“หยุดดด!"..เสียงคนขับรถม้าดังขึ้น “ท่านอ๋องถึงจวนแล้วขอรับ”
เมื่อไป๋อี้เฉินกับลี่หลินลงจากรถม้ามาก็มีสาวใช้ของซูหนี่ยืนรอพวกเขาอยู่หน้าประตูจวน เมื่อสาวใช้เห็นไป๋อี้เฉินก็วิ่งเข้ามาคุกเข่าร้องห่มร้องไห้ทันที
“ท่านอ๋อง”ท่านกลับมาแล้วหรือเพคะท่านช่วยพระชายารองด้วยเพคะ ตั้งแต่นางโดนกักบริเวณนางก็ไม่ยอมกินข้าวกินปลาเอาแต่ร้องไห้เรียกหาแต่ท่านอ๋อง ท่านช่วยไปดูนางหน่อยเถอะนะเพคะ
ไป๋อี้เฉินหันหน้ามามองลี่หลิน ลี่หลินก็มองหน้าเขากลับนางชักสีหน้าอย่างเบื่อหน่ายเบื่อละครของนายบ่าวคู่นี้เต็มทน จึงบอกกับไป๋อี้เฉินไปว่า
“คนของท่าน,ท่านก็ไปจัดการเองเถอะจะค้างที่ตำหนักชายารองเลยก็ได้ข้าไม่ว่าท่านหรอก”
“อย่างนั้นหรือ,เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า..คืนนี้ข้าจะค้างที่เรือนรอง"ไป๋อี้เฉินพูดด้วยเสียงที่ประชดประชัน
“เจ้ากับไปบอกชายารองว่าคืนนี้ข้าจะค้างที่เรือนของนาง”ไป๋อี้เฉินหันไปสั่งสาวใช้
“เจ้าค่ะท่านอ๋อง,บ่าวจะรีบไปรายงานพระชายารองเดี๋ยวนี้เพคะ”พูดจบสาวใช้ก็รีบกลับไปรายงานซูหนี่ทันที
“คุณหนู”ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ
“หยวนเอ๋อ,เจ้ามาพอดีเรากลับเรือนกันดีกว่าข้าหิวมากเลยมีอะไรให้ข้ากินบ้าง”ลี่หลินเดินจูงมือหยวนเอ๋อกลับเรือนโดยไม่สนใจไป๋อี้เฉินที่ยืนมองตามหลังของนางอย่างไม่ละสายตา
ไป๋๋อี้เฉินเดินไปยังเรือนรอง ก็เห็นซูหนี่นอนหน้าตาซีดเซียวอยู่บนเตียง เขาจึงเดินเข้าไปหานางแบะนั่งลงข้างขอบเตียง
“เจ้าไปเตรียมอาหารมาให้พระชายารอง”ไป๋อี้เฉินหันไปสั่งสาวใช้
“เจ้าค่ะท่านอ๋อง”
“ท่านอ๋องเพคะ,.หม่อมฉันคิดถึงท่านเหลือเกินเหตุใดท่านจึงใจร้ายไม่ยอมมาเยี่ยมหม่อมฉันบ้าง”
“ข้ากักบริเวณเจ้าเพราะอยากให้เจ้าสำนึกผิด,ไม่ได้ให้เจ้าอดอาหารจนตัวเองล้มป่วยเช่นนี้”
“ก็หม่อมฉันกลัวนี่เพคะ”ภาพที่พี่หญิงฆ่าคนยังติดตาหม่อมฉันอยู่เลยจะให้หม่อมฉันกินลงได้อย่างไร อีกอย่างท่านก็ทำตัวห่างเหินกับหม่อมฉัน หม่อมฉันกลัวท่านอ๋องทอดทิ้งหม่อมฉันด้วยเพคะ
“ข้าจะทอดทิ้งเจ้าได้เยี่ยงไร,อาหารมาแล้วเจ้าลุกมากินอะไรสักหน่อยข้าจะกินเป็นเพื่อนเจ้า”
“จริงนะเพคะ”ซูหนี่ยันตัวเองขึ้นจากเตียงแล้วโผเข้ากอดไป๋อี้เฉินทันที หากแต่ไป๋อี้เฉินทำเพียงลูบหลังนางเบาๆพร้อมพยุงนางลงจากเตียงมานั่งกินข้าวที่โต้ะ
“เจ้าลองกินนี่ดู”ไป๋อี้เฉินคีบไก่ตุ๋นให้ซูหนี่
“ขอบพระทัยเพคะ”ซูหนี่กินไก่ด้วยความอร่อยนางกินไปยิ้มไปอย่างมีความสุขที่ไป๋อี้เฉินมาหานาง
“เจ้าอิ่มแล้วหรือ,..หากเจ้าอิ่มแล้วข้าต้องขอตัวก่อน”
“ท่านจะไปแล้วหรือเพคะไหนท่านบอกว่าจะค้างที่นี่ไงเพคะ”ซูหนี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อไรป๋อี้เฉินกำลังจะลุกออกไป
“พอดีข้านึกได้ว่ามีงานต้องเตรียมอีกเยอะก่อนจะออกไปช่วยชาวบ้านที่นอกเมือง”ไป๋อี้เฉินพูดจบก็เดินจากไปทันที
“กรี้ดดด!ซู่หนี่ร้องขึ้นด้วยความไม่พอใจนางรูศึกได้ว่าไป๋อี้เฉินนั้นได้เปลี่ยนไป เขาต้องหันไปชอบลี่หลินแล้วแน่ๆเมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็แค้นใจเป็นอย่างมากและนางต้องกำจัดลี่หลินให้ได้
ไป๋อี้เฉินที่กลับมาจากเรือนรองเขาก็แวะที่ห้องหนังสือของเขา และสะสางงานที่ค้างไว้จนเสร็จ ส่วนลี่หลินนางก็ได้วุ่นอยู่กับหยวนเอ๋อในการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆเพื่อไปใช้รักษาโรคระบาดลี่หลินได้หยิบพวกถุงน้ำเกลือเข็มฉีดยาแอลกอฮอล์และยาจำเป็นหลายอย่างออกมาเก็บไว้ในกล่องเป็นจำนวนมาก หากจำเป็นต้องใช้จะได้ไม่เป็นที่สงสัยขึ้นมา เมื่อจัดของทุกอย่างเสร็จก็ปาเข้าไป ยามซวีแล้ว นางจึงบอกให้หยวนเอ๋อไปพักผ่อน
“เสร็จงานแล้วเจ้าก็ไปพักเถอะข้าก็เริ่มง่วงแล้วเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จข้าก็จะนอนเลย”ลี่หลินบอกหยวนเอ๋อ
“คุณหนูไม่กินอะไรสักหน่อยก่อนหรือเจ้าคะ”
“ไม่ล่ะ,..เมื่อช่วงบ่ายกินเข้าไปเยอะยังอิ่มอยู่เลย”
“ถ้าอย่างนั้นข้าไปเตรียมน้ำให้คุณหนูอาบแล้วส่งท่านเข้านอนข้าค่อยไปนะเพคะ”
“ตามใจเจ้าเถอะ”
หยวนเอ๋อได้เตรียมน้ำและช่วยลี่หลินอาบน้ำจนเสร็จและส่งนางเข้านอน แล้วหยวนเอ๋อจึงเดินออกไปพร้อมปิดประตู เมื่อหยวนเอ๋อกำลังจะเดินกลับห้องของนางก็สดุ้งตกใจ ไม่รู้ว่าไป๋อี้เฉินเดินมาตั้งแต่ตอนไหน เขามองเข้าไปในห้องของลี่หลินแล้วเอ่ยถามกับหยวนเอ๋อ
“หลินเอ๋อ,.หลับไปแล้วหรือ?"
“คุณหนูหลับไปแล้วเจ้าค่ะ,คุณหนูบอกว่าท่านอ๋องจะค้างที่เรือนรองวันนี้คงไม่ต้องรอรักษานางจึงเข้านอนเร็วเจ้าค่ะ”
“อืม!..เจ้าก็ไปพักเถอะ" พูดจบไป๋อี้เฉินก็เดินเข้าห้องของตนไป
ไป๋อี้เฉินนอนพลิกตัวไปมาเขาก็นอนไม่หลับจนกระทั่ง ยามจื่อ เขาก็ยังนอนไม่หลับเขาจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงแล้วค่อยๆเดินไปที่ชั้นวางหนังสือตั้งติดกับห้องของลี่หลินที่จริงมันคือประตูลับไป๋อี้เฉินดึงหนังสือเล่มหนึ่งออกมาประตูก็เลื่อนเปิดออกเขาก็เดินเข้าห้องของลี่หลินไป ไป๋อี้เฉินยืนมองลี่หลินที่หลับอยู่ แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาทำให้มองเห็นแก้มนวลของนางอย่างชัดเจนเขากำลังจะเอื้อมมือเข้าไปลูบแก้ม ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บแป็ปขึ้นมาที่ข้อมือ ลี่หลินได้จับหักข้อมือเขาแล้วเหวี่ยงเขาลงที่เตียงจากนั้นนางได้ขึ้นไปนั่งค่อมบนตัวเขาแล้วใช้มีดจี้คอของไป๋อี้เฉินไว้
“โอ้ย!!!.เจ็บนะนี่ข้าเอง”ไป๋อี้เฉินพูดขึ้น
“ใครจะไปรู้ว่าเป็นท่านดึกดื่นป่านนี้มาแอบเข้าห้องคนอื่น”
“ในเมื่อรู้แล้ว เจ้าก็เอามีดออกจากคอข้าได้แล้ว”
“ท่านเข้ามาในห้องหม่อมฉันทำไมเพคะ”ลี่หลินถามไป๋อี้เฉินพร้อมคลายมีดออกแล้วเก็บมันไว้ใต้หมอนเช่นเดิม
“ข้านอนไม่หลับ เลยจะมาขอนอนกับเจ้า”
“ท่านไม่ได้นอนที่เรือนรองหรอกหรือเพคะ”
“หากข้าอยู่ที่เรือนรองแล้วจะมาอยู่ที่ห้องของเจ้าได้อย่างไร”
“แล้วเหตุใดท่านไม่เคาะประตูล่ะเพคะ,ทำลับๆล่อๆยังกับพวกโจรไปได้”
“ข้าขอโทษ,..วันหลังข้าจะเคาะประตูเข้ามาดีๆ,.วันนี้ข้าขอนอนกับเจ้าที่นี่นะ"
“ได้เพคะ”
“โอ๊ะ!..นี่..นี่เจ้าทำอะไร”ไป๋อี้เฉินพูดขึ้นขณะที่ลี่หลินใช้เท้าถีบเขากลิ้งไปนอนที่ด้านในอีกฝั่งของเตียงแล้วใช้ผ้าห่มกลั้นกลางเอาไว้
“ห้ามท่านล้ำเส้นข้ามมาเด็ดขาด,หากท่านกล้าล้ำเส้นข้ามมาได้เจอดีแน่”
“ก็ได้ไม่ล้ำเส้นก็ได้,แต่อยู่ตรงนี้ข้าไม่ได้กลิ่นเจ้าข้าจะหลับได้ไง”
“ไม่ต้องมาต่อรองนอนแล้วก็หลับตาไปเดี๋ยวท่านก็หลับเองนั้นแหละ”พูดจบลี่หลินก็ล้มตัวลงนอนหันหลังให้เขาแล้วก็หลับไป ส่วนไป๋อี้เฉินก็นอนมองลี่หลินแล้วเขาก็ค่อยๆหลับไป
ครบสามวันถึงกำหนดเดินทางไปช่วยชาวบ้าน เมื่อขนของขึ้นรถม้าเรียบร้อยไป๋อี้เฉินกับลี่หลินพร้อมหมอหลวงอีกหลายคนที่อาสาไปช่วยก็ได่ออกเดินทางทันทีครั้งนี้เพื่อไม่ให้ล่าช้าพวกเขาเดินทางด้วยการขี่ม้ามีเพียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้รถม้าขนไป เมื่อเดินทางมาถึงจุดที่เกิดโรคระบาด นั่นก็คืออำเภอสุ่ย ลี่หลินได้หยิบแมสออกมาใส่ พร้อมยื่นให้หมอหลวงทุกคนลี่หลินสอนวิธีใส่แมสให้กับหมอหลวงพวกเขารู้สึกตลึงกับแมสที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนแต่ก็ทำตามที่ลี่หลินสอนใส่แมสเรียบร้อย
“พวกเจ้าเอาแมสที่เหลือไปแจกให้หมอที่อยู่ข้างในด้วยแล้วเอาถุงมือนี้ไปด้วยให้พวกเขาใส่มันจะป้องกันการติดเชื่อได้”
“ขอรับพระชายา”พูดจบเหล่าหมอหลวงก็รีบเข้าไปข้างในเพื่อรักษาคนไข้ทันที
“ท่านก็ใส่ไว้ด้วยป้องกันตัวเอง”ลี่หลินยื่นแมสให้กับไป๋อี้เฉิน เขารับมาอย่างสงสัยทำท่ายึกยักเพราะเขาไม่เคยเห็นและเคยใส่มาก่อน ลี่หลินจึงเอาแมสจากมือเขามาแล้วใส่ให้เขา
“เรียบร้อยแล้ว,ไปกันเถอะ"ลี่หลินเดินเข้าไปข้างในเมื่อไปถึงนางถึงกับตกใจมีผู้ป่วยจำนวนมากเต็มไปหมด หากปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้การแน่ต้องรีบแยกผู้ป่วยคัดกรองคนเป็นมากเป็นน้อย
“ท่านอ๋องท่านช่วยข้าหาพื้นที่แห้งสะอาดทำเป็นที่พักฟื้นเพื่อคัดแยกผู้ป่วยได้หรือไม่,และท่านช่ายหาที่พักสำหรับผูที่ยังสบายดียังไม่ป่วยแยกออกไป"
“ได้ข้าจะไปเตรียมให้เจ้าเดี๋ยวนี้”พูดจบไป๋อี้เฉินก็รีบสั่งทหารไปจัดเตรียมที่พักเพื่อคัดแยกผู้ป่วยตามที่ลี่หลินบอก
“โอย..ข้าปวดท้องเหลือเกิน,โอยข้าก็คลื่นใส้เหลือเกินช่วยด้วย”
“ข้าก็จัดยาไปให้พวกเจ้าแล้วไง,!จะเอาอะไรอีกออกไปไกลๆข้าเลยนะเหม็นก็เหม็นสดกปรก นี่ข้าต้องมาเจอกับอะไรเนี่ย”เสียงหมอคนนึงดังขึ้นมา
“ท่านหมอทุกท่านข้าขอพูดอะไรกับพวกท่านสักหน่อย”เสียงลี่หลินดังขึ้นทำให้หมอทุกคนจ้องมาที่เธอ
“เจ้าเป็นใครมาจุ้นจ้านอะไร,..ทำไมพวกเราต้องฟังเจ้าด้วย.ฮะ!"หมอหลวงที่ตวาดคนไข้เมื่อกี้พูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
"ข้าก็เป็นหมอเหมือนกัน อยากให้ทุกท่านช่วยคัดแยกคนป่วยได้หรือไม่?.
“ทำไมต้องคัดแยกก็แค่โรคท้องร่วง ต้มยาให้กินสักหม้อสองหม้อก็ดีขึ้นมาเอง”
“หากมันไม่ใช่โรคท้องร่วงล่ะแต่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงล่ะท่านจะทำเช่นไร..?"
“นี่เจ้าเป็นหมอมาจากไหน ข้าเป็นถึงหมอหลวงจะดูไม่ออกได้ไงว่าโรคท้องร่วงกับโรคติดต่อมันต่างกันยังไง”
“นี่เจ้ามาทางไหนก็ไปทางนั้นเลยไปอย่ามาเกะกะ”
“นี่พวกเจ้าไล่ใครอย่างนั้นหรือ!..ถ้าพวกเจ้าเก่งจริงใยป่านนี้สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ชาวบ้านยังล้มป่วยกันอยู่ไม่เห็นหายอย่างที่เจ้าพูด”เสียงที่ดุดันและทรงอำนาจของไป๋อี้เฉินดังขึ้นจากด้านหลังของลี่หลิน
“ท่านอ๋อง,..เหตุใดท่านถึงเสด็จลงมายังพื้นที่สกปรกแบบนี้ ท่านอาจติดโรคได้นะขอรับ”
“ในเมื่อชายาข้าอยู่ที่นี่ข้าก็ย่อมอยู่ที่นี่กับนาง,เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าพวกเจ้าไล่นางกลับไปอย่างนั้นหรือ,?ไป๋อี้เฉินพูดพร้อส่งสายตาเย็นเยียบไปยังหลวงปากดีคนนั้น
“ข้ามิกล้าขอรับ ข้าไม่รู้จริงๆว่านางคือ…..คือพระชายา,ท่านอ๋องได้โปรดอภัยด้วยขอรับ"
“พวกเจ้าจงฟัง,…ต่อไปนี้ให้ทำตามคำสั่งของพระชายาอย่างเคร่งครัดไม่ว่านางจะสั่งอะไรก็ให้ปฏิบัติตามห้ามมีข้อโต้แย้งอันใด”เสียงไป๋อี้เฉินประกาศเกล้า
“ขอรับท่านอ๋อง”เหล่าหมอหลวงก้มหน้าก้มตารับคำสั่ง
“ข้าจัดการให้แล้ว, ทีนี้ตาเจ้าแล้วช่วยชาวบ้านให้ได้”ไป๋อี้เฉินหันมาพูดกับลี่หลินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“เพคะหม่อมฉันจะทำให้ดีที่สุด,มีอีกเรื่องหนึ่งหม่อมฉันอยากให้ท่านช่วย”
"อะไรหรือ?.
“หม่อมฉันอยากให้ท่านหาชุดสะอาดมาให้ขาวบ้านเพื่อนเปลี่ยน”
“ได้ข้าจะให้ทหารไปหาซื้อมาให้เจ้า”
"พวกท่านฟังข้านะ,..ข้าอยากให้พวกท่านคัดกรองผู้ป่วยให้ข้า คนไหนมีอาการเล็กน้อยแค่ตัวร้อนเวียนหัวให้แยกไปไว้ที่เต้นที่มีธงสีเหลืองปักอยู่และรักษาตามอาการได้เลย ส่วนคนไข้คนไหนที่ถ่ายท้องอาเจียนให้แยกไปอยู่เต้นที่มีธงสีแดงถือว่าเป็นคนไข้ที่ต้องรักษาทันทีหากปล่อยไว้นานอาจเสียชีวิตได้ ส่วนคนไหนที่สำผัสคนไข้ที่ป่วยให้แยกไปไว้เต้นที่มีธงสีเขียวเพื่อสังเกตุอาการห้าวัน แล้วให้คนไข้ทุกคนทำความสะอาดตัวเองแล้วเปลี่ยนชุดใหม่ให้หมดจากนั้นนำชุดที่ถอดออกเอาไปต้มในน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ ก่อนจะกินอาหารต้องล้างมือทุกครั้ง และภาชนะที่อย่างต้องลวกน้ำร้อนทุกอย่าง อาหารต้องสุก น้ำก็ต้องต้มสุกก่อนกิน พวกเจ้าเข้าใจมั้ย
“ขอรับพระชายา”สิ้นเสียงลี่หลินเหล่าหมอหลวงก็รีบไปทำตามที่นางบอกถึงจะไม่ชอบใจแต่ก็ต้องทำเพราะกลัวอำนาจของไป๋อี้เฉิน
“ท่านอ๋อง ท่านกลับไปพักที่เรือนที่นายอำเภอได้เตรียมไว้ให้เถอะเพคะ,ให้หยวนเอ๋อไปดูแลท่าน”ลี่หลินหันไปบอกไป๋อี้เฉินพร้อมพยักหน้าให้หยวนเอ๋อเพื่อเป็นการบอกให้นางตามเขากลับไปยังเรือนรับรอง
"แล้วเจ้าล่ะ?
“หม่อมฉันอยู่ตรวจคนใคร่สักหน่อยแล้วจะตามไปเพคะ ไปถึงเรือนท่านต้องรีบอาบน้ำเปลี่ยนชุุดสะอาดทันที่นะเพคะ และให้เด็กเอาชุดไปซักด้วยน้ำร้อน,เจ้าก็ด้วยนะหยวนเอ๋อ”ลี่หลินสั่งอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
“เจ้าค่ะคุณหนู"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 27
Comments