งานเลี้ยงเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ของบริษัทp.y หรือบริษัทของ ปิยะทัศเองนั่นแหละ เขาแยกมาทำบริษัทเองตั้งแต่เมื่อสองสามปีก่อน คร้านไปแย่งงานกับพ่อ แค่คิดก็เหนื่อยเสียเหลือเกิน
" เจมส์ ส่งถึงมือคุณขจรไหม " งานเริ่มมาเสียตั้งนานยังไม่เห็นบุคคลเพียงคนเดียวที่เขาส่งการ์ดเชิญไปเองเลย ที่เหลือนั่นย่าเขาทั้งนั่น...
" ถึงมือครับ แต่เรื่องที่คุณปุณรดีจะมาไหม นั่นก็อีกเรื่อง " เจมส์ครุ่นคิด ว่าควรจะพูดดีหรือไม่แต่สุดท้ายก็พูดออกไป " คุณยะก็รู้หนิครับว่าพ่อแม่คุณกับคุณปุณรดี มีประวัติไม่ค่อยดีกัน... " ' ขืนมางานคืนนี้ มีหวังตีกันแน่ ' ประโยคสุดท้ายนั่นยั้งปากทัน!
" ฉันเห็นผูู้้หญิงคนนี้มาตั้งแต่ฉันยังเด็ก ฉันมั่นใจว่าเธอมา "
" ไปเห็นตอนไหนครับ? " เจมส์เอ่ยถามด้วยความงงงวย แอบไปเจอตอนไหนหรือ? เขากับคุณปิยะทัศก็โตมาด้วยกันตัวติดกัรมาตั้งแต่เด็ก คุณชายรู้จักใครเขาก็รู้จักด้วย แล้วไปเคยเจอคุณปุณรดีที่ไหน? เมื่อไหร่?
โอ้ยยยเจมส์สมองจะร่วนหมดแล้ว
" ฮึ.. "
เจอตอนอายุหกขวบ ตอนไปเรียนซัมเมอร์ที่ลอนดอล ภาพผู้หญิงคนนั้นยังติดตรึงตาเขามาถึงทุกวันนี้ จึงได้เอ่ยถามมารดาอยูาบ่อยครั้ง ว่ารูปผู้หญิงในลินชักทำงานพ่อคือรูปใคร แม้จะโดนแม่หยิกจนเนื้อเขียวก็เถอะ
แถมยังบอกว่าเป็นผู้หญิงแพศยา เคยแย่งพ่อไปจากแม่ แต่สิ่งที่เขาเห็นตอนนั้นไม่ใช่เลย มีแค่ผู้หญิงคนนึงที่วิ่งมาคว้าเด็กที่ไม่รู้จักให้พ้นจากการโดนรถชน จนตัวเองบาดเจ็บไปด้วย
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน
" เจ็บไหมเนี่ย คราวหลังต้องระวังนะ จะข้ามถนนเธอต้องดูซ้ายดูขวา และข้ามที่ทางม้าลายเท่านั่น สังเกตุสัญญาณสีเขียวสีแดงตรงนั่น เขียวเดินแดงหยุด เข้าใจไหม "
ปิยะทัศในตอนนั่น ได้แต่นั่งมองแผลที่หัวเข่าและข้อศอกของผู้หญิงตรงหน้าตาปริบๆ ก่อนที่จะยื่นมือไปกดแผลนั่นด้วยความไม่รู้
ทำเอาปุณรดี ร้องโอ๊ยเสียงดังขึ้นมา ถึงทำให้เด็กคนนั้นหยุด
" ใครเขาทำแผลกันแบบนี้ เขาใช้สำลี ใช้เอ่อ เบตาดีน แอลกอฮอล์ทำต่างหาก ว่าแต่จะฟังภาษาไทยออกเหรอว่ะ... " มาคิดได้ว่านี่มันลอนดอน ก็ตอนนึกได้ว่าตนพูดภาษาไทยกับเด็กฝรั่งเนี่ยเเหละ
แต่ถือว่าพีคเพราะเด็กตรงหน้า พยักหน้า " คนไทย "
" ดีๆ ลุกขึ้นได้แล้ว พ่อแม่เธอคงเป็นห่วงแย่ หายออกมาแบบนี้ "
" ไม่ห่วง แม่ให้มาซื้อติม " นิ้้วป้อมๆชี้ไปยังรถขายไอศกรีมอีกฝั่งของถนน ปุณรดีไม่ใช่คนใจร้ายใจดำแม้จะไม่รักเด็ก แต่ก็ทนใจร้ายทิ้งให้เด็็กตาดำๆข้ามถนนไปซื้อไอศกรีมคนเดียวได้หรอก
เลยพาไปซื้อซํ้ายังเลี้ยงด้วย เพราะเงินเด็กคนนั้นหล่นหายไปแล้ว
ตัดมาปัจจุบัน
เจมส์ที่เห็นเจ้านายตัวเองยิ้ม ก็พนมมือขึ้นทันที " ผีตนใดสิงคุณยะอยู่ได้โปรดออกด้วยเถิด " 'แต่ก่อนออกขอเลยสามตัวตรง' อันนี้ก็ยั้งปากทันนนน
" ประสาท "
โดนด่ากลับมาทีนึง มัน กระชุ่มกระชวยเสียจริง ค่อยสมกับเป็นคุณปิยะทัศขึ้นมาหน่อย พิธีไล่ผีของเขาเมื่อครู่คงได้ผล
ติดที่ไม่ได้เลขอย่างเดียว...
ใกล้ๆกับพื้นที่จัดงาน รถตู้ราคาหลังล้านถูกจอดแน่นิ่งจากคำสั่งของเจ้าของรถ อยู่นานนับชั่วโมงแล้ว ก่อนที่ขจรจะต้องรีบบอก" อีกครึ่งชั่วโมงงานจะเริ่มแล้วนะครับเข้างานตอนนั้น ฝั่งนั้นจะมองเรามาหาเรื่องน่ะครับ "
" ช่างแม่งมันสิ นี่งานลูกมันไม่ใช่งานพวกมันสักหน่อย ขืนเป็นงานพวกมันฉันไม่พาตัวไแติดเสนียดหรอก "
ขจรนะขจร ชอบพูดถึงคู่รักสองตัวบาทนั่นจริงๆเชียว หากพูดอีดนะ จะตัดเงินเดือนซะให้เข็ด!
" ครับๆ เข้างานนะครับ "
" อืม "
เมื่อรถจอดสนิท ปรากฏร่างเจ้าของรถก้าวขาออกมา ในชุดราตรีรัดรูปยาวสีเขียวขี้ม้า ท่อนบนเป็นส่ายเดี่ยวบวกกับสร้อยเพรชที่คอ และกำไลข้อมือข้อเท้าตั่งหู และ เครื่องประดับผม กับรองเท้าส้นสูงกำมะหยี่สีเขียวเข้าเซ็ต
" ชิ่งไม่เข้างานตอนนี้ทันไหมขจร.. "
" เห็นที จะไม่ทันครับ "
ที่ไม่ทันไม่ใช่เพราะเหตุใด แต่เพราะคุณหญิงนวลออเห็นเธอเข้าเเล้วนี่สิ แถมยังรีบออกมารับเธอไปเข้างานอีก
จะหนีก็คงไม่ได้ นอกจากจะเผชิญหน้า ถึงอย่างไร สองคู่ผัวเมียนั่นก็ไม่กล้าแบกหน้ามาหยามเธอหรอก มันรู้ดีว่าเธอนิสัยอย่างไร ขืนมาทำอะไรโง่ๆ ได้อายไปชั่วลูกชั่วหลานจนไม่กล้าจัดงานออกงานอีกเป็นปี
เข้ามาในงานไม่ทันไร คุณหญิงหลายท่านก็ปิดปากกระซิบกันทันที นิสัย...
" น้าคิดว่าหนูปรุงจะไม่มาแล้ว " คุณหญิงนวลออ ควงหญิงสาวที่เป็นเหมือนลูกเหมือนหลานตนมานั่งข้างๆ รอดูงานเปิดตัวไวน์ตัวใหม่ของหลานชาย
" จะไม่มาได้ยังไงละค่ะ ทั้งคุณน้าทั้งหลานคุณน้า ส่งการ์ดเชิญมาพร้อมกันอย่างนี้ ไม่มาคงเสียมารยาทแย่ "
" ตายะส่งบัตรเชิญไปหาหนูปรุงด้วยเหรอ แปลกจริง... " คุณหญิงนวลออคิดเยอะทันใดเมื่อได้ยินหลานชายส่งบัตรเชิญไปให้อดีตแฟนของพ่อ...
ธารทิพย์ที่นั้งอยู่ไม่ไกลเห็น คุณหญิงนวลออควงใครเข้ามานั่งด้วยก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาให้เห็นในทันที ถึงแม้อยากจะเก็บอารมณ์สักเท่าไหร่ แต่แม่สามีคนนี้ก็ทำเธอโกรธทุกครั้งเสียจริง
' ไม่ไว้หน้าลูกสะใภ้คนนี้เสียเลย! '
ป่านนี้คนในงานคงจะนินทาเรื่องเธอไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่แม่สามีคงจะไม่สนใจใยดีเธอนักหรอก ติดใจคนที่เกือบจะได้เป็นสะใภ้...
" ศรคุณ มานั่งนี่สิค่ะ "
" ไม่ละ ผมจะไปนั่งตรงโน่นกับเพื่อน "
ธารทิพย์กำมือแน่นทันที ก่อนจะพูดออกไปด้วยความโมโห ทั้งโมโหและอิจฉาริษยา " คุณจะไปนั่งกับเพื่อนหรือไปนั่งใกล้นังนั่นกันล่ะ!! "
" ทิพย์!! คุณอย่ามาพูดแบบนี้กับผมน่ะ! ยิ่งคุณพูดถึงปรุงบ่อยเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้ผมคิดว่าผมเลือกผิดคน!! "
" ศร!!! "
งานโชว์ไวน์ตัวใหม่เริ่มขึ้นหลังจากนั่นไม่กี่นาที คุณหญิงนวลออ ส่งแก้วที่บรรจุไวน์ตัวใหม่ของหลานชายที่ยังไม่วางขายที่ไหนให้ ปุณรดีได้ลอง แขกในงานมีไม่กี่คนนักที่จะได้ดื่ม เพราะตาหลานชายคนดี บอกจะเปิดในงานแค่ห้าขวด เทียบกับปริมานแขกแล้ว ได้แค่ไม่กี่คน ส่วนที่เหลือก็ได้ดื่มไวน์ขวดธรรมดาไป
แบ่งชนชั้นอย่างชัดเจนเลย
" เป็นไงบ้างหนูปรุง พอใช้ได้ไหม " คุณหญิงนวลออถามขึ้นหลังปุณรดี ดื่มไวน์เข้าไปอึกใหญ่
" ดีมากเลยค่ะ ปรุงชอบนะถึงจะไม่ค่อยดื่มไวน์บ่อย แต่รสชาติดีเลย หลานคุณน้านี่เก่งนะคะ " เธอเอ่ยชมตามความจริงไร้อคติใดๆ ดีก็ว่าไปตามดี นับเป็นคนมีความสามารถเลยนะเนี่ย เห็นคุณหญิงเล่าว่าคิดค้นสูตรเอง หมักเอง ทำเองอยู่หลายปีกว่าจะได้รสชาติที่ชอบ ดูใส่ใจทุกขั้นตอน สินค้ามันถึงออกมามีคุณภาพอย่างนี่
' น่าเอาไปเป็นแนวทางให้บริษัทเราบ้าง '
คนที่ได้ยินคำชมเมื่อครู่ ก็เดินมาหยุดที่ข้างหลังของคนชมทันที " ขอบคุณที่ชมครับ "
ปุณรดีหันตามต้นเสียง 'ผู้ชายคนนี้นี่นักจะมาก็มาจริงๆ ' เธอเอ่ยในใจ
" ตายะทำแบบนี้เดี๋ยวก็คลื่นไว้อาเจียนอีกหรอกเรา " ผู้เป็นย่าเอ่ยเตือนหลานทันทีเมื่อเห็นหลานเข้ามาใกล้ หาได้รังเกียจ แต่กลัวอาการประหลาดยามเข้าใกล้ผู้หญิงของหลานจะกำเริบ
" ไม่เป็นไรครับ ดีขึ้นเยอะแล้ว "
" อย่างนั้นก็ดีไป เออฝากคุณปรุงเขาแป๋บนะ ย่าจะไปหาพ่อของแกหน่อย เฮ้อ แขกเหรื่อถามหากันให้วุ่น ไม่รู้ไปอยู่ไหน! "
คุณหญิงนวลออลุกไปก็บานไป ตามประสาคนเป็นแม่ ที่ต้องบ่นลูกแม้ว่าลูกจะอายุอานามเข้าเลขสามแล้วก็เถอะ แถมยังมีลูกมีเมียแล้วด้วย
ปิยะทัศนั่งลงตรงเก้าอี้ของย่า มองขวดไวน์ที่ตั้งโชว์หราอยู่บนเวที ก่อนจะหันไปถามบุคคลข้างๆ
" คุณปรุงอยากดื่มอีกรึเปล่าครับ " เห็นซดซะหมดแก้วขนาดนั่น น่าจะถูกปากไม่ใช่น้อย แม้จะมีปริมานจำกัดแต่ สำหรับผู้หญิงคนนี้ เขาหาให้ได้เสมอ..
" นิดหน่อย..." ปุณรดีตอบแบบส่งๆ ไม่อยากเสวนากับเขามากนัก ประเดี๋ยวแม่เขาจะมาหาว่าอ่อยลูกมันเสียอีก
" ถือว่าอยากดื่มนะครับ " ปิยะทัศ เรียกนางแบบบนเวทีลงมาก่อนจะเขียนข้อความลงบนกระดาษ แทนการพูดระยะใกล้ มันชวนอาเจียน...
นางแบบสาวได้รับข้อความแล้ว ก็ส่งขวดไวน์ให้นายแบบไปให้เจ้าของไวน์ทันที ไวน์ทั้งขวดที่เหล่าคุณท่านทั้งหลายแย่งประมูลกันราวกับจะฆ่ากัน กลับมาอยู่ในมือ ปุณรดาอย่างง่ายดาย โดยไม่เสียเงินสักแดงเดียว
" คุณต้องการอะไร? " อดถามไม่ได้จริงๆ เขาไม่เห็นข่าวที่ออกกันว่อนเน็ตหรืออย่างไร ว่าเธอกับพ่อแม่เขา มีปัญหากันด้วยเรื่องอะไร เจอหน้ากันทีแทบจะฆ่ากัน แล้วเขาเป็นลูก ต้องถูกสอนมาให้เกลียดเธอราวกับขี้รึเปล่า?
" ต้องการให้ไวน์คุณ "
" กี่บาท " ปุณรดี เตรียมหยิบเช็คในกระเป๋าออกมากรอกจำนวนเงิน หากแต่โดนอีกฝ่ายลุกหนีเสียดื้อๆจนเธอต้องลูกตามไปติดๆ
ระหว่างทางเจอขจรพอดี จึงฝากไวน์ไว้กับเขาและตามไอ้เด็กบ้านั่นไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments