รัชทายาทครับ ท่านกำลังจะแต่งงานกับมาเฟีย

รัชทายาทครับ ท่านกำลังจะแต่งงานกับมาเฟีย

จุดเริ่มต้น

Prologue

งานรื่นเริงที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก เพราะสถานที่จัดงานไม่ใช่สถานที่ที่ตาสีตาสาจะเข้ามาวิ่งเล่นได้ ต่อให้มีเงินเป็นแสนล้านก็ถูกโยนออกไปได้ง่ายๆ

วงออร์เคสตรามือหนึ่งกำลังบรรเลงเพลงแจ๊ซพอให้ได้เต้นรำหรือขยับตัวเล็กน้อย แสงไฟสว่างทำให้เห็นความหรูหราของเครื่องใช้และสถานที่ระดับลักชัวรี่ที่ประดับตกแต่งด้วยสีเขียวอ่อน ผู้คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ทั้งหญิงชายแต่งกายด้วยชุดสูทชุดราตรีสีไข่ไก่และสีใบตอง

ห้องโถงโอ่อ่าตามแบบพระราชวังตะวันตก ตามพนังมีตราสัญลักษณ์ ธงชาติสีเขียวล้วนมีรูปหนังสือกางออกสีน้ำตาลตรงกลางเป็นเครื่องแสดงเอกราชของ 'รัฐชรัล’

“เราขอขอบใจพวกท่านทั้งหลายที่พร้อมใจกันมาเพื่อต้อนรับเราในวันนี้…” เจ้าของเสียงนุ่มถือไมค์โครโฟนด้วยท่าทีสง่างามสมกับที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

บันไดวนที่มีทางแยกสองทางด้านบน จุดดึงดูดสายตาติดป้ายต้อนรับการกลับมาขององค์รัชทายาทจากอังกฤษ ณ จุดกึ่งกลางบันไดปรากฏร่างเจ้าของผมดำเงา ระดับความยาวเหนือใบหู ดวงตาเล็กแบบคนจีนสีดำประกาย จมูกเล็กที่ไม่ค่อยมีสันแต่ก็รับกับใบหน้ารูปไข่ได้อย่างเหมาะเจาะ ปากจิ้มลิ้มสีเชอร์รี่ที่เป็นทรงเด่นชัด ผิวขาวเนียนละเอียดอมชมพูราวกับกินคอลลาเจนแทนข้าวเป็นอาหารหลัก เสื้อผ้าแบรนด์เนมสไตล์เจ้าชายที่ถูกตัดเย็บมาเป็นอย่างดีทั้งเสื้อเชิ้ตด้านในสีครีมขาวและเสื้อกั๊กตัวนอกสีตองอ่อน กางเกงทรงกระบอกสีนวลที่ถูกรีดให้เรียบจนขึ้นเส้น กับรองเท้าขาวขัดเงา และนาฬิกาข้อมือเรือนหลายร้อยล้าน บ่งบอกว่าผู้สวมใส่ไม่ธรรมดา

“ขอให้ทุกท่าน…” องค์รัชทายาทพูดไปยิ้มไปเห็นฟันขาวเรียงสวย สะกดทุกสายตา

“เจ้าชาย!!!” เสียงแหลมของแขกสาวนิรนามที่ยืนมองอยู่ด้านล่าง ตะโกนโพล่งขึ้นมากลางวง ไม่สนใจว่าเจ้าของงานจะกล่าวจบไหม

กึก!

บรรยากาศอันน่าภิรมย์ในงานเลี้ยง แปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ ทหารและองครักษ์น้อยใหญ่โดยรอบ จับจ้องเจ้าของเสียงแผดแหลมเป็นตาเดียว

“ไม่สิ องค์รัชทายาท ‘กรีน’ ...” สาววัยกลางคนในชุดราตรีขาว รอยยิ้มแสยะร้ายยกขึ้นเหนือริมฝีปากแดง

.......

กรีน พาร์ท

“เราขอขอบใจพวกท่านทั้งหลายที่พร้อมใจกันมาเพื่อต้อนรับเราในวันนี้…”

พวกคุณเห็นบรรดาผู้คนที่กำลังยืนฟังผมด้วยสีหน้าอันชื่นชมด้านล่างนั่นไหมครับ นั่นแหละ…คือเครื่องการันตีความสุข ที่คนรวยอย่างเดียวมีไม่ได้ ฐานะและชื่อเสียงล้วนเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กัน

ดูสายตาไม่จริงใจของเหล่าขุนนางที่ใส่หน้ากากเข้างานพวกนี้สิ ผู้รากมากดีที่วันวันเอาแต่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล พวกนั้นมองมาอย่างชื่นชมราวกับผมกำลังยิงฟ้ายิงตะวันให้พวกเขาดูอย่างนั้นแหละ

ผมจับไมค์โครโฟนในมือมั่น พูดฉะฉานไร้ซึ่งอาการประหม่าใด จนสามารถกล่าวได้ว่า ง่ายเหมือนปอกกล้วย ก็นะ...ผมเรียนวิชาบุคลิกภาพกับวิชาภาษา บ่อยกว่าวิชาเช็ดก้นอย่างวิชาบริหารเสียอีก

.

.

.

8ปีที่แล้ว...

“หลังตรงเพคะ”

คุณนายท่านทูตที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระราชาให้เป็นคนสอนวิชาบุคลิกภาพทำหน้าที่ได้ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตั้งแต่ผมอายุได้ 8 ปี ถึงตอนนี้ จนได้ฉายาว่า...

"ยัยป้าโหด" ผมบ่นพึมพำ หลังจากที่ถูกฝึกมากว่าสองชั่วโมง

"องค์ชายตรัสว่ากระไรนะเพคะ"

"..."ยิ้มน้อยๆ แล้วส่ายหัวด้วยสีหน้าเด็กน้อยใสซื่อ

"หลังตรงเพคะ"

“ครับ” หน้าเชิด ยืดหลังยืนตรง แววตามุ่งมั่นสะท้อนผ่านตาคมในกระจกบานใหญ่

“ยิ้มมากกว่านี้เพคะ รอยยิ้มห้ามตกเพคะ”

ยัยป้าโหดยืนซ้อนหลังมองผมฝึกกล่าวปราศรัยที่สะท้อนผ่านกระจกเงาในห้องซ้อมส่วนพระองค์

“ครับ”

ฟุ่บ!

“เฮ้อ…”

ผมในวัยสิบสี่ทรุดลงไปนอนกองกับพื้นไม้ทันทีที่ยัยป้าโหดปิดประตูเดินออกจากห้องไป ใบหน้าแสดงอาการเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด

“วิชาบุคลิกภาพจบตอนบ่ายสอง วิชากฎหมายตอน สี่โมงเย็น งั้นก็แปลว่า…”

ผมผุดความคิดดีๆ ตาเป็นประกายราวกับสีหน้าเหนื่อยล้าไม่เคยปรากฏมาก่อน เรี่ยวแรงที่น่าจะหมดไปแล้ว กลับเต็มเปี่ยม แขนทั้งสองหยัดพื้นลุกขึ้นวิ่งออกไปจากห้องด้วยความเร็วแสง แต่ก็ไม่วายคอยสอดส่องซ้ายขวาไม่ให้มีใครเห็น

หมับ!

ผมวิ่งหอบหลบหลังเสาปูนต้นใหญ่ แอบมองสถานการณ์ที่ลานกว้างกลางแดดตาเป็นประกาย ชายฉกรรจ์ สิบสองคน กำลังส่งเสียงอย่างห้าวหาญ ไม่มีอาการต้องการจิบชามะนาวสักนิด

“ทุกคนจับคู่สอง ฝึกด้วยดาบจริง ใครแพ้หรือมีรอยขีดข่วน งดข้าวเย็น!” ครูฝึกตะโกน

“รับทราบครับ!” เหล่าองครักษ์ตอบรับเสียงแน่น ก่อนจะแยกกันไปฝึกตามคำสั่ง

"หึหึ เรียนที่นี่จริงๆ ด้วย เรานี่จำแม่นจริง นั่นไง...สมกับที่เราแอบตั้งฉายาให้ว่าครูฝึกตุ๊ต๊ะ ขนาดสอนฟันดาบ ไขมันรอบเอวยังออกมาวิ่งเล่นเลย ฮ่าๆ" ทำสีหน้าสิ้นหวัง "ว่าแต่...เราจะมีโอกาสได้เรียนวิชาพวกนี้บ้างไหมน้า~"

ผมจำตารางเรียนต่อสู้กับฟันดาบของพวกองครักษ์ได้แม่นเสียยิ่งกว่ากฎหมายกับข้อมารยาทเสียอีก ถ้าวันไหนว่างแว็บได้สักครึ่งชั่วโมง ผมไม่มีทางพลาดแน่นอน

ผมเองก็อยากเรียนฟันดาบบ้างจังเลย อย่างเท่!

.

.

.

“ขอให้ทุกท่าน…”

ผมเพิ่งบินกลับมาจากอังกฤษหลังเสร็จพิธีรับปริญญา ไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องถ่อมาปั้นหน้าในงานเลี้ยง มิน่าล่ะ เจ้าน้องชายที่จะเรียนจบปีหน้ามันถึงทิ้งท้ายคำลาว่า โชคดีนะพี่

ผมมองบรรยากาศในงานและผู้คนแปลกหน้าเกินครึ่งที่ไม่ได้รู้จักมักจี่แต่อย่างใด

มาทำไมกันก็ไม่รู้ ไม่เห็นรู้จักสักคน มาเดินลอยหน้าลอยตาเป็นงานรับถุงยังชีพไปได้

ผมเก็บอารมณ์ไว้ในใจเหมือนการเข้าสังคมทุกครั้ง แค่ยิ้มตามที่เรียนมา พูดจาตามมารยาท ต้อนรับและเฟรนลี่กับทุกคน แค่นี้ก็เรียบร้อย

เอ๊ะ...ทำไมตาขวากระตุกถี่ๆ

กึก!

“เจ้าชายกรีน!"

ว่าแล้วว่าทำไมตาขวากระตุกดิ้กๆ

หญิงสาวในชุดราตรีสีไข่ไก่ แต่กระเป๋าที่มือขวากำลังถืออยู่สีแดงสด ราวกับไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มกำลังมองซ้ายมองขวาอย่างภูมิอกภูมิใจ

ผมหยุดพูดสคริปต์ที่ท่องมาเพียงเท่านั้นแล้วหันมองคนอยากได้ซีนอย่างตั้งใจ

"ไม่สิ…ตอนนี้องค์รัชทายาทกรีนก็จบการปกครองจากอังกฤษแล้ว องค์รัชทายาทมีแพลนจะทำสิ่งใดต่อไปหรือเพคะ”

ผมยิ้มสงบอย่างเป็นมิตร รับฟังอย่างผู้ดีมีมารยาทดีเลิศ ไม่แย่งพูด ไม่โต้แย้ง รับฟังอย่างใจเย็น แม้จะแอบจิกนิ้วโป้งตัวเองอยู่ก็ตาม

ยัยป้า ยัยมนุษย์ป้า เบ้าหน้าอย่างกับขูดแป้งทั้งโลกไปพอกไว้ แต่งตัวไม่เหมาะกับวัยเลยนะป้า คิดว่าตัวเองเป็นสาวสวยเหรอ แล้วปากกับมารยาทแย่ๆ นั่นน่ะ รับหมัดซ้ายกับหมัดขวาเป็นการสั่งสอนหน่อยไหม เผื่อนิสัยจะดีขึ้น

“ท่านพ่อของพระองค์เป็นผู้ปกครองที่แสนสง่า สุภาพ และอ่อนโยน ทักษะการทูตและการเจรจาของท่านล้วนเป็นที่กล่าวขาน ทำให้รัฐของเราเข้าสู่ยุคทองจนถึงบัดนี้”

ยิ้มฟังต่อไป ผู้คนในงานหันมามองหน้าผมเป็นระยะ คงหมายจะให้ผมแสดงอารมณ์โกรธเกรี้ยวไม่พอใจออกไป แต่เสียใจด้วย ผมไม่หลุดคาแรกเตอร์แน่นอน แม้ว่า…

หน็อยยัยป้า กล้าเอ่ยถึงเสด็จพ่อ ป้าเคยทำอะไรให้ประเทศบ้าง โมโห! สีปากนั่นน่ะ แดงน้อยไปไหม อยากให้แดงเลือดข้างในด้วยหรือเปล่า ผมช่วยได้นะป้า

ยิ้ม.

“องค์รัชทายาทคงไม่ใช่ว่า จะขึ้นครองบัลลังก์เพียงเพราะเกิดก่อน เจ้าชายเดย์ผู้น้องอย่างที่ร่ำลือใช่หรือไม่”

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!