20 ปีผ่านไป
เสียงข่าวเช้าดังเล็ดออกมาจากลำโพง ของรถหรูที่บัดนี้กำลังจอดแน่นิ่งเพราะการจราจรติดขัดอยู่บนท้องถนน นิ้วหนาของเจ้าของรถเคาะพวงมาลัยรถราวกับอยากระบายความหงุดหงิด
รถติดมาเกือบชั่วโมงเเล้ว ไม่รู้ข้างหน้ารถติดหรือเกิดอุบัติเหตุหรือเปล่า
' ข่าวต่อไป ข่าวการกลับมาของไฮโซสาว ปุณรดี เรียกได้ว่าโปรไฟล์เธอคนนี้นั้นไม่ธรรมดาเลยนะคะ ทั้งฐานะ ชื่อเสียง และนามสกุลของเธอ
เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อนานมาแล้วนะคะ ว่าจะไม่กลับมาที่ประเทศไทยอีก จนเมื่อไม่่กี่เดือนก่อนท่านเจ้าสั่วทรงพล พ่อของเธอล้มป่วยลงถึงขั้นแอดมิทเข้าโรงพยาบาลอยู่หลายเดือนเลยค่ะ นี่อาจเป็นเหตุผลที่เธอกลับมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอีกเรื่องเลยนะคะ มาที่ข่่าวต่อไปที่เป็นกระแสไม่ต่างกัน.... '
" ปุณรดี? ชื่อคุ้นๆ " ปิยะทัศ เอ่ยพูดเสียงเบาเมื่อได้ชื่อของบุคคลที่เป็นข่าว ก่อนจะลืมมันไปเมื่อรถคันข้างหน้าเริ่มขยับเคลื่อนที่ได้เสียทีหลังหยุดนิ่ง มาราวครึ่งชั่วโมง
@บ้าน ปรเวทย์
หลังได้ข่าวคุณพ่อล้มป่วย จนเข้าห้องฉุกเฉินนอนโรงพยาบาลเกือบเดือน ฉันจึงตัดสินใจรีบจองตั๋วบินกลับมาไทยอีกครั้งหลัง ย้ายไปอยู่ที่ฝรั่งเศษ เพื่อหนีอดีตเฮงซวยที่นี้ และปฎิญาณตนไว้ว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกจนกว่าจะถึงงานศพของสองคนนั้น
แต่หากรอถึงวันนั้น ฉันคนนี้คงได้เสียใจไปตลอดชีวิตเป็นแน่ เพราะ มีลางสังหรณ์ว่าการกลับมาครั้งนี้หาใช่มาเยี่ยมพ่อ แต่เป็นการกลับมาดูใจท่านต่างหาก
ก็หวังว่าจะไม่เป็นอย่างที่คิด
เจ้าสั่วทรงพล กุมมือลูกสาวไว้แน่น ก่อนจะหันไปส่งสายตาให้พยาบาลถอดเครื่องช่วยหายใจออก จะได้เอ่ยพูดกับลููกสาวอันเป็นที่รักได้อย่างถนัด
" ปรุง... " เสียงแหบของผู้เป็นพ่อ เอ่ยเรียกชื่อลูกสาว เรียกนํ้าตาเจ้าของชื่อได้เป็นอย่างดีเมื่อเห็นว่าปีนี้พ่อดูโทรมลงไปจนไม่เหลือเคล้าโคลงพ่อคนเดิมที่เธอเคยเห็นเมื่อหลายปีก่อนเลย
" ค่ะ.. ปรุงอยู่นี่ " มือบางกุมมือพ่อมาทาบแก้ม ด้วยความคิดถึง ชีวิตนี่เธอเหลือเเค่พ่อเพียงคนเดียว พอมาเห็นท่านเป็นแบบนี้ อดใจหายไม่ได้จริงๆ
" กลับมา...อยู่บ้านเราเถอะนะลูก กลับมาอยู่ด้วยกัน พ่อรู้ว่าปรุงเจ็บ แต่ตอนนี้พ่อป่วยหนักเหลือเกิน เห็นทีจะ... " เจ้าสั่วทรงพล หยุดพูดไม่เอ่ยประโยคที่ตนคิดออกไป เพราะกลัวจะทำให้ลูกสาวร้องไห้โฮออกมา
" ได้ค่ะได้ ปรุงยอมทุกอยากเลย ขอแค่พ่ออยู่กับปรุง นะคะ " ท้ายประโยคเสียงหวานสั่น จนไม่อาจควบคุุุุุมนํ้าตาที่พากันคลอขอบตาคู่สวยได้ พร้อมใจกันไหลลงผ่านพวงเเก้มของเธอ
" บริษัทฯของพ่อ พ่อโอนให้ปรุงแล้วนะ ทุกอย่างเลย พ่อรักปรุงนะลูก "
คนเป็นลูกใจแทบสลายมองมือของผู้เป็นพ่อร่วงหล่นลงมา ก่อนสัญญาณชีพจรจะดังขึ้นตามมา
ตื้ดดด------
" ฮือๆ ปรุงก็รักพ่อ " ปุณรดีก้มหน้าฟุ่บเข้ากับฝ่ามือบิดาที่บัดนี้เหี่ยวย่น ไร้เรี่ยวเเรง จนไม่อาจประคองไม่ให้สั่น แต่ตอนนี้มือที่แสนสั่นเทาคู่นั้นได้พลักตกลงสู่เตียงนอนเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว
พร้อมกับการไว้อาลัยจากสาวใช้และนางพยาบาลรอบๆเตียง
ปุณรดีจับมือของบิดาไว้แน่น พ่อต้องอดทนทรมานแค่ไหนถึงได้รอลูกอกตัญญูอย่างเธอมาเยี่ยม ที่ผ่านมาชีวิตเธอจมอยู่แต่กับความแค้น และเรื่องราวในอดีต จนไม่สามารถทำใจกลับมาอยู่ดูแลพ่อที่ประเทศไทยได้
" พ่อ ปรุงขอโทษ " ร่างบางเอ่ยขึ้นด้วยความเศร้าเสียใจ
ทุกครั้งที่กลับมาประเทศไทย เธอมักหวนคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ จนจวนจะเป็นบ้า ถึงต้องหนีไปให้ไกล ไกลจากสองคนผัวเมียชาติชั่วนั่น
" คุณปรุงจะพักที่นี่ไหมค่ะ ป้าให้คนจัดห้องไว้ให้แล้ว " ป้าแก้ว แม่บ้านที่อยู่มาตั้งแต่เธอยังไม่เกิดเอ่ยถามขึ้น
" ค่ะ ขอบคุณที่เป็นธุระให้นะคะ "
" ขอบคุณอะไรกันค่ะ ทุกคนดีใจนะคะที่คุณปรุงกลับมา " ป้าแก้วยิ้มขึ้นราวพูดถึงคุณหนู ที่ทุกคนในบ้านมักพูดถึงอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่เรื่องวันนั้น คุณหนูของเธอก็ไม่เคยสดใสอีกเลย จนกระทั่งถึงขั้นร้องห่มร้องไห้ขอให้ท่านเจ้าสั่วส่งตัวเองไปให้ไกล ไกลจากข่าวของสองชายหญิงชาติชั่วนั่น
การกลับมาครั้งนี้ของคุณหนู จึงเป็นที่น่ายินดีมาก แม้จะมีใครอีกคนที่พึ่งจากไป
" ค่ะ " ปุณรดี แหงนหน้ามองภายในบ้าน ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด " แต่ปรุงคงไม่อยู่ที่นี่หรอกค่ะ ปรุงอยู่ไม่ได้จริงๆ "
" ทำไมละค่ะ บ้านหลังนี้คุณท่านโอนให้คุณปรุงแล้วนะคะ "
" ปรุงทำใจอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ปรุงยังจ้างทุกคนเหมือนเดิม อาจจะเพิ่มค่าจ้างให้ด้วย ตอบแทนที่ทุกคนช่วยดูแลคุณพ่อและบ้านหลังนี้ "
" โถ่คุณปรุง... คุณหนูของป้า "
" สองสามวันนี้อาจจะเหนื่อยกันหน่อยนะคะ ฝากทุกคนด้วย "
งานฌาปนกิจศพของ เจ้าสั่วทรงพลถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ไว้แค่สามวันสองคืน จัดที่บ้านตระกูลปรเวทย์ แต่ถึงแม้จะเป็นงานเล็กๆ แต่ตลอดเวลาสองวันที่ผ่านมาเเขกเหรื่อก็มาร่วมแสดงความเสียใจกันอย่างล้นหลาม แต่ ส่วนใหญ่มาหาผลประโยชน์จากงานศพพ่อเธอเสียมากกว่า
" หนูปรุง " คุณหญิงนวลออ เอ่ยเรียกบุคคลที่เป็นเกือบจะได้เป็นลูกสะใภ้ถ้าลูกชายไม่ทำเรื่องเลวทรามเอาไว้เสียก่อน ครั้งนี้เธอก็แบกหน้ามา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยินดียินร้ายกับการมาเยือนของเธอหรือไม่
เกิดโดนขับไล่ ออกไปเธอก็ไม่โกรธเลยสักเพียงนิด.. แต่ผิดคาดที่ปุณรดี กลับต้อนรับเธอเป็นอย่างดี ซํ้าไม่พูดถึงเรื่องที่ลูกชายกระทำกับเธอ ให้แม่คนนี้ต้องเจ็บชํ้า
" คุณน้า สวัสดีค่ะ "
" ได้พักบ้างรึเปล่าลูก หนูโทรมเชียว " คุณหญิงนวล ลูบแขนลูกสาวตรงหน้าอย่างห่วงใย ความเป็นห่วงของท่านแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน
จนคนที่มองถึงกับยิ้มออกมา " ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ เชิญคุณน้าในงานเลยค่ะ "
" หนูปรุงพักบ้างนะลูกเดี๋ยวสุขภาพจะแย่เอา "
ปุณรดียิ้มรับความห่วงใยจากคุณน้าคนนี้เอาไว้ ก่อนจะหันมารับแขกคนอื่นๆต่อ จนกระทั่งถึงเวลาเกือบเที่ยงคืน แขกสองคนที่ควงกันมาทำให้เธอถึงขั้นตวาดไล่อย่างไม่ไว้หน้า
" ใครเชิญพวกคุณมา!! "
" ปรุง ผมมาไหว้-- " ไม่ทันที่คันศรจะพูดจบ ปุณรดีก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน
" อย่ามาเหยียบบ้านฉันให้คนในบ้านต้องมีเสนียดติดตัวไปชั่วลูกชั่วหลาน!! ไสหัวคุณและภรรยาขอฃคุณไปซะ!! " นิ้วชี้ ชี้ไปยังประตูทางออก บ่งบอกให้แขกสองคนนี้รีบไส้หัวออกไป เธอไม่ได้เชิญ
ตอนนี้คนทั้งงานต่างหันมามอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้างาน นักข่าวน้อยใหญ่ต่างรีบเก็บภาพฉากประทับใจ ไปให้สำนักพิมพ์ของตัวเอง ข่าวนี้อาจจะเพิ่มโบนัสให้พวกเธอก็ได้ อย่างนี้ต้องถ่ายช็อตเด็ดๆให้สวย
" ปรุงเรื่องมันก็นานมาแล้-- ว้ายยย! "
ของชำร่วยถูกปาไปตรงหน้าสองสามีภรรยา ก่อนคนที่ปาจะเอ่ยไล่อีกรอบ " ไป!! ไป๊!!! " ของชำร่วยราวสิบชิ้นถูกเจ้าของงานหยิบขึ้นมาปาไล่แขก จนศันศรผู้เป็นสามีต้องโอบภรรยาพาออกจากงานไป เหตุการณ์ถึงจะสงบ
" สั่งคนมาทำความสะอาดหน่อย เอาเเอลกอฮอร์มาราดด้วย! อย่าให้เป็นเสนียดจัญไรบ้านฉัน "
" ค่ะคุณปรุง " สาวใช้รีบไปตามคนมาทำความสะอาดทันที ก่อนที่แขกคนอื่นๆจะได้รับบาดเจ็บ
รุ่งเช้าวันต่อมา ข่าวออกกันให้ว่อน ทั้งข่าวใหม่และขุดข่าวเก่าขึ้นมาเทียบเคียงกัน ถึงสาเหตุของการไล่ไม่ให้ คันศร วัญธาพักต์และภรรยาเข้าร่วมงาน ฌาปนกิจศพ ของท่านเจ้าสั่วทรงพล โดยถูกคนเป็นลูกขับไล่อย่างหมูอย่างหมา
เสียงของคนส่วนใหญ่เบนไปทางฝั่ง ไฮโซสาวปุณรดี
'ทำถูกแล้ว เป็นฉันฉันก็ไม่ยอมให้ควงกันมาเหยียบบ้านให้เป็นเสนียดหรอก!'
' สะใจจจจ '
' เอาสมองส่วนไหนคิดกัน ทำเขาไว้เสียขนาดนั้น ยังมีหน้าจะไปกราบไหว้ศพพ่อเขาอีก '
' พ่อเขาไม่ลุกขึ้นมาไล่ก็บุญแล้ว! '
ขณะที่ทางฝั่ง ปุณรดีไม่ได้สนใจ ข่าวเลย ว่าเธอจะเสียหายหรือได้แสง อะไรจากเรื่องนี้ ที่เธอสนใจอยู่จะมีแต่ควันจากการเผาร่างคุณพ่อของเธอ ที่ลอยออกมาจากเมรุ
และกอดรูปพ่อเอาไว้แนบอก ให้เหมือนกับที่ท่านเคยกอดเธอยามมีลมหายใจ
" พ่อคุณปรุง อายุเท่าไหร่ " เสียงชายปริศนาดังขึ้นจากด้านหลัง มือบางยกปาดนํ้าตาทิ้งก่อนหันไปคุยกับชายแปลกหน้า ที่อายุราวๆ ยี่สิบออ็ดยี่สิบสองได้มั้ง เด็กกว่าเธอนัก แต่กลับดูมีคลาส มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเธอเสียอีก
" เก้าสิบสามปี " เธอตอบสั้นๆก่อนจะหันไปมองควันบนยอมเมรุต่อ ไม่ใส่ใจบุคคลข้างๆ
" อายุยืน "
" คงงั้น " ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่ในใจกลับคิด ว่าเวลาของพ่อช่างน้อยเหลือเกิน ทำไมไม่อยู่ต่ออีกสักสิบปีน่ะ...
จากไปเร็ว จนเธอนึกเสียดายเวลายี่สิบปีที่ไม่ได้อยู่ดูแลท่านเลย...
ปิยะทัศ มองบุคคลข้างๆ ปุณรดีหรือปรุง... ชื่อที่พ่อมักเพ้อถึงยามเมา และเป็นชื่อแม่มักหยิกหรือดุด่าเขาเสมอยามถามถึง ผู้หญิงที่ชื่อปุณรดี เป็นชื่อต้องห้ามที่ห้ามใครพูดถึงในบ้านวัญธาพักต์
แต่ที่น่าแปลกใจ คือเหตุใดเขาอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้ได้โดยที่ไม่รู้สึกเวียนหัวหรือคลื่นไส้ อยากจะอาเจียนเฉกเช่นผู้หญิงคนอื่น แม้แต่มารดาเขาก็เข้าใกล้ไม่ได้...
หันมองอีกที ก็ไม่เจอผู้ชายคนนั้นเสียแล้ว "นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป" ซํ้ายังไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเสียเลย ลูกคุณหญิงคุณท่านบ้านไหนกัน
เสร็จงานเผาศพบิดา ปุณรดีก็เดินทางกลับมาเก็บของที่บ้าน ทำให้หลายคนในบ้านใจหาย แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยขอให้คุณหนูของบ้านอยู่ต่อ
" จะไปวันนี้เลยเหรอค่ะ คุณปรุงนอนอีกคืนได้ไหมค่ะ " ป้าแก้ว หัวหน้าแม่ผ่านขอร้องอ้อนวอนอีกครั้ง
" ป้าแก้ว..ปรุงไม่ไหวจริงๆค่ะ ปรุงไม่อยากซึมซับอะไรในบ้านหลังนี้ให้รู้สึกแย่อีกแล้ว " มือบางกำกระเป๋าเดินทางแน่น แต่ใบหน้ากลับยิ้มออกมาปลอบใจ ป้าๆ " ไว้ปรุงจะเข้ามาหาบ่อยนะคะ ยังไงก็บ้านปรุงปรุงไม่ทิ้งแน่นอน ส่วนเรื่องเงินเดือน ปรุงจะขึ้นให้ตามที่พูดไว้นะคะ ส่วนของขอบคุณเล็กๆน้อยๆ จากปรุงที่ทุกคนดูแลบ้านกันมาอย่างดี " ปุณรดียื่นซองหลายสิบซองส่งให้ป้าแก้ว ไปแจกจ่าย ก่อนที่เธอจะหันหลังและเดินออกมา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments