดทั้งยืนชูป้าย ฉันเลยโปกมือไปยังพวกเขาจนทำให้แฟนคลับนั้น กรี๊ดดังกว่าเดิม แล้วฉันได้ขึ้นไปบนรถพร้อมนี่หลินและซินใน ระหว่างอยู่บนรถฉันพยายามนอนพักสายตาเนื่องจากวันนี้เหนื่อยมากจนเวลาผ่านไปรถเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าบริเวณบ้านของฉัน แล้วฉันก็ได้ลงจากรถระหว่างที่จะเดินเข้าบ้าน
"ให้ซินนอนเป็นเพื่อนไหมยังไงซินมันก็ไม่กลับต่างจังหวัดแล้วเดี๋ยวแกเป็นอะไรขึ้นมาอีกจะได้ช่วยทัน "พี่หลินเอ่ยปากพูด
" ไม่เป็นไรนี้บ้านฉันนะไม่เป็นอะไรไหรอก "ฉันเอ่ยพร้อมโบกมือลาแล้วเดินเข้าไปยังบ้านของตัวเอง
ณ เวลา 18.14 ฉันมองไปยังเตียงนอนที่มีสีชมพูสดใสและตุ๊กตาเยอะแยะมากมายฉันตัดสินใจทิ้งตัวลงบนที่นอนอันแสนนุ่มและแสนที่จะสบายจนเผลอหลับไป
.
.
.
.
ณ บ้านหรูของดาคเน็ส
"ข้าสนุกมาก ไม่คิดว่าเมืองมนุษย์จะมีอะไรน่าสนใจเช่นนี้และยังมีของอร่อยให้กินเยอะเลยที่หุบเขาเมืองพวกเราไม่มีเช่นนี้" ไนท์พูดระหว่างนั่งกินขนมอย่างเอร็ดอร่อยแต่ดาคเน็สเพียงแค่นั่งนิ่งๆ ดื่มเลือดโดยที่ไม่พูดอะไรตอบกลับ
"แล้วนี้ไปเอาเลือดอะไรมาจากไหน ไม่ใช่ว่าเลือดมนุษย์หรอกนะ" ไนท์พูดแบบสีหน้าดูรังเกียจ
" นี้เลือดหมูไปซื้อมา "ดาคเน็สพูด
"แล้ววิญญาณนั้นหาเบอะแสได้บ้างรึยังรู้รึงยังว่าเป็นใคร " ไนท์พูดดัวยน้ำเสียงที่สงสัย
" ไม่รู้ยังไม่เจอ "ดาดเน็สพูดสีหน้านิ่งๆ
"ดีแล้ว ข้าได้อยู่นี้นานๆไม่อยากลับบ้านข้าชอบที่นี้ยิ่งนัก" ไนท์พูด
ดาคเน็สนั่งไม่พูดอะไรสีหน้าดูเย็นชาในมือยังคงถือแก้วเลือดที่ดืมอยู่ทันใดนั้นได้วางแก้วในมือลงบนโต๊ะอย่างแรงแล้วได้แปรงกายเป็น ค้างคาวแล้วบินออกไปด้านนอก
"นี้มันดึกแล้วเจ้าจะออกไปไหน แล้วอีกอย่างท่านแม่เจ้าบอกว่าไม่ให้ใช้พลังนิ นี้ นี้ หูเจ้าไม่ได้ยินรึไง "ไนท์ตะโกนไปยังดาคเน็สที่กำลังบินออกไป
'ดาคเน็สมันออกไปได้ข้าก็จะออกไปด้วยดูดิกลางคืนมีอะไรสนุกๆ บ้าง'ไนท์พูดในใจและมีท่าทีจะลุกขึ้นแล้วจะเดินออกไป
"เจ้าไปกับข้า" ไนท์พูดบอกกับแบล็คที่ยืนอยู่แล้วทั้งสองได้เดินออกไป
.
.
.
.
.
เวลา 22.00
ดาคเน็สที่กลายเป็นค้างคาวบินไปยืนอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมของเมื่อวาน แล้วพยายามให้หูวิเศษของตัวเองฟังเสียงไปรอบๆ บริเวณ 'ช่วยด้วย ไม่นะ' ดาคเน็สได้ยินเสียงของผู้หญิงพยายามขอความช่วยเหลือดาคเน็สเลยได้กลายเป็นค้างคาวอีกรอบแล้วได้บินไปยิงเสียงนั้น
จนไปถึงบ้านหลังหนึ่งที่เปิดไฟอยู่เลย บินไปใกล้ๆ และได้ใช้พลังของตัวเองเปิดหน้าต่างบ้านหลังนั้น 'แอ็ด!!!!!’เสียงหน้าต่างเปิดออกหญิงสาวนั้นสะดุงตื่นจากที่กำลังหลับอยู่
"ใครอะ" หญิงสาวนั้นตะโกนออกมาแบบน้ำเสียงกลัวๆ
ดาคเน็สที่กำลังบินเข้ามาได้กลายร่างเป็นคนต่อหน้าหญิงสาวคนนั้นทำให้หญิงสาวคนนั้น
ถึงกับกรี๊ดดังลั่นบ้าน "อ๊าอ๊าอ๊าผี!!! 'จนดาคเน็สทนไม่ไหวกับเสียงกรี๊ดแล้วได้ใช้นิ้วชี้ไปยังใบหน้าของหญิงสาวทำให้หลับไป
"เจ้าอีกแล้วหรอ"
.
.
.
.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments