หลังจากนั้นน้าพิมพ์จึงพาทั้งสองไปที่หลังบ้านเพื่อไปหาพี่สาวของตน ยังไม่ทันที่จะเดินถึงท่าน้ำหลังบ้าน ทั้งสามคนได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือมาจากท่าน้ำหลังบ้าน ทำเอาพุดซ้อนรีบวิ่งสาวเท้าอย่างไว…
เมื่อมาถึงท่าน้ำหลังบ้านพุดซ้อนเห็นว่ามีเด็กผู้หญิงกำลังจะจมน้ำ ซึ่งน้าพรของเธอนั้นไม่สามารถลงไปช่วยได้ ได้แต่ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือเพราะขาของน้านั้นบาดเจ็บ พุดซ้อนเมื่อเห็นอย่างนั้นก็รีบกระโจนลงน้ำทันทีเพื่อช่วยเด็กสาว
พุดซ้อนพยามยามดำน้ำไปช่วยเด็ก สายตาไปสะดุดว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจมน้ำเช่นกัน เธอจึงรีบพยายามช่วยเด็กน้อยขึ้นฝั่งก่อน
“โถลูก ขวัญเอ๋ยขวัญมา” น้าพรปลอบขวัญลูกตัวเอง
“พุด! แกจะไปไหน ทำไมไม่ขึ้นมา” ดาวตะโกนถามเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของเธอว่ายน้ำออกไปจากท่า
“มีคนจะจมน้ำ ฉันจะไปช่วย” หลังจากพุดซ้อนตอบเธอรีบดำน้ำลงไปช่วยคนที่ตนเห็นในใต้น้ำ ทำเอาน้าของเธอสับสนและงงเป็นอย่างมากเพราะมีแค่ลูกสาวของตนคนเดียวที่ตกน้ำ
พุดซ้อนพยายามดำน้ำเพื่อไปช่วยหญิงสาวคนนั้น เมื่อเธอไปถึงตัวหญิงสาวที่ห่มสไบสีม่วงผิวพรรณสีเหลืองนวลผ่อง พอพุดซ้อนเห็นใบหน้าของหญิงสาวทำให้เธอนั้นตกใจทำตัวไม่ถูกเพราะคนที่อยู่ตรงหน้านั้นมีใบหน้าคล้ายกับเธอ ราวกับแฝด เธอพยายามสะลัดความคิดที่อยู่ในหัว แล้วรีบเร่งช่วยผู้หญิงตรงหน้าเธอ แต่ตะคริวเจ้ากรรมตอนนี้มันกำลังเล่นงานเธอเข้าอย่างจัง จะทำยังไงตอนนี้เธอพยามยามตั้งสติ แต่ฟองอากาศในปอดเริ่มพวยพุ่งออกมาจากริมปากมากขึ้นทำให้สติที่มีอยู่ตอนนี้แตกกระเจิง มวลน้ำมากมายทะลักเข้าปากและคอ เสี้ยวหนึ่งของสตินึกถึงคำทำนายของแม่หมอว่าจะจากคนที่รักไป “ตอนนี้เธอกำลังจะตายใช่ไหม?” สติที่ลางเลือนเฝ้าถามตนเอง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบ
…………………….
“คุณพุดซ้อนเจ้าขา คุณพุดซ้อนของบ่าว”
“คุณพุดซ้อนรีบตื่นเถิดหนา”
เสียงคนร้องระงมเรียกเธอให้ตื่นเป็นจำนวนมากอื้ออึงอยู่ในหู พุดซ้อนสำลักน้ำ พยายามที่จะลืมตามองผู้คนที่เรียกหาเธอ แต่ดวงตากลับพร่ามัวมองไม่ชัด ด้วยร่างกายตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงจากการที่เธอพยามยามขึ้นมาจากน้ำ เสียงผู้คนเรียกเธอดังขึ้นอีกครั้งด้วยความดีใจ ด้วยความอ่อนแรงทำให้เธอหมดสติลง…
เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงม แสงคบเพลิงส่องแสงสลัวไปทั่ว กลิ่นดอกไม้ส่งกลิ่นอวลตลบในยามค่ำคืน
หญิงสาวที่หมดสติอยู่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากความมืด สิ่งแรกที่เห็นคือคานไม้ ไม่นานเธอได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอด้วยความดีใจอื้ออึงอยู่ในหัว สายตาที่พร่ามัว เริ่มชัดขึ้น สิ่งแรกที่เธอพูดขึ้นออกมานั้นคือเธอกระหายน้ำเป็นอย่างมาก
“น้ำ ๆ ขอน้ำหน่อย”
คนที่คอยนั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ รีบนำน้ำมาให้เธอ และพยุงตัวเธอลุกขึ้นนั่งเพื่อดื่มน้ำ หญิงสาวผู้กระหายน้ำดื่มน้ำไม่หยุดหย่อน เมื่อเธอได้สติ แล้วมองสิ่งรอบ ๆ ข้าง ภาพตรงหน้าคือห้องที่มีกำแพงเป็นไม้เหมือนตัวเธอนั้นอยู่ในบ้านทรงไทยอย่างใดอย่างนั้น พอหันมามองข้างเตียง มีผู้หญิงสองคนแต่งตัวอย่างกับคนโบราณใบหน้ายิ้มดูท่าทางจะดีใจไม่น้อย
พุดซ้อนตาเบิกโต อ้าปากค้าง ตกตะลึงภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า มือที่ถือขันน้ำเล็ก ๆ อยู่ อ่อนแรง จึงทำให้ขันน้ำหล่นลงสู่พื้นเตียง เมื่อหญิงสาวสองคนเห็นอย่าง จึงรีบเข้าหาและถามไถ่ด้วยความห่วงใย
“คุณพุดซ้อนเป็นกระไรฤๅเจ้าคะ”
พุดซ้อนตกใจถัดก้นถอยหลังออกห่างจากหญิงที่อยู่ตรงหน้า ฝันหรือเปล่าเนี่ย! พุดซ้อนคิดอยู่ในใจแล้วใช้มือบิดแขนตัวเอง กลับรู้สึกเจ็บจี๊ด ทำให้เธอรู้ว่านี่ไม่ได้ฝัน หรือว่าเขาถ่ายละครกันหรือใครกำลังแกล้งเธออยู่หรือเปล่า ในหัวของพุดซ้อนมีคำถามเต็มไปหมด แต่มาคิดดูอีกทีถ้ามีคนแกล้งเธอจริงก็ต้องได้ยินเสียงรถลาวิ่งผ่านไปมาบ้าง แต่นี้กลับไม่มีเสียงอะไรเลยมีแต่เสียงจิ้งหรีดร้องอยู่ระงม
เย็นเมื่อเห็นนายของตนมีท่าทีตื่นใจกลัวถึงถามด้วยความสงสัย
“คุณพุดซ้อนเป็นกระฤๅเจ้าคะ มิสบายเนื้อสบายตัวตรงไหนฤๅไม่เจ้าคะ”
“ไม่ ฉันไม่ได้เป็นไร”
พุดซ้อนตอบกลับเมื่อเห็นว่าสองคนนั้นดูไม่มีพิษภัยอะไร ไม่ได้จะทำอะไรเธอจึงเขยิบเข้ามาใกล้ ๆ ผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงหน้า
“ที่นี่ที่ไหนหรอพี่”
เมื่ออุ่นและเย็นได้ยินคำถามที่นายของตนถามต่างมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่งุนงง
“ก็หอนอนของคุณพุดซ้อนไงเจ้าคะ”
“หอนอน… ของฉัน”
พุดซ้อนชี้มาที่ตัวของเธอแล้วย้ำคำพูดที่คนตรงหน้านั้นบอก ‘แต่เอ๊ะ! สองคนนี้รู้จักชื่อเราได้ไง’ พุดซ้อนคิดอยู่ในใจ สงสัยทำไมผู้หญิงสองคนนี้ถึงรู้จักชื่อเธอกันนะ
“อีอุ่นมึงรีบไปเรียนคุณท่านแลคุณหญิงว่าคุณพุดซ้อนฟื้นแล้ว”
“พี่จะไปไหน!”
พุดซ้อนละความสงสัยที่อยู่ในหัว เมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งคลานถอยหลังเหมือนว่าจะไปที่ไหนเธอจึงทัก ทำเอาอุ่นสะดุ้ง และรีบก้มหน้าหมอบลงกับพื้น
“บ่… บ่าว จะไปเรียนคุณท่านแลคุณหญิงว่าแม่นายฟื้นแล้วเจ้าค่ะ”
“ไม่ต้อง ๆ “
“ฉันมีเรื่องสงสัย และอยากจะถามพี่ทั้งสองของคนหลาย ๆ เรื่อง”
“ถามพวกบ่าวฤๅเจ้าคะ”
พุดซ้อนพยักหน้าตอบกลับทันที
“ก่อนอื่นฉันยังไม่รู้จักพี่สองคน พี่สองคนชื่ออะไรเหรอ?”
อุ่นและเย็นมองหน้ากันงงเป็นไก่ตาแตกแม่นายของพวกเธอที่เพิ่งจมน้ำมา กลับจำอะไรไม่ได้ แม้กระทั้งชื่อบ่าวคนสนิททั้งสอง
“แม่นายเป็นกระไรฤๅเจ้าคะ ไยถึงจำบ่าวมิได้ บ่าวอีอุ่นเจ้าค่ะ”
“ส่วนบ่าวอีเย็นเจ้าค่ะ”
“ฉะ..ฉัน”
‘ไม่สิ สมัยนี้แทนตัวเองว่า ข้า’ พุดซ้อนคิดอยู่ในใจ เพื่อที่จะให้ตนเองกลมกลืนไปกับคนในยุคสมัยนี้ก็ต้องใช้ภาษาตามยุคตามสมัยที่อยู่
“ข้า.. จมน้ำมาใช่มั้ย”
“ใช่เจ้าค่ะ” บ่าวทั้งสองตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน
“ใช่! ข้าจมน้ำมา ข้าตกใจมาก ๆ เลยทำให้ขวัญของข้ากระเจิดกระเจิง เลยจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้เลย… ไม่สิ ไม่ใช้จำอะไรไม่ได้เลย ก็พอจำได้บ้างนิดหน่อยน่ะ” พุดซ้อนทำท่าทาง ชูมือชูไม้สองข้างตอนขวัญกระเจิง เมื่อพูดจบก็ยิ้มหวาน ตาหยีให้บ่าวสองคน
“เจ้าค่ะ”
“เออ… คือว่าที่นี้มีใครอยู่บ้างนอกจากข้า แล้วคนเหล่านั้นมีชื่ออะไรบ้าง”
พุดซ้อนถามบ่าวทั้งสองเพื่อเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดว่าบ้านที่ตนอยู่นั้นมีใครบ้าง เพื่อที่จะทำตัวให้กลมกลืนกับคนเหล่านี้ได้ถูก
“ไหนบอกว่าจำได้นิดหน่อยไงเจ้าคะ”
“ก็ข้าลืมนิ”
จากนั้นเย็นและอุ่นเริ่มสาธยายว่าบ้านหลังนี้มีใครอยู่บ้าง
“ขอบคุณมากพี่ข้าจะได้ไม่ทักผิดคน… เอ้อ! แล้วก็อย่าบอกใครนะว่าข้าจำอะไรไม่ได้ เข้าใจมั้ยพี่!"
“เจ้าค่ะ… แลคุณพุดซ้อนมิต้องเรียกบ่าวสองคนว่าพี่ดอกหนาเจ้าคะ เหาจักกินหัวบ่าวสองคนเอา”
“เหาไม่กินหัวพี่สองคนหรอก คิๆ”
พุดซ้อนพูดพลางขำคนที่อยู่ตรงหน้าทำหน้าละห้อยแล้วเอามือเกาหัวกันยิก ๆ ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนจากนอกห้องดังขึ้น…
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 8
Comments
ฟิวแห่งแสงจันทรายามค่ำคืน☆
อัพ
2023-05-30
0