ฉันเดินไปสุดทางจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าห้อง 809 ฉันเคาะประตูสองที
“มาแล้วค่ะ”
เงียบ....
“คุณกันตา”
เมื่อเงียบอีกครั้ง เคาะเรียกและเธอไม่ได้ยิน ฉันจึงลองโทรหาอีกรอบแต่ก็ไม่รับสาย ฉันยิ้มมุมปากก่อนจะมือขึ้นสองข้างตีรัวเหมือนตีกลอง ฉันตีเป็นจังหวะด้วยนะ ไม่มั่ว คนมันมีดนตรีในหัวใจก็เงี๊ยะ ทำจังหวะไปได้สักพักจึงเริ่มหลับตาด้วยความมันในความสุนทรีย์ของตัวเอง
จากไม้บานแข็งกลายเป็นนิ่มยวบยาบเมื่อฉันเคาะลงไปอีกครั้ง ฉันจึงลูบ ๆ คลำ ๆ และบีบ จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องโวยวายดังลั่นจนขี้หูแทบจะเต้นระบำออกมาสู่โลกภายนอก
เมื่อฉันจึงลืมตาขึ้นมองก็เห็นกันตาอยู่ตรงหน้าและเลื่อนสายตาลงมาก็พบว่ามือฉันกำลังกำหน้าอกเธอ ฉันสะดุ้งตกใจมือจึงลั่นบีบแถมไปอีกหนึ่งที
“กริ๊ดดดดดดดดด!!” กันตาร้องขึ้นมาอีกรอบ
“อุ่ย โทษทีค่ะ” ฉันยิ้มหน้าแหยพลางค่อย ๆ เลื่อนฝ่ามือของตัวเองมาเก็บไว้ข้างลำตัวตามเดิม
“กริ๊ดดดดดดดดด!!”
“คุณเลิกร้องได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นก็นึกว่ามีคนตายหรอก” ฉันรีบตีเนียนลืมเรื่องที่บีบนมเธอ และรีบดึงตัวเธอเข้าห้อง และกันตายังคงกริ๊ดอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งนอกและในห้อง
“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”
ฉันหันไปมองหน้าเจ้าของห้อง จ้องหน้าเธอ ส่งสายตาโทษว่าเป็นเพราะเธอเสียงดัง
และเธอก็จ้องฉันกลับด้วยสายตาที่กำลังโทษฉันไม่แพ้กัน
“ไม่มีอะไรค่ะ” ฉันตอบออกไปโดยที่มือกำลังอุดปากกันตาไว้
“อ๋อยยยยยย (ปล่อยยยยย) ” กันตาร้องอู้อี้
“พอดีผมขึ้นมาตรวจพอดี ไม่มีอะไรให้ช่วยจริงใช่ไหมครับ ผมขอเช็กให้แน่ใจ คุณช่วยยืนยันได้ไหม ผมห่วงเรื่องความปลอดภัย”
“ปกติคอนโดคุณเป็นแบบนี้เหรอ” ฉันหันไปถามกันตาและเธอก็พยักหน้าหงึก ๆ
ฉันจึงปล่อยมือออกและตรงไปส่องตาแมว
“อี๋! แหวะ ๆ” กันตาหยิบทิชชูเปียกมาซับปาก
“คนนี้ยามที่นี่ใช่ไหม” ฉันกวักเรียกเธอมาดูให้มั่นใจ
“ใช่”
เมื่อกันตายืนยัน ฉันจึงแง้มประตูเปิดและยิ้มให้เขา
“คุณคือ….” เขามองฉันสลับกับกันตาไปมา คงสงสัยว่าฉันเป็นใครมาจากไหน
“ผู้จัดการอีกคนของคุณกันตาค่ะ”
และเขาก็มองไปที่ดาราสาวเพื่อขอคำตอบ
“ใช่ค่ะ ผู้จัดการตาเอง พอดีเมื่อกี้ตาเจอแมงมุมน่ะค่ะ เลยตกใจนิดหน่อย” กันตาโกหกออกไปเพราะอยากให้เรื่องมันจบ ๆ เธอไม่อยากยืนคุยกับคนแปลกหน้าที่ยืนอยู่หน้าห้องนานเท่าไหร่
“ครับ งั้นผมไม่รบกวนแล้ว มีอะไรให้ช่วยแจ้งได้ครับ ขอบคุณครับ”
จากนั้นเขาก็เดินไปตรวจตราที่อื่นต่อ
“คุณน่ะร้องโวยวายเสียงดังรบกวนชาวบ้าน เห็นมะคนเขาแตกตื่นกันหมด”
“นี่ ๆ แล้วต้นเหตุมาจากใครกันถ้าไม่ใช่เธอ เธอน่ะไม่รบกวนชาวบ้านเล๊ย เคาะประตูห้องฉันยังกับเปิดคอนเสิร์ตแล้วยังจะมาบีบ!”
“ไปกันยังคะ” ฉันไม่ต่อความยาวสาวความยืด
“ทาลิปก่อน” กันตาเดินไปที่หน้าเครื่องแป้งและหยิบลิปสติกขึ้นมาทา
“ก่อนหน้านี้ปากยังแดงอยู่เลยทำไมซีดเร็วจัง” ฉันสงสัยจึงถามออกไป
“ก็เพราะใครล่ะ” เธอสวนกลับและใช้หางตาเหล่ตามอง
“ใครคะ”
“เธอนั่นแหละยัยโจรตกทอง!”
“ฉันเกี่ยวอะไร ยังไม่ทำอะไรเลยนะ”
“ฉันจะบอกให้ฟัง เธอเอามือสกปรกโสโครก เต็มไปด้วยเชื้อโรคมาโดนปากฉัน ฉันก็ต้องลำบากเช็ด”
“ฉันอาบน้ำก่อนมาเถอะ!”
“อาบก็จริง แต่กว่าจะมาถึงที่นี่มือเธอก็จับอะไรต่อมิอะไรมามากมายจะให้เรียกว่าสะอาดได้ยังไงกัน จิ๊!” จากนั้นกันตาถือกระเป๋าก่อนเดินออกนอกห้อง “ออกมาสิ ยืนรออะไร ฉันจะล็อกห้อง”
ฉันว่ายัยนี่อาการหนักกว่าคุณยิหวา จากที่เคยฟังกองฟางเล่าเรื่องของคุณยิหวาในช่วงแรก ๆ ที่สองคนนั้นยังไม่รักกัน ฟังดูก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แต่ยัยนี่หนักกว่าหลายร้อยเท่า!!
แล้วตอนนั้นกองฟางเนี่ยชมกันตาใหญ่เลยว่านิสัยดี๊ดี โลกมายาเชื่ออะไรใครไม่ได้เลยจริง ๆ
.
.
.
.
“ไหนรถตู้ของฉัน ทำไมเอารถเธอมา” กันตาเอ่ยขึ้นเมื่อพบว่ารถที่เธอต้องนั่งไปกองไม่ใช่รถตู้ส่วนตัวของตัวเอง
“ก็งานนี้มันเร่งรัด ตอนแรกคิดว่าคุณจะว่าง คุณโทรมาบอกฉันตอนเย็น เห็นว่าเป็นเวลาเลิกงานก็เลยเกรงใจ ฉันเลยไม่ได้นัดคนขับของคุณ”
“เป็นคนขี้เกรงใจซะด้วย จะสามทุ่มหรือตีสอง เธอก็โทรบอกทางนั้นได้ทุกเวลานั่นแหละ”
“ปกติคุณโทรไปเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ งานฉันมันกำหนดเวลาไม่ได้หรอกนะ”
ฉันว่าเธอคงจามวันละหลาย ๆ รอบชัวร์ คงโดนด่าในใจแทบทุกเวลา ฉันคิดยังไม่ทันจบเธอก็จามขึ้นมา ทำเอาฉันหลุดขำ
“ฮัดชิ่ว! ฮัดชิ่ว! .... รถเธอเคยล้างบ้างไหม”
“เคย น่าจะหกเดือนที่แล้วหรือมากกว่านั้นนะ....”
“สกปรก! เปิดให้หน่อย” กันตาชี้ไปที่ประตูหน้า ก่อนหน้านี้เธอส่องหลังรถเป็นที่เรียบร้อยแล้วและพบว่ามันยังคงรกเหมือนคราวก่อน
สาบานเลยว่าครั้งหน้าถ้ารถของใบข้าวยังคงมีสภาพแบบนี้อยู่ เธอยอมนั่งแท็กซี่ยังดีเสียกว่า
“ฉันมาเป็นผู้จัดการค่ะไม่ใช่คนรับใช้” ว่าจบฉันก็อ้อมไปนั่งฝั่งคนขับและมองดูว่ากันตาจะทำยังไงต่อ
เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนสีขาวมีลายลูกไม้ตกแต่งขอบนิดหน่อยขึ้นมาสะบัดสองสามที ก่อนจะใช้มันเป็นตัวกลางในการจับประตูรถและเปิดมันออก เข้ามานั่งและใช้ผ้าผืนเดิมกับที่เปิด ปิดประตู ก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า หยิบเจลล้างมือขึ้นมาถูทั่วฝ่ามือ เท่านั้นยังไม่พอเธอยังคงหยิบแมสขึ้นมาปิดอีกด้วย
ฉันนั่งมองการกระทำของเธออย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก รู้แต่ว่าเธอคงเป็นพวกรักความสะอาดสุด ๆ สงสัยเรื่องนี้คงต้องจดลงสมุด
“มองอะไร ออกรถสิ เดี๋ยวไปสาย”
แหนะ หันมาแขวะฉันอีก
“ค่ะ ไปแล้วค่ะ”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 29
Comments