บทที่สอง​ 2/2

ฉันลุกขึ้นและตรงไปยังห้องนั้น ฉันแง้มประตูออก ค่อย ๆ ชะโงกหัวเข้าไปสอดส่อง เอ๊ะ…ไฟห้องเปิด มีคนอยู่ในนี้งั้นเหรอ? น่าจะเป็นคนที่ชื่อซิน

“มีใครอยู่ไหม?”

เมื่อฉันลองถามออกไป ก็มีคนคนหนึ่งผลุบขึ้นมาจากใต้โต๊ะ ผู้หญิงในชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน ผมสีทองในทรงมัดรวบ เนื้อตัวเปรอะเปื้อน ชุดที่เธอสวมอยู่ก็เช่นกัน

“ขะ ขอโทษค่ะ ไม่คิดว่าคุณจะเข้ามาเร็วขนาดนี้ เอ่อคือว่า… ทำความสะอาดใกล้จะเสร็จแล้ว” น้ำเสียงตะกุกตะกัก

“ไม่เป็นไร ฉันแค่เข้ามานั่งรอเฉย ๆ” ฉันบอกเธอและพยายามเพ่งมอง ฉันอยากเห็นใบหน้าของเธอเสียงจริง เพราะน้ำเสียงคุ้นแสนคุ้น แต่ก็มองไม่ถนัด ก็เธอมัวแต่ก้มหน้า ไม่ยอมเงยหน้าสบตาฉัน

“ขอตัวนะคะ” เด็กน้อยผมเหลืองทองรีบเร่งฝีเท้า

ในขณะที่เธอกำลังจะผ่านหน้า ฉันจึงเอาตัวเข้าไปยืนขวาง ดูจากขนาดตัว เธอน่าจะเด็กกว่าฉันสักสองถึงสามปีเห็นจะได้

“เธอชื่ออะไรเหรอ?”

“คะ?” เธองงกับคำที่ถูกเอ่ยออกมา

“ฉันถามว่าชื่ออะไร ซินเหรอ? เห็นดริสเซลล่าเรียกแบบนี้ สรุปชื่อซินหรือเปล่า”

“……”

“เอางี้ ถ้าใช่ให้พยักหน้า ถ้าไม่ใช่สงให้ส่ายหน้า”

และเธอก็ส่ายหน้า

“งั้นชื่ออะไร?”

“…อ..เอลล่า”

เอลล่างั้นเหรอ ชื่อเพราะ สักอยากจะเห็นหน้าแล้วสิ

“เงยหน้าหน่อย เงยหน้าขึ้นมามองกันหน่อย จะก้มคุยกับฉันตลอดเวลาเหรอไง” ฉันบอกเธอด้วยน้ำเสียงปรกติทุกอย่าง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะคิดว่าฉันกำลังออกคำสั่งบังคับ ตัวสั่นงก ๆ และค่อยเงยหน้าขึ้นสบตาฉัน

“พี่ต้องตา!” คนตรงหน้าฉันคือพี่ต้องตา พี่ต้องตาในเวอร์ชันย่อขนาดและผมทอง นี่ฉันเพ้อจนเก็บเอามาฝัน ต้องใช่แน่ ๆ นี่แหละเนื้อคู่ฉัน

“ขะ ขอโทษค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เธอก้มหน้าลงทันทีที่ฉันเอ่ยชื่อออกไป ดูเหมือนว่าเธอกลัวฉัน กลัวมากเสียด้วย

“เดี๋ยวสิคะ ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย….” ฉันยืนมองเธอวิ่งไปจนเกือบจะถึงประตูห้อง

แต่แล้วประตูก็ถูกเปิดโดยดริสเซลล่า จึงทำให้เด็กผมทองที่กำลังจะวิ่งออกไปชนเข้ากับดริสเซลล่า และต่างคนต่างล้มกองลงกับพื้น

“โอ๊ย! นังซิน! นังขี้ข้า! อี๋! สกปรก! กริ๊ดดดดดดดด!” หล่อนกรีดร้อง ดิ้นแด่ว ๆ อยู่บนพื้น

เป็นอะไรมากเปล่าเนี่ย….

“ขะ ขอโทษค่ะ ขอโทษ เอลล่าไม่เห็น” เธอร้อนรนเอ่ยขอโทษ

“ขอโทษแล้วมันหายเจ็บไหม! แก! แก!” ดริสเซลล่าชี้หน้าร้องโวยวาย เสียงที่ดังลั่นทำให้แม่ของหล่อนเข้ามาดู

“เกิดอะไรขึ้น”

“คุณแม่ขา นังนี้นังซินมันมาชนหนู สกปรกไปหมดแล้ว อี๋” เธอฟ้อง

เลดี้เทรเมนหันขวับไปหาต้นเหตุที่ทำให้ลูกสาวตัวเองเจ็บ

“มานี่! ไปเก็บโต๊ะ แล้วอย่าหวังว่าวันนี้แกจะได้กินข้าว!” หล่อนตวาดใส่เอลล่าผู้น่าสงสาร ฉุดกระชากลากเธอออกไป

ยัยป้านั่นกับยัยเด็กนี้ต้องโดน! กล้ามาทำพี่ต้องตาคนสวยของฉันได้ยังไง ถึงจะอยู่ในฝัน แต่ทำแบบนี้ต่อหน้าต่อตา ฉันไม่ยอม!

ฉันตรงไปหาดริสเซลล่า ยัยเด็กหัวแดงปากร้าย ดูท่าจะเอาแต่ใจด้วย หล่อนเป็นคนผิดแท้ ๆ

“นี่ จะนั่งดิ้นอีกนานไหม?” ฉันกอดอกแน่น

“แกดูนังซินสิ รอให้เรียนเสร็จก่อนเถอะ ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่!... แล้วจะยืนมองอีกนานไหม!” หล่อนพูดอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะยื่นมือขอความช่วยเหลือให้ฉันช่วยดึงหล่อนขึ้น

ฉันยื่นมือออกไป ในขณะที่กำลังดึงตัวดริสเซลล่าขึ้น ฉันก็ปล่อยมือ

เสียงก้นกระแทกพื้นดังตุ๊บพร้อมกับเสียงร้องโอดครวญ

“โอ๊ยยยย ปล่อยทำไมอนาสตาเซีย เจ็บ”

“โทษที พอดีมือมันลื่น เหงื่อมันออกน่ะ” ฉันยิ้มกว้าง กลับหันหลังไปนั่งที่เก้าอี้กลางห้อง ปล่อยให้หล่อนลุกขึ้นมาเอง

ใครจะอยากไปช่วยคนที่มารังแกสุดที่รักของตัวเองกันล่ะ

“รีบมานั่งสิ ดริสเซลล่า”

“รู้แล้วน่า”

“ถามอะไรหน่อยสิ…”

“อะไร”

“ยัยป้า… เอ่อไม่สิ แม่พาเอลล่าไปไหนเหรอ?”

“ว่ายังไงนะ อย่าพูดแบบนี้ให้คุณแม่ได้ยินอีกนะ ฉันไม่อยากเห็นเธอโดนขังรวมกับนังซิน เข้าใจไหมอนาสตาเซีย!”

ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบ

ฉันพูดอะไรผิดไปอีกแล้ว? ทำไมฝันนี้มันดูยาก ๆ จะทำอะไรหรือหยิบจับอะไรก็ดูผิดไปหมด

“พูดผิดตรงไหนเหรอ?” ฉันถามออกไปตรง ๆ

“เธอป่วยแน่ ๆ เอาล่ะ ข้อแรกห้ามเรียกแม่ว่าแม่เฉย ๆ เรียกคุณแม่ ส่วนอีกข้อเธอไม่น่าลืมแต่ทำไมถึงลืม! นังซิน นังสกปรกนั่น”

“เอลล่าน่ะเหรอ?”

“อี๋ อย่าเรียกชื่อของมันอีก ไม่แสลงปากหรือไง!” หล่อนแสดงท่าทีรังเกียจเมื่อเอ่ยชื่อเอลล่า เด็กหญิงผมทองหน้าตาเหมือนพี่ต้องตา

“เอล-ล่า” ฉันเน้นชื่ออีกรอบ เอาให้อกแตกตายไปเลย

“กริ๊ดดดดดดด!!”

แกล้งเด็กมันสนุกแบบนี้นี่เอง แต่พอแค่นี้ก่อน ขอพักแก้วหูบ้าง จากนั้นฉันจึงถามเธอต่อ

“ซินที่พี่หมายถึงคือ….” ฉันกำลังจะเอ่ยถาม แต่ดริสเซลล่าก็โพล่งออกมาเสียก่อน

“ซินเดอเรลล่า นังเด็กขี้เถ้า!” หล่อนใส่อารมณ์

“โอเค ซินก็ซิน ซินเดอเรลล่า” ฉันทวน

โอเค สรุปว่าฉันโดนหนังสือนิทานตกใส่หัวสลบจนเก็บเอามาฝัน

ซินเดอเรลล่าสินะ… แสดงว่าฉันคือพี่สาวต่างแม่ พี่สาวใจร้ายของพี่ต้องตาสินะ…อยากเป็นเจ้าชายมากกว่าในเมื่อพี่ต้องตาเป็นเจ้าหญิง!

