ในใจของท่านนั้น เคยมีข้าหรือไม่
-ตำหนักหยวนซี-
แสงดวงอาทิตย์ของยามรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาในตำหนักหยวนซี พรางให้เห็นหญิงสาวร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง แสงนั้นส่องเข้ามาถึงใบหน้า ของนางจนทำให้นางต้องลุกตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย
ใช่แล้วนางคือ องค์หญิงต่านซูเหลียน พระชายาของรัชทายาท เยว่เฉินหลิง ทั้งคู่สมรสกันได้2ปี กว่าแล้ว ซูเหลียนไม่เคยได้รับความรักจากเฉินหลิงเลยแม้แต่เศษเสี้ยวของหัวใจ นางรอคอยการมาของพระสวามี วันแล้ววันเล่า........แต่ก็ไร้วี่แวว
"พระชายาตื่นแล้วหรือเพคะ" เสียงของตู้เหมิงสาวใช้คนสนิทของซูเหลียน ตู้เหมิงเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าอันสดใส ราวกับว่าวันนี้เป็นวันดีอย่างไรอย่างนั้น ใช่!วันนี้เป็นวันเทศกาลโคมลอยของแคว้นเยว่ที่จัดขึ้นในทุกๆปี และเป็นวันที่ซูเหลียนจะได้พบกับเฉินหลิงในรอบ1ปี
ซูเลียนพยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย แต่สีหน้าของนางดูโศกเศร้า นั่นเป็นเพราะวันนี้นางต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจอีกเช่นเคย ในเทศกาลโคมลอยของปีที่แล้ว เฉินหลิงไม่สนใจนางเลย เพราะเฉินหลิงสนใจแต่ "หานเสินฮวา" สนมผู้เป็นที่รักของเขา เขาได้ทิ้งซูเหลียนไว้ข้างหลังอยู่เพียงลำพัง เพราะเหตุนี้ซูเหลียนถึงมิค่อยได้อยากไปนัก
"ถ้าท่านไม่อยากไป ไม่ต้องไปก็ได้นะเพคะ ข้ามิอยากให้ท่านต้องเจ็บปวดใจอีก" ตู้เหมิงกล่าวเช่นนี้เพราะนางไม่อยากเห็นซูเหลียนต้องเป็นทุกข์เพราะผู้ชายคนนั้น "ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าควรเผชิญหน้ากับความเป็นจริง" ซูเหลียนตอบกลับ ก็จริงอย่างที่นางกล่าว
นางเป็นถึงพระชายาจะมายอมแพ้แบบนี้ไม่ได้มันไม่สมศักดิ์ศรี
ในระหว่างการสนทนาของซูเหลียนและตู้เหมิง จู่ๆประตูบานใหญ่ก็เปิดออกพร้อมกับหญิงสาววัยกลางคน นามว่า เปิ่นลี่ นางเป็นหัวหน้านางในของวังหลังแห่งนี้ เปิ่นลี่นำชุดมาถวายให้ซูเหลียนที่นางจะใส่ไปงานเทศกาลคืนนี้
"ถวายบังคมเพคะพระชายา หม่อมฉันนำชุดมาถวายให้เพคะ" ชุดที่เปิ่นลี่นำมานั้น ฮองเฮาเป็นคนจัดหามาให้ซูเหลียน
ทุกๆงานของแคว้นเยว่ฮองเฮาจะจัดหาชุดมาให้นางอยู่เป็นประจำ "เจ้านำไปวางที่โต๊ะเถิด เดี๋ยวข้าจะไปขอบพระทัยฮองเฮาเอง" ซูเหลียนยิ้มให้เปิ่นลี่พร้อมกับสีหน้าที่ดูอ่อนโยน
"เพคะ พระชายา" หลังจากสิ้นเสียงของเปิ่นลี่ นางนั้นก็นำชุดไปวางไว้ที่โต๊ะตามที่ซูเหลียนบอกและเดินออกจากห้องไป
ซูเหลียนและตู้เหมิงเดินออกมาจากตำหนัก ทั้งคู่ตรงไปที่ตำหนักหมิงจูตำหนักของฮองเฮา
ในระหว่างการเดินทางนั้นซูเหลียนได้พบกับ
เฉินหลิงและเสินฮวา "ถวายบังคมเพคะเสด็จพี่"
เสินฮวาย่อคำนับลงเล็กน้อยก่อนที่จะยืนท่าเดิม
"เสด็จพี่จะไปไหนหรือเพคะ"เสินฮวาถามต่อ
"ข้าจะไปไหนมาไหนต้องคอยรายงานเจ้าตลอดอย่างนั้นหรือ" ซูเหลียนตอบกลับ ถึงแม้ว่าเสินฮวาจะเป็นสนมที่โปรดปรานของรัชทายาท
แต่ซูเหลียนนางก็ไม่คิดจะไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
สีหน้าของเสินฮวาก็เปลี่ยนไปตอนนี้นางเกิดบันดาลโทสะอยู่ภายในใจ นางอยากจะระเบิดออกมาเสียตรงนั้นแต่ก็ทำไม่ได้
"เสินฮวาแค่ถามเจ้านางผิดตรงไหน" จู่ๆเฉินหลิงก็ตอบกลับมาเสียเอง เขาพูดด้วยนํ้าเสียงที่ดูโกรธ
สีหน้าที่ดูเย็นชา ช่างแตกต่างกับตอนที่เขาอยู่กับคนรักของเขาเสียจริง ซูเหลียนก็ได้แต่มองใบหน้าของเฉินหลิงโดยที่ไม่โต้ตอบอะไรกลับไป
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัว" ซูเหลียนตอบกลับมาสั้นๆและเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ถึงแม้นางจะไม่แสดงออกทางใบหน้าแต่ในใจของนางนั้นแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ นางต้องทนทุกข์ทรมานมาตั้ง2ปี แต่นางก็ทำอะไรไม่ได้เลย
-ตำหนักหมิงจู-
"ถวายบังคมเพคะฮองเฮา หม่อมฉันมาขอบพระทัยเรื่องชุดที่ฮองเฮานำมาให้เพคะ" ฮองเฮาหลี่ยิ้มด้วยความเอ็นดู ที่ฮองเฮาหลี่นั้นดีกับซูเหลียนเป็นเพราะความเอ็นดูและความสงสาร
ฮองเฮาหลี่รู้ว่ารัชทายาทเฉินหลิงให้ความสนใจแก่เสินฮวามากกว่าจึงทำให้ฮองเฮาหลี่ไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่นางก็ทำอะไรมิได้ "เจ้าไม่เห็นต้องมาเองเลยฝากเปิ่นลี่มาก็ได้"
"เรื่องแบบนี้หม่อมฉันต้องมาเองสิเพคะถึงจะถูก"
พร้อมกับรินนํ้าชาให้กับฮองเฮาหลี่
ฮองเฮาหลี่รักซูเหลียนเหมือนลูกแท้ๆคนหนึ่ง
ทั้งสองสนิทสนมกันมากไม่ว่าจะเรื่องอะไรฮองเฮาหลี่มักจะเข้าข้างซูเหลียนอยู่เสมอหากมีใครมารังแกนาง ขอเพียงแค่ซูเหลียนเอ่ยปากมาเท่านั้นฮองเฮาหลี่พร้อมจะจัดการให้ทุกเรื่อง นางอยากจะไถ่โทษในทุกๆเรื่องที่เฉินหลิงได้ทำกับซูเหลียนเอาไว้ แต่นางคงทำได้เพียงเท่านี้
"หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ" หลังจากที่คุยกันมาสักพักซูเหลียนก็ขอตัวกลับ "เจ้าไปเถิด" ฮองเฮาหลี่กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเป็นกันเองอย่างมาก ซูเหลียนและตู้เหมิงก็พากันออกมาจากตำหนักหมิงจูและพากันเดินกลับตำหนักหยวนซี
-ยามซวี-(19:00น.)
ซูเหลียน เฉินหลิงและเสินฮวาต่างก็พากัน ขึ้นรถม้า เฉินหลิงกับเสินฮวานั่งรถม้าคันเดียวกันตามจริงแล้วที่ตรงนั้นควรเป็นของซูเหลียนเสียด้วยซํ้าเขาทำแบบนี้ไม่ให้ไว้หน้านางเลย ซูเหลียนก็ได้แต่มองและยับยั้งชั่งใจ
รถม้าทั้งสองคันก็หยุดลงตรงตลาดเทศกาล
ทั้งสามก็ลงมาจากรถม้าและพากันเดินชมงาน เฉินหลิงเขาก็ทิ้งซูเหลียนไว้อีกตามเคย เฉินหลิงนั้นสนใจแต่เสินฮวา..ทั้งๆที่ซูเหลียนเป็นชายาของเขา เขากลับไม่เหลียวแลเลยนั่นทำให้ซูเหลียนคับแค้นใจเป็นอย่างมากแต่ความรู้สึกนั้นนางคงเก็บไว้ได้แต่ในใจ
หลังจากที่ทั้งสามเดินชมงานกันจนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ก็พากันเดินมาที่แม่นํ้าเพื่อรอดูพลุ และทันใดนั้นเองเสียงของพลุก็ดังขึ้นผู้คนล้วนต่างมองขึ้นไปบนฟ้า ในระหว่างที่ผู้คนมองพลุอยู่นั้นเสินฮวาก็ได้ผลักซูเหลียนลงไปในแม่นํ้าแต่ทว่าซูเหลียนกลับดึงเสินฮวาลงมาด้วยทั้งคู่ก็พากันตกลงไปในแม่นํ้าหลังจากที่เฉินหลิงเห็นเขาก็รีบลงไปช่วยเสินฮวาทันที เขาอุ้มร่างของเสินฮวาขึ้นมาจากแม่นํ้าและรีบตรงไปยังรถม้า "กลับวัง!!" เขาตะคอกใส่คนขับรถม้าเขานั้นเป็นห่วงเสินฮวาเป็นอย่างมากถ้าเสินฮวาเป็นอะไรขึ้นมาเขาสาบานว่าจะไม่ปล่อยซูเหลียนเป็นแน่!
หลังจากที่รถม้าของเฉินหลิงออกไปแล้วซูเหลียนก็ยังคงอยู่ในแม่นํ้า ซูเหลียนค่อยๆหมดอากาศหายใจไปทีละเล็กละน้อย นางเสียใจเป็นอย่างมากเพราะการกระทำของเฉินหลิง นางแค่หวังว่าเขาจะช่วยนางเพียงแค่นั้น แต่กลับไม่เป็นดั่งความคิดเอาเสียเลย "ช่วยด้วยเจ้าค่ะ มีคนตกนํ้า!"
ตู้เหมิงร้องเรียกให้คนมาช่วยผู้เป็นนายของตนแต่กลับไม่มีใครกล้าเสี่ยงชีวิตลงไป แต่จู่ๆก็มีชายหนุ่มโดดลงไปช่วยซูเหลียนเสียอย่างนั้น เขานำร่างของซูเหลียนที่หมดสติขึ้นมาและวางร่างของนางลงกับพื้น เขาไม่รู้ว่าจะช่วยนางอย่างไรดีแต่แล้วเขาก็นึกวิธีออก เขาโน้มหน้าลงจนเกือบติดใบหน้าของซูเหลียนและผายปอดให้แก่นาง จนซูเหลียนนั้นสำลักนํ้าออกมาและค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ "ขอบพระคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตข้า"
ซูเหลียนซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากอยู่ดีๆคนที่ไม่รู้จักกลับช่วยนางเสียอย่างนั้น "แม่นางอย่างเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย เจ้ารีบพานายของเจ้ากลับไปเถิด"ชายหนุ่มบอกตู้เหมิงให้รีบพาซูเลียนกลับก่อนที่นางจะป่วย ตู้เหมิงพยุงซูเหลียนขึ้นมาและเดินตรงไปยังรถม้า
"ชายผู้นั้นเป็นใครกัน" ซูเหลียนพูดด้วยความสงสัยเพราะนางเองก็อยากจะรู้จักชายผู้นั้นเสียเหลือเกิน นางรู้สึกถูกชะตากับชายผู้นี้เป็นอย่างมาก
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments