บทที่ห้า​ 5/5 + แจ้ง​

ตอนนี้ใบหน้าของฉันและเธออยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

เร็ว รัวเกินไปแล้วไอ้เสียงหัวใจเนี่ย แกล้งตายมันตรงนี้เลยดีไหมนังโสน นี่เด็กน้อย เด็กน้อยยยยย

“เมื่อไหร่เธอจะโตเอลล่า” โตพอที่จะมีความรู้สึกใจเต้นตึกตักเหมือนกับฉัน

ฉันล่ะอยากจะพูดให้จบประโยคเสียงจริง

“คะ?”

“เปล่า เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” ฉันส่ายหัวสะบัดความคิดทิ้ง

“ตัวก็ไม่ร้อน ทำไมหน้าพี่แดงยิ่งกว่าเดิมอีกล่ะคะ? เหมือนคราวนี้จะแดงทั่วตัวเลยด้วย” น้ำเสียงเป็นห่วงขั้นสุด

“เอ่อสงสัยกินผักเยอะเกินไป” ฉันพูดมั่ว ๆ ให้มันผ่าน ๆ ไป

“หรือว่าทำอะไรพลาดรึเปล่านะ? ต้องอีกรอบ”

“เดี๋ยวก่อน” ฉันรีบห้าม “พี่ไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ ตัวไม่ได้ร้อน เธอวัดถูกแล้วแหละ ไม่ได้พลาดอะไรตรงไหน” ฉันรีบบอกกล่าว

“เอลล่าว่าพี่ไปนอนพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ”

“อื้ม ไปส่งพี่ที่ห้องหน่อยได้ไหม?” แบบนี้เขาเรียกหลอกเด็กเข้าห้องใช่ไหมนะ?

“ก็ได้ค่ะ หน้าห้องเท่านั้นนะคะ เพราะว่าคุณดริสเซลล่าอยู่”

“อืม”

ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าห้องนอนของตัวเอง โดยมีเอลล่าตามมาติด ๆ

“พี่เข้าไปก่อนนะ” ฉันบอกลา

จากนั้นเมื่อผลักประตูเข้าห้องไป สภาพในห้องนอนตอนนี้ดูแทบไม่ได้ ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นจนแทบจะไม่มีทางให้เดิน ทั้งเสื้อทั้งผ้ากองเป็นหย่อม ๆ ข้าวของเครื่องใช้ก็เช่นกันระเนระนาดไปหมด

โดยมีเด็กผมแดงนอนหลับเพราะอ่อนแรงหลังจากโวยวายกับตัวงเอง ใบหน้าเปรอะน้ำตาอยู่บนเตียง

“โห นี่มันห้องนอนหรือสนามรบที่ระเบิดนิวเคลียร์เพิ่งลง”

จากที่ตั้งใจจะมานอนพักผ่อนจึงเปลี่ยนมาเป็นเก็บกวาดของในห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าที่

ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ตอนนี้ไม่เหลือสภาพของห้องรกรุงรังอีกแล้ว

เล่นเอาซะหิวไส้กิ่ว

ฉันแหงนมองนาฬิกาแขวน น่าจะใกล้ถึงเวลาอาหารเย็น

เมื่อไปถึงห้องครัวก็พบเด็กตัวเล็กผมทองกำลังหยิบเก้าอี้ขาเตี้ยมาเป็นฐานไว้สำหรับยืนทำอาหาร

“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม?”

“ไม่มีค่ะ” หล่อนตอบ

“เอลล่า” ฉันกดเสียงต่ำ ฉันรู้ว่าเธอต้องการลูกมือช่วยเหลือ แต่ที่ปฏิเสธไปก็เพราะยังคงเกรงใจและยังไม่สนิทใจกับฉันเท่าไหร่นัก

“งั้นพี่หั่นผักให้ก่อนแล้วกันค่ะ เอลล่าจะเคี่ยวน้ำซุปรอ”

“ตกลง จะเอาหม้อใช่ไหม? เดี๋ยวพี่หยิบให้” ฉันบอกเพราะเห็นเธอกำลังจะกระโดดลงเก้าอี้

“ขอบคุณค่ะ” หล่อนยิ้มและรับมันไป

“มื้อนี้มีอะไรกินบ้างล่ะ?”

