บทที่ 13 - ชัยชนะอันชาญฉลาด

ในขณะที่อเล็กซ์กำวัตถุโบราณไว้ในมือแน่น เขารู้สึกถึงน้ำหนักของความสำคัญของมันที่เพิ่มภาระหนักอึ้งอยู่แล้ว เขารู้ว่าเขากำลังใกล้จะค้นพบสิ่งที่น่ากลัวอย่างแท้จริง แต่ความกลัวจะไม่เป็นอุปสรรคต่อเขา เรือส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดและคร่ำครวญรอบตัวเขา และเขารู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจที่ทวีความรุนแรงขึ้นในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไป

แต่เขาไม่ยอมปล่อยให้มันทำให้เขาเป็นอัมพาต เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะเห็นสิ่งนี้จนถึงจุดจบอันขมขื่น ไม่ว่าอันตรายจะรออยู่ข้างหน้าก็ตาม อเล็กซ์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปตามโถงทางเดินที่มืดมิด เสียงฝีเท้าของเขาสะท้อนกับแผ่นไม้ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา เงาเคลื่อนไปตามผนัง รูปร่างบิดเบี้ยวและบิดเบี้ยวจากแสงคบเพลิงที่ส่องตามทางเดิน

ขณะที่เขาเดิน อเล็กซ์ค้นหาสัญญาณของทางออกอย่างสิ้นหวัง แต่ดูเหมือนเรือจะตั้งใจเก็บความลับไว้ ทางเดินที่คดเคี้ยวพาเขาดำดิ่งลึกเข้าไปในหัวใจอันดำมืดของมัน ทุกย่างก้าวดูเหมือนจะนำเขาเข้าใกล้ชะตากรรมมากขึ้นและห่างไกลจากความปลอดภัย และแล้ว เสียงหนึ่งก็แว่วเข้าหูเขา เสียงเกาแผ่วๆ ดังมาจากที่ไหนสักแห่งข้างหน้า ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่เพิ่มขึ้น

อเล็กซ์จึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นและเดินตามเสียงไปยังบันไดแคบๆ ที่นำไปสู่ชั้นบนของเรือ เมื่อเขาปีนสูงขึ้นเรื่อย ๆ เสียงเกาก็ดังขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกลบเสียงหัวใจที่เต้นรัวของเขาไปจนหมดสิ้น และในที่สุด เขาก็โผล่ขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือและเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เลือดของเขาเย็นเฉียบ ฝูงหนูเข้ามารบกวนเรือ ดวงตาแวววาวของพวกมันเป็นประกายในความมืด ขณะที่พวกมันลนลานอย่างลนลานเกี่ยวกับธุรกิจของตน เสียงขูดคือกรงเล็บของพวกมันขูดกับพื้นไม้และผนังขณะที่พวกมันหาอาหารและที่หลบภัยในที่มืดและถูกทอดทิ้งแห่งนี้

ชั่วขณะหนึ่ง อเล็กซ์ยืนตัวแข็งด้วยความหวาดกลัวขณะที่เขามองดูพวกมันรุมล้อมเขา แต่เขาปฏิเสธที่จะยอมแพ้ต่อความกลัว เขามาไกลเกินกว่าจะตกรางโดยสิ่งที่ธรรมดาอย่างหนู เขาพลิกส้นเท้าแล้ววิ่ง หลบฝูงสัตว์ฟันแทะที่รุมกัดส้นเท้าของเขา ด้วยความรู้สึกเร่งด่วนที่เพิ่งค้นพบ อเล็กซ์ดำดิ่งลงไปในส่วนลึกของเรือมากขึ้น เพื่อหาทางออกจากฝันร้ายที่เต็มไปด้วยสัตว์รบกวนนี้

และในขณะที่เขาทำเช่นนั้น เขาก็ตระหนักว่าเรือลำนี้มีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น นั่นคือมีความลับฝังอยู่ที่นี่ซึ่งลึกล้ำกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้มาก ราวกับสัมผัสได้ถึงความอยากรู้อยากเห็นของเขา มีบางสิ่งที่ดำมืดและมุ่งร้ายขยับตัวอยู่ในเงามืด ตัวตนที่มุ่งร้ายได้ตื่นขึ้นแล้วและโกรธที่เขาบุกรุก มันเริ่มปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวเขา กระซิบคาถาแปลกๆ และเรียกสิ่งมีชีวิตนอกโลกออกมาเพื่อหยุดเขาในเส้นทางของเขา

อเล็กซ์รู้สึกได้ถึงความกล้าหาญของเขาที่สั่นคลอนเมื่อเขาเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่บิดเบี้ยวเหล่านี้จากดินแดนอื่นที่ไม่มีธุรกิจในความเป็นจริงนี้ พวกเขาดูเหมือนจะไม่มีอันตรายใด ๆ ที่เขาสามารถรับมือได้และตั้งใจแน่วแน่ที่จะหยุดเขาในเส้นทางของเขา แต่แม้ว่าความหวาดกลัวของเขาจะเพิ่มขึ้นในแต่ละย่างก้าว อเล็กซ์รู้ว่าเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นาน เอนทิตีมุ่งร้ายเริ่มแข็งแกร่งขึ้นในวินาทีต่อมา

และในไม่ช้ามันก็จะทะลวงการป้องกันของเขาและอ้างสิทธิ์ในตัวเขาเอง ด้วยลมหายใจลึกเฮือกสุดท้าย อเล็กซ์ตั้งสติให้แน่วแน่กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง เขากัดฟันและเดินหน้าต่อไป มุ่งมั่นที่จะหาทางออกก่อนที่จะสายเกินไป การต่อสู้รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสิ่งมีชีวิตใหม่ ๆ ปรากฏตัวขึ้น ในที่สุด หลังจากสิ่งที่ดูเหมือนเป็นการต่อสู้และความกลัวชั่วนิรันดร์

อเล็กซ์ เห็นแสงริบหรี่ในระยะไกล ลำแสงจาง ๆ ที่ดูเหมือนจะกวักมือเรียกเขาให้ปลอดภัย อเล็กซ์วิ่งไปหามันโดยไม่ลังเล หลบสิ่งกีดขวางและกระโดดข้ามกองเศษหินขณะที่เขาไป ตัวตนที่มุ่งร้ายก็เข้ามาหาเขาในตอนนั้น ปรากฏตัวในรูปแบบที่จะสร้างความสยดสยองให้กับหัวใจที่กล้าหาญที่สุด ดวงตาของวัตถุเปล่งประกายด้วยความเกลียดชังจากโลกอื่น และการเคลื่อนไหวของมันก็กระตุกและไม่เป็นธรรมชาติ

อเล็กซ์รู้สึกว่ามีเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมาตามผิวหนังขณะที่เขายกสิ่งประดิษฐ์ขึ้นในมือ เขาไม่สามารถปล่อยให้มันตกอยู่ในมือของนิติบุคคลได้ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดและโหดร้าย หน่วยงานนี้ไม่ยอมแพ้ ใช้ทุกกลอุบายในคลังแสงเพื่อโค่นล้มเขา แต่อเล็กซ์มีบางอย่างที่เอนทิตีไม่มี นั่นคือศรัทธา เขารู้ว่าสิ่งที่เขามีอยู่ข้างกายนั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดใดๆ ศรัทธาในตนเอง ศรัทธาในสิ่งประดิษฐ์ แต่ที่สำคัญที่สุด ศรัทธาในสิ่งยิ่งใหญ่กว่าที่เขาจะรับรู้ได้ ด้วยชัยชนะครั้งสุดท้าย

อเล็กซ์ได้พุ่งทำลายสิ่งประดิษฐ์เข้าไปในหัวใจของความมืดรอบตัวเขาริบหรี่และจางหายไป แทนที่ด้วยแสงเจิดจ้าที่ดูเหมือนจะอาบไปทั่วตัวเขาราวกับอ้อมกอดอันอบอุ่น และทันทีที่มันมาถึง เอนทิตีมุ่งร้ายก็หายไป พ่ายแพ้ต่อความกล้าหาญและความกล้าหาญของอเล็กซ์

อเล็กซ์ทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนล้าแต่มีชัยชนะ แหงนมองเพดานด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เพียงรอดชีวิตจากการเผชิญหน้ากับสิ่งที่มุ่งร้ายเท่านั้น เขายังเอาชนะมันได้ นานเกินไปแล้วที่เขาปล่อยให้ความกลัวรั้งเขาไว้ กลัวความล้มเหลว กลัวการถูกปฏิเสธ กลัวสิ่งที่ไม่รู้ แต่ตอนนี้ หลังจากเผชิญหน้ากับหนึ่งในกองกำลังที่ชั่วร้ายที่สุดที่มีอยู่ เขาก็รู้ว่าไม่มีอะไรที่เขาเอาชนะไม่ได้

ขณะที่เขายกตัวเองขึ้นจากพื้นและปัดฝุ่นออก อเล็กซ์ก็อดยิ้มไม่ได้ เขาผ่านอีกด้านหนึ่งมาอย่างมีชีวิตและได้รับชัยชนะ แต่เขารู้ว่าจะมีความมืดซ่อนอยู่ในเงามืดอยู่เสมอ คอยจู่โจมคนที่ไม่สงสัยและไม่ระมัดระวัง เรือส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดและคร่ำครวญรอบตัวเขาด้วยความโกรธที่ก่อตัวขึ้นใหม่ ราวกับว่ามันรับรู้ถึงชะตากรรมสุดท้ายของมัน ตัวตนที่มุ่งร้ายหายไป ถูกขับไล่โดยความกล้าหาญและความกล้าหาญของอเล็กซ์

และแม้ว่าเขาจะรู้ว่าจะมีการทดลองอีกมากมายรออยู่ แต่เขาก็รู้สึกพร้อมที่จะเผชิญหน้าโดยตรง อเล็กซ์ก้าวต่อไปในความมืดอันน่ากลัว หัวใจของเขาเต้นแรงอยู่ในอก ทุกเสียงเอี๊ยดอ๊าดและเสียงครวญครางของเรือทำให้เขาสั่นไปถึงสันหลัง แต่เขาไม่ยอมปล่อยให้ความกลัวครอบงำเขา ขณะที่เขาเคลื่อนลึกเข้าไปในลำไส้ของภาชนะ เขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่เติบโตขึ้นภายในตัวเขา มีบางอย่างที่น่ากลัวยิ่งกว่ากำลังก่อตัวขึ้น

พลังเหนือความเข้าใจที่ขู่ว่าจะยึดครองเขาอีกครั้ง ทันใดนั้น ลมกระโชกแรงพัดผ่านทางเดิน ส่งเศษซากปลิวว่อนไปทุกทิศทุกทาง อเล็กซ์เอาแขนบังใบหน้าขณะที่เขาเซไปข้างหลัง พยายามดิ้นรนเพื่อรักษาสมดุล จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคำรามต่ำที่ดูเหมือนจะดังออกมาจากส่วนลึกภายในเรือ เอนทิตีมุ่งร้ายกำลังเคลื่อนไหวอีกครั้ง อเล็กซ์รู้สึกว่าเข่าอ่อนแรงเมื่อเสียงนั้นดังขึ้นและเป็นลางร้ายมากขึ้น

เขารู้ว่าเขาต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วหากเขาต้องการเอาชีวิตรอดจากการเผชิญหน้าครั้งนี้ ด้วยมือที่สั่นเทา เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและดึงเครื่องรางที่คุณยายฝากไว้ให้เขาออกมา เครื่องรางเรืองแสงจางๆ ในความมืด ฉายแสงจากโลกอื่นที่ดูเหมือนจะกักขังตัวตนที่มุ่งร้ายไว้ อเล็กซ์รู้สึกได้ถึงพลังที่ไหลผ่านตัวเขา ทำให้เขามีพลังและความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับความตาย แต่ถึงแม้จะมีเครื่องรางคอยปกป้อง

อเล็กซ์ก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นาน เอนทิตีมุ่งร้ายเริ่มแข็งแกร่งขึ้นในวินาทีต่อมา และในไม่ช้ามันก็จะทะลวงการป้องกันของมันและอ้างสิทธิ์ในตัวเขาเอง ด้วยลมหายใจลึกเฮือกสุดท้าย

อเล็กซ์ตั้งสติให้แน่วแน่กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง เขากัดฟันและเดินหน้าต่อไป มุ่งมั่นที่จะหาทางออกก่อนที่จะสายเกินไป เอนทิตี้ที่มุ่งร้ายจะต้องถูกหยุดทันทีและทั้งหมด ขณะที่เขาเลี้ยวโค้ง

อเล็กซ์เห็นแสงริบหรี่ในระยะไกล ลำแสงจางๆ ที่ดูเหมือนจะกวักมือเรียกเขาให้ปลอดภัย อเล็กซ์วิ่งไปหามันโดยไม่ลังเล หลบสิ่งกีดขวางและกระโดดข้ามกองเศษหินขณะที่เขาไป จากนั้น ในขณะที่เขาคิดว่าเขาอยู่ในที่โล่ง เขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่สีข้างของเขา เขาสะดุดและล้มลงกับพื้น กุมใบหน้าที่บาดเจ็บไว้ขณะที่สิ่งที่มุ่งร้ายปรากฏขึ้นเหนือเขา

แต่อเล็กซ์ไม่ยอมแพ้ ด้วยการระเบิดพลังครั้งสุดท้าย เขาเรียกพละกำลังทั้งหมดที่มีและพุ่งใส่เครื่องรางเข้าไปในหัวใจของความมืดรอบตัวเขาริบหรี่และจางหายไป แทนที่ด้วยแสงเจิดจ้าที่ดูเหมือนจะอาบไปทั่วตัวเขาราวกับอ้อมกอดอันอบอุ่น และทันทีที่มันมาถึง

เอนทิตีมุ่งร้ายก็หายไป พ่ายแพ้ต่อความกล้าหาญและความกล้าหาญของอเล็กซ์ ในขณะที่เขานอนอยู่บนพื้น อเล็กซ์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง นานเกินไปแล้วที่เขาปล่อยให้ความกลัวรั้งเขาไว้กลัวความล้มเหลว กลัวการถูกปฏิเสธ กลัวสิ่งที่ไม่รู้

แต่ตอนนี้ หลังจากเผชิญหน้ากับหนึ่งในกองกำลังที่ชั่วร้ายที่สุดที่มีอยู่ เขาก็รู้ว่าไม่มีอะไรที่เขาเอาชนะไม่ได้ แต่จะมีบางสิ่งซ่อนอยู่ในเงามืดรอจังหวะของมันเสมอ

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***