“คอนโดคุณไปทางไหนคะ บอกทางฉันด้วยอย่าเพิ่งหลับ” ฉันสะกิดไหล่กันตาในขณะที่เธอกำลังเอนตัวและหลับตาลง
“ถามอะไรคนจะนอน”
“เอ๊ะ! แล้วฉันจะรู้ไหมว่าคุณพักอยู่ที่ไหน”
ฉันปล่อยมือออกจากพวงมาลัยเมื่อเห็นว่ารถกำลังติดไฟแดง จากนั้นจึงเอี่ยวตัวและใช้นิ้วชี้และโป้งของตัวเองถ่างตาของเธอออก
“โอ๊ย ทำอะไรของเธอ!” กันตาสะดุ้งขึ้นมานั่งตัวตรงจ้องหน้าฉันด้วยอารมณ์โมโห
“ก็ทำให้คุณลืมตาขึ้นมาบอกทางฉันไง ฉันไม่เคยไปจะรู้ไหมว่าไปทางไหน”
เดี๋ยวเอาไปทิ้งวัดซะนี่
“รู้แล้ว ๆ จำให้แม่นแล้วครั้งต่อไปจะได้มาถูก ฉันขี้เกียจพูดเยอะ เจ็บคอ”
จากนั้นกันตาก็ตั้งใจบอกทางฉันเป็นระยะ ๆ?
“ตรงไปแล้วเลี้ยวขวา”
“เลี้ยวตรงนี้เลยใช่ไหมคะ”
“อือ” เธอหลับตาตอบ
และในขณะที่ฉันกำลังจะหมุนพวงมาลัยนั้น….เธอได้หรี่ตาขึ้นมามองทาง
“ไม่ใช่! เลี้ยวข้างหน้าอีกล็อก ไม่ใช่ตรงนี้”
“ฉันถามคุณแล้วนะ!” ฉันหันไปขึ้นเสียงใส่ “เลี้ยวมาแล้วด้วย”
“ทางมันก็อ้อมไปตรงอื่นได้ ทำเป็นโวยวายไป”
“คุณลืมตาขึ้นมาเลยนะ”
เมื่อเห็นว่ากำลังติดไฟแดงฉันจึงเอี้ยวตัวไปถ่างตาของกันตาให้เบิกขึ้นมามองทาง
“โอ๊ย! อีกแล้วนะ!” กันตาหันขวับมาจ้องตาเขม็งอีกครั้ง
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้ทาง”
“ตรงไปเลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกนิดก็ซ้ายและก็ซ้ายอีกที จากนั้นก็ตรงไปเรื่อย ๆ จะเจอคอนโดหรู ๆ สูง ๆ สุดในย่านแล้วเลี้ยวเข้าไปเลย แล้วบอกยามว่ามาส่งฉัน แค่นี้แหละ” กันตาหันกลับและเอนหัวลงตามเดิม
“… ซ้าย ซ้ายแล้วซ้ายจากนั้นก็คอนโดหรู ๆ สูง ๆ” ฉันทวนความจำ
“ตกลงจำได้นะ”
“ได้”
จากนั้นฉันก็ขับไปตามทางที่เธอบอกเมื่อครู่ เลี้ยวซ้าย ซ้ายและเลี้ยวซ้าย จนกระทั่ง….
“นี่มันที่เดิม”
ฉันกวาดสายตามองตึกรามบ้านช่อง… เป๊ะ เหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพื้ยน
“ฉันขับตามที่คุณบอกแล้วทำไมถึงย้อนกลับมาที่เดิมได้”
“อือ”
“อือ? แล้วยังไงต่อ”
“ตรงไปสิ เห็นตึกตรงนั้นไหม เลี้ยวเข้าไปเลย” กันตายกนิ้วชี้ไปยังทางข้างหน้า เมื่อฉันมองตามไปก็เจอตึกสูงหรู
“เดี๋ยวนะคุณ แต่เมื่อกี้คุณบอกว่าเลี้ยวผิด แกล้งฉันเหรอ!”
“ลืมนิดหน่อย”
ฉันว่าเธอแกล้งฉันแน่นอน คนอะไรจะจำทางกลับคอนโดตัวเองไม่ได้
“ตกลงใช้คอนโดคุณจริงหรือเปล่า”
“ก็บอกว่าลืมไง คนเพิ่งย้ายมาไม่ถึงปี แถมไม่ได้ขับรถเอง ใครจะไปจำได้” กันตาทำหน้านิ่งข่มสีหน้าของตัวเองเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ว่ากำลังโกหก
ฉันกลอกตามองบน… เปลืองน้ำมันรถชะมัด!
ฉันผ่อนคันเร่งและจอดหน้าทางเข้าให้ยามรักษาความปลอดภัยของคอนโดตรวจเช็ก
“มาส่งคุณกันตาค่ะ” ฉันเลื่อนกระจกบอกพร้อมชี้ไปทางเธอเพื่อยืนยันตัวตน
“เชิญครับ” เขาตะเบ๊ะก่อนกดปุ่มแผงวงจรและแขนกั้นรถยนต์ก็ยกขึ้น
ฉันขับเข้าเทียบหน้าคอนโด เปลี่ยนเกียร์ไปที่ N
ฉันนั่งนิ่งรอกันตาลงจากรถ แต่เธอก็ยังคงนั่งเฉย
“เชิญค่ะ!” ฉันย้ำบอก
“ไม่คิดจะลงไปเปิดประตูเหรอ”
“คุณพิการเหรอไง ถ้าไม่ลงก็กลับกับฉันแล้วกัน” ว่าจบฉันจึงเปลี่ยนเกียร์เร่งคันเร่ง
“ลงแล้ว! ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้าฉันไม่เพลีย ฉันไม่มีวันยอมแน่! โอ๊ย!!” กันตาพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดสุดขีด เธอเปิดประตูลงไปพร้อมเดินจ้ำเข้าคอนโดไป แต่ไม่นานก็ย้อนกลับมา
“ว่า?” ฉันเลื่อนกระจกลงถาม
“สมุดตารางงานฉัน อ่อพรุ่งนี้ฉันไม่ไปไหนจะพักผ่อน แต่ถึงยังไงเดี๋ยวโทรบอกอีกที” จากนั้นกันตาก็หายลับเข้าไปในตัวอาคาร
ฉันวางสมุดในมือที่รับมาจากเธอวางไว้ข้างเบาะ
“วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว.. งั้นเข้าบริษัทแล้วกัน” ฉันก้มดูเวลาจากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังที่ทำงาน
.
.
.
.
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะ” เจ้าหน้าที่ของคอนโดกล่าวทักทายด้วยความยินดีเมื่อเห็นกันตาหายดีและออกจากโรงพยาบาล หลังจากที่เธอได้ฟังข่าวก็ตกใจมาก
“ขอบใจจ้ะ”
“หายดีแล้วใช่ไหมคะ ตอนที่ฉันได้ยินข่าวในทีวีตกใจมากเลย” เธอพุ่งตัวเข้าโอบมือกันตาไว้
“เอ่อ…” กันตาข่มอารมณ์ที่อยู่ ๆ ก็ถูกสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งตัว เธอหายใจเข้าลึก ๆ พลางปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร
“หายดีแล้ว ขอบใจมากนะที่เป็นห่วง ตอนนี้ตาขอไปพักก่อน ปวดหัวมากเลยเพิ่งออกจากโรงพยาบาลแล้วตรงมานี่เลย” กันตายกมือขึ้นจับศีรษะตัวเองเล็กน้อย
“อุ๊ย ขอโทษด้วยนะคะ เชิญค่ะ พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะเป็นห่วง” เธอขอโทษขอโพยและปล่อยให้ดาราที่ปลื้มไปพักผ่อนอย่างที่ต้องการ
กันตายิ้มหวานเล็กน้อยก่อนหันหลังขึ้นลิฟต์พร้อมกับหุบยิ้มทันที เธอกางนิ้วมือออกทั้งสองข้าง เมื่อเข้าไปในลิฟต์ที่ลับตาคนแล้วจึงรีบเปิดกระเป๋าหยิบเจลล้างมือขึ้นมาบีบและถูทั่วฝ่ามือ
เธอรู้ว่ามันไม่ดีถ้ามีใครมาเห็นเข้า คงถูกตีข่าวใหญ่โต เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าจะโดนเล่นอะไรบ้าง แต่จะให้ทำอย่างไรได้เธอดันเสพติดความสะอาดเกือบถึงขึ้นสูงสุด โชคดีที่ยังพอระงับอารมณ์ในเวลาที่พบปะผู้คนได้บ้าง
กันตาเก็บเจลใส่กระเป๋าก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กขึ้นมาเพื่อใช้ในการจับเปิดประตูห้องของตัวเอง
การใช้ชีวิตประจำวันแบบนี้มันช่างลำบาก แต่มันก็กลายเป็นความเคยชินไปแล้ว
กันตาหยิบรีโมทเปิดเครื่องปรับอากาศและฟอกอากาศ จากนั้นจึงถอดเสื้อผ้าที่สวมอยู่และพับมันอย่างเป็นระเบียบและวางไว้ในตะกร้าสีเหลืองหน้าห้องน้ำและเข้าไปชำระเนื้อตัวที่ได้ไปสัมผัสเชื้อโรคที่โรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้า
หลังจากรู้สึกสะอาดสดชื่นแล้วจึงทิ้งตัวลงบนเตียงแสนนุ่ม เธอจะนอนยาวไม่ไปไหนจนถึงวันพรุ่งนี้เลย นาน ๆ ทีได้มีโอกาสพักผ่อนกับเขาเสียที
กันตานอนมองเพดานพลางนึกถึงความโชคดีของตัวเอง โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอันตรายถึงชีวิตที่เกิดอุบัติเหตุ โชคดีที่ข้าวของไม่เสียหายมากนักจึงไม่ต้องถ่อร่างไปทำบัตรสำคัญต่าง ๆ ใหม่ รวมทั้งซิมการ์ด ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอคงยังอยู่ทำสิ่งของเหล่านี้ใหม่ไม่ได้มานอนสบาย ๆ เหมือนตอนนี้
จะว่าไปก็เหมือนลืมอะไรบางอย่าง แต่สมองเธอตอนนี้เพลียและอ่อนล้าเกินกว่าจะใช้ความคิด เปลือกตาค่อย ๆ เลื่อนปิดลงสู่นิทรา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 29
Comments