รุ่งอรุณของวันใหม่เป็นภาพที่เห็น ท้องฟ้าเป็นสีส้มและสีชมพูเข้ม ขณะที่ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า เสียงนกร้องเจี้ยวจ้าวกันบนต้นไม้ต้อนรับเช้าวันใหม่
ด้วยเสียงคร่ำครวญ ผมค่อย ๆ ฟื้นสติสัมปชัญญะ ผมขยี้ตาแล้วลุกขึ้นนั่ง ผมอยู่ในกระท่อมไม้หลังเล็กๆ ใจกลางป่า ผนังทำด้วยไม้หยาบ หน้าต่างมีขนาดเล็กและเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส อากาศหนาวเย็น แต่ไฟอุ่นๆ ปะทุขึ้นในเตาผิง ทอดเงาร่ายรำไปทั่วห้อง ทำให้เงารอบๆ ห้องเคลื่อนไหว
"อึก อ่ากก-"
ศีรษะของผมสั่นด้วยความเจ็บปวด และร่างกายของผมเองก็รู้สึกแปลก ๆ แต่เมื่อผมยกแขนขึ้น ผมก็ตระหนักว่าหน้าอกของผมเปลี่ยนไปเป็นรูปร่างที่ยั่วยวน ความสยองแล่นเข้าหัวของผม
"เป็นไปได้อย่างไร?" ผมจ้องมองลงไป สังเกตว่าหน้าท้องแบนราบของผมก็ถูกแทนที่ด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งแบบผู้หญิง ผมเอื้อมมือไปแตะที่ใบหน้าของตัวเองด้วยความไม่เชื่อ แล้วผมก็อ้าปากค้างเมื่อเห็นผมยาวสีขาวร่วงลงมาที่เอวของผม
จังหวะนั้น หน้าต่างระบบก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าผม
...//แจ้ง//...
...ทักษะ[ปรสิตร่างวิญญาณ:ยุนีค] สำเร็จการใช้งาน... เนื่องจากข้อมูลบางส่วนไม่มี... กำลังสรุปโดยย่อ... ...
//ทักษะ[ประเมิน:Lv.1] »อัพLV.» [ประเมิน:Lv.4]
// ได้รับทักษะ [การใช้อาวุธหนัก:เอ็กตร้า] ...ทำการผสานทักษะ [การใช้อาวุธหนัก:เอ็กตร้า]+[การใช้ไม้เรียว:Lv.3] ...วืดด—ติ๊ง! ได้รับทักษะ [ศิลปะการต่อสู้ปราบปราม:อัลติเมต]
// ได้รับทักษะ [ตรวจจับรอบตัว:เอ็กซตร้า] ...ทำการผสานทักษะ [ตรวจจับรอบตัว:เอ็กซตร้า]+[สัมผัสจู่โจมอันตราย:ทั่วไป] ..วืดด—ติ๊ง! ได้รับทักษะ [สัมผัสหยั่งรู้:เอ็กซตร้า] และทักษะ[ตอบสนองอัตโนมัติ:สูง]
// ได้รับทักษะ [ควบคุมมิติ:เอ็กซตร้า] …เนื่องจากระดับของวิญญาณปรสิตไม่ถึงเกณฑ์ จึงไม่สามารถใช้ทักษะนี้ของโฮสต์ได้ …ดำเนินการอ่านข้อมูลทักษะอีกครั้ง— ติ๊ด! ทำการพัฒนาทักษะ [ซองอาวุธส่วนตัว:ยูนีค] +ข้อมูลของทักษะ[ควบคุมมิติ:เอ็กซตร้า(ข้อมูล)] ...วืดด—ติ๊ง! ได้รับทักษะ [มิติเก็บของส่วนตัว:ยูนีค]
// ได้รับทักษะ [ควบคุมพลังเวทย์:***], [ควบคุมพลังกาย:***], [สื่อภาษา:เอ็กซตร้า], [สื่อจิต:เอ็กซตร้า],
// ได้รับสมญานาม "มลทิน"
// จากผลของสมญานาม "มลทิน" ได้รับทักษะ [จิตคุกคามสังหาร:สูง] และทักษะ [เลือดเย็น:Lv.1]
"หวาาาา— " ผมอ้าปากออกกว้างกว่าเดิมด้วยความงงงวย มันขนาดนี้เลยหรอ? ถ้านี่เป็นเกม มันคงจะเป็นเกมส้นตึกดีๆเกมหนึ่งเลย อะไรคือการเริ่มเกมแล้วโดนบอสล่อลวงมาฆ่า!! เห้อ~ ก็นะ เพราะมันไม่ใช่เกมนั่นแหละนะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยิ่งในโลกที่เราไม่รู้จักอย่างนี้ยิ่งแล้วใหญ่
"สเตตัส วินโดว์!!"
.......
เอ๊ะ! มันเปิดไงหว่า? จริงสิ..เราไม่เคยเปิดเองเลยนี่หว่า มีแต่มันเด้งขึ้นมาเอง กับใช้ประเมิ-!!
"ใช่สิ ประเมินตัวเองไงล่ะ"
เปิดใช้งานทักษะ [ประเมิน]...
Wow— คุ้มค่ากับที่เสี่ยงฝากชีวิตไว้กลับทักษะปรสิตอะไรเบียวๆนั่น ดีจังเลยที่รอดชีวิตมาได้ อ้า~ นี่สินะความปลื้มปิติหลังจากที่พยายามทำเต็มแล้วสำเร็จน่ะ แต่ทว่าสิ่งต้องที่เสียไป...
ผมมองไปรอบๆห้อง และสังเกตเห็นร่างกายของมนุษย์ที่นอนแน่นิ่งไปอยู่ตรงกองเลือดที่แห้งกรัง มันคือร่างกายเดิมของเราที่ไร้วิญญาณ และกำลังส่งกลิ่นออกมา ผมถอนหายใจ แล้วเธอลุกขึ้นยืน รู้สึกอยากออกจากสถานที่นี้เร็วๆ แต่เราก็ไม่รู้อะไรเลยนอกเหนือจากที่'ซอล' เจ้าของร่างคนเดิมเล่าให้ฟัง ขณะที่ผมลุกขึ้น ชุดผ้าหนักๆและพริ้วไหว พันผมไว้ทำให้เคลื่อนไหวได้ยาก นี่เธอสวมชุดพรรค์นี้สู้กับเราเหรอเนี่ย.. ยิ่งคิดยิ่งขนลุก -~-
ขาของเขาสั่นเทา เขาพยายามก้าวย่างอย่างยากลำบาก เขาค่อนๆเดินไปที่ประตู เพื่อจะระบายอากาศภายในและกลิ่นที่ตลบอบอวลอยู่ในนี้ไปด้วยเลย รลันกำลูกบิดและเปิดมันออก
"ฟริ้วว— ฟู่~"
ลมเย็นจากด้านนอกพัดผ่านประตูเข้าบ้านทันทีที่เปิดมันออก เรือนผมผมยาวสลวยทอดยาวตามหลัง ถูกลมนั้นพัดจนสบายออกไปตามทิศของลม
อากาศหนาวเย็นและดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นต้นไม้สูง เสียงที่เงียบสงบของป่า ทำให้เขารู้สึกได้ ถึงน้ำหนักในการตัดสินใจที่จะออกจากที่นี่ไป มีบางอย่างบอกเขาว่า “อย่ากลัวสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ให้ยอมรับมันและก้าวไปข้างหน้า และอย่าหลีกหนีสิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า ให้เผชิญหน้ากับมันอย่างมั่นใจ” ช่างเป็นบทความที่ฉุดคิดให้ผู้คนมากมายกล้าที่จะตัดใจยอมรับ และกล้าที่จะใช้ชีวิตแบบเต็มที่ไม่กั๊ก
ผมหลับตาลง สูดอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสถึงได้อิสรภาพและการผจญภัยจริงๆที่รอผม- ผู้ที่ผ่านบททดสอบความเป็นตายนี้.. ผมยืนอยู่อย่างนั้นสักพักหนึ่ง แล้วค่อยหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน
ผมกลับเข้ามาในบ้านเพื่อกำหนดและทำสิ่งที่ต้องทำ ผมเริ่มสำรวจภายในบ้านหลังนี้ ชั้นล่างมี2ห้อง ห้องแรกตั้งแต่เข้าประตูมา คือห้องนั่งเล่นนั่งเล่นที่เราต่อสู้กัน ตรงเข้าไปผ่านช่องวงกบเลยบันไดขึ้นห้อง2 เป็นห้องครัว ที่มีโต๊ะกินข้าว
ผมรู้สึกไม่มีดีที่จะเข้าไป เลยเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองแทน
หวืด— พรึ่บ!! "เฮ๊ะ! โกหก...ใช้มั้ย"
ตึง! พลั่กพลั่กๆพลั่ก "อ้าาาาาา—" ครืนน~ ปัง!!~
หลังจากเสียงอัปมงคลดังขึ้น ผมก็ทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วง ม้วนหัวตีลังกาหมุนรอบตัวเองไหลลงตามเเนวเอียง ......หรือตกบันไดนั่นแหละ บัดซบ
หลังเเนบพื้นมองเห็นเพดานผ่านหว่างขาตัวเอง เป็นท่าโพสต์ที่ไม่อยากสาธยายให้ฟัง
ผมค่อยๆตั้งตัวกลับสภาพปกติ เช็คร่างกายว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า บ้านนี้หลังนี้ดูเหมือนจะไม่มีเครื่องมือปฐมพยาบาล ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาคราวนี้คงต้องตายอย่างโดดเดี่ยว "เห้ออ— สติๆ" ขณะที่กำลังคืนสภาพสติสตัง แว๊บเดียวที่ตั้งสมาธิจดจ่อก็มีบางสิ่งเกิดขึ้น...
【ก้ากก— ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า สารรูปกับการเคลื่อนไหวโง่เง่านั้นน่ะ อะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า คงไม่ใช่ว่าจงใจทำให้ข้าหัวเราะเยาะเจ้าจนตัวข้าตายเองหรอกนะ อุ๊ฟ- ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คึ..ฮะๆ】
"!!?" อะไร? เสียงพูดเหรอ ใครกันล่ะ? จับที่มาของเสียงไม่ได้เลย อยู่ตรงไหนว่ะ? จากตรงหนะ-
【ใจเย็น~ พ่อหนุ่มน้อย ข้าอยู่ตรงนี้ มองมาทางนี้สิ ที่ที่เจ้าตื่นไง—】
"ที่ที่ตื่น? !!หรือว่า.." ผมพำพัมและนึกขึ้นมาได้ เลยเดินไปยังที่กลางห้องนั่งเล่น ที่ที่ผมในร่างซอลตื่นขึ้น สิ่งที่เห็นคือศพของผะ-.. เอ่อ- เรียกว่าร่างเก่าละกัน !!อึก! อย่าบอกก—น่ะ ผะ- ผะ..ผีอี—
【ตรงนี้โว้ย】
เสียงนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงคาดคั้น เสียงต่ำทุ้มแหบ ดุดันราวกับนักล่าลูกหนี้ผู้เหี้ยมโหด ทันทีที่คำพูดสั้นๆเหมือนคำสั่งนั่นสิ้นเสียง
ครืนน—— แรงกดดันมหาศาลก็พวยพุ่งขึ้นจากเคียวที่อยู่บนพื้นนั้น
!!!ตึง!!!
"อึก- อะ- อากึก หะ- หายใจมะ- " อะไรกันอีก ยังไม่จบอีกเหรอ พอสักทีเถอะ
【แก ทำสิ่งใดลงไป】ครืนนน—~—~
ความอึดอัดทั้งร่างกายและจิตใจเกิดขึ้นพร้อมกันอย่างรวดเร็ว มวลอากาศที่หนาแน่นถาโถมเข้ามาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ในเวลาแบบนี้ทำไมระบบถึงไม่ทำอะไรสักอย่าง ป้องกันสิ! ลบล้าง? แจ้งเตือนล่ะ! ขอทีอะไรก็ได้... ถึงจะเรียกร้องระบบแบบนั้นแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมได้แต่กัดฟันทน ร่างกายแข็งทื่อเกร็งไปตั้งตัว "กึก- อา..อาาากก"
【นี่ ตอบคำถามข้าซะ ไม่ได้ยินหรือไง ตอบ!】
บรรยากาศถูกกดทับอัดแน่นลงที่พื้น มันคืออะไรกันแน่ ปีศาจเหรอ? รึว่าจะเป็นเผ่ารุกรานที่ซอลเล่าให้ฟังกัน ถ้าอย่างนั้นซอลก็ไม่ใช่มนุษย์จริงๆ แต่เป็นเผ่ารุกรานที่กำลังกบดานในป่า?
【ฮึ่ม— ช่างเสียมารยาท เจ้าเด็กเหลือขอ นี่แกเอาข้าไปเทียบกับพวกขี้ขโมยไร้ที่ อย่างนั้นหรือ แกอาจหาญเสียจริง นี่คือเหตุผลที่ซอลแพ้คนเยี่ยงเจ้าสินะ ก้ากก— ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า】
ห๋๋าา~~ ถึงจะไม่คอยเข้าใจ แต่ดูเหมือนเจ้านั่นจะอารมณ์ดีขึ้นนะ แถมบรรยากาศรอบๆยังค่อยๆคลายตัวออก เอาหล่ะ ถึงจะไม่รู้ว่ามันอะไรกันแน่เเต่ที่รู้แน่ๆคือเราสู้เจ้านี่ไม่ได้แน่ๆ พลังคุกคามหรืออะไรนั่น ตัวฉันตอนนี้แพ้ทางมัน คงต้องใช้วิธีพูดแหละนะ
【เป็นเช่นนั้นก็ได้ ข้าอนุญาตให้เจ้าคุยกับข้าได้เลย อย่างไรก็ตามแต่ เจ้ายังไม่ตอบคำถามของข้าเลยว่าเจ้าทำอะไรกับยัยซอลกัน นางดิบสิ้นไปแล้วเรอะ?】
อ่า— นี่คงจะเป็นสื่อจิตสินะ มันเปิดใช้งานอัตโนมัติหรอ?
【เปล่า นี่เป็นการสื่อจิตของเทพ ไม่ใช่สิ่งที่ระบบสร้างขึ้น และจะสร้างขึ้นได้】
ว่าแล้วเชียว อ่านใจได้จริงๆสินะ ว่าแต่..เทพ? เคียวนี่เนี่ยนะ?
【แน่นอนว่าใช่ สื่อจิตนี้มีแค่เทพเท่านั้นที่ใข้ได้ ในกรณีของเจ้าที่เป็นมนุษย์ใช้ร่างกายของเทพ เจ้าก็เลยคุยกับข้าผู้นี้ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด มนุษย์ก็คือมนุษย์】
เอ่อ.. แต่ผมที่เป็นมนุษย์ก็ยังใช้ได้ปกตินี่ครับ สิ่งที่ท่าน— เอ่อ—【เทพน่ะ】..อ่อ! ครับ สิ่งที่ที่ท่านเทพพูดมามันย้อนแย้งนะครับ
【ยังไม่เข้าใจอีกเรอะ ให้ตายสิมนุษย์หนอ】อึก- ทำไมถึงรู้สึกนี่มันอะไรกัน ผมรู้สึกใจร้อน ไม่พอใจอะไรบางอย่าง อยากจะระบายมันออกจัง รู้สึกอยากฉีกทึ้งหมอนให้ขาดวิ่น นี่คือความรำคาญเหรอ แง่ง แง่ง งั่ง
【เพราะมนุษย์เช่นมันต่ำต้อย เจ้าไม่สามารถควบคุมสื่อจิตนี้ของเจ้าได้ ความนึกคิดไหลออกรัวๆเหมือนแก้ผ้าเดินกลางเมืองไม่มีผิดเลยล่ะ ก้ากก— ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า】
เอ๋!? เป็นงั้นหรอกเหรอ......
【แล้วคำถามของข้าล่ะ】
เอ่อ— เรื่องนั้นมัน..ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าหระ-
เขาหยุดคำไว้ก่อนจะจบประโยค เพราะเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
〖เรื่องนั้นไม่จำต้องพูด ไม่มีประโยชน์〗เสียงที่คุ้นหูดังแทรกขึ้นในหัว
【อะไรกัน ยังอยู่มิใช่รึไง ช่างกล้ามาแกล้งตายต่อหน้าข้าได้นะ ซอล บัยอาร์】
................hah?
...----------------...
...บันทึกของคนตัดไม้...
ชั้นมีชื่อว่า ซาว์ เป็นอดีตอัศวินของอาณาจักรแห่งหนึ่ง ชั้นเข้าสู่สงครามแบ่งแยกเผ่าพันธุ์ในนามของอัศวินแห่งพระเจ้าของโบสถ์ มันเป็นสงครามเล็กๆ ที่ใช้กำลังพลกว่าสี่หมื่น ยกทัพทำลายฐานที่มั่นสุดท้ายพวกหูยาว "นครพฤกษา:ซิลวานาธ" มันควรจะสำเร็จได้ด้วยดี แต่ทว่ามันก็ปรากฏตัวขึ้น กองกำลังติดอาวุธปริศนา ของจักรวรรดิเกิดใหม่ทางตอนกลางของทวีป ที่กำลังเป็นข่าวลือ
กองกำลังนั้นเข้าร่วมกับพวกหูยาว สงครามได้เริ่มขึ้น... และจบลงอย่างโหดร้าย กองทัพฝ่ายชั้นไม่เหลือชิ้นดี มันไม่ใช่สงคราม มันคือการกวางบางที่ยังมีความปราณี
ชั้นกลายเป็นเชลยศึก ถูกส่งมาทำงานตัดไม้ที่ป่าใหญ่ เขาปล่อยชั้นไว้ในป่าโดยไม่ห่วงว่าฉันจะหลบหนีเลย แต่ภายหลังชั้นก็เข้าใจได้ว่าทำไม เพราะว่าชั้นไม่สามารถหนีออกจากที่นี่ได้ ชั้นต้องตัดฟืนเรื่อยๆ พอถึงวันที่กำหนดมารับฟืน กลุ่มคนที่ดูคล้ายทหารรับจ้างทั่วไปก็โผล่ออกมาจากที่ไหนสักแห่งในป่า พวกเขาขนฟืนขึ้นรถเกวียนที่เตรียมมาและมุ่งหน้าออกจากที่นี่ไป ก่อนจะออกไปพวกเขาได้ให้ค่าจ้างชั้นเป็นเหรียญทองจำนวนหนึ่ง ชั้นวิ่งตามรถเกวียนที่ออกวิ่งไปก่อนแล้ว ชั้นวิ่งอยู่ในป่าขณะไล่ตามรถเกวียนไปแต่ทว่า ก็มีหมอกหนาเข้าปกคลุมทัศนวิสัย ชั้นคลาดสายตากับรถเกวียน พอผ่านม่านหมอกออกมา ชั้นก็ตะลึง
"กลับมา... ที่เดิม???"
ตรงหน้าชั้นคือบ้านที่อาศัยอยู่จนถึงตอนนี้ ไม่นะ อะไรกัน นี่มันคืออะร๊ายยยยยย แอร๊ยยยยยยยยย เคียก!ๆๆ เสียงสรรพสัตว์ร้องคำรามระงม นี่มันคือนรก นรกที่คุมขังชั้นไว้คนเดียว ตลอดกาล
บันทึกนี้คือของไว้สืบทอดเรื่องรายสุดท้ายของชั้น คนที่ได้อ่านสิ่งนี้ จงฟังให้ดี เหรียญทองที่ชั้นเก็บไว้ตลอด20กว่าปี ถูงซ่อนไว้ใต้เตาผิง เขาให้เหรียญทองชั้นแต่มันก็ไร้ค่าเมื่ออยู่ที่นี่ สิ่งเดียวที่กินได้คือของป่าจำไว้ เห็ดโคนขาวดอกเหลือง ช่วยบรรเทาอาการจิตตกของชั้นได้ มันต้องมีประโยชน์แน่
...----------------...
^^^โปรดติดตามตอนต่อไป>^^^
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments