เสียงกระซิบจากผู้ติดตาม

เสียงกระซิบจากผู้ติดตาม

ฉันชื่อพลอย

     เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของหมอผีหนุ่ม ที่ได้รับการว่าจ้างให้ปราบปอบสาว หมอผีหนุ่มคนนี้เป็นคนที่ยึดถือเรื่องเงินตราเหนือสิ่งอื่นใด หรือจะเรียกได้ว่า ่คนหน้าเงิน ' มันก็คงไม่เกินไปนัก เขารับงานด้วยค่าจ้างที่สูงลิบ สูงมากพอจะทำให้ข้อสงสัยหลายๆอย่าง ถูกบดบังไปด้วยฤทธิ์กลิ่นที่หอมฟุ้ง ของปึกธนบัตรสีเทาตรงหน้า และทุกคนเอ๋ย นี่คือเสียงกระซิบจากข้า 

      เป็นเวลากว่า1วันที่บอยเดินทางออกสู่เขตชนบท จนตกเย็นก็เหยียบเข้าเขตหมู่บ้านซึ่งห่างไกลตัวเมือง หมู่บ้านแห่งนี้ค่อนข้างเงียบและไร้ชีวิต อันผิดปกติวิสัย เพราะส่วนมากตอนเย็นจะเห็นผู้คนตั้งวงตามบ้าน หลังจากตรากตรำลุยงานมาตลอดทั้งวัน  จริงอยู่ว่าแสงไฟแต่ละบ้านยังคงเปิดอยู่ แต่มีเพียงคน3คนเท่านั้น ที่ยืนรอต้อนรับเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย บอยเดินขยับย่ามให้กระชับ ก่อนเดินเข้าไปและทักทาย 

"ผมบอย ที่คุณติดต่อไปเมื่อวันก่อน" 

     หนึ่งในชาย3คนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู 

"มาช้า " 

"รถโดยสารยางแตกน่ะ บ้านหลังไหนรีบนำไปเถอะ " 

      ชาย3คนเดินนำไปที่ท้ายหมู่บ้าน ผ่านป่าไผ่ที่ขึ้นรกจนหนาตา เมื่อมองผ่านความสลัวในยามเย็นแล้วชวนให้นึกถึงภาพของมือปีศาจ มันโบกไหวตามแรงลม ส่งเสียงแอ๊ด ..ด สร้างบรรยากาศชวนสะพรึงที่เขาคุ้นเคย สุดป่าไผ่คือบ้านทรงไทยหลังงาม อันมีเนื้อที่กว้างขวาง และมีที่นาติดอยู่ด้านหลังสุดลูกหูลูกตา บอยหันไปถามชายทั้ง3 

"หลังนี้หรอ?" 

      ชายทั้งสามพยักหน้า ก่อนคนที่แต่งตัวดูดีที่สุด จะยกนาฬิกาขึ้นดูอีกครั้ง 

"เราจะกลับมาอีกทีในตอนเช้า หวังว่างานคงสำเร็จ " 

      บอยมองหลังชายทั้ง3ที่ร่างค่อยๆลับดงไผ่ไป เขาคิดในใจว่าพวกนี้มีพฤติกรรมแปลกๆ ปกติแล้วคนที่ติดต่อเขาจะเป็นผู้นำหมู่บ้าน แต่ดูภายนอกของทั้ง3บอกเลยว่าไม่ใช่ พวกนั้นเหมือนพวกนายทุนเสียมากกว่า แต่คิดไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะสิ่งหนึ่งที่ยืนยันแน่ๆคือพวกนี้เงินหนา และไม่กำหนดเพดานของราคาเมื่อพบว่าหน้างานนั้นยากกว่าที่ตกลง 

      บอยเดินเข้าเขตรั้วบ้านทรงไทย มันไร้วี่แววของผู้อยู่อาศัย ไม่มีแม้หมาแมว หรือสัตว์เลี้ยงยอดฮิตประเภทหมู เป็ด และไก่ ประตูถูกปิดสนิท ขณะที่บอยก็เริ่มต้นการทำงานที่ถนัด โดยหยิบมีดหมอลงอาคมขึ้นมาไหว้จรดหน้าผาก เขาเดินขึ้นบันไดไปอย่างช้าๆ จนหยุดที่หน้าประตู ใช้มือดันเบาๆจนประตูเปิดออก 

แอ๊ด…ด  

     สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้คือความเย็นยะเยือก เขาคลำหาสวิตช์ไฟ เมื่อกดแป๊ก! ความสว่างก็สาดไปทั่วบริเวณบ้านทั้งหลัง 

      ไร้วี่แววของเป้าหมาย นั่นก็คือปอบตัวปัญหาที่สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้คนในชุมชน เขาตระหนักดีในข้อที่ว่า ทำไมผู้คนถึงเอาแต่เก็บตัวเงียบในบ้าน ก็เพราะปอบอาละวาดแบบนี้ใครจะมีแก่ใจออกมาตะลอนไหว ระหว่างที่เขาเดินสำรวจไปแต่ละห้อง เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นก็เริ่มดังขึ้นทีละน้อย บอยเงี่ยหูฟัง ก่อนจะจับทางได้ว่ามันดังมาจากท่าน้ำหลังบ้าน 

     ท่าน้ำหลังบ้านมีไฟเปิดอยู่ มีร่างของหญิงสาวในชุดเสื้อยืดธรรมดานุ่งผ้าถุง กำลังใช้มือปิดหน้าร้องไห้อยู่ตรงนั้น บอยแน่ใจแล้วว่าหล่อนคือเป้าหมายแน่ๆ จึงเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ขณะมือขวาก็กระชับมีดอย่างมั่นคง ส่วนมือซ้ายคอยแหวกพงหญ้า ที่ขึ้นรกระหว่างทาง แต่สิ่งที่ทำให้บอยต้องหยุดกึก คือหล่อนดันเงยหน้าขึ้นมาสบตา หล่อนเป็นคนผิวขาวที่สวยมาก สวยจนไม่อาจละสายตาแม้ว่าตัวตนจะเป็นผีก็ตาม 

"คุณ คุณมาฆ่าฉันหรอ?" หล่อนเอ่ยปนสะอื้น ทำให้บอยถึงกับไปไม่ถูก เพราะไม่เคยเจอผีตัวไหนที่มีอาการแบบนี้ 

"ใช่ รู้ตัวก็ดี อย่าฤทธิ์เยอะล่ะ" 

"เอาสิ ฮือ …. ฉันอยู่ไปก็ทรมานเหมือนกัน " หญิงสาวก้มหน้าร้องไห้หนักกว่าเดิม ชวนให้บอยสงสัยว่าทำไมหล่อนถึงมีอาการแบบนี้ ถ้าออกแนวอาละวาด หรือข่มขู่แบบที่เคยเจอคงรับมือง่ายกว่า แต่บอกเลยถ้ามาแนวอีเย็นแบบตรงหน้าเขารับมือไม่ถูกแน่ๆ บอยถามอย่างสงสัย 

"ทำไม คุณไม่ได้ตั้งใจเป็นปอบหรอ?" 

        หญิงสาวสบตาและส่ายหน้า 

"ไม่ หลังจากที่พ่อแม่ฉันตาย ฉันก็ต้องอยู่รับภาระหนี้สินต่อจากพวกท่าน พวกนายทุนมันพยายามจะยึดที่และบ้านหลังนี้ แต่ฉันไม่ยอม พวกมันเลยใช้วิธีการสกปรก โดยการจ้างหมอผีปล่อยของใส่ฉัน แต่ฉันดันไม่ตาย แล้วก็มีสภาพอย่างที่เห็นเนี่ยแหล่ะ ฮือ…อ" 

       บอยสะอึกต่อเรื่องราวชวนน่าสงสารของหล่อน แต่ว่า เมื่อรับงานมาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ เขาทำใจให้นิ่งอยู่ซักพัก ก่อนจะปรี่เข้าไปผลักหล่อนให้นอนหงาย จิ้มมีดไปที่หัวใจและพร้อมจะแทง แต่ว่า อะไรบางอย่างในห้วงสำนึกหยุดเขาไว้ ทำไมกันล่ะ ทำไมหล่อนถึงไม่ขัดขืน ทั้งที่วาระสุดท้ายกำลังจะมาเยือน 

"คุณไม่ฆ่าฉันแล้วหรอ " หญิงสาวตัดพ้อ ขณะที่บอยมีอาการลังเล เขาพิจารณาสภาพของหล่อนที่ดูเป็นคนปกติ ไม่มีร่องรอยของความดุร้าย หรือแม้กระทั่งอาการผิดปกติวิสัยที่ปอบทั่วไปชอบแสดงออกมา 

"เฮ้อ ….." บอยถอยออกมานั่งพิงที่นั่งในศาลา ก่อนจะถามอย่างเหนื่อยใจว่า 

"คุณใช่ปอบจริงๆรึเปล่าเนี่ย ทำไมไม่มีอาการดุร้ายเลยล่ะ"  

       หล่อนชันกายนั่ง 

"ไม่รู้สิ ฉันโดนชาวบ้านขับไล่ หรือบางทีก็มีพวกหมอผีจากหมู่บ้านอื่นเข้ามาทำพิธี แต่ฉันก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนะ" 

       บอยขมวดคิ้ว 

"แล้วมีอาการอยากกินของสดรึเปล่า " 

       หล่อนส่ายหน้าแล้วตอบ 

"ไม่ ฉันก็กินปกติ ฉันแค่ไม่ชอบสุงสิงกับใครก็แค่นั้น แต่เรื่องที่ฉันโดนทำของใส่น่ะเป็นเรื่องจริงนะ" 

"ยังไง อธิบายที" 

        หล่อนอ้ำอึ้งอยู่สักพัก 

"คือ พอชาวบ้านพูดกันหนาหู บวกกับฉันมีอาการป่วยหนักหลายวัน ฉันก็เลยเชื่อน่ะ มันใช่อาการคนโดนของมั้ย" 

        หล่อนถามซื่อๆ แต่มันทำให้บอยถึงกับใจสั่น นี่มันไม่ใช่อาการคนโดนของ แค่เป็นอุปทานเพราะโดนพูดกล่อมทุกวันจนปลงใจเชื่อ ให้ตายสิ นี่เขาเกือบฆ่าคนบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว เมื่อคิดได้จึงเก็บมีดใส่ยามดั่งเดิม ก่อนจะลุกแล้วทำท่าจะเดินกลับ 

"เดี๋ยว" หล่อนรีบห้าม 

"ทำไมล่ะ " 

"คุณจะไปแล้วหรอ" 

      บอยพยักหน้า "ขอโทษที มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดน่ะ ส่วนเรื่องที่ทำรุนแรงเมื่อกี้ ผม เอ่อ..อ " 

      หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาชนิดหนึ่ง ซึ่งมีประกายแห่งความหวัง 

"ถ้า ถ้าคุณไม่รีบจนเกินไป อยู่กินข้าวกับฉันก่อนมั้ยคะ " 

       บอยลังเล แต่ก็ตกลงเพราะเสียมารยาทไปแล้วครั้งนึง อาหารที่หล่อนทำมาล้วนปกติที่ผู้คนเขากินกัน และบอยก็เห็นหล่อนกินกับตา ยิ่งชัดเจนว่าเจ้าตัวคือเหยื่อของการใส่ร้าย ทำไมกันนะ ทำไมชาวบ้านพวกนั้นถึงใจร้ายกับเธอ ภวังค์แห่งความคิดนั้นสะดุดลง เมื่อหล่อนสบตาเขาและยิ้ม หล่อนเป็นหญิงสาวที่สวยมากเวลายิ้ม และมันทำให้บอยเริ่มหวั่นไหว 

"ไม่ถูกปากหรอคะ ฉันทำให้ใหม่เอามั้ย" 

"ไม่เป็นไร คุณกินเถอะ ผมจะได้กลับ" 

      หล่อนสลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มกลบเกลื่อน 

"ถ้างั้นกินอย่างอื่นมั้ยคะ ฉันมีน้ำผึ้งป่า " 

"ไม่ล่ะ " 

"งั้น…" 

"เฮ้คุณ! นี่มันดึกแล้วนะ อีกอย่างคุณก็เป็นผู้หญิง ไม่กลัวผมทำอะไรคุณหรอ" 

      หญิงสาวสลดลง ก่อนจะนั่งก้มหน้านิ่งอยู่กับจานข้าว บอยรีบเดินลงบันไดออกมา เพราะขืนอยู่มีหวังได้เผลอทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามแน่ๆ เขาเดินมาหยุดที่ป่าไผ่ ก่อนจะหันหลังกลับไป พบเจ้าหล่อนยังคงนั่งก้มหน้าอยู่กับจานข้าว มันทำให้บอยรู้สึกผิดอย่างมาก บอยกัดฟันกรอด ถอนหายใจยาวและกลับขึ้นบ้านอีกครั้ง 

"ผมเริ่มหิวแล้วสิ ไหนอันนี้อร่อยมั้ย" 

      หญิงสาวมีอาการดีใจจนออกทางสีหน้า ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มคุยกันถูกคอ ขยับเป็นสนิทสนม กระชับแน่นแฟ้นเป็นความเข้าใจ ตามมาด้วยความเห็นอกเห็นใจ และสุดท้ายบทสรุปจบลงที่เตียง ทั้งคู่นอนกอดกันอย่างเป็นสุข โดยหญิงสาวเริ่มอธิบายถึงความเป็นมา ประวัติของบ้านหลังนี้ และสาเหตุข้อพิพาทต่างๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาลามมาจนถึงการถูกสังคมตีตราว่าเป็น' นังปอบ' 

"แสดงว่าเจ้านายทุนนั่นต้องการที่ดินผืนนี้มาก ถึงขนาดใช้เงินดึงพวกชาวบ้านมาเป็นปากเป็นเสียงแทน ผมสงสารคุณจริงๆ พลอย" 

     พลอยส่ายหน้าเบาๆ ขณะซบลงที่ไหล่ของบอย 

"อย่าไปโทษชาวบ้านเลยค่ะ พวกเขาก็คงตกเป็นทาสหนี้สินของนายทุนพวกนั้นเหมือนกัน ฉันเพิ่งรู้นะคะ ว่าที่ผ่านมาฉันโดนเป่าหูจนเชื่อว่าตัวเองเป็น" 

"โถ่ พลอย ผมสัญญานะว่าจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ" 

"ค่ะ ฉันเชื่อค่ะ ว่าคุณจะอยู่กับฉันแน่ๆ"

      ความซื่อนั้นบริสุทธิ์เสมอ มันแสดงออกมาทางแววตาของหญิงสาว บอยคิดว่าคงต้องทำอะไรสักอย่าง และเขาต้องยอมทิ้งเงินก้อนในมือไป เนื่องจากอำนาจของความรัก ที่เริ่มเข้าบดบังอำนาจเงินตราทีละน้อย เขาดึงร่างของพลอยเข้ามากระชับกอดให้แน่นยิ่งขึ้น พลางหลับตาคิดถึงสิ่งที่ต้องทำในตอนเช้า เขาปล่อยกายและใจให้ตกอยู่ในภวังค์ทีละน้อย ทีละน้อย โดยไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติ ที่เล็บของพลอยนั้นเริ่มงอกยาวขึ้น ยาวขึ้น และยาวขึ้น มันเป็นการถูกมนต์สะกดอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งน้ำลายที่ใส่ในกับข้าว บวกกับตัณหาที่ถูกปรนเปรอ ทำให้บอยในตอนนี้อยู่ในสภาพราวกับคนพิการ ไม่มีรู้สึกเวลาหน้าท้องของตัวเองจะถูกกรีด หรือแม้กระทั่งโดนล้วงเข้าไป เพื่อต้องการจะดึงลำไส้บางส่วนออกมา 

"อยู่กับฉันตลอดไปเลยนะคะ บอย" 

      เวลาผ่านไปจนถึงเช้า ร่าง3ร่างก็มายืนรอหน้าบ้านทรงไทยตามนัดหมาย ไม่มีวี่แววของบอย ทว่ามีอีกร่างเดินออกมาต้อนรับแทน ร่างนั้นคือพลอย หล่อนมีออร่ากับผิวพรรณที่เปล่งปลั่งกว่าเดิม ใบหน้าและแววตาของหล่อนปราศจากความเศร้า หล่อนยิ้มพราวให้กับคนทั้งสาม ก่อนจะหยุดที่ชายคนตรงกลางและเอ่ยอย่างยินดีว่า 

"3วันหลังจากนี้ ขอเหมือนเดิมนะคะ คุณพ่อ" 

      

     ข้าคือผู้ติดตาม และข้าเห็นทุกการกระทำ 

     

     

จบ

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!