Paparazzi สืบข่าวป่วนหัวใจ (มีEBOOK Meb)
ผู้คนมากมายต่างพากันมาจับจ่ายใช้สอยสิ่งที่จำเป็นและต้องการ บ้างก็มาทานอาหารกับครอบครัว เพื่อน คนรักหรือแม้กระทั่งกับกิ๊ก!
ต่างพากันเพลิดเพลินโดยบางคนก็ไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังแอบจับตามองหรือสะกดรอยตามอยู่
ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทำตัวลับ ๆ ล่อ เหมือนว่ากำลังดักซุ่มสังเกตการณ์ใครบางคน หากคนทั่วไปมองผ่าน ๆ ก็คงไม่ได้ใส่ใจกับการกระทำและการแต่งกายของเธอมากนัก
แต่หากสังเกตและพิจารณาก็คงแปลกใจไม่น้อย
เธออยู่ในชุดลำลองสบาย ๆ แต่ทะมัดทะแมง รวมผมเป็นหางม้า กางเกงยีนขายาว เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำด้านและหมวกแก๊ปไว้อำพรางใบหน้า
ในมือถือโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่การันตีกล้องว่าซูมได้ไกลที่สุดในบรรดาแบรนด์อื่น ๆ
เธอกำลังส่องดูบางคนจากกล้องมือถือตัวนี้ ที่เพิ่งถอยล่าสุดเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
คงสงสัยว่าเธอทำงานอะไรถือได้ว่างตามส่องชีวิตของคนอื่นแบบนี้
เธอเป็นนักข่าวแต่เป็นนักข่าวกีฬา!
ย้อนไปสองอาทิตย์ก่อน
ฉันกำลังเลื่อนเม้าท์ไล่ดูหน้าเฟซบุ๊กเรื่อยเปื่อยด้วยความเบื่อหน่ายจนไปสะดุดกับโพสต์หนึ่งที่เพื่อนแชร์มาจนต้องไล่ย้อนขึ้นไปดู นั่นคือข่าวซุบซิบดารา
‘นางเอกดังหน้าตาใสซื่อ แต่!! ตัวจริงร้ายยิ่งกว่านางร้ายในละคร ล่าสุดมีข่าวเม้าท์มาว่านางเกรี้ยวกราด เหวี่ยงทุกคนในกอง ผู้กำกับหรือนักแสดงรุ่นใหญ่ต่างก็รู้กิติศักดิ์นางดีว่าเป็นอย่างไร คนมันดังแฟนคลับแน่นอะเนาะเลยมีงานเข้าเรื่อย ๆ เดี๊ยนก็ไม่รู้ว่านางจะดับเมื่อไหร่เหมือนกันนะงานนี้ คงต้องตามดูกันต่อไปจ้าาา’
“ข้าวทำไรอยู่ ทำไมดูตั้งอ่านจังเลย อ่านไร” เสียงของกนกเพื่อนร่วมงานดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“ข่าวดาราอ่ะ ว่าแต่แกรู้ปะว่าเป็นใคร”
ฉันใช้ขาดันเก้าอี้ล้อเลื่อนที่นั่งอยู่ออกนิดหน่อยให้ไม่บังหน้าจอและข้อความข่าวที่กำลังอ่านอยู่
กนกเป็นเพื่อนนักข่าวร่วมสถาบัน เธอเป็นนักข่าวสายบันเทิง และฉันรู้ว่าเธอกำลังตามงานนี้อยู่
“อ่อข่าวนี้เองเหรอ แกอยากรู้จริง ๆ เหรอ”
“อยาก อยากมาก!”
ต่อมเผือกฉันทำงานเมื่อเห็นหัวข้อข่าว ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากรู้อะไรขนาดนั้น เพียงแต่ว่าฉันมีเพื่อนสนิทเป็นดารา เป็นถึงนางเองดังเชียวนะ ก็เลยกลัวว่าข่าวนี่จะเป็นของเพื่อนฉันต่างหากล่ะ
“ก็มีเล็ง ๆ ไว้สองสามคน แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นคนไหนกันแน่ ข้าวแกสนใจสืบปะ”
“สน!” ฉันตอบแบบไม่ต้องคิดเลย ขอบอกก่อนเลยนะว่าไม่ค่อยอยากจะเผือกเท่าไหร่ แต่กลัวคนในข่าวเป็นเพื่อน จะได้เตือนได้ทัน
“แต่ฉันไปแย่งงานแกมันจะดีเหรอ”
“ดี พี่อนุญาต”
“พี่เอกวุฒิ”
ผู้ชายขาวตี๋ร่างท้วมดูสะอาดสะอ้าน พี่เอกวุฒิหัวหน้าที่คอยจัดสรรหน้าที่ต่าง ๆ ให้คนในบริษัทนั่นเอง
“เดี๋ยวตบปากแตก บอกให้เรียกเอก…”
“เอกชัย”
ฉันพูดขึ้นก่อนที่พี่เอกวุฒิจะพูดชื่อที่ตัวเองตั้งขึ้นใหม่
“ไม่ตบปากแล้ว แต่ไล่แกออกแทนดีไหม” พี่เอกวุฒิลดมือที่ง้างขึ้นเตรียมฟาดลง
“ไม่ดีค่ะ ถ้าออกแล้วข้าวจะมีกินเหรอคะ อีกอย่างถึงพี่จะไล่ข้าวข้าวก็ไม่ออก” ฉันส่งยิ้มยียวนกวนบาทา
โชคดีที่ฉันมีเจ้านายเป็นกันเอง ไม่งั้นฉันคงโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานแล้ว
“พี่เอกกี้หวัดดีค่ะ” กนกทักพี่เอกวุฒิด้วยชื่อที่คนฟังรู้สึกพึงพอใจ
“หวัดดีจ้ะน้องหนกพนักงานดีเด่นของพี่.. ไม่เหมือนยัยที่อยู่ตรงหน้าฉัน” พี่เอกวุฒิหันหน้ามาทำหน้ายักษ์แยกเขี้ยวใส่
ส่วนฉันก็ยิ้มหวานตอบ
“ไม่ต้องมายิ้ม เมื่อไหร่แกจะเรียกฉันให้เสนาะหูสักทีฮะใบข้าว”
ฉันว่าคงไม่มีวันนั้น ก็คนมันชินเรียกแบบนี้ไปแล้วนี่ ตั้งแต่ทำงานที่นี่มาฉันไม่เคยเรียกพี่เอกวุฒิว่าเอกกี้สักครั้งเดียว ครั้งเดียวก็ไม่มี
“พี่เอกวุฒิก็… ข้าวว่าพี่น่าจะชินได้แล้วน่า”
“แล้วที่พี่บอกว่า ‘ดี’ เมื่อกี้มันหมายความว่ายังไงเหรอคะ” ฉันรีบถามต่อ หากไม่รีบแทรกคงได้เถียงกันเรื่องชื่อยาวแน่
“พี่อยากให้เราช่วยน้องหนกของพี่ตามสืบตามเผือกข่าวซุบซิบหน่อยน่ะ”
“เอ้าแล้วงานของข้าวล่ะคะ ข้าวต้องไปคอยติดเกาะขอบสนามแข่งอีกตั้งหลายที่”
“คนของเราไม่พอน่ะสิ เรื่องพวกนี้มันมีมาไม่เว้นแต่ละวันเลย แถมมีแต่เรื่องน่าเผือกทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ”
ใช่ มันมีแต่เรื่องคนโน้นคนนี้มาไม่เว้นแต่ละวัน แถมยังเป็นข่าวที่คนทั่วไปให้ความสนใจอย่างล้นหลามซะด้วย
“แต่ข้าวไม่ถนัด…” ฉันทันได้พูดจบพี่เอกวุฒิก็ตีหน้าเศร้าแล้วพูดต่อ
“บริษัทของเราคงต้องปิดลงในเร็ววัน บริษัทเล็ก ๆ จะไปสู้บริษัทใหญ่โตเหมือนสำนักอื่นได้ยังไง พนักงานของเราก็มีน้อย ทำข่าวได้ไม่ทั่วถึง ข่าวที่คนสนใจกันก็มีแต่ข่าวคนดังเนี่ยแหละ ถ้าข้าวไม่ช่วยพี่อีกแรง มีหวังพนักงานทุกคนของพี่คงต้องตกงาน เฮ้องานสมัยนี้ก็หาลำบากซะด้วย ไหนจะป้าแม่บ้าน แกแก่แล้วไปที่ไหนใครเขาจะจ้าง พี่ล่ะเป็นห่วงจริง ๆ ไหนจะยามหน้าบริษัทแล้วไหนจะ….”
“พอก่อนพี่เอกวุฒิ” ฉันรีบยกมือห้ามก่อนที่พี่แกจะอ้างเอาทุกแผนกมาพูด “ร่ายยาวยิ่งกว่าละครหลังข่าวอีก สรุปข้าวต้องทำ นี่บังคับทางอ้อมชัด ๆ”
บอกว่านี่คือคำสังตั้งแต่แรกก็จบ เล่นดึงดราม่าซะยาวเหยียดเชียว
“เออ! ก็รู้อยู่แล้วจะปฏิเสธให้เสียเวลาทำไม” พี่เอกวุฒิสลัดสีหน้าเมื่อครู่ทิ้งทันที
มงต้องลง รางวัลโนเบลต้องได้แล้วแหละ
“ให้ข้าวควบสองงาน มีอะไรให้ข้าวเปล่าพี่” ฉันหรี่ตามองพี่เอกวุฒิพลางถูนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เข้าด้วยกัน
เงินน่ะเงิน มันต้องมีโอทีกันบ้าง
“เดี๋ยวสิ้นปีพี่จัดให้เลย โอปะ”
“โอ! เดี๋ยวข้าวรีบหาข้อมูลแล้วจัดการสืบเลย” ฉันรีบขยับตัวเข้าไปยังหน้าคอมก่อนจะลงมือหาข้อมูลเตรียมไว้
และทั้งหมดที่กล่าวมา ฉันจึงต้องมาทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ในที่สาธารณะแบบนี้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 29
Comments