“แกงมะระ ซุปฟักทองค่ะ พี่พอไหวใช่ไหมคะ? มีแต่ผักทั้งนั้นเลย”

“ถ้าแปรรูปแล้วก็พอไหวนั่นแหละ ปรกติพี่ไม่กินผักเหรอ?”

“กินค่ะ เรียกได้ว่าพี่กินผักทุกชนิดเลย แต่เมื่อเช้านี้สิ เอลล่าแปลกใจ” หล่อนฉุกคิด เพราะเมื่อเช้าพี่สาวคนใหม่ของเธอเห็นผักก็มีสีหน้าเหมือนเห็นผี

“พี่ก็อยากมีเนื้อตกถึงท้องบ้างไง ว่าแต่กินทุกชนิดจริง ๆ ใช่ไหม?”

“ค่ะ พี่ชอบพูดว่าผักมีประโยชน์ โดยเฉพาะมะเขือเทศค่ะ พี่ชอบที่สุด บ้านเราถึงมีผักหลากชนิดในสวนยังไงล่ะคะ”

อ่อ อย่างนี้นี่เอง คนบ้านนี้นิยมกินผัก แต่ฉันไม่ชอบกินโว้ยยย จะบ้าตาย แถมของโปรดร่างนี้ยังเป็นของที่ฉันเกลียดที่สุดอีกด้วย!

ความจริงก็เกลียดมันทุกผักนั่นแหละ แต่ที่สุดของที่สุดก็มะเขือเทศลูกแดง ๆ นั่น

“นังซิน! แกกล้าใช้ลูกฉันให้มาหั่นผักเข้าครัวกับแกเชียวเหรอ! กล้ามากนะเดี๋ยวนี้!” เสียงเลดี้เทรเมนแว้ดขึ้น หล่อนเดินเข้ามาเจอลูกสาวสุดที่รักกำลังคลุกคลีกับลูกเลี้ยงที่แสนชัง

“ไม่ใช่นะคะคุณแม่”

“นี่แกกล้าขู่ลูกฉันด้วยเหรอะ! เหิมเกริมนัก! อนาสตาเซียไม่ต้องไปกลัวมัน มันขู่ออะไรแก แกถึงได้ออกหน้าแทนมัน” เลดี้เทรเมนจ้องเอลล่าตาเขม็ง

“เอลล่าไม่ได้บังคับขู่เข็ญอะไรหนูเลยค่ะ คือว่าหนูให้เอลล่าสอนทำอาหารค่ะ ใช่ไหมเอลล่า” ฉันรีบหันไปขยิบตาส่งสัญญาณให้เธอ “ใช่ไหมเอลล่า”

“ชะใช่ค่ะ” เธอรีบไหลตามน้ำ เออออห่อหมก

“งั้นแล้วไป อย่าให้รู้ทีหลังนะว่ารังแกลูกฉัน!”

“คุณแม่คะ ไม่มีใครกล้ารังแกหนูหรอกค่ะ เว้นเสียจากดริสเซลล่า อีกอย่างหนูตั้งใจฝึกทำอาหารจริง ๆ ค่ะ จากนี้ไปหนูจะให้เอลล่าสอนทำทุกมื้อนะคะ” ฉันรีบบอกดักไว้ก่อน หากวันต่อ ๆ ไปเลดี้เทรเมนมาเห็นอีกจะได้ไม่มีปัญหาตามมา

“ก็ดีเหมือนกัน เอาไว้มัดใจผู้ชาย” หล่อนเอ่ยเรียบ ๆ และเดินจากไปเงียบ ๆ

มัดใจใครก่อนแม่คุ๊ณ! อยากรู้จริง ๆ ว่าจะจับฉันให้กับตระกูลไหน หรือจะเป็นตระกูลที่จะไปงานน้ำชา

“พวกเราเตรียมอาหารกันต่อเถอะ พี่หั่นพวกนี้เสร็จแล้วให้ทำอะไรต่อดี” ฉันถามแม่ครัวมือฉกาจประจำบ้าน

“เอาฟักทองที่หั่นแล้วลงหม้อเลยค่ะ เดี๋ยวเอลล่าเคี่ยวและปรุงต่อเอง”

“งั้นพี่หุงข้าวรอด้วยเลยแล้วกัน”

เธอพยักหน้า จากนั่นก็เริ่มทำตามขั้นตอน โดยมีฉันตั้งใจสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆ จดจำกรรมวิธีทุกรายละเอียด

ในอนาคตฉันจะได้ลองทำให้เธอชิมบ้าง และหวังว่าจะช่วยผ่อนแรงในการช่วยเตรียมอาหารในแต่ละมื้อได้ไม่มากก็น้อย

“เสร็จแล้วหมดแล้ว!” เอลล่าร้องบอก ยิ้มหวาน

“มา เดี๋ยวพี่ช่วยเสิร์ฟ”

ฉันรีบยกแกงมะระไปไว้ที่โต๊ะ ตามด้วยซุปฟักทองที่ได้มาในตอนเช้า จากนั้นก็รีบคดข้าว จัดโต๊ะเสร็จสรรพ เรียกได้ว่าพยายามแย่งหน้าที่ทุก ๆ อย่างในครัวไปจากเอลล่า

ฉันอยากให้เธออยู่เฉย ๆ อย่างน้อยก็วันนี้หนึ่งวัน ฉันรู้ว่าวันหน้าเธอคงไม่ยอมให้เป็นแบบนี้อีกแน่ ๆ

มื้อนี้ฉันต้องกินข้าวกับเลดี้เทรเมนสองต่อสอง อึดอัดแย่

ใจจริงอยากให้เอลล่ามาร่วมโต๊ะด้วย แต่มีหวังโดนคว่ำโต๊ะชัวร์ ไม่กินเส้นกันซะขนาดนี้ ถ้าเป็นดริสเซลล่าก็พอบังคับได้ แต่นี้ตัวแม่!

ฉันเดินกลับเข้าครัว หยิบถ้วยชามใบเล็กขึ้นมา ตักอาหารที่เหลือในหม้อใหญ่ จัดเป็นอาหารอีกชุด

“มาค่ะ เอลล่าช่วยนะ” จากนั้นหล่อนก็ถือขึ้นไว้ในมือ และหันหลังเหมือนจะเอาอาหารเซ็ตเหล่านี้ไปไหนสักที่

“เดี๋ยว เธอรู้เหรอว่าพี่จะทำอะไร?”

“ค่ะ ให้คุณดริสเซลล่าไงคะ”

จิตใจดีเกินไปแล้ว

ฉันให้คำตอบเธอโดยการส่ายหน้าช้า ๆ

“ผิดแล้ว ของเธอต่างหากเอลล่า ส่วนของดริสเซลล่าพี่ยังไม่ตักแยก อยู่ในหม้อนั่นแหละ”

“งั้นเดี๋ยวเอลล่าเอาไปให้คุณดริสเซลล่าก่อนแล้วกันค่ะ”

“ไม่ เดี๋ยวของดริสเซลล่าพี่จัดการเอง ส่วนเธอรับส่วนนี้ไป ไม่มีแต่ด้วย! ต่อไปนี้พี่จะมาช่วยจัดเตรียมอาหารแล้วกันอาหารที่ทำไว้ให้เธอนะเอลล่า จะได้อิ่มท้องทุกมื้อ”

“แต่…แต่ถ้าคนอื่นรู้เข้า”

“จะไม่มีใครรู้ทั้งนั้น ถ้ามี พี่เถียงช่วยสุดใจเลย เร็วเข้า เดี๋ยวมีคนมาเห็น” แล้วฉันก็ลากเธอกลับห้องพร้อมอาหารมื้อเย็น

“กินให้อิ่มล่ะ”

เอลล่าพยักหน้า จากนั้นก็ตักอาหารเข้าปากอย่างเต็มคำ

ฉันมองเธอยิ้ม ๆ อย่างเอ็นดู ต่อไปนี้คงจะมีเนื้อมีหนังกับเขาขึ้นมาบ้างนะเอลล่า

หลังจากแอบช่วยเอลล่าแล้ว ฉันจึงตักอาหารที่เหลือและแอบขึ้นไปให้ดริสเซลล่า

“ดริสเซลล่าตื่นรึยัง?” ฉันแง้มประตู ก็เห็นหล่อนนั่งหน้าบูด ตาปูดบวมอยู่บนพื้น เมื่อเห็นหน้าฉัน เธอเบนหน้าหนีเล็กน้อยก่อนชันเข่าขึ้นและฟุบหน้าลง

“ดูทำท่าเข้าสิ!” ฉันมองหล่อนที่กำลังงอน มองด้วยความรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ทำให้โดนรับโทษที่ไม่ได้ก่อ

“ดริสเซลล่า ฉันขอโทษ ก็มันช่วยไม่ได้นี่น่า นี่ ๆ แอบยกอาหารมาไถ่โทษให้เชียวน้า”

ดริสเซลล่าได้ยินฉันพูดถึงอาหาร หล่อนเงยหน้าขึ้นมาด้วยความดีใจ ก่อนจะนึกได้ว่าไม่ควรดีใจออกหน้าออกตา จึงรีบหุบยิ้มตีหน้านิ่งต่อ

“ออกไป”

“ไล่กันแบบนี้ แล้วของในมือต้องเอาไปที่ไหนต่อดีนะ? กลิ่นห๊อมหอม สงสัยต้องเคลียร์ทิ้งซะแล้ว เสียดายจัง แต่ก็ช่วยไม่ได้เนาะ กินคนเดียวไม่ทีทางหมดแน่ ๆ” ฉันอารัมภบทยืดยาว

“….” หล่อนนั่งนิ่งไม่ปริปาก แต่สายตาจ้องอย่างไม่วางตา พยายามกลืนน้ำลายลงให้เบาที่สุด วางฟอร์มไม่ให้อีกฝ่ายรู้

แต่เสียใจด้วย ฉันรู้ว่าหล่อนอดทนไม่ไหวแล้ว

“ว่ายังไงล่ะ? ฉันต้องทำยังไงกับอาหารพวกนี้ดริสเซลล่า?”

“ทิ้งไว้ตรงนี้ก็ได้”

ในที่สุดหล่อนก็ยอมปริปาก

“ก็ได้ แต่มีข้อแม้นะ… หายโกรธก่อนแล้วจะยอม”

“….” ดริสเซลล่าคิดหนัก ใจหนึ่งก็โกรธหงุดหงิด แต่อาหารก็ต้องการ

“เลือกไม่ได้? งั้นฉันไปละ”

“หายโกรธแล้วก็ได้! เอามา!” หล่อนลุกขึ้นตรงมาหาพร้อมกับยื่นมือ

“รีบกินแล้วเอาไปเก็บที่ครัวด้วย อ่อ อย่าให้คุณแม่เห็นเข้าใจเปล่า?”

หล่อนพยักหน้ารับ

“งั้นฉันลงไปก่อนนะ”

เมื่อภารกิจแอบส่งข้าวปลาเสร็จลุล่วงไปด้วยดี ฉันจึงไปตามเลดี้เทรเมนมารับประทานมื้อเย็น

—————————————————

...ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาถึงตอนนี้นะคะ​ ในนี้จะลงเป็นตัวอย่างเพียงเท่านี้นะคะ​ สามารถติดตามต่อได้ในรูปแบบของebook ใน​ Meb​...

...หรือรายตอนต่อใน​ readawrite​ ค่ะ...

...พิมพ์ชื่อเรื่องหรือนามปากกาหาได้เลยนะ...

...นามปากกา​ น.นิรา...

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!