ไปหาเอลล่าดีกว่า อย่างน้อยก็เป็นอาหารใจ ท้องไม่อิ่มไม่เป็นไร ใจฟูไว้ก่อนก็ได้
“อรุณสวัสดิ์เอลล่า”
เธอมองฉันอย่างสงสัย เพราะปรกติแล้วเวลานี้เป็นเวลาอาหารเช้า
“โดนทำโทษน่ะ อดข้าวเช้า ตัวก็เจ็บ” ฉันเอ่ยเสียงเศร้า “ดูสิ หัวปูดเลย” ฉันชี้ให้เธอดู
“แล้วทำไมถึง....” และเธอก็เงียบ ไม่ถามต่อ เหมือนกับว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งมากกว่านี้
เมื่อไหร่เธอจะผ่อนคลายกับฉันสักที แต่การที่เธอเริ่มพูดคุยกับฉันก็เริ่มเป็นการปลดล็อกหนึ่งขั้น “ดันไปก่อเรื่องไว้เมื่อเช้า ฉันมีรอยตรงไหนอีกไหม มองไม่เห็นเลย รู้แต่เจ็บไปหมดตัว”
ฉันเดินเข้าไปใกล้เธอ หยุดยืนตรงหน้า จากนั้นก็หมุนตัวไปมาหาร่องรอยแดง
“หน้าผากชัดสุดเลย ตรงนี้ด้วย” เอลล่ายกนิ้วชี้แก้มขวา
หืม? แก้มก็ด้วยเหรอ
เมื่อเอลล่าบอกอย่างนั้นแล้ว ฉันจึงลองแตะ ๆ “โอ้ย แสบ”
“คิคิ” เอลล่าหลุดขำ
“ขำเหรอ? ทำแผลให้เลย ฉันมองไม่เห็น อะนี่” หันแก้มยื่นให้
“ปะเปล่าค่ะ นั่งลงก่อนสิ เดี๋ยวเอลล่าไปเอากล่องยา”
“อืม” ฉันพยักหน้า นั่งมองเธอรีบวิ่งขึ้นอย่างร้อนรน
เพียงชั่วครู่ เอลล่าก็กลับมาพร้อมกับกล่องในมือ เธอรีบเปิดฝากล่อง หยิบแอลกอฮอล์สีฟ้าเทใส่สำลีแผ่นกลมก้อน จากนั้นแปะลงบริเวณรอยข่วน ทำเอาตัวฉันเด้งขึ้นแทบทะลุเพดาน แต่พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต้องมีฟอร์มหน่อย เพราะเมื่อเช้าฉันพยายามบังคับให้เอลล่าใส่น้ำยาสีฟ้านั่น แต่พอเป็นตัวเองดันกลับกลัว
“ต้นแขนก็มีรอยเล็บ” เธอเอ่ย จากนั้นก็เปลี่ยนตำแหน่งมือลงมายังแผลแห่งที่สองที่เพิ่งสังเกตเห็น ในจังหวะที่เอลล่ากำลังจะแตะลงไป ฉันจึงร้องห้าม
“เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยว!”
เธอมองอย่างฉงน
“ตรงนี้ล้างน้ำเปล่าก็พอ” ฉันต่อรอง แต่เธอกลับส่ายหน้า
“เดี๋ยวติดเชื้อ มีคนเคยบอกไว้” เธอพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะพยายามแตะสำลีลงมาอีกครั้ง
โอ้โห มียอกย้อนด้วย กำแพงที่กั้นระหว่างอนาสตาเซียกับเอลล่าได้ทลายลงแล้วใช่ไหมเนี่ย?
“เดี๋ยวก่อนไง” ฉันคว้าข้อมือเอลล่าไว้ “ขอทำใจก่อนได้ไหม?”
“ได้” เธอพยักหน้า จากนั้นก็แตะสำลีลงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“ซี๊ดดดดด แสบ ไหนบอกว่าได้ยังไงเล่าเอลล่า ทำไม ทำไม....” ฉันกัดริมฝีปากมองค้อน
“ทำใจนานไป เดี๋ยวติดเชื้อ” เธอเอ่ยเสียงเรียบ
“ไม่ต้องเลยนะ วันก่อนเธอยังไม่ยอมใส่ แต่พอมาวันนี้จัดให้ฉันซะเต็มที่เลยนะเอลล่า” ฉันกอดอกทำแก้มป่อง
“ของเอลล่าแค่เข็มทิ่ม แผลเล็กนิดเดียวไม่ถึงตายค่ะ แต่คุณแผลเป็นรอยยาวแทบทั้งตัว” เธออธิบาย
“แค่รอยข่วนก็ไม่ตายเหมือนกันน่า”
“ไม่ค่ะ ไม่เหมือนกัน ตรงนี้ก็ปูด”
สรุปตอนนี้ในร่างกายฉันไม่มีส่วนไหนเรียบเนียนเลยสักส่วน
เอลล่าทำแผลให้อย่างเบามือ จากนั้นก็หยิบผ้าสะอาดมาพันแผลให้ที่ต้นแขน
พันเหมือนฉันโดนเสือขย่ำมาอย่างไงอย่างนั้น
“แล้วปรกติถ้าหิว เธอกินอะไรเหรอ?” ฉันเกริ่นถาม เพราะตอนนี้ฉันหิวมาก! เผื่อเธออาจจะมีอาหารแอบซ่อนเอาไว้
“ชินแล้ว ไม่หิวหรอกช่วงเช้า คุณหิวเหรอคะ?”
ฉันพยักหน้าเล็กน้อย
“ก็พอมีทางทำให้ท้องอิ่มอยู่บ้าง”
“จริงเหรอ!? ยังไง!?” ชักตื่นเต้นแล้วสิ เธอจะพาฉันไปกินอะไรที่ไหน
“ตามมาทางนี้ค่ะ” เธอลุกขึ้นเดินนำ ส่วนฉันก็เดินตามอย่างมีความหวัง แต่แล้วฝันก็ดับลง
ตอนนี้ข้างหน้าและรอบด้านของฉันเต็มไปด้วยพืชผักสวนครัวรายล้อมเต็มไปหมด
“ผัก ผักเต็มไปหมด” ฉันเอื้อนเอ่ยอย่างเหม่อลอย
“ใช่ค่ะ อิ่มนะ อร่อยด้วย ตามมาทางนี้ค่ะ” เอลล่าคว้ามือฉัน เดินดุ่ม ๆ ไปยังที่ประจำของเธอ ซึ่งเป็นลานไม่กว้างมากนัก โล่งเตียนไม่มีหญ้ารก มีไม้ยาวสองท่อนปักไว้และมีผ้าบาง ๆ ทำเป็นหลังคา “เอลล่าพาคุณมาที่นี่เป็นคนแรกเลยนะ”
“เป็นเกียรติยิ่งนักเจ้าค่ะ” ฉันยกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยก่อนย่อขาลง
“เอ่อ...ทำไมทำอย่างนั้นกับฉันคะ มันไม่ดีนะ” เสียงกระตุกกระตัก
“ทำอะไร โค้งให้แบบนี้งั้นเหรอ” ฉันทำซ้ำอีกรอบ “นึกว่าจะสบาย ๆ กันแล้วซะอีก ให้ฉันเป็นพี่สาวคนหนึ่งของเธอได้ไหมเอลล่า?”
ขืนฉันไม่ยอมพูดอะไรออกไปให้ชัดเจนตรงประเด็น มีหวังอึดอัดตายแน่ ๆ
“ไม่ได้งั้นเหรอ?” ฉันทำหน้าจ๋อย จ๋อยแบบเรียนการแสดงมาน่ะนะ
เอลล่านิ่งครุ่นคิดสักครู่เดียว เธอก็พยักหน้า “พี่...อานาสตาเซีย” หล่อนพูดเบามาก มากจนแทบไม่ได้ยิน
“ว่ายังไงนะ ขอดังกว่านี้” และฉันก็เขยิบไปใกล้เธอ เพื่อรอฟัง
“พี่อนาสตาเซีย” เธอค่อนข้างเขิน เพราะไม่เคยถูกนับญาติหรือเรียกอะไรทำนองนี้มาก่อน
“ดีมากค่ะ เด็กดี” ฉันวางฝ่ามือลงบนศีรษะเบา ๆ พร้อมโยกเล็กน้อย “แล้วมีอะไรแนะนำพี่บ้างไหม?” ฉันมองสวนผักรอบ ๆ
“พี่ไปนั่งคอยตรงนั้นก่อน รอเอลล่าสักครู่นะคะ” ว่าจบเธอก็เดินไปทางนี้ที เดินไปทางโน้นที่ ก้ม ๆ เงย ๆ ไม่นานผักที่เธอเลือกสรรก็มาวางกองอยู่ตรงหน้าฉัน โดยผักพวกนั้นวางลงบนผ้าสะอาด
“มะเขือเทศ? แตงกวา? โห ฟักทอง ถือมาไหวเหรอเนี่ย?” ฉันมองหน้าเธอสลับกับฟักทองผลใหญ่ “ส่วนชิ้นนี้ไม่น่าจะใช่มั้ง!” ฉันชี้ไปที่มะระที่วางอยู่ข้าง ๆ แตงกวา
“อ่อ อันนี้เหรอคะ? พอดีเห็นมันร่วงหลุดออกจากขั้ว เอลล่าเลยเก็บเอาไว้ทำแกงมะระค่ะ”
แล้วไป นึกว่าเธอก็กินเจ้านี้เล่นเวลาท้องว่าง ตกใจหมดเลย ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
“แตงกวากับฟักทองก็พอไหวนะ แต่....มะเขือเทศนี่สิ ยกให้”
“แต่เอลล่าตั้งใจเก็บมาให้เยอะแยะเลยนะคะ” หล่อนทำตาละห้อย เสียดายที่เด็ดมาแล้วอีกฝ่ายไม่ต้องการ “แถมดีต่อผิวพรรณด้วยนะ”
“เอ่อ คือว่าฉัน...โอเคตกลง กินมันหมดนี่แหละ!”
“เย้!” เอลล่าร้องดีใจ ยิ้มแป้น ปรบมืออย่างยินดี
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments