คนโปรด 1
ในมหานครใหญ่อย่างกรุงลอนดอน สำหรับช่วงเวลายามค่ำคืน สถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบไปก็จะเป็นไนท์คลับต่างๆ ตั้งแต่ไนท์คลับสุดหรูเกรดAลงไปจนถึงเกรดC ต่างก็ได้รับความนิยมไม่น้อย
ไนท์คลับเกรดAแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในย่านท่องเที่ยวของกรุงลอนดอน ในมุมหนึ่งทางด้านหลังคลับมีคนสองคนต่างวัยกำลังยืนถกเถียงกันอย่างไม่สนใจอากาศหนาวจัดในช่วงฤดูหนาวโชคดีที่วันนี้หิมะหยุดตกไปแล้ว
“แกจะแอบตามฉันมาทำไมสมิธ ฉันบอกให้แกนอนรออยู่ที่ห้องไม่ใช่หรือไง!” หญิงสาวหน้าสวยอายุสามสิบต้นๆผลักศีรษะเด็กชายนัยน์ตาสีฟ้าอมน้ำเงินอย่างแรงจนเขาเซถลาแทบจะทรงตัวไม่อยู่
“ผมไม่อยากอยู่คนเดียว ผมกลัวนี่” เด็กชายเถียงออกไปอย่างไม่ยอมแพ้แม้ในน้ำเสียงจะสั่นอยู่มากก็ตาม
“แกจะกลัวอะไรกันนักกันหนา กับอีเรื่องแค่นี้”
“ไอ้สารเลวนั้นมันจะข่มขืนผม แม่ยังบอกว่าเรื่องแค่นี้หรอ” เด็กชายวัยสิบสองปีจ้องมองผู้เป็นแม่น้ำตาคลอ คิดไปถึงเรื่องเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เขานอนอยู่ในห้องคนเดียว แล้วถูกไอ้ไมเคิลชายผิวสีขี้ยาที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์เดียวกันงัดห้องเข้ามาหวังจะข่มขืน ดีที่เขาไหวตัวทันคว้าขวดแก้วฟาดใส่หัวมันจนล้มแล้ววิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากห้องข้างๆเขาถึงรอดมาได้ แล้ววันนี้ไอ้ชั่วนั่นก็พ้นคุกออกมาแล้ว สมิธจึงกลัวว่ามันจะย้อนกลับมาทำร้ายเขาอีก
“แล้วมันทำหรือยัง!”
“แม่จะปล่อยให้มันมาทำผมก่อนหรือไงถึงจะห่วงผมได้” เด็กชายตัดพ้อด้วยความน้อยใจ ที่ผู้หญิงที่เขารักที่สุดทำเหมือนไม่ไยดีเขาเลยสักนิด
ไม่สิ มารดาเขาคนนี้ไม่เคยสนใจไยดีเขาตั้งแต่จำความได้แล้ว เพียงแต่ให้ข้าวให้น้ำ เลี้ยงดูเขาพอถูไถไปวันๆ แต่ถึงอย่างนั้นสมิธก็รักผู้หญิงคนนี้มากๆ เขารู้ว่าแม่เหนื่อยและลำบากมากแค่ไหนที่ต้องเลี้ยงเขามาโดยลำพัง ยังดีที่รัฐบาลที่นี่ช่วยเหลือเรื่องการศึกษาและเงินค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเล็กๆน้อยๆ เขาถึงสามารถเติบโตขึ้นมาได้โดยที่แม่ไม่ต้องห่วงอะไรมากนัก
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันสะเทือนใจเขามากเกินกว่าที่เด็กอายุสิบสองปีคนหนึ่งจะรับไหว เขาอยากให้แม่ปลอบโยนเขาบ้างสักนิด ห่วงใยเขาสักหน่อย...ก็ยังดี
“เฮ้อ!แกนี่มันตัวปัญหาของฉันจริงๆ ไป!เข้าไปในร้าน” มิเชลเสยผมตัวเองอย่างรำคาญแล้วตัดบทสมิธด้วยการเดินนำไปทางประตูหลังร้าน เธอทำงานเป็นนักเต้นที่ไนต์คลับสุดหรูแห่งนี้ แต่งตัวน้อยชิ้นเต้นยั่วยวนให้ถูกใจแขกเล็กๆน้อยๆก็ได้ทิปเป็นกอบเป็นกำ ด้วยเพราะเธอยังสวยและสาวทำให้เธอเป็นตัวท็อปของที่นี่ เวลาที่ออกไปเต้นก็จะเป็นทีมละสามคนผลัดกันออกไป หนึ่งคืนเธอเต้นแค่สองช่วงเวลาเท่านั้น
“อ้าวมิเชลวันนี้พาเด็กที่ไหนมาด้วย” นาตาลีที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่เอ่ยถามเพื่อนที่เดินเข้ามาพร้อมเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักที่เดิมตามมาข้างหลัง
“นี่สมิธน้องชายฉันน่ะ วันนี้เขาไม่ค่อยสบายเลยพามาด้วย” สมิธเหลือบมองมิเชลที่พูดออกไปได้อย่างคล่องแคล่วว่าเขาคือน้องชาย ซึ่งเขาก็ชินเสียแล้วเพราะปกติเธอก็บอกแบบนั้นกับทุกคนที่ถาม เขานั่งลงตรงโซฟาเงียบๆตามที่มิเชลชี้บอก
“ว้าว!เธอไม่เห็นเคยบอกว่ามีน้องชายหน้าตาน่ารักขนาดนี้” นาตาลีหันมาให้ความสนใจกับสมิธอย่างออกนอกหน้า
“หรอ ฉันคิดว่าฉันเคยบอกเธอไปแล้วซะอีก” มิเชลพูดพลางเริ่มลงมือแต่งหน้าให้ตนเอง
“ไม่เคยย่ะ เออนี่เธอจำเรื่องยัยโรสที่ฉันเล่าให้ฟังเมื่อครั้งก่อนได้ไหม ยัยนั่นน่ะ...” หลังจากนั้นนาตาลีก็เริ่มหมดความสนใจในตัวสมิธเพราะดูท่าทางมิเชลไม่อยากจะพูดเท่าไหร่ เธอเลยเปลี่ยนเรื่องไปเม้าท์ผู้หญิงอีกคนที่ทำงานที่นี่เหมือนกันกับพวกเธอแทน
สมิธนั่งนิ่งๆไม่ได้สนใจสิ่งที่สาวสวยทั้งคู่กำลังพูดกัน แต่เขากำลังขบคิดว่าจะทำอย่างไรดีที่จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ยิ่งช่วงนี้มิเชลกลับห้องช้ามาก บางวันก็กลับมาตอนที่เขากำลังจะออกไปโรงเรียน และเขาคงจะตามมิเชลมาอย่างนี้บ่อยๆไม่ได้เพราะมิเชลคงไม่ยอมแน่ จะย้ายที่อยู่ก็รู้ดีว่าแม่คงไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาจะทำยังไงดี
สมิธนั่งขบคิดไปมาจนสมองอ่อนล้า ในที่สุดก็หลับไปด้วยความง่วงงุน มิเชลที่แต่งตัวเสร็จแล้วเหลือบมองดูลูกชายที่ขดตัวนอนบนโซฟานิดๆด้วยสายตาอ่านยาก เธอหยิบเสื้อโค๊ทตัวใหญ่ห่มให้เด็กชายก่อนจะออกไปเตรียมตัวสำหรับการทำงานโดยไม่หันไปมองเด็กน้อยอีก
สมิธคือความผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเธอ
++++++++++++++++++++
สมิธสะดุ้งตื่นขึ้นในเวลาตีหนึ่งกว่าๆ เด็กชายมองไปรอบๆห้องก็พบใคร เขาก้มมองเสื้อโค๊ทที่อยู่บนตัวเขาแล้วยิ้มออกมา จริงๆแล้วมิเชลก็คงห่วงเขาอยู่เหมือนกัน
สมิธได้ยินเสียงคุยกันแว่วๆคล้ายว่าจะเป็นเสียงของมิเชลมาจากทางด้านหลังร้านที่อยู่ติดกับห้องที่เขานอนอยู่ เด็กชายขยับตัวลุกขึ้นแล้วก้าวเดินไปตามเสียงจนกระทั่งออกมาจากประตูหลังร้าน
ภาพที่สมิธเห็นทำให้นัยน์ตาสีมหาสมุทรเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความเกรี้ยวกราดในเวลาต่อมา สมิธเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนจูบกับผู้ชายคนหนึ่งอย่างดูดดื่ม แม้จะไม่เห็นหน้าของผู้หญิงคนนั้นแต่เขาก็จำแผ่นหลังที่เขาเห็นมาเป็นสิบปีได้ เขามองคนทั้งคู่นิ่งแต่จู่ๆผู้ชายหัวทองคนนั้นกลับเหลือบสายตามาทางเขา ทำให้เด็กหนุ่มสบตากับนัยน์ตาสีเขียวเข้มนั่นเข้าอย่างจัง มันเป็นสายตาที่ทำให้เขาเกลียดผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น
สมิธกำหมัดแน่นเมื่อเห็นไอ้ผู้ชายคนนั้นสอดมือเข้าไปในเสื้อมิเชลทั้งๆที่สายตาก็ยังมองสบเขาอยู่ คล้ายๆว่ามันจะยั่วยุให้เขาโกรธอย่างไรอย่างนั้น อีกอย่างมิเชลก็ไม่ได้มีท่าทีจะขัดขืนมันเลยสักนิดนั่นยิ่งทำให้สมิธรู้สึกเจ็บใจเข้าไปใหญ่
ตอนแรกเด็กหนุ่มก็ไม่กล้าผลีผลามทำอะไรเพราะจุดที่มิเชลกับไอ้บ้าคนนั้นยืนอยู่ต่างรายล้อมไปด้วยชายชุดดำหลายคน แต่พอเห็นมันสอดมือไปในเสื้อมิเชลเท่านั้นแหละทำให้การยับยั้งชั่งใจที่มีอยู่น้อยนิดของสมิธหมดลงในทันที
“มิเชล!!!” สมิธตะโกนเสียงดังลั่น มิเชลถึงกลับสะดุ้งจนตัวโยนผละออกห่างกับคนที่เธอพึ่งจูบอย่างดูดดื่มทันที หญิงสาวหันไปมองตามต้นเสียงเป็นสมิธอย่างที่คิดและเธอคิดว่าเขาก็คงเห็นอะไรๆไปพอสมควร
สมิธโกรธจัดที่มิเชลปรายตามาทางเขาอย่างไม่ยินดียินร้ายอะไร เขาโตพอที่จะรู้เรื่องความสัมพันธ์แบบชายหญิงแล้วแต่ไม่เคยคิดว่าจะมาเห็นแม่ตัวเองทำคาตาแบบนี้ มิเชลหันไปพูดกับไอ้ผู้ชายคนนั้นสองสามคำก่อนจะเดินตรงมาทางสมิธเนิบนาบ เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าสมิธในระยะหนึ่งช่วงแขนก่อนจะฟาดฝ่ามือใส่หน้าเด็กน้อยเข้าอย่างจัง
สมิธหน้าหันไปตามแรงตบเขาเอามือกุมแก้มแล้วหันไปมองหน้าแม่ตัวเองช้าๆ ไม่บ่อยนักที่มิเชลจะตบเขาถ้าหากสมิธไม่ผิดร้ายแรงหรือดื้อมากจนไม่ฟังเธอ
น้ำตาเด็กชายคลอหน่วยตาไม่ยอมให้มันไหล เขารู้ว่าถ้ามิเชลตบเขาแสดงว่าเขาทำความผิด แต่เขาไม่เข้าใจว่าเขาทำผิดอะไร สุดท้ายน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลพราก มิเชลเดินผ่านตัวเขาเข้าไปในร้านโดยไม่พูดอะไร
เด็กชายยืนนิ่งแล้วรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าเพราะนึกขึ้นได้ว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในเหตุการณ์ด้วย สมิธมองไปยังฝั่งตรงข้ามตัวเองที่ห่างไปไม่กี่เมตร มันมองเขาอยู่จริงๆ
ใบหน้าเรียวหวานดูหล่อเหลายกยิ้มที่มุมปากอย่างอารมณ์ดี ดวงตาสีเขียวแพรวระยับสะท้อนแสงไฟยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดแปลกๆ มันขยับตัวลูกน้องชุดดำที่อยู่ข้างๆก็รีบเปิดประตูรถคันหรูแทบจะทันที
ก่อนมันจะเข้าไปนั่งในรถเขาเห็นมันเหลือบมามองเขาครั้งสุดท้ายด้วยสายตาที่ดู...น่าขนลุก
ไม่นานรถยนต์คันหรูก็ขับออกไป
เด็กชายยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองที่รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา
เพราะมัน มิเชลถึงได้โกรธเขา
สายตาและรอยยิ้มนั่น
คนอย่างมัน สมิธเกลียดที่สุด!
+++++++++++++++++++
อิพี่ลุคมึงโรคจิตป่ะเนี่ย ฮ่าๆๆ มิทตี้น้อยระวังตัวด้วย
//ช่วงแรกๆอาจจะมาสั้นหน่อยนะคะจะพยายามปรับ และช่วงสมิธวัยเด็กคนแต่งเป็นผู้บรรยายเง้อ :mew1
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments