จิ้งจอกน้อย

     

ทุกหนึ่งร้อยปี เย่ไหลเซียงจะต้องเดินทางไปยังดินแดนปีศาจเพื่อเก็บ**ดอกฮวงหลัน**

สรรพคุณของดอกฮวงหลัน

ช่วยบำรุงธาตุ (ดอก, ผล, เมล็ด)

ช่วยบำรุงหัวใจ (ดอก)

ช่วยบำรุงประสาท (ดอก)

ช่วยกระจายโลหิต (ดอก)

ช่วยบำรุงโลหิต (ดอก, เนื้อไม้)

ช่วยทำให้เลือดเย็น (ดอก)

ช่วยแก้โรคเส้นประสาทพิการ (ใบ)

ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ (น้ำมันกลั่นจากดอก)

ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หน้ามืดตาลาย (ดอก)

ช่วยแก้คลื่นเหียน อาเจียน (ดอก, ผล, เมล็ด)

ช่วยขับลม (ดอก)

เพื่อนำมาปรุงยาไว้สำหรับเข้าบำเพ็ญตบะ วันนี้ก็เช่นกันเย่ไหลเซียงเตรียมออกเดินทางไปดินแดนปีศาจแต่เช้าซึ่งการจะไปดินแดนปีศาจเพื่อไปทะเลทุ่งดอกไม้นั้นจะต้องผ่านเมืองลับแลที่ซึ่งเป็นจุดเชื่อมผ่านทั้งสามโลกคือเทพ มนุษย์ และ ปีศาจ ลู่หลานภูติปีศาจตัวน้อยยังคงตื่นเต้นและดีใจทุกครั้งที่ได้มาเมืองลับแลเพราะถือเป็นศูนย์รวมของต่าง ๆ ที่หาดูได้ยากของทั้งสามโลก 

    "เจ้าเดินเล่นไปก่อนนะลู่หลาน ข้าจะเดินไปซื้อตั๋วเรือก่อน"

ลู่หลานยิ้มและพยักหน้ายืนเลือกของอยู่ร้านของเล่นจากโลกมนุษย์ เย่ไหลเซียงเดินไปยังร้านทุกอย่าง 20 หินวิญญาณ ที่ขายตั๋วเรือไปยังแต่ละดินแดนที่เปิดจำกัดให้สามารถเข้าหรือไปท่องเที่ยวได้ เพราะความสง่างามและกลิ่นกายที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ปีศาจสามหัวเจ้าของร้านจำเย่ไหลเซียงได้ทันที 

     "มาตรงตามเวลาเดิมเลยท่านเทพบุปผาคนงาม ตั๋วสองใบไปทุ่งดอกไม้ปีศาจใช่หรือไม่"

   เย่ไหลเซียงพยักหน้า พลางยื่นหินวิญญาณแลกกับตั๋วก่อนจะเดินออกจากร้านไป

   ในร้านมีลูกค้าเป็นบุรุษอยู่ผู้นึงแต่งกายธรรมดาแต่ดูสง่างาม อกผายไหล่ผึ่ง รูปร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ไม่มีทั้งกลิ่นเทพและปีศาจหรือกลิ่นสาบมนุษย์กำลังเดินดูของในร้านค้า ทันทีที่ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ช่างรัญจวนใจทำให้จิตใจเกิดความร้อนรุ่มขึ้นมา จนต้องหันไปมองผู้ที่เข้ามาในร้าน เขามองสตรีสวมชุดสีขาว ใบหน้าผุดผ่อง ดูสง่างาม ไม่มีท่าทีอรชรอ่อนช้อยเช่นสตรีทั่วไปก็เกิดความสนใจขึ้นมา พอได้ยินปีศาจสามหัวเรียกเทพบุปผา ก็ยิ่งดึงความสนใจของบุรุษผู้นั้นมากขึ้นจนต้องเดินออกมาหลังจากนางเดินออกไป ปีศาจสามหัวเห็นบุรุษผู้นึงมองตามเทพบุปผาขนาดนั้นก็พูดขึ้นมา

     "นั่นคือท่านเทพบุปผาคนงามเย่ไหลเซียง นางกำลังจะเดินทางไปทุ่งดอกไม้ปีศาจหากท่านจื้อหรงอยากจะตามไปก็ซื้อตั๋วที่ข้าได้นะ"

จื้อหรงเทพอัคคียืนนิ่งพลางยื่นหินวิญญาณให้กับปีศาจสามหัวเพื่อแลกกับตั๋ว ทันทีที่ได้ตั๋วมาเขาก็รีบเดินออกไปข้างนอกทันที พอมองหาเย่ไหลเซียงก็พบนางเดินไปอีกฝั่งแล้ว ทันใดนั้นก็เกิดเหตุคล้ายเกิดการวิวาท ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางถูกนักพรตจากเขาคุนหลุนตามล่าเพราะแอบไปเล่นแล้วทำกระบี่ท้อ ประจำสำนักคุนหลุนหัก

     "กระบี่พวกเจ้าไม่ได้เรื่องเองนี่ ข้าแค่แกว่งฟันเล่น ๆ ก็หักเสียแล้ว อยากได้คืนนักก็เอาคืนไปข้าไม่เล่นแล้ว"

นักพรตคุณหลุนตั้งค่ายจับปีศาจในเมืองลับแล เขตที่ห้ามมีการทะเลาะวิวาทกันเด็ดขาด ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตัวน้อยพลังตะบะเพียงหนึ่งพันปีจึงไม่อาจต้านพลังค่ายกลได้ถูกจับมัดด้วยเชือกจับปีศาจและกำลังจะฟาดด้วยแส้อาคม เย่ไหลเซียงมายืนขวางแส้นั้นก่อนจะจับรวบปลายแส้แน่น ภายใต้นัยน์ตาสีม่วงนั้นแววตาเยือกเย็น และดูงามสง่าจิ้งจอกน้อยที่ยกมือขึ้นมาป้องที่ศีรษะตนเองเพราะกลัวเจ็บเงยหน้ามองเย่ไหลเซียงที่เข้ามาช่วยอย่างตกตะลึงตาเบิกกว้าง คล้ายกับเวลากำลังหยุดหมุนจิ้งจอกน้อยจ้องมองเทพบุปผาอย่างไม่อาจละสายตาได้ เช่นเดียวกับเทพอัคคีจื้อหรงที่ยืนมองนิ่งจากอีกฝั่ง

     "ที่นี่คือเมืองลับแลตามกฎแล้วให้งดมีการทะเลาะวิวาทกันเหตุใดท่านนักพรตจึงทำผิดกฏเช่นนี้"

เย่ไหลเซียงเอื้อนเอ่ยออกมาสอบถามด้วยความสงสัย นักพรตตนนึงสีหน้ากำลังโมโห

     "จิ้งจอกน้อยตัวนี้เล่นซนกับกระบี่ท้อประจำสำนักของเราจนหัก หากไม่จับไปลงโทษสั่งสอนนางเรื่องสมบัติสำนักที่ชำรุดเราที่เป็นศิษย์จะเอาหน้าที่ไหนไปพบอาจารย์"

     "หากข้าทำให้กระบี่ท้อของสำนักคุนหลุนกลับมาดังเดิมได้ จะปล่อยจิ้งจอกน้อยตนนี้ได้หรือไม่"

นักพรตทั้งหกต่างจ้องมองหน้ากันว่าจะทำเช่นไร ก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง

     "ถ้าเช่นนั้นขอกระบี่ท้อให้ข้า"

นักพรตคนนึงเดินมายื่นกระบี่ท้อให้กับเย่ไหลเวียง ก่อนนางจะรับกระบี่ที่หักมาแล้วโยนขึ้นไปบนอากาศ ก่อนจะร่ายมือใช้พลังในการรักษาฟื้นฟูกระบี่ท้อนั้นจนกลับมาเชื่อมต่อกันดังเดิมโดยไร้ตำหนิใด ๆ จื้อหรงยืนกอดอกมองดูอย่างสนใจ 

     "ถ้าเช่นนั้นก็ปล่อยจิ้งจอกน้อยนี่ได้หรือไม่"

     "เรานักพรตรักษาสัจจะ ปล่อยนางจิ้งจอก"

ซูหนี่ถูกปลดปล่อยจากตาข่ายปีศาจ ตาจ้องมองไปยังเย่ไหลเซียงด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มหลงไหล เทพบุปผาหลังช่วยจิ้งจอกน้อยเสร็จก็เดินมุ่งหน้าไปยังท่าเรือปีศาจ 

     "เดี๋ยวก่อนท่าน ท่าน!! ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้"

จิ้งจอกน้อยวิ่งมาขวางทางเย่ไหลเซียงพลางจับจ้องที่ใบหน้าของนาง ดวงตากลมโตเป็นประกายมองอย่างปลาบปลื้มและซาบซึ้ง เมื่อได้มองเห็นใบหน้าของเทพบุปผาใกล้ ๆ เผลอมองจ้องตาสีม่วงคู่นั้น ใจของจิ้งจอกน้อยก็เต้นสั่นระรัวราวกับมีคนตีกลองอยู่ข้างใน

     "นางเป็นสตรีเหมือนกันกับข้ามิใช่บุรุษแต่เหตุใด ข้ามองเพียงแค่ใบหน้าของนางใจข้าถึงสั่นไหวถึงเพียงนี้นะ"

ซูหนี่กำลังนึกในใจอย่างเคลิบเคลิ้ม เย่ไหลเซียงยืนจ้องหน้าซูหนี่ที่มายืนขวางทางพลันค่อย ๆ ยกมือขวาขึ้นมาค่อย ๆ เอื้อมไปที่ใบหน้าฝั่งขวาของซูหนี่ จิ้งจอกน้อยใจก็เต้นสั่นระรัวใบหน้าแดงก่อนจะถูกเย่ไหลเซียงใช้มือขวามาดันศีรษะนางออกไปให้พ้นทาง

     "ขออภัยแต่เจ้ากำลังขวางทางข้า ลู่หลานไปกันเถอะ"

ผีเสื้อน้อยหันมาแลบลิ้นใส่ซูหนี่เพราะรู้ว่ากำลังคาดหวังอะไร จื้อหรงเดินตามเย่ไหลเซียงอยู่ห่าง ๆ จนกระทั่งไปขึ้นเรือ ซูหนี่อยากตามไปด้วยจึงถามคนแถวนั้นว่าเรือกำลังไปที่ใด

     "เรือลำนั้นกำลังเดินทางไปที่ใดกัน"

     "อ๋อ นั่นหรอกำลังเดินทางไปทะเลดอกไม้ปีศาจ เรือกำลังจะออกแล้วหากเจ้าจะไปก็รีบไปซื้อตั๋วเรือที่ปีศาจสามหัวแล้วจ่ายด้วยลูกแก้ววิญญาณ"

ซูหนี่ไม่รอฟังจนจบรีบวิ่งไปหาซื้อตั๋วทันที พอได้ตั๋วแล้วก้รีบวิ่งมาที่เรือย่างเร็วแต่เรือออกจากฝั่งแล้ว ปีศาจจิ้งจอกชูมือขึ้นแล้วตะโกน

     "ข้ามีตั๋วนะรอข้าด้วย รอด้วย!!  เชอะ!! ระยะทางแค่นี้เองข้ากระโดดเอาก็ได้"

ซูหนี่ตั้งหลักก่อนจะวิ่งแล้วกระโดดตัวลอยออกจากฝั่งกระโจนไปที่เรือปีศาจ เพราะการคำนวนแรงผิดพลาดทำให้ซูหนี่พุ่งตัวมายังเย่ไหลเซียงที่ยืนอยู่ นางเงยหน้ามองด้านบนดูตกใจเล็กน้อยตาเบิกกว้าง ก่อนที่ร่างจิ้งจอกน้อยจะร่วงลงไปทับเย่ไหลเซียง จื้อหรงก็เข้ามายืนขวางกางฝ่ามือออกทำให้ซูหนี่กลายร่างเป็นจิ้งจอกตัวเล็กร่างชนปะทะกับหน้าอกของจื้อหรงที่มายืนขวางเย่ไหลเซียงพอดี

จิ้งจอกน้อยในอ้อมกอดของจื้อหรงดูท่าทางไม่ค่อยพอใจยิ่งนัก ดิ้นไปมาจนจื้อหรงจับหางแล้วยกขึ้นหันหน้ามาหาเย่ไหลเซียงที่ยืนด้านหลังแล้วยื่นจิ้งจอกให้ นางสีหน้าแววตาดูงุนงงและสงสัยว่าจื้อหรงเป็นใคร

     "ดูท่าปีศาจจิ้งจอกตัวนี้อยากติดตามท่าน"

จื้อหรงยิ้มออกมา เย่ไหลเซียงหันไปทางอื่นเบือนหน้าหนีไม่สนใจจื้อหรงแววตาเย็นชา

     "ข้าไม่ชอบเลี้ยงปีศาจ"

จื้อหลงหันไปทางลู่หลานที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้วยิ้มพลางยื่นหน้ามาใกล้ ๆ เย่ไหลเซียง

     "ข้าว่าไม่น่าใช่ นางก็ปีศาจไม่ใช่หรือ"

จื้อหรงพูดหมายถึงลู่หลาน เย่ไหลเซียงหันมามองหน้าจื้อหรง

     "นางเป็นภูติผีเสื้อที่จำเป็นในการเพาะเลี้ยงดอกไม้ของข้า"

นางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยกับจื้อหรงพลางเลื่อนมือใช้พลังทำให้ซูหนี่กลายร่างกลับมาเป็นคน แววตาจ้องมองสบตากับจื้อหรงแต่ชายหนุ่มไม่เห็นแม้แต่แววหวั่นไหวใน ๆ ในดวงตาสีม่วงคู่นั้น 

ซูหนี่ที่กลายร่างเป็นคนนอนกองอยู่กับพื้นแววตายังคงจับจ้องที่ใบหน้าของเย่ไหลเซียงดวงตาเป็นประกาย

     "นางช่วยข้าอีกแล้ว....ช่างดีจริง ๆ "

     "นายท่าน ถึงป่าฮวงหลงแล้วเจ้าค่ะ"

ลู่หลานชี้มือไปที่ด้านหน้าที่ป่าฮวงหลงที่กำลังออกดอกมากมายด้วยความตื่นเต้นหันมายิ้มกับเย่ไหลเซียง พอเรือเทียบท่าทั้งคู่ก็เดินลงตรงท่าเทียบ ซูหนี่รีบตามไปทันทีตามด้วยจื้อหรง ที่เดินตามห่าง ๆ เย่ไหลเซียงเหลือบตามองสงสัยใจตัวจื้อหรงเหตุใดจึงต้องเดินตาม

ในป่าฮวงหลงลู่หลานช่วยเย่ไหลเซียงเด็ดดอกฮวงหลงใส่ในตะกร้าสานที่สะพายไว้ด้านหลัง ส่วนเย่ไหลเซียงเดินดูต้นอวงหลงที่แห้งเหี่ยวไม่มีดอกก่อนยื่นมือไปแตะที่ต้นก่อนต้นกลับมาฟื้นคืนชีวิตและออกดอกออกมา

     "ที่แท้ท่านก็คือเทพบุปผา"

จื้อหรงที่เดินทางมาพูดกับเย่ไหลเซียง

    "ท่านเองก็เป็นเทพอัคคีมิใช่หรือ ท่าทางตำหนักเซียนจะว่างกันมากท่านถึงเวลาตามข้าเช่นนี้"

     "ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่บังเอิญมาทางเดียวกับท่านข้าได้ยินเรื่องความงดงามของป่าต้นฮวงหลงมานานแล้วเลยอยากชื่นชมให้เห็นกับตา

พูดจบจื้อหรงก็มองไปยังต้นดอกฮวงหลงที่มีมากมายนับพันต้น ดอกสีเหลืองทองส่งกลิ่นหอมอบอวน ใบพริ้วไหวตามสายลมแทบไม่น่าเชื้อว่าวิวข้างหน้าจะเป็นดินแดนปีศาจ

     "ไม่น่าเชื่อบุรุษเช่นท่านจะชอบชื่นชมบุปผาด้วย"

เย่ไหลเซียงพูดเปรย ๆ ออกมา ดวงตายังจ้องมองไปที่วิวด้านหน้าก่อนจื้อหรงจะแอบหันมามองสตรีคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ 

   

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 27

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!