ลู่หลานเดินออกมาส่งซูหนี่ที่ด้านหน้าตำหนักสีหน้าเศร้าเล็กน้อยตาสองข้าง ๆ คล้ายมีน้ำตาเอ่ออยู่ในนั้น
"เจ้าไม่น่าทำให้นายท่านโกรธเลย เห็นหรือไม่ ข้าอดมีเพื่อนเล่นอีกแล้ว"
น้ำเสียงตำหนิของลู่หลานหาทำให้จิ้งจอกน้อยสนใจไม่ นางยืนยิ้มอยู่คนเดียวมือพันผมม้วนไปมาพลางนึกถึงคำพูดของเย่ไหลเซียง
"เจ้ายังจะยิ้มอยู่อีก ไม่สำนึกเลยสักนิด หึ! "
น้ำเสียงเง้างอนของลู่หลานทำให้ซูหนี่หันมามอง
"ข้าไปทำธุระจะรีบไปรีบกลับ เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่นะ ไว้ข้ากลับมาข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเล่นของเจ้าไปตลอดเลยล่ะ"
ซูหนี่ลูบหลังลู่หลานพลางปลอบใจ ก่อนจะกอดปลอบลู่หลานที่กำลังเบ๊ปากจะร้องไห้
"โอ๋ ๆ ๆ ๆ อย่าร้องน้า รับใช้ท่านเย่ของข้าให้ดี ๆ ด้วย อย่าให้ท่านเย่ไม่สบาย"
"ท่านเย่ของเจ้างั้นรึ นายท่านข้าไปเป็นของเจ้าตั้งแต่เมื่อใดกัน" ลู่หลานเอ่ยด้วยน้ำเสียงท้วงติง
"ในฝันของข้า...ไง" ซูหนี่น้ำเสียงร่าเริงพลางเอามือตี ๆ ๆ ที่ไหล่ของลู่หลานจนร้องออกมา
"โอ๊ย!!! เจ้าจะบ้าหรือ เหตุใดจึงตีข้าเช่นนี้ เจ้านี่ท่าจะเป็นเอามากแล้วนะ อย่างไรก็แล้วแต่รีบ ๆ กลับมาเล่นกับข้า เข้าใจหรือไม่" ลู่หลานพูดพลางโผเข้ากอดซูหนี่แล้วน้ำตาไหลอาบสองแก้ม
ลู่หลานร้องไห้ออกมา เย่ไหลเซียงที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ ถึงกับส่ายหน้าก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องปรุงยา
ซูหนี่เมื่อออกจากตำหนักซูฮวาแล้วขณะร้องเพลงดีอกดีใจโลดเต้นไปมาเพราะคิดว่าเย่ไหลเซียงยอมรับนางแล้ว จู่ ๆ ก็หยุดร้องเพลงและหยุดเดินทำหน้าครุ่นคิด
"เดี๋ยวนะ ว่าแต่ดอกไม้วิญญาณนี่อยู่ที่ใดกัน ไม่ได้ ๆ ข้าต้องกลับไปถามท่านเย่ก่อน"
ซูหนี่เดินย้อนกลับไปกลับพบว่าหาประตูทางเข้าไม่พบแล้ว ก็หงุดหงิดโมโหตนเองขึ้นมา
"ทำไมข้าถึงได้โง่ขนาดนี้นะ แต่ไม่เป็นไรไปถามท่านพี่ลี่หยางก็ได้ ท่านพี่ใจดีกับข้าแถมรอบรู้ไปหมดต้องรู้ทุกอย่างแน่ ๆ"
ซูหนี่จริง ๆ แล้วคือองค์หญิงห้าของท่านเจ้ามังกรแห่งคาบสมุทรตงไห่ที่เกิดจากมารดาที่เป็นจิ้งจอกเก้าหาง เพราะเป็นจิ้งจอกพี่น้องเผ่าพันธุ์มังกรที่คิดว่าตนเองคือสัตว์เทพไม่ยอมรับสายเลือดโคลน จึงพากันกลั่นแกล้งซูหนี่ประจำยกเว้นองค์หญิงสามลี่หยางที่คอยช่วยเหลือตลอด เดิมทีซูหนี่คิดจะหนีออกจากวังมังกรเพราะเกลียดพระชายากับพี่น้องที่เหลือ ส่วนเจ้าสมุทรผู้เป็นบิดาถึงจะเอ็นดูซูหนี่แต่ก็ต้องคอยช่วยงานสวรรค์ไม่ว่างเว้นไม่มีเวลาปกป้องและดูแล
ซูหนี่หลังคิดได้ก็มุ่งหน้ากลับไปยังวังมังกรทันที
ลู่หลานหลังซูหนี่จากไปแล้วหลังเพิ่งมาที่ตำหนักซูฮวาได้เพียงห้าวันก็นั่งกอดเข่าแววตาเศร้าสร้อย นั่งทอดถอนหายใน
"เหตุใดมานั่งอยู่ตรงนี้"
"ข้าคิดถึงซูหนี่"
เย่ไหลเซียงถอนหายใจ ยื่นมือไปให้ลู่หลานจับ
"ตามข้ามานี่ ใช่ว่าเจ้าไม่มีสหายสักหน่อย"
ลู่หลานเงยหน้าขึ้นแล้วพาลู่หลานเดินไปที่น้ำตกบริสุทธ์ตรงแอ่งบัวของดอกบัวสีดำกำลังก้านโค้งลงจุ่มแอ่งน้ำ ลู่หลานพอเห็นก็ตกใจมองหน้าเย่ไหลเซียง
"นายท่านดอกบัวสีดำนี่เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้" ลู่หลานถามด้วยน้ำเสียงสงสัยแววตาฉงน
"เจ้าเคยบอกว่าเจ้าจะเป็นสหายกับนางตลอดไปมิใช่หรือ แต่พอเจอซูหนี่เจ้าก็ไม่แม้แต่จะแวะมาดูนาง เจ้าดอกบัวอัปลักษณ์นี้ก็เลยเสียใจเหมือนเจ้าตอนนี้นี่ไง อาการของพวกเจ้าช่างคล้ายกันยิ่งนัก"
เย่ไหลเซียงยื่นฝ่ามือออกไปแล้วคว่ำมือเหนือดอกบัวกอนั้นก่อนจะมีละอองเล็กๆ โปรยลงมาจากฝ่ามือคล้ายฝนตกลงไป ดอกบัวนั้นราวกับได้รับยาวิเศษลำต้นตั้งตรงอีกครั้ง
"ละอองนี่คืออะไรหรือเจ้าคะ"
ลู่หลานถามด้วยความสงสัย
"นี่คือเกสรของข้าสามารถช่วยผ่อนคลายอารมณ์ได้ ดอกบัวอัปลักษณ์... เพื่อนของเจ้ากลับมาแล้วสดชื่นซะทีนะ"
รอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของเย่ไหลเซียงทำให้ดอกบัวสั่นไหว มีเสียงดังตุบ ๆ ๆ ๆ ดังออกมาจากดอกบัวสีดำดอกนั้น แววตาของเย่ไหลเซียงเปลี่ยนไปกำลังสงสัยว่าได้ยินเสียงอะไร จึงชู่วปากให้ลู่หลานเงียบ ยื่นหน้าไปใกล้ ๆ ดอกบัวสีดำนั้น ได้ยินเสียงดังตุบ ๆ จะรัวเร็วและดังมากขึ้น นางทำหน้าประหลาดใจพลางจ้องมองไปที่ดอกบัวสีดำนั้นยื่นปลายนิ้วมือค่อย ๆ เอื้อมไปแตะที่ดอกบัวสีดำ พลันนั้นก็มีแสงสีสมพูออกมาจากผิวของดอกบัวสีดำนั้นตรงบริเวณที่สัมผัส ลู่หลานมองด้วยความฉงนรีบถามนางอย่างรวดเร็ว
"นายท่าน เมื่อครู่นี้มันคืออะไรกัน"
"เหมือนกับว่า....ดอกบัวอัปลักษณ์นี้กำลังมีเรื่องตื่นเต้นเสียงเมื่อกี้ เจ้ากำลังใจสั่นใช่หรือไม่"
เย่ไหลเซียงพูดกับดอกบัวสีดำนั้น พลันดอกบัวสีดำ ก็เอาใบบัวขึ้นมาห่อดอกตนเองไว้ ราวกับคนกำลังปิดใบหน้าตนเองเวลาเขินอาย นางยิ้มออกมาเบา ๆ ก่อนยืนขึ้น
"ลู่หลาน ดูแลดี ๆ ล่ะ สหายของเจ้าเริ่มโตขึ้นแล้วนี้ ตอนนี้แสดงออกได้หลากหลายอารมณ์เลย จับตาไว้ล่ะเจ้าดอกบัวอัปลักษณ์นี้อาจจะบานขึ้นมาวันใดวันนึงก็ได้ หากเจ้าให้ความรักความห่วงใยกับนางมากพอ"
หลังพูดจบนางก็ลุกขึ้นเดินกลับไปที่ห้องปรุงยา ปล่อยให้ลู่หลานอยู่ด้วยกันกับดอกบัวสีดำ ระหว่างทางเดินกลับเหล่าบุปผาก็ยังคอยหัวร่อต่อกระซิกยั่วยวนเย่ไหลเซียงเช่นเดิมทุกเมื่อเชื่อวันไม่เปลี่ยนแปลง
วันต่อมาท้องฟ้าเกิดเหตุการณ์ประหลาด คือสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งแรกในรอบหนึ่งร้อยปี ท้องฟ้ามืดครึ้มนกต่างพากันบินกลับรังเพราะคิดว่าคือเวลาย่ำเย็น เย่ไหลเซียงเดินออกมาจากห้องมองดูปรากฏการณ์ธรรมชาติบนท้องฟ้า ก่อนได้ยินเสียงลู่หลานดังโวยวายมาจากฝั่งสวน
แสงสีชมพูสว่างวาบขึ้นมา ดอกบัวสีดำค่อย ๆ คลี่กลีบทีละกลีบ ๆ จนบานออกทั้งหมดในนั้นมีเด็กหญิงอ้วนกลมนอนอยู่บนฝักบัวใบหน้าจิ้มลิ้ม
"น่ะ น่ะ น่ะ นายท่านนั่นมันตัวอะไรกันเจ้าคะ"
ลู่หลานเอ่ยถามเย่ไหลเซียงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพลางเอานิ้วจิ้ม ๆ เจ้าก้อนกลม ๆ เล็ก ๆ ที่นอนบนฝักบัวด้านใน นางเอื้อมมือไปใกล้ ๆ แล้วใช้พลังที่ปลายนิ้วบังคับสิ่งที่อยู่ด้านในนั้นให้ลอยออกมาวางบนฝ่ามือ
เด็กหญิงตัวจิ๋วผิวขาวเนียนละเอียดกำลังดูดนิ้วตนเองเสียงดังจ๊วบจ๊าบ
"ในที่สุดดอกบัวอัปลักษณ์นี่ก็บานแล้ว"
เย่ไหลเซียงพูดพึมพำออกมาเบา ๆ พลางจ้องมองเด็กอ้วนจิ๋วนั้นไม่วางตา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 27
Comments