บทที่ห้า​ 2/5

ไปหาเอลล่าดีกว่า อย่างน้อยก็เป็นอาหารใจ ท้องไม่อิ่มไม่เป็นไร ใจฟูไว้ก่อนก็ได้

“อรุณสวัสดิ์เอลล่า”

เธอมองฉันอย่างสงสัย เพราะปรกติแล้วเวลานี้เป็นเวลาอาหารเช้า

“โดนทำโทษน่ะ อดข้าวเช้า ตัวก็เจ็บ” ฉันเอ่ยเสียงเศร้า “ดูสิ หัวปูดเลย” ฉันชี้ให้เธอดู

“แล้วทำไมถึง....” และเธอก็เงียบ ไม่ถามต่อ เหมือนกับว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งมากกว่านี้

เมื่อไหร่เธอจะผ่อนคลายกับฉันสักที แต่การที่เธอเริ่มพูดคุยกับฉันก็เริ่มเป็นการปลดล็อกหนึ่งขั้น “ดันไปก่อเรื่องไว้เมื่อเช้า ฉันมีรอยตรงไหนอีกไหม มองไม่เห็นเลย รู้แต่เจ็บไปหมดตัว”

ฉันเดินเข้าไปใกล้เธอ หยุดยืนตรงหน้า จากนั้นก็หมุนตัวไปมาหาร่องรอยแดง

“หน้าผากชัดสุดเลย ตรงนี้ด้วย” เอลล่ายกนิ้วชี้แก้มขวา

หืม? แก้มก็ด้วยเหรอ

เมื่อเอลล่าบอกอย่างนั้นแล้ว ฉันจึงลองแตะ ๆ “โอ้ย แสบ”

“คิคิ” เอลล่าหลุดขำ

“ขำเหรอ? ทำแผลให้เลย ฉันมองไม่เห็น อะนี่” หันแก้มยื่นให้

“ปะเปล่าค่ะ นั่งลงก่อนสิ เดี๋ยวเอลล่าไปเอากล่องยา”

“อืม” ฉันพยักหน้า นั่งมองเธอรีบวิ่งขึ้นอย่างร้อนรน

เพียงชั่วครู่ เอลล่าก็กลับมาพร้อมกับกล่องในมือ เธอรีบเปิดฝากล่อง หยิบแอลกอฮอล์สีฟ้าเทใส่สำลีแผ่นกลมก้อน จากนั้นแปะลงบริเวณรอยข่วน ทำเอาตัวฉันเด้งขึ้นแทบทะลุเพดาน แต่พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต้องมีฟอร์มหน่อย เพราะเมื่อเช้าฉันพยายามบังคับให้เอลล่าใส่น้ำยาสีฟ้านั่น แต่พอเป็นตัวเองดันกลับกลัว

“ต้นแขนก็มีรอยเล็บ” เธอเอ่ย จากนั้นก็เปลี่ยนตำแหน่งมือลงมายังแผลแห่งที่สองที่เพิ่งสังเกตเห็น ในจังหวะที่เอลล่ากำลังจะแตะลงไป ฉันจึงร้องห้าม

“เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยว!”

เธอมองอย่างฉงน

“ตรงนี้ล้างน้ำเปล่าก็พอ” ฉันต่อรอง แต่เธอกลับส่ายหน้า

“เดี๋ยวติดเชื้อ มีคนเคยบอกไว้” เธอพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะพยายามแตะสำลีลงมาอีกครั้ง

โอ้โห มียอกย้อนด้วย กำแพงที่กั้นระหว่างอนาสตาเซียกับเอลล่าได้ทลายลงแล้วใช่ไหมเนี่ย?

“เดี๋ยวก่อนไง” ฉันคว้าข้อมือเอลล่าไว้ “ขอทำใจก่อนได้ไหม?”

“ได้” เธอพยักหน้า จากนั้นก็แตะสำลีลงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

“ซี๊ดดดดด แสบ ไหนบอกว่าได้ยังไงเล่าเอลล่า ทำไม ทำไม....” ฉันกัดริมฝีปากมองค้อน

“ทำใจนานไป เดี๋ยวติดเชื้อ” เธอเอ่ยเสียงเรียบ

“ไม่ต้องเลยนะ วันก่อนเธอยังไม่ยอมใส่ แต่พอมาวันนี้จัดให้ฉันซะเต็มที่เลยนะเอลล่า” ฉันกอดอกทำแก้มป่อง

“ของเอลล่าแค่เข็มทิ่ม แผลเล็กนิดเดียวไม่ถึงตายค่ะ แต่คุณแผลเป็นรอยยาวแทบทั้งตัว” เธออธิบาย

“แค่รอยข่วนก็ไม่ตายเหมือนกันน่า”

“ไม่ค่ะ ไม่เหมือนกัน ตรงนี้ก็ปูด”

สรุปตอนนี้ในร่างกายฉันไม่มีส่วนไหนเรียบเนียนเลยสักส่วน

เอลล่าทำแผลให้อย่างเบามือ จากนั้นก็หยิบผ้าสะอาดมาพันแผลให้ที่ต้นแขน

พันเหมือนฉันโดนเสือขย่ำมาอย่างไงอย่างนั้น

“แล้วปรกติถ้าหิว เธอกินอะไรเหรอ?” ฉันเกริ่นถาม เพราะตอนนี้ฉันหิวมาก! เผื่อเธออาจจะมีอาหารแอบซ่อนเอาไว้

“ชินแล้ว ไม่หิวหรอกช่วงเช้า คุณหิวเหรอคะ?”

ฉันพยักหน้าเล็กน้อย

“ก็พอมีทางทำให้ท้องอิ่มอยู่บ้าง”

“จริงเหรอ!? ยังไง!?” ชักตื่นเต้นแล้วสิ เธอจะพาฉันไปกินอะไรที่ไหน

“ตามมาทางนี้ค่ะ” เธอลุกขึ้นเดินนำ ส่วนฉันก็เดินตามอย่างมีความหวัง แต่แล้วฝันก็ดับลง

ตอนนี้ข้างหน้าและรอบด้านของฉันเต็มไปด้วยพืชผักสวนครัวรายล้อมเต็มไปหมด

“ผัก ผักเต็มไปหมด” ฉันเอื้อนเอ่ยอย่างเหม่อลอย

“ใช่ค่ะ อิ่มนะ อร่อยด้วย ตามมาทางนี้ค่ะ” เอลล่าคว้ามือฉัน เดินดุ่ม ๆ ไปยังที่ประจำของเธอ ซึ่งเป็นลานไม่กว้างมากนัก โล่งเตียนไม่มีหญ้ารก มีไม้ยาวสองท่อนปักไว้และมีผ้าบาง ๆ ทำเป็นหลังคา “เอลล่าพาคุณมาที่นี่เป็นคนแรกเลยนะ”

“เป็นเกียรติยิ่งนักเจ้าค่ะ” ฉันยกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยก่อนย่อขาลง

“เอ่อ...ทำไมทำอย่างนั้นกับฉันคะ มันไม่ดีนะ” เสียงกระตุกกระตัก

“ทำอะไร โค้งให้แบบนี้งั้นเหรอ” ฉันทำซ้ำอีกรอบ “นึกว่าจะสบาย ๆ กันแล้วซะอีก ให้ฉันเป็นพี่สาวคนหนึ่งของเธอได้ไหมเอลล่า?”

ขืนฉันไม่ยอมพูดอะไรออกไปให้ชัดเจนตรงประเด็น มีหวังอึดอัดตายแน่ ๆ

“ไม่ได้งั้นเหรอ?” ฉันทำหน้าจ๋อย จ๋อยแบบเรียนการแสดงมาน่ะนะ

เอลล่านิ่งครุ่นคิดสักครู่เดียว เธอก็พยักหน้า “พี่...อานาสตาเซีย” หล่อนพูดเบามาก มากจนแทบไม่ได้ยิน

“ว่ายังไงนะ ขอดังกว่านี้” และฉันก็เขยิบไปใกล้เธอ เพื่อรอฟัง

“พี่อนาสตาเซีย” เธอค่อนข้างเขิน เพราะไม่เคยถูกนับญาติหรือเรียกอะไรทำนองนี้มาก่อน

“ดีมากค่ะ เด็กดี” ฉันวางฝ่ามือลงบนศีรษะเบา ๆ พร้อมโยกเล็กน้อย “แล้วมีอะไรแนะนำพี่บ้างไหม?” ฉันมองสวนผักรอบ ๆ

“พี่ไปนั่งคอยตรงนั้นก่อน รอเอลล่าสักครู่นะคะ” ว่าจบเธอก็เดินไปทางนี้ที เดินไปทางโน้นที่ ก้ม ๆ เงย ๆ ไม่นานผักที่เธอเลือกสรรก็มาวางกองอยู่ตรงหน้าฉัน โดยผักพวกนั้นวางลงบนผ้าสะอาด

“มะเขือเทศ? แตงกวา? โห ฟักทอง ถือมาไหวเหรอเนี่ย?” ฉันมองหน้าเธอสลับกับฟักทองผลใหญ่ “ส่วนชิ้นนี้ไม่น่าจะใช่มั้ง!” ฉันชี้ไปที่มะระที่วางอยู่ข้าง ๆ แตงกวา

“อ่อ อันนี้เหรอคะ? พอดีเห็นมันร่วงหลุดออกจากขั้ว เอลล่าเลยเก็บเอาไว้ทำแกงมะระค่ะ”

แล้วไป นึกว่าเธอก็กินเจ้านี้เล่นเวลาท้องว่าง ตกใจหมดเลย ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย

“แตงกวากับฟักทองก็พอไหวนะ แต่....มะเขือเทศนี่สิ ยกให้”

“แต่เอลล่าตั้งใจเก็บมาให้เยอะแยะเลยนะคะ” หล่อนทำตาละห้อย เสียดายที่เด็ดมาแล้วอีกฝ่ายไม่ต้องการ “แถมดีต่อผิวพรรณด้วยนะ”

“เอ่อ คือว่าฉัน...โอเคตกลง กินมันหมดนี่แหละ!”

“เย้!” เอลล่าร้องดีใจ ยิ้มแป้น ปรบมืออย่างยินดี

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!