ดอกบัวตัวอ้วนนอนหลับพริ้มบนเตียงของเย่ไหลเซียง หลังจากตอนแรกพยายามเอาไปวางตามที่นอนที่ต่าง ๆ ในตำหนักแม้จะเสกเตียงแสนนุ่ม ให้ของเล่นมากมายเพียงใด ก็ร้องลั่นเสียงดังสะท้านตำหนักซูฮวาจนเหล่าภูติดอกไม้ต้องอุดหูกันทั่วหน้า เหลียนฮวาน้อยไม่นอนที่อื่นนอกจากบนเตียงของเทพบุปผาเท่านั้นและต้องเป็นเทพบุปผาตระกองกอดจึงจะหลับอย่างสงบ
เหลืออีกเพียงไม่กี่วันเย่ไหลเซียงต้องเข้าบำเพ็ญตะบะแล้ว แต่ใบหน้าของเทพผู้งดงามกับลู่หลานในตอนนี้ราวกับอดนอนมาแรมเดือน ดอกบัวน้อยเหลียนฮวาเติบโตอย่างรวดเร็ว เพียงแค่แปดวันก็เท่ากับเด็กแปดขวบแล้ว และความดื้อความซนก็ทำให้ลู่หลานแทบจะหมดลมหายใจในแต่ละวัน
"เจ้าพานางไปเล่นกับภูติดอกไม้พวกนั้นที ข้าง่วงเหลือเกิน"
เย่ไหลเซียงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแววตาอิดโรย
"ไม่เอาหรอกเจ้าค่ะเดี๋ยวภูติพวกนั้นจะสอนเรื่องไม่ดีให้เหลียนฮวาของข้า"
"ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เลี้ยงเองนะ ข้าจะพักสายตาสักครู่หนึ่ง"
ท่านเย่หมดแรงขอพักสายตาก่อน
ลู่หลานก็ขอบตาดำหมดแล้ว
เหลียนฮวาน้อยพลังเหลือเฟือ
"ท่านเย่ หากข้าโตขึ้นกว่านี้ท่านจะรับข้าเป็นคนรักของท่านหรือไม่"
เสียงของคนตัวเล็กเอื้อนเอ่ยออกมา ทำให้เย่ไหลเซียงลืมตาขึ้นมาทันทีแล้วหันไปมองเหลียนฮวา
"เหลียนฮวา เจ้ายังเด็กนักผู้ใดช่างไร้ยางอายสอนเด็กแบบนี้ได้เยี่ยงใดกัน"
น้ำเสียงของเขาดูหงุดหงิด ก่อนหันมาจ้องลู่หลานที่นั่งสัปหงกหลับในท่านั่ง เย่ไหลเซียงลุกขึ้นจ้องมองเข้าไปในตาของเหลียนฮวาน้อยที่แววตาใสซื่อก่อนจะดึงมือเด็กน้อยมานั่งที่ตัก
"เหลียนฮวาเจ้ายังเด็กเกินไปที่จะถามคำถามเช่นนี้นะรู้หรือไม่"
"ข้าอายุร้อยกว่าปีแล้ว ไม่เด็กแล้วนะเจ้าคะ ข้ายินดีจะเป็นคนรักที่คอยดูแลปกป้องท่านเย่เสมอ ไม่ว่าท่านเย่จะไปไหน อยู่ไหนข้าจะติดตามไปด้วย"
คำพูดที่ไร้เดียงสาทำให้เย่ไหลเซียงเผลอยิ้มออกมาเพราะคิดว่าอีกไม่นานก็คงจะลืมเมื่อเวลาผ่านไป
"เหลียนฮวา สักวันนึงเจ้าจะต้องได้เป็นคนรักแน่ ๆ แต่ไม่ใช่กับข้า เจ้าเข้าใจหรือไม่"
เทพบุปผาพยายามที่จะพูดจะสอนให้เข้าใจ แต่ทันใดนั้นเหลียนฮวาก็ร้องตะเบ็งเสียงออกมาลู่หลานที่หลับอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น
"ไม่เอา ข้าจะเป็นเจ้าสาวของท่านเย่ ข้าไม่รักผู้ใดอีกแล้ว หัวใจของข้ามอบให้ท่านตั้งแต่แรกเจอแล้ว"
น้ำตาสาวน้อยวัยแปดวันไหลลงอาบแก้มแถมส่งเสียงร้องไม่หยุด เย่ไหลเซียงกับลู่หลานต่างมองหน้ากัน
"ได้ ๆ ท่านเย่เป็นของเจ้าคนเดียว เจ้าพอใจหรือยัง" ลู่หลานพูดออกมาเพื่อทำให้เหลียนฮวาเงียบ นางจ้องมองลู่หลานเชิงตำหนิ เหลียนฮัวเช็ดน้ำตาแล้วพยักหน้าพร้อมยิ้มออกมา
"ก็ได้ ข้าพอใจแล้ว"
พูดจบเหลียนฮัวก็วิ่งไปสระมรกตกลั่นแกล้งพวกภูติดอกไม้อย่างสนุกสนาน
"ลู่หลานเจ้าห้ามตามใจสิ่งที่นางคิดและอย่าให้ความหวังที่ไม่มีวันเป็นจริงให้กับนางอีกเด็ดขาดเข้าใจหรือไม่"
น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาตำหนิลู่หลาน ภูติผีเสื้อพยักหน้าคอตก
"หากนายท่านไม่เป็นคนรักให้เหลียนฮวา นายท่านจะเป็นพี่เลี้ยงเด็กหรืออย่างไรกัน นายท่านจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าท่านจะไม่หวั่นไหวเมื่อนางโตเป็นสตรีเต็มตัว"
ลู่หลานพูดลอย ๆ ออกมาก่อนจะรู้ตัวว่าอาจโดนทำโทษก็รีบปิดปาก
"เจ้าอยู่กับข้ามานานเท่าใดแล้ว ข้าเคยหวั่นไหวให้กับผู้ใดงั้นหรือ เจ้านี่นับวันต่อล้อต่อเถียงเก่งจริง ๆ อีกสิบวันข้าจะต้องเข้าบำเพ็ญตบะแล้ว เจ้าจะดูแลเหลียนฮวาเพียงลำพังได้ใช่หรือไม่"
"ได้เจ้าค่ะ ข้า...ดูแลได้นายท่านอย่าได้เป็นกังวล" ลู่หลานตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจพลางยกแขนสองข้างขึ้นแสดงความแข็งแกร่งให้นายท่านได้ดู
เหลียนฮวางอแงและดื้อ เมื่อรู้ว่าท่านเย่ของนางจะต้องไปบำเพ็ญตบะเดือนนึง คืนนั้นนางหนีออกจากห้องหายกลับเข้าไปนอนในดอกบัวสีดำนั้น เย่ไหลเซียงไม่อาจออกมาพูดคุยด้วยได้ เพราะสามวันก่อนบำเพ็ญนางจะต้องไปแช่ตัวเพื่อชำระล้างร่างกายที่แดนสวรรค์
"เหลียนฮวาน้อย ออกมาเถอะ เหตุใดเจ้าถึงไปอยู่ในนั้นกันไม่อึดอัดหรือ ออกมาเล่นกับข้าเถอะนะ"
ลู่หลานพยายามล่อหลอกให้เหลียนฮวาออกมาแต่ไร้วี่แวว ดอกบัวสีดำนั้นยังคงห่อหุ้มด้วยกลีบที่ดูแข็งแรง ไม่ตอบโต้ใด ๆ ลู่หลานได้แต่ถอนหายใจ
"ก็ได้ตามใจเจ้า งั้นก็พักผ่อนซะ ข้าไปหาขนมอร่อย ๆ กินดีกว่า"
ลู่หลานพยายามหลอกล่อสารพัดวิธีให้เหลียนฮวาออกมาแต่ก็ไร้ผล
ตำหนักสวรรค์สระพิสุทธิ์
เย่ไหลเซียงเดินเข้าไปที่บ่อเพื่อที่จะลงไปแช่ เลือกมองดูบ่อที่ว่างแต่ก็เต็มไปด้วยเทพองค์อื่นที่ชำระร่างกายอยู่ จนไปเจอบ่อนึงที่ดูเหมือนจะไม่มีผู้ใดใช้ ก่อนจะถอดเสื้อคลุมออกเหลือเพียงชุดรัดหน้าอกบางเบาก่อนเดินลงไปที่บ่อ พลันนั้นน้ำในบ่อก็สาดกระจายเข้าที่ใบหน้าของเย่ไหลเซียงเต็ม ๆ ก่อนคนที่อยู่ในบ่อจะโผล่ขึ้นมาทำให้สองร่างยืนเผชิญหน้ากันอย่างจังจนจมูกแทบจะชนกัน จื้อหรงตกตะลึง ใจเต้นระรัวเมื่อเจอสตรีที่คิดคำนึงถึงมาตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ได้มายืนอยู่ตรงหน้าในตอนนี้
แต่นางหาได้คิดเช่นนั้นไม่ เมื่อนางยกมือมาลูบใบหน้าที่จื้อหรงทำน้ำสาดกระจายใส่ เขาดูตกใจรีบยกสองมือประคองใบหน้าของเย่ไหลเซียงก่อนจะใช้ฝ่ามือลูบน้ำที่เกาะบนใบหน้าออกให้
"ท่านเทพบุปผาข้าต้องขออภัยด้วย ข้าไม่รู้ว่ามีเทพองค์อื่นอยู่ด้วย"
น้ำเสียงจื้อหรงประหม่ายิ่งมือไม้ยิ่งดูรกเกะกะไปหมด เย่ไหลเซียงดันมือเขาออกจากใบหน้า
"ไม่ต้อง ข้าเช็ดเอง"
เย่ไหลเซียงนั่งแช่ในน้ำอย่างเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร ต่างกับอีกฝ่ายที่เอาแต่จ้องเหมือนอยากจะพูดแต่กลับพูดไม่ออก
"ท่านมีอะไรจะพูดกับข้าเช่นนั้นหรือ เหตุใดจึงเอาแต่จ้องข้าอยู่ได้"
เย่ไหลเซียงรู้สึกรำคาญกับท่าทางของจื้อหรงจึงเอ่ยปากพูดออกมาก่อน
"สุราที่เจ้าทำให้ข้าตอนนั้น...."
เทพอัคคีผู้งามสง่าองอาจในชั้นแดนสวรรค์กลับทำท่าอึกอักเมื่ออยู่ต่อหน้าสตรี
"ข้าฝึกตบะ สามสิบวัน หลังจากนั้นท่านค่อยไปหาข้าที่ตำหนักข้า"
นางพูดตัดจบการสนทนาแสนอึดอัดใจ จื้อหรงยิ้มออกมา
"ได้ หลังท่านฝึกตบะเสร็จ ข้าจะไปที่ตำหนักซูฮวา"
น้ำเสียงดีใจของเทพอัคคีแสดงออกทั้งสีหน้าแววตาก่อนจะลุกขึ้นจากบ่อชำระล้าง
"ถ้าเช่นนั้นข้าขอลาก่อน ไม่รบกวนเจ้าแล้ว"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 27
Comments