ตอนนี้ผมมาอยู่ในงานเดินแบบเซาเปาโลและได้อยู่ที่นั่ง VVIP แค่บอกชื่อผมไปทางผู้ดูแลรีบกุลีกุจอพาผมนั่งติดกับเวทีเดินแบบ
‘ลุงกากาว่าครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่งานแล้วนะครับ ถึงจะลำบากนิดหน่อย แต่ขอบคุณมากนะครับที่ลุงส่งคนของลุงมาให้ผมด้วย ไม่งั้นผมแย่แน่ พูดภาษาโปรตุเกสไม่ได้ด้วย’
‘ฮ่าๆๆไม่เป็นไรเลย ขอบคุณนะที่ไปตามที่ลุงบอก ฝากรับลูกสาวลุงกลับมาด้วยนะ’
ติ๊ด! นั่นแหละครับ ที่ผมต้องมาเพราะลุงนากาว่าคะยั้นคะยอให้ผมมารับลูกสาวแกกลับบ้าน และใช่ครับลุงแกเองก็บอกลูกสาวไว้แล้วว่าใครจะมารับกลับบ้านไป ผมไม่ได้สนใจอะไรอีก ได้แต่ภาวนาว่าอยากให้ผ่านตรงนี้ไปเร็วๆ ผมนั่งได้ไม่กี่นาทีไฟในห้องเริ่มหรี่ลง และตามมาด้วยเสียงดนตรีที่เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ และนี่ดึงดูดความสนใจผม ดูนายแบบนางแบบที่เป็นเหมือนหุ่นทดลองเสื้อผ้าเคลื่อนที่เดินแบบตามที่ได้ฝึกมาอย่างไม่ยอมใคร จนผมรู้สึกว่ามันก็สนุกดีที่ได้มาดูเสื้อผ้าแปลกๆ การออกแบบดีไซน์ของนักออกแบบ จนกระทั่งเสียงปรบมือดังขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุและเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของทุกคนทำให้ผมหันไปมอง และสิ่งที่ผมเห็นคือ
หญิงสาวรูปร่างสูงระหง ขนาดตัวผอมตามนางแบบที่ขึ้นเวทีระดับใหญ่ๆ อยู่ในชุดชั้นใจลายลูกไม้สีขาวพร้อมกับขนมุ้งสีขาวขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงแขนของเธอ ใบหน้าเรียวยาว ดวงตากลมโตคิ้วเข้มโก่งเข้ารับกับใบหน้าและรอยยิ้มที่สามารถกระชากใจทุกคนยามที่มองเธอ มันแทบสะกดทุกคนไว้ให้มองแต่เธอผู้เดียว เธอโพสต์ท่าเท้าเอว มองผู้คนทั่วทั้งงานก่อนจะก้าวเท้าเดินออกมาด้วยความมั่นใจที่เธอมี
เวทีนี้ตกเป็นของเธอคนเดียว ผมนั่งมองเธอเดินมาจนเธอมาหยุดอยู่ตรงผม ผมเหลือบตาเธอและนั่งกอดอก ก็คนสวย คนนี้ใช่ไหมนะที่ชื่อ คานะ? ตอนนั้นก็ลืมถามลุงนากาว่าว่าลูกสาวแกคนไหน? ตอนที่เธอกำลังจะม้วนตัวเดินผ่านผมไป พลันสายตามองไปยังฝั่งตรงข้ามผมแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
เพราะคนที่อยู่ตรงข้ามผมนั่งอยู่ตำแหน่งเดียวกับผมคือ โคจิโร่ ที่ตอนนี้มองนางแบบคนสวยเมื่อสักครู่อย่างไม่ละสายตาแถมโคจิโร่จะไม่รู้ตัวว่าเผลอยิ้มออกมา ผมรู้ว่าโคจิโร่ชอบแม่สาวคนนี้เข้าให้แล้ว หลังจากนั้นโคจิโร่หันไปกระซิบกับคนข้างๆผมจำได้ดีว่าคนๆนั้นคือคนที่พาผมเข้ามานั่งตรงนี้ กระซิบอะไรกัน? แล้วผมอยากรู้ไปทำไม? พอโคจิโร่กระซิบเสร็จ คนข้างๆพยักหน้าก็ลุกออกจากที่นั่งไป โคจิโร่จึงหันมาแต่เขากับเจอผม แน่ล่ะเขาดูตกใจไม่น้อย แต่แทนที่เขาจะทักทายเขากลับทำเป็นมองไม่เห็นผม ผมก็เลยไม่สนใจเขาเช่นกัน
‘เป็นยังไงบ้างลูก เจอเคนจิหรือยัง?’
‘ยังเลยค่ะ หนูไม่รู้ว่าเขานั่งอยู่ตรงไหน พ่อแน่ใจนะคะว่าเขาจะมา’
‘แน่ใจสิลูก เดี๋ยวพ่อโทรบอก…’
ก๊อกๆ! ฉันหันไปมองที่หน้าประตูห้องแต่งตัว
‘แค่นี้ก่อนนะคะพ่อ น่าจะเป็นมาดามของแบรนด์มาเรียกน่ะค่ะ หนูออกไปก่อนนะคะ เอาไว้กลับไปไว้หนูจะทำอาหารฝีมือหนูให้กินอีกนะคะ รักพ่อนะคะ’
‘พ่อก็รักลูกนะ’ ฉันวางโทรศัพท์ใส่เข้าไปในกระเป๋าใบหรูของฉันก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตู
‘ขอโทษด้วยนะครับคุณคานะพอดีว่ามีคนอยากพบคุณเป็นการส่วนตัวพวก VVIP น่ะครับ’
‘จริงหรอคะ? งั้นเดี๋ยวฉันออกไปพบเขาเองค่ะ รอสักครู่นะคะหนูขอเก็บกระเป๋าก่อน’ ฉันเข้ามาเก็บของอีกนิดหน่อยก่อนจะเดินตามผู้จัดออกไปยังคนที่จะพบเจอฉัน หรือเขาจะคือเคนจิคู่หมั้นหลอกๆที่จะมารับฉันหรือเปล่านะ พ่อจะบอกเขาหรือเปล่านะว่า ฉันต้องอยู่ที่นี่ 1 อาทิตย์เต็มๆเพราะงานมันยังไม่จบและอีกอย่างฉันก็ลืมถามพ่อไปเลยว่าเขาหน้าตาแบบไหน ตอนอยู่บนเวทีก็คิดว่าจะเห็นเขาแต่กลับไม่เห็น
‘คุณโคจิโร่ครับ คุณคานะมาตามที่ท่านต้องการแล้วครับ’ ฉันหยุดเดินตามผู้ดูแลงาน เมื่อเห็นหลังของผู้ชายคนหนึ่ง จนผู้ดูแลงานทักเขา และเขาหันหน้ามา
‘คุณคานะ’ ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้ฉันอย่างดีใจ ฉันมองหน้าผู้ดูแลงาน แต่เขากลับไม่พูดอะไรและก็เดินออกไปทั้งแบบนั้นทิ้งให้ฉันเป็นใบ้อยู่แบบนี้
‘เอ่อคุณคือเคนจิหรือเปล่าคะ?’ ฉันถามผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าด้วยความไม่แน่ใจ เขาหน้าตาสไตล์ผู้ชายญี่ปุ่นจริงๆ ตาตี่ ผิวขาวเหลืองสูงน่าจะ 180 อัพ แต่งตัวอยู่ในชุดสูทที่เข้ากับเขาบ่งบอกได้อย่างดีว่า เขาต้องเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจไม่เบาแน่นอน
‘เคนจิหรอครับ? อ่อ จริงสิผมเสียมารยาทกับคุณจริง ผมชื่อโคจิโร่นะครับ โคจิโร่ ทานากะ ครับ’ ผู้ชายแปลกหน้าที่ชื่อโคจิโร่ก้มหัวให้กับฉัน ฉันยังคงสับสน
‘อ้าวคุณไม่ใช่คุณเคนจิหรอคะ?’
‘ผมอยู่นี่ครับ’ ฉันหันไปมองตามเสียงที่พูดเมื่อกี้ ก็เห็นผู้ชายดูภูมิฐานดีไม่แพ้กับโคจิโร่พร้อมกับผู้ชายใส่ชุดสูทสีดำอีกสองคนเดินตามมา ผู้ชายคนนี้ดูหล่อเหลาเอาการ เหมือนหลุดออกมาจากทีวี เขาเป็นดาราหรือเปล่านะ หรือเป็นนักร้องค่ายดังค่ายหนึ่งในเกาหลี เขาดูไม่ค่อยเหมือนคนญี่ปุ่น ทั้งๆที่เขาพูดภาษาญี่ปุ่นเหมือนเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆก็เถอะ สันกรามที่เด่นชัดของเขา ดวงตาทรงเหยี่ยวที่เข้ารับกับใบหน้าทำให้ฉันมองสลับกับโคจิโร่ ถึงเขาจะดูดี แต่ก็มีข้อแตกต่าง
‘ผมเองเคนจิครับ ที่ลุงนากาว่ามารับคุณกลับบ้าน’
‘สวัสดีนะสหาย’ อยู่ๆคุณโคจิโร่ทักทายคุณเคนจิ ฉันที่ดูเหมือนคนนอกมองทั้งสองคน ‘ไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอนายที่นี่ และฉันก็ไม่เคยคิดอีกด้วยว่า นายจะได้ถูกเลือกเป็นคู่หมั้นของคุณคานะ’
ฉันยิ้มแหยๆให้กับทั้งสองคน ถึงแม้ทั้งสองคนจะไม่ยังไม่สนใจที่จะคุยกับฉันก็ตาม
‘ที่ฉันทำไปเพราะฉันมีเหตุผลโคจิโร่’
‘ฮู้ว มันน่ารำคาญมากนะรู้ไหม แม้กับเรื่องแบบนี้นายก็ยังจะขวางฉันไว้นะเคนจิ
‘…’ เอ๊ะ? ทำไมสองคนนี้มีบทสนทนาแปลกๆ ฉันมองหน้าคุณเคนจิ คุณเคนจิเองก็มองฉัน
‘ไม่รู้ทำไมฟ้าชอบเล่นตลกกับฉัน โลกมันจะกลมเกินไปแล้วบางที ฉันไปล่ะ ผมไปก่อนนะครับคุณคานะ หวังว่าวันหนึ่งผมจะได้พาคุณไปกินข้าวกับผมโดยที่ไม่มีขวากหนามระหว่างเรานะคะ’
‘ค่ะ’ ฉันตอบกลับไปแบบงงๆ เมื่อคุณโคจิโร่เดินหายจากการมองเห็นของฉันแล้ว ฉันกลับมามองหน้าคุณเคนจิอีกครั้ง หรือสองคนนี้จะไม่ถูกกันนะ
‘ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ จากเพื่อนสนิทตอนนี้เป็นคนไม่รู้จักกันไปแล้ว เอาไว้ผมค่อยเล่าให้ฟังละกันครับ เรากลับบ้านกันเลยไหมครับ? อ่อไม่สิ ผมนี่เสียมารยาทมาก ผม เคนจิ ยามารุ ลูกชายของตระกูลยามารุครับ’ คุณเคนจิก้มโค้งให้ฉันก่อนที่เขาจะยืดตัวตรงและมองฉัน
‘ฉันคานะ โฮชิโนะลูกสาวตระกูลโฮชิโนะ ค่ะ’ ฉันก้มโค้งให้เขาเพื่อเป็นการทักทายเช่นกันและมองเขาอีกครั้ง
‘ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ’
‘เช่นกันค่ะ เมื่อกี้คุณถามฉันว่าจะกลับบ้านเลยใช่ไหมคะ ตอนนี้ยังไม่ได้หรอกค่ะ เพราะยังมีงานเดินแบบอีก 1 อาทิตย์เต็มๆ เห็นทีจะได้กลับกลางเดือนเลยค่ะ ถ้าไม่ว่ายังไงรบกวนอยู่ต่ออีกได้ไหมคะ?’
‘อยู่จนกว่างานของหนูคานะจะจบนะลูก’ เสียงพ่อสะท้อนดังเข้ามาในหัว ผมยิ้มให้กับคุณคานะถึงแม้ใจอยากจะลากเธอกลับตั้งแต่ตอนนี้เลยก็เถอะ
‘ได้ครับเพราะยังไงผมก็ต้องทำตามสั่งของลุงนากาว่ากับพ่อของผมอยู่แล้ว’
‘ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากจริงๆถ้างั้นตอนนี้ฉันขอกลับก่อนนะคะ’
‘ให้ผมไปส่งดีกว่านะครับ’
‘ไม่เป็นไรค่ะพอดีฉันให้ผู้จัดการมารับค่ะ อย่าลำบากเลยนะคะเอาไว้เจอกันตอนที่จะกลับบ้านดีกว่าค่ะ หรือไม่ก็คุณสามารถมาดูฉันเดินแบบได้ทุกงานเลยนะคะ ก็คุณเป็น VVIP แล้วนี่คะ เอาไว้เจอกันนะคะ ขอบคุณที่เสียเวลามาถึงที่นี่’ คุณคานะก้มโค้งให้ผมอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป
‘ถือว่ามาเที่ยวละกันนะครับ ผมจะนำพานายท่านเที่ยวเอง’ ลูกน้องของลุกนากาว่าที่พูดภาษาโปรตุเกสได้ยิ้มให้ผมด้วยความภูมิใจในบ้านเกิด
‘รบกวนด้วยนะ’
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments