อาภรณ์อสูร
"รีอัน! เธอคนเดียวเท่านั้นที่ทำมันได้....พวกเรากำลังจะตายกันหมด"
"เกิดอะไรขึ้น!ใครจะตายรู้จักฉันได้ไงแล้วนายเป็นใคร"
"...."
เฮือก!!
"บ้าเอ้ย!...สะดุ้งตื่นก่อนจะรู้คำตอบอีกแล้ว อ่า..ปวดหัวเป็นบ้าเลย"
ทุกคืนฉันต้องได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งตลอด ไม่รู้จักและไม่คุ้นเคย มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนกันนะ บางครั้งก็ฝันเห็นภาพคนตายกองทับกันเป็นภูเขาบ้างเห็นตัวประหลาดบางอย่างกำลังฉีกทึ้งร่างใครสักคนอยู่บ้าง เป็นภาพที่สยดสยองชวนอ้วกที่สุด "แหวะ! จะอ้วก"
"รีอัน!! ยัยรีอัน!! ถ้าแกลงมาช้านะวันนี้ไม่ต้องกินข้าวเช้า" เสียงชายร่างใหญ่ตะโกนขึ้นมาจากชั้นล่างของบ้าน เป็นเสียงที่ดังแบบได้ยินไปสามบ้านเลย
"เฮ้อ...เป็นเสียงนรกที่ทุกเช้าต้องได้ยินจริงๆไม่งั้นคงกินข้าวไม่อร่อย" สาวน้อยที่พึ่งปวดหัวกับความฝันไปหยกๆก็ต้องมาปวดหัวกับเสียงพ่อของตนที่เอาแต่เมาไม่เว้นวัน
"พ่อคะ..แม่คะ วันนี้หนูกลับดึกนะ พอดีมีงานในหมู่บ้านเลยว่าจะไปช่วยงานหน่อย" สาวน้อยพูดไปพลางนั่งลงบนเก้าอี้เก่าๆ
"แกคงจะชอบมากเลยสินะงานแบบนี้ จะไปเต้นแลกเงินอีกแล้วสิ" ชายร่างใหญ่ผู้เป็นพ่อที่กำลังเมาก็ดื่มเหล้าไปแขวะลูกสาวตัวเองไป
"นั่นสิ...งานเต้นกินรำกินแบบนี้ไม่เห็นจะประสบความสำเร็จสักคนเลยก็แค่เต้นแลกเงิน ฮ่าๆๆ" คุณแม่ที่ไม่ว่าคุณพ่อจะพูดยังไงก็ให้ท้ายตลอดแถมยังหัวเราะอย่างมีความสุขไปกับพ่อ
"..."
รีอันทำได้แค่เพียงนั่งก้มหน้าเก็บความรู้สึกไว้เพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาก็คือคนที่เลี้ยงเรามาจนเติบใหญ่
ถึงแม้พวกเขาจะว่าฉันสารพัดสารเพก็คงโต้ตอบไม่ได้ อย่างว่าแหละบางครั้งครอบครัวก็ไม่น่าอยู่ถึงจะรักพวกเขามากเพียงใดก็ตาม
หลังจากกินข้าวเสร็จรีอันก็เดินทางไปหมู่บ้านเพื่อทำในสิ่งที่รักคือการเต้นรำท่ามกลางผู้คน เพราะที่บ้านเป็นร้านขายฟืนคนในหมู่บ้านใช้กันทุกบ้านเลยทำให้งานหนักมากๆ แต่ฐานะการเงินทางบ้านก็ไม่สู้ดีนัก คงเป็นเพราะหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านยากจนถึงขายได้มากแต่รายได้ก็น้อยอยู่ดีบางครั้งถึงจะได้เงินมามากแต่ก็ต้องเอาไปให้พ่อแม่อยู่ดี การจัดเทศกาลนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้หมู่บ้านเรามีรายได้ขึ้นมาบ้าง
"จะว่าไปก็เพราะฉันทำงานแบบนี้ถึงได้เงินมาซื้อข้าวซื้อเหล้ากิน ไม่ยุติธรรมเลย"สาวน้อยทั้งรู้สึกโกรธแหละเสียใจปนๆกัน ถึงจะคิดถึงเรื่องดีๆมากแค่ไหนก็ไม่ช่วยเปลี่ยนความรู้สึกได้ มันจุกในอกแทบอยากจะร้องออกมาดังๆแต่ทำได้แค่เก็บมันใว้ในใจ
การจัดเทศกาลแต่ละปีก็เหมือนการเสี่ยงโชคบางปีก็ได้เงินเยอะเพราะหมู่บ้านอื่นมาเที่ยวกัน แต่บางปีก็เงียบเหงาจนใจหาย จึงทำให้ในบางครั้งรีอันได้เงินเยอะกว่ารายได้ที่ครอบครัวได้รับใน 1 เดือนซะอีก
"รีอัน...วันนี้มาเต้นรำอีกแล้วหรอ" คุณยายหลังค่อมเอ่ยถาม ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
คุณยายมักจะให้ตังเราเยอะเป็นพิเศษ บางครั้งก็พาเรสไปทานของอร่อยไปเล่นในที่ที่ไม่เคยไป เราสนุกกันมาก
ถึงเธอจะแต่งตัวดูโทรมแต่กลับมีเงินมากมายจนน่าแปลกใจ ชั่งเถอะเพราะทุกครั้งที่คุณยายมาหาฉันมีความสุขมาก
"ใช่ค่ะวันนี้หนูก็จะไปเต้นเหมือนเดิมเลย" รีอันฉีกยิ้มให้คุณยาย ด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา
"คุณยายค่ะทำไมคุณยายถึงดีกับหนูขนาดนี้หนูเป็นแค่เด็กจนๆคนหนึ่งเอง หนูรู้สึกความสุขมากทุกครั้งที่อยู่กับคุณยาย" รีอันถามคุณยายไปด้วยความสงสัยเพราะว่าเธอไม่ค่อยมีเพื่อน เธอจึงถือว่าคุณยายคือคนสำคัญคนหนึ่งหากได้รู้เจตนาคงเข้าใจมากขึ้น
"ฮ่าๆๆ...เด็กน้อย...การเต้นของเธอก็สวยงามดั่งต้องมนต์นิสัยก็ดี เวลาเธอเต้นฉันรู้สึกราวกับเธอมีเวทมนตร์การที่มีเธออยู่ด้วยก็ทำให้ฉันมีความสุขเช่นกัน งั้นช่วยอะไรยายหน่อยสิ" คุณยายพูดชมรีอันจบก็ยกห่อผ้าที่ดูเหมือนว่าของข้างในคงหนักใช้ได้ขึ้นมาให้ดู
งานก็เริ่มตอนค่ำๆช่วยคุณยายหน่อยแล้วกันเพราะเงินที่ได้มาคุณยายก็มีส่วนแถมยังได้เจอคุณยายแค่ปีละครั้งคงต้องอยู่ด้วยกันให้คุ้มสะหน่อย
"ได้ค่ะ...ว่าแต่จะเอาไปไหนหรอคะ" สาวน้อยยกของขึ้นมาอุ้มใว้พร้อมกับก้าวเดินไปข้างหน้า
"ข้างๆหมู่บ้านนี่แหละจ้ะ ยายจะเอาของไปขายสักหน่อย" คุณยายพูดจบก็เดินตามสาวน้อยไป แต่ก็เชื่องช้าตามประสาคนแก่
ทั้งคู่เดินมาจนสุดถนนหมู่บ้านที่มีลักษณะเหมือนหมู่บ้านไวกิ้ง แต่ไม่มีวี่แววของพ่อค้าเลยสักคน รีอันไม่ได้คิดอะไรมากจึงวางของลงแล้วเดินเล่นไปพลางๆ
ถึงจะอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เล็กจนโตแต่ก็ไม่เคยเดินให้ทั่วหมู่บ้านเลยสักครั้งเพราะปกติงานเทศกาลในหมู่บ้านจะจัดหนึ่งถึงสองครั้งต่อปีซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวที่ได้ออกมาเดินเล่นไกลบ้านที่สุด เพราะปกติแล้วก็โดนใช้งานเช้าจนค่ำแทบไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย
"ว้าววว...วันนี้ถือเป็นวันดีเหมือนกันนะเนี่ยที่ได้มาเดินเล่นไกลแบบนี้ ถ้าไม่รวมเรื่องเมื่อเช้าอะนะ ฮิ..ฮิ" สาวน้อยเดินไปหมุนตัวเต้นรำไป หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข
"อึก!...อ่า....ปวดหัวจัง ไม่เอาน่าวันนี้ห้ามไม่สบายนะตัวเราห้ามป่วย ห้ามตาย" รีอันปวดหัวจนแทบยืนไม่อยู่แล้วแต่เธอก็ยังฝืนยืนอยู่ เพราะถ้าล้มลงคงลำบากคุณยาย แถมวันนี้ก็เป็นวันเดียวที่จะได้มีความสุขกับสิ่งที่ชอบ
"นี่หนูน้อยตรงนั้นเป็นอะไรหรือเปล่า" ชายหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งเดินตรงมาจากมุมมืดและยื่นมือมาประคองตัวรีอันใว้
"อ่ะ!!!...ไม่เป็นไรค่ะ" รีอันผลักชายหนุ่มออกและถอยออกห่างอย่างรวดเร็วทำให้โซซัดโซเซแทบยืนไม่อยู่
ปกติแล้วคนในหมู่บ้านเราจะจำหน้าได้หมดเพราะบ้านของเราเป็นร้านขายฟืนเลยรู้จักคนแทบทั้งหมู่บ้าน แต่คนคนนี้ไม่คุ้นหน้าเลยแม้แต่น้อย แถมชุดยังแตกต่างจากคนในหมู่บ้านอีกเขาใส่ชุดเหมือนกับอยู่ในหิมะทั้งๆที่เขตหมู่บ้านนี้เป็นป่าทั้งหมด
"หรือว่าเขาจะ....เอ๊ะ!!!"
เพียงแค่พริบตาเดียวชายแปลกหน้าก็ถึงตัวรีอันแบบไม่ทันตั้งตัว เขาตรงเข้ามาบีบคอแล้วยกเธอขึ้นจนตอนนี้เท้าไม่แตะพื้นแล้วแม้จะดิ้นมากแค่ไหนเหมือนมันจะไม่ช่วยอะไรเลย
"สินค้าฉันเป็นรอยหมดแล้ว ปล่อยเธอลง!!" เสียงของคุณยายดังมาจากด้านหลังรีอัน สาวน้อยรีบหันไปหวังจะบอกให้คุณยายหนีไป แต่ภาพที่เห็นคือยายแก่ผมขาวหลังค่อมแต่งตัวโทรมๆคนนั้น ที่ตอนนี้เดินหลังตรงเหมือนไม่เคยค่อมมาก่อนแต่งตัวเหมือนโจรแถมสาวขึ้นอีก ชุดของเธอเหมือนโจรป่าเสื้อขาวกางเกงรัดรูป มีแส้ห้อยอยู่ข้างเอวด้านขวาถึงเธอจะใส่ผ้าคลุมยาวปิดจนมิดชิดแต่ก็สมารถรู้ได้เลยว่านี่คือคุณยายเพราะเสียงน้ำไม่ไปเปลี่ยนเลย
"ขอรับ" ถึงยัยป้าจะบอกว่าเดี๋ยวเป็นรอยหมดแต่ชายหนุ่มก็แทบไม่สนใจเขาโยนรีอันปลิวไปเกือบชนกับเสียมคมๆ
"แค๊กๆ...คะ..คนโกหก" แม้จะถูกปล่อยแล้วแต่ตอนนี้เธอช้ำจนแทบลุกไม่ขึ้น แผลเต็มตัวไปหมด แม้เธอจะเคยฝึกศิลปะการป้องกันตัวมาบ้างแต่มันแทบช่วยอะไรไม่ได้เลยในตอนนี้ทำได้เพียงพยายามคลานหนีไปเรื่อยๆ
"จะหนีไปไหนหรอรีอันยายยังไม่ได้ขายของเลย ไหนดูสิว่าสินค้าเป็นไง" ยัยป้าจับรีอันกดกับพื้นแล้วเริ่มถอดเสื้อรีอันออก
"ทำไมกันคุณยาย ทำไมถึงทำแบบนี้พวกเรามีความสุขกันมากไม่ใช่เหรอ...ทำไม..ทำไม!!" ถึงรีอันจะถามมากแค่ไหนก็ไม่เสียงใดตอบกลับมา เธอจับไปตามตัวรีอันเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่ ไม่นานสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากยิ้มดีใจกลายเป็นผิดหวังเพราะสิ่งที่เธอหาไม่มีบนตัวรีอัน
"เธอยังไม่มีอัญมณี ทำไมเธอไม่มี!! อัญมณี!!" ด้วยความโกรธจึงบันดานโทสะลงที่ข้ารับใช้
แส้ของยัยป้าฟาดลงกลางลำตัวคนรับใช่อย่างแรงจนกระเด็นไปชนกับกำแพงอย่างจังดูแล้วคงลุกไม่ขึ้นแน่
แต่ผิดคาดชายหนุ่มยืนขึ้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอมองดีๆแล้ว ลักษณะอย่างกับคนโดนมนต์สะกดเพราะไม่แสดงอารมณ์ หรืออาการเจ็บปวดใดๆเลยดวงตาก็ดูล่องลอย
"ทำไมกัน! ทั้งๆที่ยัยเด็กเหลือขอนี่เปล่งประกายขนาดนั้นแถมยังสะกดคนใว้ได้เป็นร้อยๆมันควรมี อัญมณีอะไรที่ใช้สะกดคนอยู่สิ " ในตอนนี้เธอสติแตกมากๆเพราะเธออุส่าตามมาเป็นปีๆกลับไม่ได้ดั่งหวัง
"แกหมายถึงอะไร...อัญมณีอะไร ห่ะ!...ยัยป้า" รีอันโกรธจนไม่สนแล้วว่าจะอายุมากกว่ากันแค่ไหน สาวน้อยพยายามดันตัวเองให้ยืนขึ้นได้ ในตอนนี้แขนของรีอันผิดรูปบิดจนแทบไม่ใช่แขนคนแล้ว คงเป็นเพราะความโกรธและความอยากรอดอะดรีนาลีนจึงหลั่งทำให้แทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ
"เพราะอะไรกัน เพราะอะไรค่ะคุณยายช่วยตอบหนูที" รีฉันถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือตอนนี้สาวน้อยแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว
"ฮ่าๆๆๆๆ...ให้ตายสิไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแกจะเชื่อใจคนแปลกหน้าขนาดนี้แค่ใช้เงินนิดหน่อยก็ติดกับ แกคงคิดสินะว่าแกจะหลุดออกจากวังวนแบบนี้ได้ ไม่ทาง!! ฮ่าๆๆๆ"
รีอันนึกถึงอดีตที่ผ่านมาภาพฉายซ้ำๆตอนนั้นมันมีความสุขมากๆ แต่ตอนนี้มันกลับสลายไปหมด
"เอ๊ะ! วังวนงั้นหรอ อะไรกันงงไปหมดแล้ว"รีอันเริมสับสนและมึนงงเพราะเธอเสียเลือดมากเกินไป
คิก...คิก...
"ไหนๆฉันก็ไม่ได้อะไรกลับอยู่แล้วงั้นจะบอกให้เอาบุญละกันนะตระกูลของเธอน่ะมันเป็นต้องคำสาปมาหลายชั่วอายุแล้ว ตระกูลแกมันก็ตระกูลนังตัวดีๆนี่แหละ ฮ่าๆๆ"
"ตระกูลอะไรกัน! ฉันไม่เคยมีตระกูล ฉันมีแค่ครอบครัวเล็กๆ พ่อแม่ของฉันเขามาจากชนบท สร้างเนื้อสร้างตัวและมีฉันเลี้ยงดูฉันมาจนโตมาถึงตอนนี้และก็ไม่มีใครเป็นนังตัวด้วย"
รีอันสับสนมากจนตอนนี้ไม่สามารถเรียบเรียงเรื่องราวอะไรได้อีกแล้วเพราะมันมากไปสำหรับเด็กตัวเล็กๆ
"คิก...คิก... สักวันเธอจะต้องรู้ที่รักเธอมันสำคัญมาตั้งแต่ยังไม่เกิดแล้ว ไม่ต้องกลัวเพราะเวลาจะบอกทุกสิ่ง ว่าตระกูลของเธอมันเลวขนาดไหน ที่ฉันมาเพราะฉันไม่มีทางออกแล้วจริงๆ หลังจากตระกูลแตกแยกทางกันฉันก็ไม่มีอะไรเลย แต่ก็มาเห็นว่าเธอเต้นรำไปมา เป็นเด็กธรรมดาที่ผู้คนหลงหัวปักหัวปําไม่มีอัญมณีติดตัวเหมือนคนในตระกูลเดียวกันเขามีนึกว่าจะได้ของดีกลับสะอีก คิก.." ยัยป้าแสยะยิ้มกว้างจนน่าขนลุก
"อ่าาา...เข้าใจแล้วเธอคงยังไม่รู้ตัวสินะ ว่าตัวเธอมีราคาสูงแค่ไหนเพราะสายเลือดเธอมันหายากสุดๆไงละถึงฉันจะไม่ล่าเธอ แต่คนอื่นก็จะมาล่าเธอในไม่ช้าอยู่ดี แล้วก็เธอน่ะมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเธอเป็นใครอยู่"
"สัญลักษณ์งั้นเหรอ มันคืออะไรฉันไม่มีอะไรในตัวทั้งนั้นแหละ ถ้าแกหมายถึงอัญมณีนั่นละก็ฉันไม่มีหรอก" รีอันทั้งงุนงงทั้งอยากรู้ถึงปากจะปฎิเสธแต่ในใจลึกๆก็อยากรู้ให้มากกว่านี้ว่าทำไมเด็กบ้านนอกจนๆคนนี้ถึงได้ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
"นี่ๆ รีอันจงจำใส่กะโหลกไว้สะว่าเธอมันคือตัวซวยอย่าได้คิดเข้าข้างตัวเองไปละว่าทุกคนรักเธอเพราะเพียงเธอนิสัยดี ฉันรู้เธอยังจำมันได้ มนุษย์น่ะนะมันก็เลวทุกคนนั่นแหละ"
"อย่ามาพูดเหลวไหลนะทุกคนน่ะ เป็นคนดีเขาต่างช่วยเหลือฉัน ยิ้มให้ฉัน......ไม่ว่า...ฉันจะเป็นอย่างไร" ถึงรีอันจะปฎิเสธแต่เธอก็รู้อยู่แกใจว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยบริสุทธิ์ ภาพที่เธอเห็นว่าทุกคนยิ้มให้เธออย่างมีความสุขกลับกลายเป็นรอยยิ้มที่น่าขนลุก เมื่ออดีตที่เลวร้ายเริ่มไหลเข้ามาในหัวเธอเรื่อยๆเธอก็หมดสิทธิ์เถียง เพราะว่าเธอเองก็โกหกตัวเองและปิดกั้นภาพความทรงจำพวกนั้นใว้เอง โกหกตัวเองไปวันๆว่าวันนี้เป็นวันที่ดี
"ฮึก...ฮือ~....พอที ขอร้องละ พอเถอะ"
"มันเจ็บปวดใช่ไหมล่ะ มันน่าสะอิดสะเอียนใช่ไหม คนพวกนั้นน่ะมันเลว" ยัยป้ากระซิบข้างหูรีอันและบอกทิ้งท้ายใว้ว่า "เธอมีค่ามากกว่าที่จะให้คนพวกนั้นย่ำยีแบบนี้ พวกเราจะบอกความจริงให้เองว่าเธอคือใคร และใช่ทุกอย่างมีข้อแรกเปลี่ยน คิก..." เมื่อพูดจบยัยป้าก็แสยะยิ้มอีกครั้ง รีอันยังไม่ทันได้ขยับยัยป้าก็หายตัวไปซะแล้ว
"ใช่แล้วเรามันก็คนโกหก โกหกว่าโลกนี้มันน่าอยู่ขอบคุณนะคะ ที่เตือนสติหนูคุณป้า อึก!."รีอันเริ่มกระอักเลือด เลือดเริ่มไหลออกจากแผลตามตัวมากขึ้น จนสุดท้ายก็ไม่สามารถฝืนได้ รีอันล้มลงไปหน้าแนบกับดินน้ำตาน้อยๆเริ่มไหลรินและหยดลงสู่พื้นดิน แล้วภาพก็มืดดับลง
"เอาจริงดิ ยอมแพ้แล้วหรอ น่าสมเพชจริงๆ"
"โถๆๆ...น่าสมเพชจริง น่าสมเพช น่าสมเพช น่า...ส...สม...เพช..."
"ฆ่าๆๆๆๆ"
"แมลงนั้นน่าอร่อยจัง หิวจัง กินเด็กนี่ได้มั้ย"
เสียงในหัวมันเหมือนคนหลายๆคนกำลังพูดอยู่ในหัวเลยแต่เสียงพวกนี้น่ากลัวมากๆ ถึงจะมีความรู้สึกดีใจหน่อยๆก็เถอะว่าจะได้จากสิ่งเลวร้ายและความจำแย่ๆนี่ไปสักที
ถึงจะอยากจากเรื่องแย่ๆหรือครอบครัวเฮงซวยนี่ไปมากแค่ไหนแต่แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว อยากตื่นแล้วสิไม่เอาแล้วมันไม่รู้สึกดีเลยสักนิดอึดอัด...หายใจไม่ออก "ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย คะ...ใครก็ได้"
"อย่าสนใจพวกเขาเลย เสียงพวกนี้ก็แค่เสียงวิญญาณเร่ร่อน" จู่ๆเสียงเด็กผู้หญิงดังขึ้นมา มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
"เธอเป็นใคร" รีฉันพยายามขยับและพยายามลืมตาขึ้น
เมื่อลืมตาขึ้นได้ทุกอย่างรอบตัวกลับสว่างจนแสบตา มันมีควันดำเล็กๆกระจายอยู่เต็มไปหมด
"เธอน่ะยิ้มแล้วน่ารักออกอย่าร้องไห้เลย" ไม่รู้ว่าตั้งเมื่อไหร่แต่พอมองลงไปที่มือก็เห็นมือเล็กๆของใครก็ไม่รู้จับไว้แล้วดึงรีอันวิ่งไปจนสุดทางทุกอย่างสว่างวาบจนลืมตาไม่ขึ้น รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาที่เดิมที่ตนนอนจมกองเลือดตัวเองอยู่แต่ตอนนี้เลือดแห้งจนจับตัวเป็นแผ่นหมดแล้ว
"ขยับตัวไม่ได้ ขยับไม่ได้เลย" ถึงจะพยายามลุกสุดแรงแต่ตัวกลับหนักอย่างกับหิน หูก็อื้อ ตาก็มัวจนแทบมองอะไรไม่เห็น
ตู้มมมมมม!!!
"กรี๊ดดดดดดดด ช่วยด้วยค่ะยังมีคนติดอยู่" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลัง เธอกรีดร้องด้วยความกลัว แต่ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ช่วยเราละเห็นคนนอนจมกองเลือดขนาดนี้ยังวิ่งผ่านไปได้
"อะไรกันเกิดอะไรขึ้นทำไมมองไม่เห็นอะไรเลยกลิ่นนี้มันกลิ่นไหม้ แอ๊ะ!" ในไม่กี่อึดใจดวงตาของรีอันก็กลับมามองเห็นได้ชัดอีกครั้ง แต่ภาพที่เห็นนั้นเป็นสิ่งที่น่าสะเทือนใจยิ่งนัก เพราะตอนนี้บ้านทั้งหมดรอบตัวรีอันได้ถูกไฟและควันปกคลุม รีอันก็พึ่งจะรู้ตัวว่าตนเองนอนสลบอยู่กลางห่าไฟที่ร้อนระอุ
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ใครก็ได้ช่วยตอบฉันที"
...°...
...°...
...°...
"นั่นสินะ"
"เธออีกแล้ว เธอคือใครกันแน่"
"อื่มมมมม...เพื่อนไงยินดีที่ได้รู้จักนะรีอัน"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments