ผมเก็บเจ้าพ่อมาเฟียจากข้างถนน
ไร้จุดหมาย...
นั่นคือนิยามที่ 'ลูกพีช' ให้ตัวเอง ณ ตอนนี้
หลังจากสูญเสียคู่หมั้นให้พี่สาวฝาแฝดแล้ว ลูกพีชยังต้องเสียบริษัทให้อีกฝ่ายโดยที่ขัดขืนไม่ได้แม้แต่น้อย
คนที่เรียกตัวเองว่าครอบครัวต่างกดดันให้เขายกทุกสิ่งทุกอย่างให้พี่สาวฝาแฝด ความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าคงจะมีคนอื่นสักคนที่เข้าข้างเขาพังลงไม่เป็นท่า
ลูกพีชขับรถออกจากบ้านด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า แม้จะไม่มีน้ำตาสักหยดไหลออกมา แต่ใครเล่าจะรู้ว่าหัวใจดวงน้อยๆ ของคนคนหนึ่งจะแหลกสลายไม่เป็นชิ้นดี
ตลอดช่วง1สัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกพีชหมกตัวอยู่แต่ในบ้านหลังที่ซื้อมาเงียบๆ แถวชานเมือง แม้ทุกอย่างของเขาจะถูกยกถวายพานให้พี่สาวฝาแฝดไปจนหมดแล้ว แต่ยังคงเหลือบ้านหลังนี้ และรถยนต์คันที่ขับออกมาที่ยังเป็นของเขาอยู่ บ้าน2ชั้นหลังไม่เล็ก ไม่ใหญ่ มีห้องใต้หลังคา ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลมากนัก ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หากตัดเรื่องที่บ้านหลังนี้อยู่อย่างโดดเดี่ยวกลางป่าออกไป ก็นับได้ว่ามันค่อนข้างที่จะสมบูรณ์แบบ
ในตอนที่ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ลูกพีชเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนั้นวาดฝันอะไรไว้ เพราะการเดินทางจากที่นี่ไปบริษัทที่'เคย'ทำงานอยู่ก็ไม่ได้ใกล้ แถมยังไกลเสีนด้วยซ้ำ
กว่าจะทำใจยอมรับทุกอย่างได้ ก็ล่วงเลยมาอีก1สัปดาห์ ลูกพีชจัดการตัวเองให้ดูดี หยิบแว่นดำขึ้นมาสวมปิดบังดวงตาที่บวมจากการร้องไห้ของตัวเองเอาไว้ แล้วเลือกปั่นจักรยานไปหมู่บ้านใกล้ๆ สาเหตุที่ทำใจออกมาได้ก็เพราะอาหารที่บ้านเริ่มร่อยหรอลง หากยังขังตัวเองต่อไป ไม่แน่ว่าจะต้องตายเพราะขาดอาหารอยู่ในบ้านหลังนั้น แน่นอนว่าลูกพีชยังไม่อยากตายตอนนี้ เขามีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ไว้ทุกอย่างเสร็จลุล่วงแล้ว ถึงตอนนั้นจะตายก็ยังไม่สาย
ปั่นจักรยานเพียง 10 นาที ก็มาถึงหมู่บ้านที่ว่า ลูกพีชไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก แต่ก็มีหลายคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ เขาเลือกตรงไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต เลือกซื้อของที่จำเป็น ก่อนจะตรงไปยังตลาดของหมู่บ้าน ระหว่างเลือกซื้อของก็มีลุงๆ ป้าๆ หลายคนให้ของติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
"ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เห็นหนูพีชเลย เป็นอะไรรึเปล่าลูก?" คุณป้าที่ค่อนข้างสนิทสนมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"ม ไม่เป็นไรครับ ผมแค่...มีปัญหากับที่บ้านนิดหน่อย" ลูกพีชเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม ดวงตาคู่โตใต้แว่นดำคลอไปด้วยน้ำตา
"มีปัญหาอะไรก็บอกป้าได้นะหนูพีช"
ลูกพีชไม่ตอบอะไร เพียงแค่ยิ้มตอบรับเท่านั้น ระหว่างทางกลับก็ถูกหลายๆ คนเอ่ยทักด้วยความเป็นห่วง ทั้งยังเอ่ยเตือนให้ดูแลตัวเองดีๆ คุณลุงหมอในหมู่บ้านก็แอบมากระซิบวิธีลดอาการตาบวม ทั้งยังมอบชุดปฐมพยาบาลให้เผื่อเกิดอะไรฉุกเฉิน แม้จะอยากปฏิเสธไปเพราะที่บ้านมีอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นสายตาเป็นห่วงของลุงหมอแล้ว เขาก็รับมันกลับมาด้วย
กว่าจะกลับถึงบ้านก็เย็นมากแล้ว ลูกพีชขนของพะรุงพะรังเข้าบ้านด้วยความทุลักทุเล เมื่อจะหยิบของชิ้นสุดท้ายกลับเข้าไปในบ้าน เสียงของบางอย่างกลับดึงความสนใจของลูกพีชไป
ลูกพีชวางของกลับที่เดิม มือเรียวหยิบท่อนไม้ใกล้มือมาป้องกันตัวเอาไว้ แล้วทำใจดีสู้เสือเดินไปตามเสียงร้องที่ดังขึ้น ยิ่งเดินไปใกล้เท่าไหร่ เสียงร้องก็ยิ่งดังขึ้น นอกจากนั้นยังเจอรอยเลือดหยดตามทาง ขาเรียวเริ่มสั่นด้วยความกลัว ลูกพีชทำได้เพียงแค่ข่มมันลง แล้วเดินตามรอยเลือดนั่นไป เขารู้ดีว่ามันเป็นความคิดที่โง่เง่า แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยไว้แล้วมันวนกลับมาสร้างความลำบากให้คราวหลัง
"ย๊า!!!"
มือเรียวยกไม้ขึ้นเหนือหัว พร้อมฟาดมันลงบนอะไรก็ตามที่เข้ามาใกล้ ร่างกายสูงใหญ่ของใครบางคนในเสื้อเชิ้ตสีขาวเปื้อนเลือดปรากฏสู่สายตาของลูกพีช ยิ่งเห็นท่าทีน่าสังเวชของอีกคนแล้ว ลูกพีชก็ค่อยๆ ลดไม้ในมือลงอย่างสั่นๆ ดวงตาคมของอีกคนจ้องมองมาที่คนตัวเล็กราวกับจ้องมองเหยื่อตัวน้อย แต่ก่อนที่ลูกพีชจะทันได้กล่าวอะไรออกไป ร่างกายสูงหนาของอีกฝ่ายก็ล้มลงกับพื้นเสียก่อนแล้ว
ดวงตากระพริบมองอีกฝ่ายด้วยความงุนงง นี่เขาต้องเก็บคนคนนี้เข้าบ้านจริงๆ งั้นหรอ...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments