“กริ๊ดดดดดดด!” กันตาร้องอย่างเสียสติใส่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง ไม่ใช่เพราะอะไรที่ไหนแต่เป็นเพราะถูกตัดสายใส่อีกแล้วนั่นเอง
ยังไงวันนี้เธอก็ต้องบอกกฎข้อนี้เป็นข้อแรกให้ใบข้าวรับรู้ว่าห้ามตัดสายเธอเด็ดขาด! เธอต้องเป็นคนวางมันก่อนเท่านั้น
กันตานั่งขัดสมาธิ หลับตา สูดลมหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ และพ่นล่มออกจากปากเพื่อเป็นการระบายให้ใจเย็นขึ้น
เมื่อรู้สึกว่าเริ่มสงบได้แล้วจึงต่อสายหานิติคอนโด
“สวัสดีค่ะ ตาเองนะคะ”
[มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ]
“คือว่าผู้จัดการอีกคนของตาจะมาที่นี่ ช่วยบอกให้เขาขึ้นมาหาตาที่ห้องด้วยนะคะ”
[ครับผม ผมขอทราบลักษณะด้วยครับ ผมไม่เคยเจอใช่ไหมครับ]
“ใช่ค่ะ เขาไม่เคยมาที่นี่ ลักษณะก็ผู้หญิงตัวเตี้ย ๆ หน่อย ผมน่าจะมัดรวบ”
กันตาพยายามนึกภาพของใบข้าว
“เอาเป็นว่าคนที่แต่งตัวไม่ค่อยเหมาะกับที่นี่ค่ะ เห็นแล้วเดี๋ยวรู้เอง”
เธอบอกไปแบบนี้น่าจะง่ายต่อการสังเกตมากกว่า
[รับทราบครับ ผมขอทราบชื่อด้วย]
“ยัยตกทอง… เอ้ย! ใบข้าวค่ะชื่อใบข้าว”
[ครับ สวัสดีครับ]
หลังจากโทรบอกนิติบุคคลเรียบร้อยแล้วเธอก็วางสายด้วยความสบายใจ เธอกลัวว่าใบข้าวจะถูกกันห้ามไม่ให้เข้าคอนโด
จากนั้นเธอจึงตรงไปนั่งที่หน้ากระจกและแต่งเติมสีบนใบหน้าเพิ่มเล็กน้อย
.
.
.
“ตรวจบัตรด้วยครับ” ยามหน้าคอนโดของกันตาเอ่ยขึ้น
ฉันไม่มีบัตรให้เขาตรวจด้วยนี่สิ
“คือ… มารับคุณกันตาไปงานค่ะ”
ยามหน้าใหม่ที่ไม่ใช่คนเดิมกับเมื่อคราวก่อนหรี่ตามองหน้าฉัน
“คุณเป็นใคร ผมไม่เคยเห็นมาก่อน”
นั่นไง! ฉันเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งที่สองเองจะเคยเห็นได้ยังไงล่ะ
“ผู้จัดการค่ะ”
“มั่ว ๆ เดี๋ยวนี้มีคนตีมึนแอบอ้างตีสนิทคนดังเยอะ เป็นนักข่าวสิเราน่ะ ไป ๆ กลับไป” เขาโบกมือไล่ฉันอย่างไม่สบอารมณ์
ลุงนี่แม่นเว้ย ใช่ฉันเป็นนักข่าวแต่ตอนนี้เป็นผู้จัดการดาราด้วย
“เป็นผู้จัดการจริง ๆ ค่ะ”
“พูดไม่ฟังเดี๋ยวจับโยนออกซะหรอก อย่าหาว่าผมไม่เตือน”
“เอางี้ แป๊บนะลุง” ฉันค้นหาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋าผ้าและกดโทรออกหากันตา คนที่จะช่วยเคลียร์ให้ได้
“โทรหาคุณกันตา” ฉันบอกลุงยามที่นิ่วหน้ามองฉันอย่างไม่วางตา
ปลายสายไม่มีคนรับ ฉันจึงโทรอีกรอบ
ทีแบบนี้ล่ะไม่รับ ก่อนหน้านี้โทรจิกจัง
“เอ้าตกลงยังไง มั่วใช่ไหม!” ลุงยามทำหน้าขึงขังและเปิดประตูออกมาจากป้อมยาม คาดว่าพร้อมจับฉันโดนออกจากเขตคอนโด
ฉันจะพูดยังไงดีว่าฉันเป็นผู้จัดการจริง ๆ หน้าตาฉันมันไม่ให้ขนาดนั้นเลยเหรอ
“ลุง หนูพูดจริ๊งงงงงง”
และก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “มีไรกัน”
“มีคนมาอ้างว่าเป็นผู้จัดการของคุณกันตา คิดว่าไม่รู้เหรอว่าผู้จัดการหน้าตาเป็นยังไง มาหลอกคนแก่ หน็อย!” ลุงหันไปคุยกับเพื่อนยามด้วยกันก่อนจะใช้คำพูดลอยกระแทกหน้าฉัน
“เอ๊ะ ใช่คนที่มากับคุณกันตาเมื่อวานใช่ไหม”
ลุงที่เดินมาใหม่ทักขึ้น ส่วนฉันก็รีบตอบแกทันที
“ใช่ค่ะ! หนูเอง” ทางรอดของฉันอยู่ตรงหน้าแล้ว ขอบคุณลุงมากนะคะที่มาได้จังหวะพอดี เดี๋ยวคราวหน้าฉันซื้อเครื่องดื่มชูกำลังมาฝากนะลุงนะ
“จริงเหรอ แน่ใจนะ” ลุงที่กำลังจะเดินเข้ามาประชิดตัวรถหันไปถามย้ำเพื่อนเพื่อความแน่ใจ
“จริง ไม่มั่ว แบบนี้มีคนเดียวเท่านั้นแหละแถวนี้ จำง่าย”
เอ๊ะ? ลุงชมฉันอยู่ใช่ไหม
“เข้าไป ๆ วันหลังหาอะไรมายืนยันตัวตนด้วยแล้วกัน เผื่อเจอคนอื่นอยู่เวร มันจะวุ่นวายอีก” จากนั้นลุงก็เข้าไปกดปุ่มเปิดแขนกั้นรถยนต์ขึ้น
“ค่ะลุง ขอบคุณนะคะ”
หลังจากที่ฉันเสียเวลาอยู่หน้าทางเข้านานพอสมควร ตอนนี้ฉันได้เข้ามาในตัวตึกแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกรึเปล่า
แล้วเนี่ยทำไมเธอไม่รับสายฉันสักที ส่งข้อความไปก็แล้วไม่เห็นมีวี่แววว่าจะปรากฏตัวให้เห็น
ฉันเงยหน้ามองไปรอบ ๆ เพื่อจะหาที่นั่งรอ แต่แล้วได้ไปสบตาผู้ชายคนหนึ่งเข้าและเข้าก็เดินตรงเข้ามาทางฉัน
นั่นไง ฉันว่าฉันซวยอีกแล้วแน่ ๆ
“ใช่คุณใบข้าวใช่ไหมครับ” เขาถามอย่างสุภาพ
“เอ่อ...ค่ะ”
“พอดีว่าคุณกันตาบอกผมให้บอกคุณขึ้นไปหาเธอที่ห้องน่ะครับ”
“ว่าแต่ห้องไหนชั้นอะไรคะ”
“สักครู่นะครับ ตามผมมาหน้าเคาน์เตอร์ ผมขอดูข้อมูลก่อน” เขากดหาข้อมูลในคอมเมื่อเจอแล้วก็แจ้งกับฉัน “809 ครับ ชั้นแปด เดินไปสุดทาง”
ระหว่างขึ้นไปที่ชั้นแปด ฉันก็มองสำรวจรอบ ๆ ภายในตัวคอนโดของดาราสาว
“หรูจริง หรูจัง ชาตินี้ฉันจะมีปัญญาได้อยู่ที่นี่ไหมเนี่ย” ทุกอย่างภายในเงาวับเหมือนเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อวาน การตกแต่งเรียบหรูดูแพง ผู้คนอาศัยที่เดินผ่านไปมาก็ดูเนี้ยบทั้งนั้น เอาเป็นว่าพนักงานทุกคนที่นี่ก็ดูดีไปด้วย ถ้าฉันเอาตัวเองไปยืนคู่กับพนักงานทำความสะอาด ฉันดูตัวเล็กไปเลย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 29
Comments