บทที่ 9 ความมุ่งมั่นที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ

อเล็กซ์หายใจเข้าลึก ๆ หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวและความคาดหวัง ทางเดินที่มีแสงสลัวทอดยาวต่อหน้าเขาราวกับอุโมงค์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ผนังของมันประดับประดาด้วยใยแมงมุมและโซ่ขึ้นสนิมที่สั่นสะเทือนทุกย่างก้าวที่เขาก้าว ขณะที่เขาเดินลึกเข้าไปในใจกลางของเรือ

อเล็กซ์ก็รู้สึกถึงน้ำหนักของประวัติศาสตร์ที่ห่อหุ้มเขาไว้ราวกับผ้าห่อศพที่หนักอึ้ง รัศมีความชั่วร้าย ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเพิ่มขึ้นทุกวินาทีที่ผ่านไป เสียงกระซิบแผ่วเบาดังก้องไปในอากาศ เสียงที่ดูเหมือนจะเรียกหาเขาจากส่วนลึกของเรือ พวกเขาพูดถึงวิญญาณที่หลงหายและความฝันที่ถูกลืม อดีตที่ไม่ยอมฝัง

ทันใดนั้นลมกระโชกพัดผ่านห้องโดยสาร เทียนดับและโยนหนังสือและกระดาษขึ้นไปในอากาศ อเล็กซ์เซไปข้างหลัง หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อเขารู้สึกว่ามีบางอย่างพุ่งผ่านเขาไปในความมืด หน่วยงานมุ่งร้ายกำลังใช้พลังของตนเพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมและทรมานอเล็กซ์ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ปลอดภัยที่นั่น เขาพยายามวิ่ง

แต่ทุกย่างก้าวรู้สึกเหมือนกำลังลุยทรายดูดขณะที่เรือแกว่งไปมาใต้เท้าของเขา ในระยะไกล เขาสามารถได้ยินเสียงแปลก ๆ สะท้อนผ่านเรือ เสียงเอี๊ยดอ๊าดของพื้นและเสียงกระซิบที่ดูเหมือนจะมาจากรอบตัวเขา ราวกับว่าตัวเรือนั้นยังมีชีวิตอยู่ ไม้กระดานและคานทุกอันรวมหัวกันต่อสู้กับเขา เมื่ออเล็กซ์คิดว่าเขาทนไม่ได้อีกต่อไป

เสียงหนึ่งเรียกเขาจากความมืด นั่นคือกัปตันเจมส์ ร่างที่น่ากลัว 30 ปรากฏออกมาจากเงามืด ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยแสงจากโลกอื่น

“ฉันเตือนคุณแล้วว่าอย่ามาที่นี่” กัปตันเจมส์พูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกและน่ากลัว “แต่คุณก็ไม่ฟัง” อเล็กซ์พยายามพูด

แต่เสียงของเขาติดอยู่ในลำคอเมื่อเขาตระหนักว่าไม่มีทางหนี เขาติดอยู่บนภาชนะต้องสาปนี้ ด้วยความเมตตาของพลังชั่วร้ายที่ดูเหมือนจะมุ่งมั่นที่จะเห็นเขาทนทุกข์ทรมาน ถึงกระนั้น แม้ว่าความกลัวจะเกาะกุมเขาแน่น

อเล็กซ์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกรงขามในพลังของสิ่งที่มุ่งร้าย มันไม่เหมือนที่เขาเคยพบมาก่อน - พลังแห่งธรรมชาติที่ท้าทายเหตุผลและตรรกะ ขณะที่กัปตันเจมส์เข้ามาใกล้

อเล็กซ์ก็เตรียมใจสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ไม่แน่ใจว่าเขาจะรอดชีวิตจากการเผชิญหน้ากับพลังเหนือธรรมชาติที่เข้าครอบครองเรือครั้งนี้หรือไม่ แต่แม้ในขณะที่เขาตัวสั่นด้วยความกลัว เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเคารพตัวตนที่มุ่งร้ายและทุกสิ่งที่เป็นตัวแทน เอนทิตีสูงตระหง่านเหนือเขา ร่างของมันขยับและบิดตัวราวกับฝูงผึ้งที่โกรธเกรี้ยว ดวงตาของมันเปล่งประกายด้วยแสงจากโลกอื่น

และเสียงของมันสะท้อนไปทั่วเรือราวกับเสียงกรีดร้องนับพันครั้ง แต่อเล็กซ์ไม่ยอมถอย เขารู้ว่าพลังอยู่ในความสามารถในการข่มขู่และหวาดกลัว และเขาปฏิเสธที่จะให้มันเป็นที่น่าพอใจเมื่อเห็นเขาขี้ขลาด

อเล็กซ์รวบรวมความกล้าหาญของเขาและเผชิญหน้ากับเอนทิตีแบบตัวต่อตัว เขารู้ว่านี่คือช่วงเวลาของเขา โอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองและทุกคนที่สงสัยในตัวเขาว่าเขาสามารถเผชิญกับความสยดสยองที่ยากจะจินตนาการได้ และในขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่น จ้องมองเข้าไปในดวงตาที่เปล่งประกายเหล่านั้น บางอย่างในตัวเขาเปลี่ยนไป ความรู้สึกสงบลึกเข้ามาครอบงำเขา

และเขารู้สึกแปลก ๆ ที่เชื่อมโยงกับเอนทิตี ราวกับว่าทั้งสองด้านเป็นเหรียญเดียวกัน ครู่หนึ่งพวกเขายืนอยู่ตรงนั้นถูกขังอยู่ในการต่อสู้อันเงียบงันของเจตจำนง จากนั้นด้วยการเคลื่อนไหวที่ริบหรี่ เอนทิตีก็หายไป

เหลือแต่อเล็กซ์ ยืนอยู่คนเดียวบนดาดฟ้า หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยอะดรีนาลีนและชัยชนะ แต่ช่วงเวลาแห่งชัยชนะของเขานั้นสั้นนัก ขณะที่เขากำลังจะจากไป เขารู้สึกว่ามีบางอย่างพุ่งผ่านเขาไปในความมืด เขาหมุนตัวไปรอบ ๆ แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น

มีเพียงเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเรือและเสียงกระซิบจากวิญญาณที่หลงทาง ตัวตนที่มุ่งร้ายอาจหายไปแล้ว แต่การปรากฏตัวของมันยังคงอยู่ และเมื่ออเล็กซ์เดินกลับลงมาตามทางเดินที่มีแสงสลัว เขาก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว เรือลำนั้นมีชีวิตด้วยพลังงานอันทรงพลัง พลังที่ไม่ยอมหยุดเพื่ออ้างสิทธิ์ในตัวมันเอง

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***