โลกรอบตัวอเล็กซ์มีแต่ความโกลาหล ทะเลปั่นป่วนและโหมกระหน่ำ สัตว์ประหลาดปลดปล่อยออกมาจากส่วนลึกของมัน คลื่นซัดเข้าใส่เขา ดึงเขาลงไปข้างล่างก่อนจะคายเขากลับขึ้นไปในอากาศ เขาต่อสู้กับกระแสน้ำ แขนและขาของเขาถูกรัดเพื่อให้เขาลอยอยู่ ขณะที่อเล็กซ์ว่ายไปไกลจากซากเรือ
เขารู้สึกว่ามีของหนักขึ้นจากไหล่ มีความรู้สึกอิสระในการออกไปอยู่ในทะเลเปิด ไม่มีอะไรนอกจากความแข็งแกร่งของเขาเองที่ต้องพึ่งพา แต่ความรู้สึกนั้นคงอยู่ได้ไม่นานเมื่อเขาได้ยินเสียงคำรามต่ำในระยะไกล
อเล็กซ์หันไปเห็นรูปร่างใหญ่โตเคลื่อนผ่านน้ำมาหาเขา ในตอนแรกเขาคิดว่ามันอาจเป็นผู้รอดชีวิตอีกคน แต่เมื่อมันเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ตระหนักด้วยความตกใจว่ามันคืออะไรฉลาม กรามของสัตว์ร้ายนั้นอ้าออกกว้าง เผยให้เห็นแถวของฟันที่แหลมคม หัวใจของอเล็กซ์เต้นแรงขณะที่เขาพยายามว่ายหนี แต่ฉลามไวกว่า มันเข้ามาใกล้เขา เงาของมันทาบทับเขาเหมือนมัจจุราช
แต่อเล็กซ์ไม่ยอมแพ้ เขาเตะฉลามออกไปด้วยแรงทั้งหมดของเขา กระแทกเข้าที่จมูก สัตว์ร้ายถอยหนี ทำให้อเล็กซ์มีช่วงเวลาอันมีค่าในการหลบหนี เขายังคงว่ายน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยรู้ว่าทุกวินาทีมีค่า เขารู้สึกได้ถึงฉลามที่อยู่ข้างหลังเขา สายตาที่เย็นชาและไร้ความรู้สึกของมันจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของเขา แต่เขาไม่ยอมให้มันจับเขา
เขาผลักตัวเองหนักขึ้น กล้ามเนื้อของเขาลุกโชนด้วยความออกแรง ในที่สุดเขาก็เห็นแสงริบหรี่ในระยะไกล มันเป็นเกาะเล็ก ๆ ไม่มากไปกว่าจุดบนขอบฟ้า แต่มันคือความรอด ด้วยแรงระเบิดครั้งสุดท้าย
อเล็กซ์ผลักตัวเองเข้าหามัน ทิ้งฉลามไว้ข้างหลังขณะที่เขาเดินโซเซไปที่ชายหาด หายใจไม่ออก อเล็กซ์รู้ว่าเขาเข้าใกล้ความตายมากเกินไป แต่เขาก็รู้ว่าเขารอดแล้ว และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
วันต่อมา ในที่สุดอเล็กซ์ก็พบว่าตัวเองกลับมาที่แผ่นดินใหญ่แล้ว เขาเล่าเรื่องของเขาให้ทุกคนฟังโดยหวังว่าเรื่องราวของเขาจะเป็นคำเตือนแก่คนอื่นๆ ความสยดสยองที่เขาเผชิญบนเรือผีสิงนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ขณะที่เขาพูดถึงผีและวิญญาณที่หลอกหลอนเรือ
อเล็กซ์ก็รู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลัง แม้ว่าเขาจะกลับมาอยู่บนพื้นดินที่มั่นคงแล้ว แต่ความทรงจำของวิญญาณที่หลงหายเหล่านั้นยังคงอยู่ในจิตใจของเขา แต่สิ่งมีชีวิตที่เขาเผชิญบนเรือลำนั้นต่างหากที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริง ภาพหนวดประหลาดของมันที่ยื่นออกมาเพื่อลากเขาลงไปในห้วงลึกนั้นหลอกหลอนความฝันของเขา ทำให้เขาตื่นขึ้นมาด้วยเหงื่อเย็น แม้จะกลัว
แต่อเล็กซ์ก็ไม่ยอมปล่อยให้มันกัดกินเขา เขารู้ว่าเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการแบ่งปันเรื่องราวของเขากับผู้อื่น และเขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำเช่นนั้นไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ดังนั้นเขาจึงยังคงบรรยายต่อไปถึงความน่าสะพรึงกลัวที่เขาเผชิญบนเรือที่ถูกทิ้งร้าง เสียงเอี๊ยดอ๊าดของไม้เก่า ความเงียบอันน่าขนลุกถูกทำลายโดยเสียงฝีเท้าที่สะท้อนอยู่ในทางเดินที่ว่างเปล่าเท่านั้น
เขาพูดถึงวิญญาณที่เดินเตร่อยู่ในห้องโถง วิญญาณที่ถูกทรมานร้องให้ปลดปล่อย เพื่อนและครอบครัวของอเล็กซ์ตั้งใจฟังขณะที่เขาเล่าการเดินทางของเขา พวกเขาสามารถเห็นความหวาดกลัวฝังบนใบหน้าของเขา และได้ยินความกลัวในน้ำเสียงของเขา แต่พวกเขายังเห็นความกล้าหาญที่เผาไหม้ในตัวเขา ความมุ่งมั่นที่แน่วแน่เพื่อให้แน่ใจว่าคนอื่นๆ
เมื่ออเล็กซ์พูดจบก็เกิดความเงียบงันในห้อง คำพูดของเขาได้วาดภาพความสยดสยองที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ทั้งหมด ถึงกระนั้น พวกเขารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงว่ามีพลังในโลกนี้เกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้หลายวันต่อมา
อเล็กซ์พบว่าตัวเองไม่สามารถสลัดความรู้สึกนี้ได้ความกลัวที่แขวนอยู่เหนือเขา ความคิดของสิ่งมีชีวิตที่เขาเผชิญหน้าน้ำสีเข้มเหล่านั้นยังคงทำให้ผิวหนังของเขาคลาน
แต่ถึงกระนั้น เขาก็รู้ว่าเขาได้ทำสิ่งที่สำคัญ เรื่องราวของเขาทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจแก่ผู้อื่น เป็นสัญญาณแห่งความหวังในโลกแห่งความมืด และแม้ว่าเขาจะรู้ว่ามีอันตรายซ่อนอยู่ในเงามืดมากขึ้น
เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง ด้วยความรู้ที่ว่าแม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดก็ยังมีแสงสว่างให้พบ.....
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments