บทที่​ 6 (1)

“คอนโดคุณไปทางไหนคะ บอกทางฉันด้วยอย่าเพิ่งหลับ” ฉันสะกิดไหล่กันตาในขณะที่เธอกำลังเอนตัวและหลับตาลง

“ถามอะไรคนจะนอน”

“เอ๊ะ! แล้วฉันจะรู้ไหมว่าคุณพักอยู่ที่ไหน”

ฉันปล่อยมือออกจากพวงมาลัยเมื่อเห็นว่ารถกำลังติดไฟแดง จากนั้นจึงเอี่ยวตัวและใช้นิ้วชี้และโป้งของตัวเองถ่างตาของเธอออก

“โอ๊ย ทำอะไรของเธอ!” กันตาสะดุ้งขึ้นมานั่งตัวตรงจ้องหน้าฉันด้วยอารมณ์โมโห

“ก็ทำให้คุณลืมตาขึ้นมาบอกทางฉันไง ฉันไม่เคยไปจะรู้ไหมว่าไปทางไหน”

เดี๋ยวเอาไปทิ้งวัดซะนี่

“รู้แล้ว ๆ จำให้แม่นแล้วครั้งต่อไปจะได้มาถูก ฉันขี้เกียจพูดเยอะ เจ็บคอ”

จากนั้นกันตาก็ตั้งใจบอกทางฉันเป็นระยะ ๆ?

“ตรงไปแล้วเลี้ยวขวา”

“เลี้ยวตรงนี้เลยใช่ไหมคะ”

“อือ” เธอหลับตาตอบ

และในขณะที่ฉันกำลังจะหมุนพวงมาลัยนั้น….เธอได้หรี่ตาขึ้นมามองทาง

“ไม่ใช่! เลี้ยวข้างหน้าอีกล็อก ไม่ใช่ตรงนี้”

“ฉันถามคุณแล้วนะ!” ฉันหันไปขึ้นเสียงใส่ “เลี้ยวมาแล้วด้วย”

“ทางมันก็อ้อมไปตรงอื่นได้ ทำเป็นโวยวายไป”

“คุณลืมตาขึ้นมาเลยนะ”

เมื่อเห็นว่ากำลังติดไฟแดงฉันจึงเอี้ยวตัวไปถ่างตาของกันตาให้เบิกขึ้นมามองทาง

“โอ๊ย! อีกแล้วนะ!” กันตาหันขวับมาจ้องตาเขม็งอีกครั้ง

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้ทาง”

“ตรงไปเลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกนิดก็ซ้ายและก็ซ้ายอีกที จากนั้นก็ตรงไปเรื่อย ๆ จะเจอคอนโดหรู ๆ สูง ๆ สุดในย่านแล้วเลี้ยวเข้าไปเลย แล้วบอกยามว่ามาส่งฉัน แค่นี้แหละ” กันตาหันกลับและเอนหัวลงตามเดิม

“… ซ้าย ซ้ายแล้วซ้ายจากนั้นก็คอนโดหรู ๆ สูง ๆ” ฉันทวนความจำ

“ตกลงจำได้นะ”

“ได้”

จากนั้นฉันก็ขับไปตามทางที่เธอบอกเมื่อครู่ เลี้ยวซ้าย ซ้ายและเลี้ยวซ้าย จนกระทั่ง….

“นี่มันที่เดิม”

ฉันกวาดสายตามองตึกรามบ้านช่อง… เป๊ะ เหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพื้ยน

“ฉันขับตามที่คุณบอกแล้วทำไมถึงย้อนกลับมาที่เดิมได้”

“อือ”

“อือ? แล้วยังไงต่อ”

“ตรงไปสิ เห็นตึกตรงนั้นไหม เลี้ยวเข้าไปเลย” กันตายกนิ้วชี้ไปยังทางข้างหน้า เมื่อฉันมองตามไปก็เจอตึกสูงหรู

“เดี๋ยวนะคุณ แต่เมื่อกี้คุณบอกว่าเลี้ยวผิด แกล้งฉันเหรอ!”

“ลืมนิดหน่อย”

ฉันว่าเธอแกล้งฉันแน่นอน คนอะไรจะจำทางกลับคอนโดตัวเองไม่ได้

“ตกลงใช้คอนโดคุณจริงหรือเปล่า”

“ก็บอกว่าลืมไง คนเพิ่งย้ายมาไม่ถึงปี แถมไม่ได้ขับรถเอง ใครจะไปจำได้” กันตาทำหน้านิ่งข่มสีหน้าของตัวเองเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ว่ากำลังโกหก

ฉันกลอกตามองบน… เปลืองน้ำมันรถชะมัด!

ฉันผ่อนคันเร่งและจอดหน้าทางเข้าให้ยามรักษาความปลอดภัยของคอนโดตรวจเช็ก

“มาส่งคุณกันตาค่ะ” ฉันเลื่อนกระจกบอกพร้อมชี้ไปทางเธอเพื่อยืนยันตัวตน

“เชิญครับ” เขาตะเบ๊ะก่อนกดปุ่มแผงวงจรและแขนกั้นรถยนต์ก็ยกขึ้น

ฉันขับเข้าเทียบหน้าคอนโด เปลี่ยนเกียร์ไปที่ N

ฉันนั่งนิ่งรอกันตาลงจากรถ แต่เธอก็ยังคงนั่งเฉย

“เชิญค่ะ!” ฉันย้ำบอก

“ไม่คิดจะลงไปเปิดประตูเหรอ”

“คุณพิการเหรอไง ถ้าไม่ลงก็กลับกับฉันแล้วกัน” ว่าจบฉันจึงเปลี่ยนเกียร์เร่งคันเร่ง

“ลงแล้ว! ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้าฉันไม่เพลีย ฉันไม่มีวันยอมแน่! โอ๊ย!!” กันตาพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดสุดขีด เธอเปิดประตูลงไปพร้อมเดินจ้ำเข้าคอนโดไป แต่ไม่นานก็ย้อนกลับมา

“ว่า?” ฉันเลื่อนกระจกลงถาม

“สมุดตารางงานฉัน อ่อพรุ่งนี้ฉันไม่ไปไหนจะพักผ่อน แต่ถึงยังไงเดี๋ยวโทรบอกอีกที” จากนั้นกันตาก็หายลับเข้าไปในตัวอาคาร

ฉันวางสมุดในมือที่รับมาจากเธอวางไว้ข้างเบาะ

“วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว.. งั้นเข้าบริษัทแล้วกัน” ฉันก้มดูเวลาจากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังที่ทำงาน

.

.

.

.

“ยินดีต้อนรับกลับค่ะ” เจ้าหน้าที่ของคอนโดกล่าวทักทายด้วยความยินดีเมื่อเห็นกันตาหายดีและออกจากโรงพยาบาล หลังจากที่เธอได้ฟังข่าวก็ตกใจมาก

“ขอบใจจ้ะ”

“หายดีแล้วใช่ไหมคะ ตอนที่ฉันได้ยินข่าวในทีวีตกใจมากเลย” เธอพุ่งตัวเข้าโอบมือกันตาไว้

“เอ่อ…” กันตาข่มอารมณ์ที่อยู่ ๆ ก็ถูกสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งตัว เธอหายใจเข้าลึก ๆ พลางปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร

“หายดีแล้ว ขอบใจมากนะที่เป็นห่วง ตอนนี้ตาขอไปพักก่อน ปวดหัวมากเลยเพิ่งออกจากโรงพยาบาลแล้วตรงมานี่เลย” กันตายกมือขึ้นจับศีรษะตัวเองเล็กน้อย

“อุ๊ย ขอโทษด้วยนะคะ เชิญค่ะ พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะเป็นห่วง” เธอขอโทษขอโพยและปล่อยให้ดาราที่ปลื้มไปพักผ่อนอย่างที่ต้องการ

กันตายิ้มหวานเล็กน้อยก่อนหันหลังขึ้นลิฟต์พร้อมกับหุบยิ้มทันที เธอกางนิ้วมือออกทั้งสองข้าง เมื่อเข้าไปในลิฟต์ที่ลับตาคนแล้วจึงรีบเปิดกระเป๋าหยิบเจลล้างมือขึ้นมาบีบและถูทั่วฝ่ามือ

เธอรู้ว่ามันไม่ดีถ้ามีใครมาเห็นเข้า คงถูกตีข่าวใหญ่โต เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าจะโดนเล่นอะไรบ้าง แต่จะให้ทำอย่างไรได้เธอดันเสพติดความสะอาดเกือบถึงขึ้นสูงสุด โชคดีที่ยังพอระงับอารมณ์ในเวลาที่พบปะผู้คนได้บ้าง

กันตาเก็บเจลใส่กระเป๋าก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กขึ้นมาเพื่อใช้ในการจับเปิดประตูห้องของตัวเอง

การใช้ชีวิตประจำวันแบบนี้มันช่างลำบาก แต่มันก็กลายเป็นความเคยชินไปแล้ว

กันตาหยิบรีโมทเปิดเครื่องปรับอากาศและฟอกอากาศ จากนั้นจึงถอดเสื้อผ้าที่สวมอยู่และพับมันอย่างเป็นระเบียบและวางไว้ในตะกร้าสีเหลืองหน้าห้องน้ำและเข้าไปชำระเนื้อตัวที่ได้ไปสัมผัสเชื้อโรคที่โรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้า

หลังจากรู้สึกสะอาดสดชื่นแล้วจึงทิ้งตัวลงบนเตียงแสนนุ่ม เธอจะนอนยาวไม่ไปไหนจนถึงวันพรุ่งนี้เลย นาน ๆ ทีได้มีโอกาสพักผ่อนกับเขาเสียที

กันตานอนมองเพดานพลางนึกถึงความโชคดีของตัวเอง โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอันตรายถึงชีวิตที่เกิดอุบัติเหตุ โชคดีที่ข้าวของไม่เสียหายมากนักจึงไม่ต้องถ่อร่างไปทำบัตรสำคัญต่าง ๆ ใหม่ รวมทั้งซิมการ์ด ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอคงยังอยู่ทำสิ่งของเหล่านี้ใหม่ไม่ได้มานอนสบาย ๆ เหมือนตอนนี้

จะว่าไปก็เหมือนลืมอะไรบางอย่าง แต่สมองเธอตอนนี้เพลียและอ่อนล้าเกินกว่าจะใช้ความคิด เปลือกตาค่อย ๆ เลื่อนปิดลงสู่นิทรา

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!