ยามเหมา ลี่หลินได้พาหยวนเอ๋อออกไปฝึกที่ลานฝึกที่นางสร้างไว้กับซูเฟิง การฝึกอันดับแรกต้องฝึกความอดทน แล้วตามด้วยขั้นตอนที่สองคือฝึกทักษะร่างกาย สัปดาห์นี้นางจะฝึกสองอย่างนี้ก่อน ลี่หลินจึงให้หยวนเอ๋อยืนแบกท่อนซุงที่มีน้ำหนักมากพอที่หยวนเอ๋อจะแบกไว้ได้เพื่อดูความอดทนของนาง หยวนเอ๋อยืนแบกท่อนซุงอยู่อย่างนั้นหลายชั่วยามถึงท่อนซุงจะหนักจนขาของนางสั่นพับๆเหงื่อผุดเต็มหน้าผากนางก็อดทนยืนหยัดได้ ความอดทนของนางถือว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียว จากนั่นลี่หลินจึงให้หยวนเอ๋อวิ่งรอบลานฝึกสิบรอบโดยแบกท่อนซุงวิ่งไปด้วย แต่หยวนเอ๋อวิ่งได้เพียงสามรอบนางก็วิ่งต่อไปไม่ไหวแล้วถึงค
วามอดทนของนางจะใช้ได้แต่ร่างกายของหยวนเอ๋อยังถือว่าอ่อนแออยู่มาก วันนี้ลี่หลินจึงพอแค่นี้ก่อน
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ เดี๋ยวร่างกายของเจ้าจะรับไม่ไหวและบาดเจ็บเอาได้”ลี่หลินบอกกับหยวนเอ๋อ หากยังฝึกต่อไปนางอาจจะบาดเจ็บเอาได้ ต้องค่อยฝึกและปรับสภาพร่างกายนางไปทีละนิด
“คุณหนู..แค่ฝึกศิลปะการต่อสู้ต้องทำขนาดนี้เลยหรือเจ้าคะ”เสียงของหยวนเอ๋อเอ่ยถามขึ้นมา นางนั่งหายใจหอบแฮ่กๆเพราะเหนื่อยจากการวิ่งแถมยังต้องแบกท่อนซุงวิ่งไปด้วยอีกตอนนี้ขาของนางสั่นจนแทบจะเดินไม่ไหว แค่วันแรกยังเหนื่อยขนาดนี้
“ใช่”ลี่หลินตอบกลับอย่างจริงจัง การต่อสู้มันไม่ใช่แค่ต่อยตีกันไปมา เจ้าต้องมีความอดทนและร่างกายที่แข็งแรงควบคู่ไปด้วยหากร่างกายเจ้าอ่อนแอเจ้าจะไปต่อยตีกับใครได้ เพียงแค่ข้าผลักเจ้าเบาๆเจ้าก็ล้มไม่เป็นท่าแล้ว เพราะฉะนั้นเจ้าต้องเริ่มฝึกจากความอดทนและเพิ่มทักษะร่างกายของเจ้าให้แข็งแรงขึ้นก่อน
“เจ้าค่ะคุณหนู”
“เรากลับกันเถอะ,..พรุ่งนี้ค่อยฝึกกันต่อ" เจ้าลุกขึ้นไหวไหมลี่หลินพูดพร้อมเอ่ยถามหยวนเอ๋อ
“ไหวเจ้าค่ะ,..แต่ขาของข้ามันยังสั่นไม่หยุดเลย”
“เพราะเจ้าไม่เคยออกกำลังเดี๋ยวสักพักมันจะค่อยๆดีขึ้นเอง”..และวันนี้ข้าอนุญาตให้เจ้าลาได้ครึ่งวันกลับไปก็พักให้สบายไม่ต้องมาคอยดูแลข้า
“เจ้าค่ะคุณหนู”
หลังจากกลับมาลี่หลินก็รีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วออกมาจัดการงานเรือนภายในจวน แต่ก่อนงานพวกนี้เป็นซูหนี่ที่คอยจัดการถึงนางจะเป็นชายารองแต่ก็เป็นคนโปรดของไป๋อี้เฉินจึงไม่มีใครกล้าคัดค้าน ตั้งแต่ซูหนี่โดนกักบริเวณงานในเรือนจึงตกมาอยู่ที่นางซึ่งมันน่าเบื่อเสียเหลือเกิน ลี่หลินใช้ชีวิตแบบนี้ทุกวัน เช้าออกไปฝึกกับหยวนเอ๋อสายก็มาจัดการงานเรือนตกเย็นก็รักษาอาการป่วยของไป๋อี้เฉิน แป้ปเดียวเวลาก็ผ่านไปหนึ่งเดือน และวันนี้ถึงวันที่นางต้องไปที่หอสุรา
ก็อก..ก็อก..ก็อก!…"ไป๋อี้เฉินท่านอยู่หรือเปล่า..?"
“เข้ามา”เสียงทุ้มของไป๋อี้เฉินดังมาจากในห้อง ลี่หลินจึงเปิดประตูเข้าไป
"วันนี้ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?..,,อึม..ดูจากสีีหน้าของท่านอาการของท่านน่าจะดีขึ้นมากแล้ว บี่หลินถามเองแล้วก็ตอบเอง ไป๋อี้เฉินฝันร้ายทำให้เขาหลับไม่สนิจเนื่องจากเขาได้เจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายเรื่องราวสะเทือนใจและเหตุการณ์ที่เจ็บปวดทางจิตใจมา ลี่หลินจึงรักษาเขาโดย ห้ามเขาดื่มสุรา และหากิจกรรมผ่อนคายก่อนนอนให้เขาทำเช่นอ่านหนังสือ และช่วงเย็นก็ให้เขาออกกำลังกายวันละ หนึ่งก้านธูป จากนั้นก็ปรับเวลานอนของเขาทุกคืนเมื่อถึง ยามก้านเขาต้องเข้านอนเพื่อให้ร่างกายได้จดจำเวลาเข้านอน-ตื่นนอน ลี่หลินพยายามรักษาเขาโดยไม่ใช้ยานอนหลับเพราะมันไม่ดีหากใช้ไปนานๆ แต่วันนี้นางต้องออกไปหอสุราจึงจำเป็นต้องเอายานอนหลับออกมาใช้
"ยังไม่ถึง ยามห้ายที่ข้าต้องเข้านอนเจ้ามีอะไรอย่างนั้นหรือ.?..ไป๋อี้เฉินเอ่ยถามขึ้น
“อ๋อ!..หม่อมฉันมียามาให้ท่านซึ่งมันจะทำให้ท่านหลับง่ายขึ้น ลี่หลินบอกไป๋อี้เฉินพร้อมหยิบยานอนหลับเม็ดเล็กส่งให้เขา “ท่านอ๋องกิินเลยเพคะรับรองยานี้ช่วยให้ท่านหลับดีแน่นอนหม่อมฉันรับประกัน” พูดจบลี่หลินก็รีบเทน้ำให้ไป๋อี้เฉินทันที
“อย่างนั้นหรือ.?”
“เพคะ.รับรองว่าท่านหลับสนิจไม่ฝันร้ายแน่นอน”
“เห็นแก่ที่เจ้าพยายามช่วยรักษาข้า ข้าจะกินมัน ดูสิว่ายาของเจ้าจะดีเยี่ยมเหมือนที่เจ้าว่าหรือเปล่า" พูดจบไป๋อี้เฉินก็หยิบยาเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามลงไป ลี่หลินแอบยิ้มที่มุมปากแต่ก็ไม่พ้นสายตาของไปอี้เฉินที่เขาเห็นนางยิ้มพอดี
“เจ้ายิ้มอะไร,..หรือนี่จะเป็นยาพิษที่เจ้าหลอกให้ข้ากินเข้าไป.?”
“เปล่าหรอกเพคะมันไม่ใช่ยาพิษ,..หม่อมฉันแค่ชอบเวลาที่ท่านเชื่อฟังเลยยิ้มออกมา”ลี่หลินพูดโกหกออกไปคำโต แต่ก็ทำให้หัวใจของไป๋อี้เฉินสั่นไหวขึ้นมาแปลกๆ
“แฮ่ม..!”ไป๋อี้เฉินกระแอมออกมาพร้อมหยิบน้ำขึ้นมาดื่มอีกครั้ง เมื่อได้หยินคำว่าชอบของลี่หลินอยู่ๆเขาก็ใจสั่นแล้วก็คอแห้งขึ้นมาทันที
“ท่านอย่ามัวชักช้ารีบไปนอนเถอะเพคะยาน่าจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว”ลี่หลินพูดพร้อมดึงไป๋อี้เฉินออกมาจากโต๊ะอ่านหนังสือแล้วพาเขาไปที่เตียงนอน นางข่วยเขาถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกแล้วให้เขานอนลง เมื่อไป๋อี้เฉินนอนลงลี่หลินก็ช่วยห่มผ้าให้เขายังไม่ทันได้พูดอะไรไป๋อี้เฉินก็หลับไปแล้ว เมื่อเช็คให้แน่ใจแล้วว่าเขากลับจริงลี่หลินก็รีบออกไปทันที
ลี่หลินกับหยวนเอ๋อมาถึงหอสุราโดยเข้ามาทางลับด้านหลังของร้าน และลี่หลินก็รีบแต่งตัวโดยหลิวอี้ได้เตรียมชุดไว้ให้นางแล้ว เมื่อลี่หลินกำลังออกไปเพื่อจะทำการแสดงร่ายรำเธอก็เห็นหลิวอี้กำลังร่ายรำท่าทางอ่อนช้อยงดงามดูมีเสน่ห์ดึงดูดยิ่งนักเหล่าลูกค้าภายในร้านก็ต่างชื่นชอบเป็นอย่างมาก ลี่หลินยืนแอบดูจนหลิวแสดงเสร็จก็กลับมาเปลี่ยนชุดเดิมที่นางใส่มาและนั่งรอหลิวอี้ที่ห้องลับที่พวกเขานัดเจอกันทุกเดือน
“นายหญิง”ท่านมาแล้วหรือเจ้าคะเสียงหลิวอี้ดังขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้อง
“อืม”ขอโทษเจ้าด้วยวัันนี้ข้ามาสายทำให้เจ้าต้องลำบากต้องไปแสดงแทน
"ไม่ลำบากหรอกเจ้าค่ะนี่เป็นความต้องการของนายท่านซูเฟิง เขาได้กำชับกับข้าก่อนเดินทางไปชายแดนเหนือว่าไม่ให้ท่านออกไปแสดงเด็ดขาด เขาเป็นห่วงท่านมากหากมีคนจำท่านได้ท่านจะเดือดร้อนเอาได้
"อย่างนั้นหรือ..?
“เจ้าค่ะนานหญิง”
“ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามที่ซูเฟิงบอกแล้วกัน” ต่อไปเจ้าก็เพิ่มหน้าที่ขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างเป็นเจ้าของหอสุราบวกนางรำประจำหอสุราไปด้วย ดูแล้วลูกค้าพวกนั้นก็ชื่นชอบการแสดงของเจ้ามากเลยที่เดียว และมันสามารถทำให้เจ้าหาข่าวสารได้มากขึ้น
“เจ้าค่ะนายหญิง"
“ซูเฟิงได้ติดต่อมาบ้างหรือป่าว..?"
