รถม้าของไป๋อี้เฉินได้วิ่งเข้าไปจอดภายในวังหลวง เมื่อลงจากรถม้าลี่หลินก็ยืนอึ้งไปชั่วขณะนางพึ่งเคยเห็นวังหลวงจริงๆเป็นครั้งแรก ภายในวังดูสวยงามและกว้างขวางมากมองไปทางไหนก็ดูสวยงามไปหมด
“เจ้ามองอะไรทำยังกับไม่เคยเห็นวังหลวง”เสียงไป๋อี้เฉินดังขึ้น
“ก็หม่อมฉันไม่เคยเหะ……” ลี่หลินกำลังจะพูดออกไปแต่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้จึงเปลี่ยนคำพูดใหม่ “ก็หม่อมฉันไม่ได้เข้าวังนานแล้วนี่เพคะ,..ก็เลยมองภายในวังหลวงยังดูสวยงามไม่เคยเบลี่ยน”
“ท่านอ๋อง!…ท่านมาแล้วหรือพะยะค่ะ”เสียงกงกงประจำตัวฮ้องเต้ดังขึ้น
“อืม”ท่านพ่อเรียกข้ามามีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ?"
“ท่านอ๋องเข้าไปก็จะรู้เองพะย่ะค่ะ,..ตอนนี้ท่านรีบเข้าไปข้างในเถอะพะยะค่ะฮ้องเต้ทรงรอท่านอยู่” กงกงบอกกับไป๋อี้เฉิน
“อืม”ไป๋อี้เฉินกำลังจะเดินไปยังท้องพระโรงแต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าลี่หลินก็อยู่ด้วยจึงสั่งให้กงกงพานางไปพักผ่อนที่ตำหนักของเขา
“กงกง,..ท่านช่วยพาพระชายาไปรอข้าที่คำหนักเทียนกงทีและบอกเด็กๆดูแลนางให้ดี”เมื่อสั่งกงกงเสร็จเขาก็เดินไปยังท้องพระโรงทันที
“พะย่ะค่ะ,ท่านอ๋อง”รับคำไป๋อี้เฉินกงกงก็หันมาหาลี่หลินและเชิญนางไปยังตพหนักเทียนกง
“พระชายา,..เชิญตามข้้ามาทางนี้เถอะพะยะค่ะ”เสียงกงกงเอ่ยเชิญลี่หลิน
“อืม”ท่านกงกงรบกวนท่านแล้วลี่หลินรับคำและเดินตามเขาไป
“หามิได้พะย่ะค่ะ,…พระชายาเป็นหน้าที่ของข้าเมื่อไปถึงตำหนักเทียนกงท่านอยากได้อะไรก็สามารถสั่งบ่าวรับใช้ที่อยู่ในตำหนักได้เลยพะยะค่ะ"
“ถึงแล้วข้าส่งพระชายาเพียงเท่านี้,..ข้าต้องขอตัวไปรับใช้ฮ้องเต้แล้ว”กงกงบอกลี่หลินพร้อมหันไปสั่งบ่าวรับใช้ที่ตำหนักเทียนกงให้ดูแลนางให้ดี
“พวกเจ้าดูแลพระชายาให้ดี”
“เจ้าค่ะ,ท่านกงกง”
“พระชายาเชิญไปพักข้างในตำหนักก่อนเถอะเพคะกว่าท่านอ๋องจะประชุมเสร็จคงอีกนาน,.บ่าวจะไปยกน้ำชากับขนมหวานมาให้ท่าน"บ่าวรับใช้คนหนึ่งพูดขึ้นมา
ลี่หลินเพียงพยักหน้ารับและเดินตามบ่าวรับใช้เข้าไปนั่งรอไป๋อี้เฉินข้างใน ไม่นานก็มีน้ำชากับขนมกุ้ยฮวา ยกเข้ามาบ่าวรับใช้รินชาให้ลี่หลินพร้อมบอกกับนาง
“หากพระชายาต้องการอะไรเพิ่มอีกบอกมาได้เลยนะเพคะพวกบ่าวจะเตรียมมาให้”
“แค่นี้ก็มากพอแล้วพวกเจ้าออกไปทำงานของพวกเจ้าเถอะหากมีอะไรเดี๋ยวข้าจะเรียก”ลี่หลินบอกกับบ่าวรับใช้พร้อมหยิบขนมขึ้นมากินหนึ่งชิ้น
“เพคะพระชายา”บ่าวรับใช้รับคำแล้วจึงออกไปทำงานของพวกนาง
ตำหนักเทียนกง นี่คงเป็นตำหนักที่ไป๋อี้เฉินพักอยู่เวลาเขาเข้ามาในวังสินะ เป็นตำหนักที่ใหญ่อยู่ทีเดียว ลี่หลินนั่งจิบชาไปกินขนมไปเวลาก็ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วไป๋อี้เฉินก็ยังไม่มาสักทีลี่หลินเริ่มรู้สึกเบื่อขึ้นมาจึงจะออกไปเดินเล่นในสวนสักหน่อย
“พระชายาจะไปไหนหรือเพคะ”ทันทีที่บี่หลินก้าวออกจากห้องมาบ่าวรับใช้ที่ยืนคอยรับใช้นางอยู่หน้าห้องก็ถามขึ้นมา
“ข้าแค่เบื่อๆเลยจะออกไปเดินเล่นในสวนสักหน่อย”ลี่หลินออกไปเดินเล่นที่สวนในตำหนักได้เพียงแป็บเดียวก็กับมาเพราะแดดเริ่มร้อนมาก นางกลับเข้ามานั่งในตำหนักแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นโต๊ะหนังสือที่อยู่มุมห้องก็เลยเดินเข้าไปนั่งอ่านหนังสือเล่นไปพรางๆเพื่อรอไป๋อี้เฉินจากนั้นก็เผลหลับไป ไม่รู้ว่านางหลับไปนานเท่าไหร่รู้ตัวอีกทีเมื่อนางรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องนางอยู่ ลี่หลินจึงลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นไป๋อี้เฉินกำลังนั่งมองนางอยู่
“ท่านอ๋อง,..ท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่ปลุกข้า”
“ข้าพึ่งมาสักครู่นี้เอง,..กำลังจะปลุกเจ้าก็ตื่นมาพอดี”ไป๋อี้เฉินตอบลี่หลิน
“ลี่หลินลุกขึ้นจัดผมเผ้าเสื้อผ้าให้เข้าที่,แล้วจึงถามไป๋อี้เฉิน..”ทำไมท่านจึงประชุมนานจังมีเรื่องอะไรหรือเปล่าเพคะ"
“พวกเรากลับกันเถอะเดี๋ยวข้าเล่าให้เจ้าฟังระหว่างทางกลับ”ไป๋อี้เฉินบอกพร้อมจับมือของลี่หลินแล้วเดินออกไปจากตำหนักเทียนกงเพื่อไปขึ้นรถม้ากลับจวน
“นี่เราก็ออกจากวังหลวงมาใกลแล้วท่านจะเล่าให้ข้าฟังได้หรือยังเพคะ”เมื่อได้ยินลี่หลินถามไป๋อี้เฉินก็ทำหน้าเครียดขึ้นมาทันที
“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือเพคะ,..ทำไมท่านทำหน้าเคร่งเครียดอย่างนั้น”
“ที่นอกเมืองเกิดโรคระบาดขึ้น ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากเสด็จพ่อจึงสั่งให้ข้าเข้าไปตรวจสอบและช่วยเหลือชาวบ้าน”
“ท่านก็ส่งทหารลงไปจัดการและหาหมอสักหลายคนตามไปด้วยสิเพคะไม่เห็นต้องเครียดเลย”
“ก่อนหน้านี้ท่านพ่อได้ส่งหมอลงไปดูชาวบ้านแล้วแต่สถานการณ์ไม่ค่อยดีชาวบ้านที่ป่วยสามรถติดต่อกันได้ง่ายมาก”
“ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือเพคะ ชาวบ้านมีอาการเป็นอย่างไรบ้างท่านพอทราบหรือไม่เพคะ”
“ฟังจากรายงานจากหมอหลวงที่ทานพ่อส่งไปในนั้นบอกว่า ชาวบ้านบางคนก็ท้องร่วงอย่างรุนแรง บ้างก็คลื่นใส่อาเจียน ภาวะขาดน้ำ ประมาณนี้”เจ้าถามทำไมเจ้ารู้จักโรคนี้หรือ?..
“หม่อมฉันก็ไม่มั่นใจเพคะ,..คงต้องไปดูด้วยตัวเองถึงจะรู้” จะใช่อหิวาตกโรคอย่างที่นางคิดหรือไม่แต่อาการของชาวบ้านบ่งชี้ว่ากำลังติดเชื้ออหิวาตกโรคหากไม่รีบรักษาและทำรายต้นตอของโรคมันต้องแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและอาจมีคนตายเป็นจำนวนมาก ลี่หลินนั่งคิดอยู่จนคิ้วขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว
“เจ้าคิดอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ”ไป๋อี้เฉินเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยกับท่าทางครุ่นคิดของลี่หลิน
“หม่อมฉันกำลังคิดว่าหากขาวบ้านกำลังติดเชื้ออหิวาตกโรคหากเป็นอย่างที่หม่อมฉันคิดต้องรีบรักษาโดยเร็วและกักโรคไม่ให้แพร่กระจายไปยังที่อื่นไม่อย่างนั้นคงมีคนตายเป็นเบือแน่เพคะ”
“อหิวา….อะไรนะ,โรคอะไรของเจ้า.?"
“อหิวาตกโรคเพคะ,หรือไข้พิษแดด”ลี่หลินก็ไม่รู้ว่ายุคนี้เขาเรียกโรคนี้ว่าอะไรแต่นางเคยได้ยินแพทย์แผนจีนเรียกมันว่าไข้พิษแดด
"อย่างนั้นหรือ,..เจ้าแน่ใจหรือเปล่า..?หมอหลวงที่ประจำอยู่ที่นั่นยังหาสาเหตุไม่ได้และยังไม่รู้เลยว่าชาวบ้านเป็นโรคอะไรได้แต่รักษาไปตามฮาการ
“ก็ไม่มั่นใจไงเพคะถึงบอกท่านว่าต้องไปดูให่เห็นกับตาเสียก่อน,..แล้วท่านจะเดินทางวันไหนหรือเพคะ?"
“เจ้าจะไปด้วยอย่างนั้นหรือ?…ไม่ได้ข้าไม่อนุญาตมันเสี่ยงเกินไปหากเจ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร”
“ท่านไม่ต้องมาทำเป็นห่วงเป็นใยหม่อมฉันหรอกเพคะ,ท่านไม่เหนื่อยหรือที่ต้องทำเสแสร้งทำเป็นรักหม่อมฉันทั้งที่ท่านเกียจชังหม่อมฉันแทบตาย”ลี่หลินพูดขึ้นทำให้ไป๋อี้เฉินที่ได้ฟังถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
“ใยเจ้าถึงคิดว่าข้าเสแสร้ง”ทำไมเจ้าไม่คิดว่าข้าห่วงใยเจ้าจริงๆ,.?ไป่อี้เแินเอ่ยถามลี่หลินพร้อมในใจเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อย ใช่อยู่ว่าแต่ก่อนเขาใจมืดบอดได้ทำร้ายร่างกายและจิตใจของนางอย่างไม่น่าให้อภัย หากตอนนี้เมื่อเขาได้ใกล้ชิดนางมากขึ้นเขาก็เริ่มแน่ใจแล้วว่าเขาได้รักลี่หลินไปแล้วและพยายามทำดีกับนางให้มากขึ้น
“หึ..หึ..หึ..คนอย่างท่านหรือจะรักหม่อมฉัน,..ช่างเถอะจะมาเถียงกันเรื่องรักใคร่อะไรตอนนี้ อย่างไรหม่อมฉันต้องไปด้วยท่านอย่าลืมสิหม่อมฉันก็เป็นหมอคนนึงอาจช่วยอะไรได้บ้าง อย่างน้อยหากท่านติดเชื้อขึ้นมาหม่อมฉันก็ช่วยรักษาท่านได้ ท่านให้หม่อมฉันตามไปด้วยเถอะนะเพคะ"
ที่ลี่หลินพูดมาก็มีเหตุผลไป๋อี้เฉินจึงยออนุญาตให้นางตามไปด้วย
“ก็ได้ข้าให้เจ้าตามไปด้วย,..แต่เจ้าต้องสัญญาว่าต้องเชื่อฟังข้า”
“เพคะท่านอ๋อง” ตกลงท่านจะเดินทางวันไหนหรือเพคะ.?
“อีกสามวัน”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 27
Comments