“นายท่านซูเฟิงไม่ได้ส่งข่าวมาเลยเจ้าค่ะ”หลิวอี้บอกลี่หลิน
หนึ่งเดือนแล้วที่ซูเฟิงไปชายแดนเหนือไม่รู้ว่าเขาเป็นย่างไรบ้างและงานที่นางให้เขาไปทำไปถึงไหนแล้ว ซูเฟิงไม่ยอส่งข่าวมาหานางเลย
“ช่างเถอะมันเป็นนิสัยของเขาหากงานไม่สำเร็จเขาจะไม่ส่งข่าวเด็ดขาด”ลี่หลินพูดขึ้น นี่ก็ดึกมากแล้วข้าต้องกลับแล้ว ต่อไปข้้าคงออกมาไม่ได้บ่อยๆเพื่อไม่ให้ไป๋อี้เฉินสงสัย หากมี่เรื่องเร่งด่วนเจ้าก็ติดต่อหยวนเอ๋อได้ทันทีนางจะมารายงานข้าเอง
“เจ้าค่ะนายหญิง”ข้าจะให้เด็กๆไปส่่งท่านเพื่อความปลอดภัย
“อืม” ขอบใจเจ้ามาก
ลี่หลินขี่ม้ามาทางหลังจวนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนเห็น เมื่อใกล้ถึงจวนก็สั่งให้เด็กที่ร้านกลับไป
“ใกล้ถึงจวนท่านอ๋องแล้วพวกเจ้ากลับไปเถอะ ส่งข้าแค่นี้พอ”สิ้นคำสั่งของลี่หลินเด็กรับใช้ที่ร้านก็ควบม้ากลับร้านทันที
ลี่หลินกลับมาถึงจวนแล้วก็รีบเข้านอนทันทีเพราะตอนเช้าก็ต้องออกไปฝึกกับหยวนเอ๋อแต่เช้า ผ่านไปหนึ่งเดือนตอนนี้หยวนเอ๋อเก่งขึ้นมากแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางรู้ก็ได้สอนนางไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงการใช้อาวุธที่หยวนเอ๋อยังไม่ชำนาญจึงต้องฝึกเพิ่มเติมนิดหน่อยแล้วต้องขยันฝึกทุกวันเพื่อให้ชำนาญ
“ฟิ้ว….ฉึก!..เสียงลูกธนูที่ถูกยิงออกไปปักลงกลางเป้า”
“แปะ..แปะ..แปะ” ลี่หลินปรบมือให่หยวนเอ๋ออย่างพอใจ
“ฝีมือการยิงธนูของเจ้าพัฒนาขึ้นมาก ฝึกซ้อมบ่อยๆเจ้าต้องเป็นนักแม่นธนูผู้เก่งกาจได้เลย”
“คุณหนู การยิงธนูของข้ายังห่างชั้นกับท่านตั้งเยอะ”หยวนเอ๋อพูดกับลี่หลิน สำหรับนางฝีมือแค่นี้ยังเทียบอะไรไม่ได้กับลี่หลิน
“หากเจ้าขยันฝึกฝนอีกไม่นานเจ้าก็เก่งแซงหน้าข้าแล้ว”
“เจ้าเข้ามานี่สิ”ลี่หลินที่ยืนอยู่กลางลานฝึกบอกให้หยวนเอ๋อเข้ามาหา
หวืด..ตุบ!…เสียงหมัดฟาดออกไปหาหยวนเอ๋ออย่างรวดเร็ว แต่หยวนเอ๋อก็ใช้แขนของนางป้องกันและรับหมัดของลี่หลินไว้ได้ทัน
“คุณหนู!!. นี่ท่านเล่นทีเผลอหรือเจ้าคะ"
“อยู่ต่อหน้าศัตรู เจ้าต้องระวังตัวตลอดเวลาเจ้าเผลอเพียงแว้บเดียวเจ้าอาจตายได้”
“เจ้าค่ะ..ข้าจะจำที่ท่านสอนไว้ให้ขึ้นใจ”
“ตุบ..คุณหนูท่านต่อยข้าอีกแล้วนะเจ้าคะ”
“แล้วไงเจ้าก็ต่อยข้าให้โดนสิ,..ตอนนี้ข้าให้เจ้ามองข้าคือศัตรูไม่ใช่คุณหนูของเจ้า”
“ก็ได้เจ้าค่ะ,..อย่างรั้นข้าไม่เกรงใจท่านแล้วนะเจ้าคะ”
“เข้ามาเลย”ลี่หลินบอกพร้อมทำหน้าท้าทาย
“ย้ากกก…”หยวนเอ๋อวิ่งเข้าหาลี่หลินอย่างรวดเร็วและหงุดหงิดที่นางโดนต่อย
พลั่ก…ฟึบ….ฟั่บ.. อึก……ตุบ….อั่ก…โอย…..โครม!!!!!!
เสียงลี่หลินกับหยวนเอ๋อต่อสู้แรกหมัดกันอย่างจริงจัง จนสุดท้ายฝ่ายพ่ายแพ้ยังคงเป็นหยวนเอ๋อที่ถูกลี่หลินจับทุ่มลงไปกับพื้น
“แฮ่ก..แฮ่ก…วันนี้เราพอแค่นี้เถอะลี่หลินพูดขึ้นพร้อมเสียงหายใจที่หอบเหนื่อย”
“เจ้าค่ะ….เฮ่อ…อึบ…”หยวนเอ๋อถอนหายใจด้วยความเหนื่อยเช่นกันแล้วจึงดันคัวเองลุกขึ้นมา
ลี่หลินกลับมาถึงจวนก็สายมากแล้วนางจึงรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด เพื่อจะได้ออกมาสะสางงานในเรือนต่อไป เมื่อนางเดินออกมาจากห้องก็เห็นบ่าวรับใช้เดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าห้องของไป๋อี้เฉิน
“เจ้ามาทำอะไรที่หน้าห้องของท่านอ๋อง”ลี่หลินเอ่ยถามบ่าวรับใช้
“พระชายาเอก,..ท่านกลับมาแล้วก็ดีเลยขอรับ”
“มีอะไรอย่างนั้นหรือ..?”
“สายป่านนี้ท่านอ๋องยังไม่ตื่นเลยขอรับ,..มีทหารจากในวังมาหาท่านอ๋องบอกให้ท่านอ๋องเข้าวังด่วน แต่ข้าก็ไม่กล้าเข้าไปปลุกท่านอ๋องขอรับ”
“อย่างนั้นหรือ…เจ้าก็รออยู่ตรงนี้เดี๋ยวข้าเข้าไปดูท่านอ๋องเอง”พูดจบลี่หลินก็เปิดประตูเข้าไปในห้องของไปอี้เฉิน คงเป็นเพราะยานอนหลับที่นางให้เขากินเลยทำให้เขาหลับนานไปหน่อย
“ไป๋อี้เฉิน,…ไป๋อี้เฉิน….ท่านตื่นได้แล้วนี่มันสายมากแล้ว"ลี่หลินเขย่าตัวเขาพร้อมเรียกปลุกให้เขาตื่น ลี่หลินปลุกเขาอยู่หลายครั้งกว่าไป๋อี้เฉินจะลืมตาตื่นขึ้นมา
“นี่ยามไหนแล้ว?…ไป๋อี้เฉินเอ่ยถามพร้อมยันกายลุกขึ้นนั่งอยู่ที่เตียง”
“ยามซื่อแล้วเพคะ”ลี่หลินตอบเขา
"ท่านลุกขึ้นไปอาบน้ำเถอะเพคะสายมากแล้ว,..มีทหารจากในวังมาให้ท่านเข้าวังด่วนบ่าวรับใช้เห็นท่านหลับอยู่เลยไม่กล้าปลุก ไปอาบน้ำสักหน่อยอาการงัวเงียของท่านจะได้ดีขึ้น
“ก็ดีเหมือนกันข้ายังรู้สึกง่วงอยู่เลย”ไป๋อี้เฉินลงมาจากเตียงและเดินหายเข้าไปห้องอาบน้ำสักพักก็กลับออกมา ลี่หลินช่วยเขาแต่งตัวจนเสร็จ
“ท่านกินอะไรสักหน่อยค่อยไปดีมั้ยเพคะ”
“ไม่ล่ะสายมากแล้วไม่รู้ว่าในวังมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า ข้ารีบไปดีกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นเอารถม้าไปเถอะเพคะ,..หากท่านเกิดง่วงขึ้นมาจะได้งีบหลับได้”ดูจากอาการท่านยังดูง่วงอยู่เลยหากขี่ม้าไปท่านอาจวูบตกม้าได้ ลี่หลินบอกไป๋อี้เฉิน
“ก็ดีเหมือนกัน,..อย่างนั้นเจ้าก็เข้าวังไปกับข้าเถอะ”
“เข้าวังไปกับท่าน,..!.ไม่เอาหรอกเพคะ”
“เจ้าต้องไปเจ้าเป็นคนเอายาให้ข้ากินทำให้ข้าต้องตื่นสาย ฉะนั้นเจ้าต้องรับผิดชอบ”
“แต่ยานี้ก็ทำให้ท่านหลับสบายไม่ฝันร้ายนี่เพคะ”
“ไม่รู้ล่ะสายมากแล้ว”พูดจบไป๋อี้เฉินก็คว้าเขียนลี่หลินเดินขึ้นรถม้าไป
“รีบไป”ไป๋อี้เฉินสั่ง
“ขอรับท่านอ๋อง”บ่าวรับรีบบังคับรถม้าออกไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 27
Comments