“ตลกล่ะ ตื่นสักทีเถิดยัยโสนเอ๊ย”

ในขณะที่ฉันกำลังคิดประมวลผลเกี่ยวกับที่กำลังฝันอยู่ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกโดยหญิงวัยกลางคน

“สวัสดีจ้ะดริสเซลล่า อนาสตาเซีย วันนี้เลดี้เทรเมนให้ครูเน้นเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารเป็นพิเศษ เอาล่ะ นั่งประจำที่ ครูจะให้ทบทวนความจำเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารที่เคยสอนไปเมื่อคราวก่อน ใครทำได้จะปล่อยเร็วเป็นพิเศษ” หล่อนหยิบอุปกรณ์สำหรับการสอนขึ้นมาเรียงบนโต๊ะตัวยาว ไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม มีด ช้อนและส้อม

ดริสเซลล่าเป็นคนแรกที่เริ่มทำการทดสอบ หล่อนหยิบโน้นจับนี่วางเรียง ไม่ว่าคุณครูจะถามอะไร หล่อนก็ตอบได้หมดทุกอย่าง

หล่อนสอบผ่านโดยไม่ต้องสงสัย

“เอาล่ะดริสเซลล่าวันนี้พอแค่นี้” คุณครูสอนมารยาทบอกหล่อน ก่อนจะหันมาหาเรียกฉัน “อนาสตาเซีย”

“ค่ะ….” ฉันเดินเข้ามาแทนที่ดริสเซลล่า แอบเหล่มองหล่อนเดินออกจากห้องอย่างสบายใจ

“เริ่มแรก จัดโต๊ะแบบพื้นฐาน”

เมื่อได้รับโจทย์ข้อแรก ฉันกวาดสายตามองแต่ละอย่างบนโต๊ะ จากนั้นจึงเริ่มลงมือจัดจานชามให้อยู่ในตำแหน่งที่สมควร

โชคดีที่เมื่อกี้ฉันแอบจำวิธีการจัดของดริสเซลล่ามาเรียบร้อย แต่ปัญหาใหญ่ของฉันคือพวกนี้ต่างหากล่ะ

ช้อน ส้อม มีด!

ทำไมมันมีหลายขนาดแบบนี้ แล้วแต่ละประเภทควรวางไว้ส่วนไหนของจานแต่ละใบ

ฉันยืนลังเลสักพัก ก่อนจะวางตามความรู้สึก

“อนาสตาเซีย! เธอจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ สงสัยต้องเข้มงวดแล้ว จำไม่ได้ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกจากห้องนี้เลย”

“ตะ แต่ว่า…”

“ไม่มีแต่ค่ะ เลดี้เทรเมนบอกครูว่าถ้าเธอไม่ได้ห้ามปล่อยเด็ดขาด! เอาละ ครูจะเริ่มสอนตั้งแต่ต้น ทุกวิธีการจัด”

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนตะวันเกือบจะลับขอบฟ้า

“ทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้ หวังว่าเธอจะจำได้! คราวหน้าครูจะมาทดสอบเธอใหม่ หวังว่าจะไม่ต้องสอนใหม่ตั้งแต่ต้นนะอนาสตาเซีย”

“ลาก่อนค่ะ” ฉันโค้งบอกลา

ขอให้ลาแล้วลาลับ อย่าได้ฝันอะไรแบบนี้อีกเลย.. สาธุ!

ฉันเดินลากสังขารออกมาจากห้องเรียน ท้องร้องดังโครก

หิวจัง… ทำไมมันหิวแบบนี้นะ ทำไมฝันครั้งนี้ถึงรู้สึกสมจริงแบบนี้ ทั้งความเหนื่อย ความหิว สมองก็ล้า ง่วงอีกต่างหาก

เมื่อฉันผลักประตูห้องเรียนออก ภายในตัวบ้านเงียบสนิท

“ดริสเซลล่า? คุณแม่? มีใครอยู่ไหม? ” ฉันตะโกนเรียก แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ และเมื่อเดินไปในครัว เจอกระดาษโน้ตวางแอบไว้บนโต๊ะโดยมีสมุดที่มีชื่อกำกับของดริสเซลล่าวางทับไว้

‘ฉันกับแม่ออกไปกินข้าวข้างนอก แอบขนมปังไว้ให้ในตู้เย็น อ่านแล้วทิ้งด้วย เดี๋ยวคุณแม่เห็น’

จริงสินะ ฉันโดนทำโทษอดอาหาร แต่ก็ยังดียัยพี่สาวหัวแดงเก็บขนมปังไว้ให้ ถือว่าเป็นคนดีใช้ได้

“ไหนดูซิ๊” ฉันเปิดประตูตู้เย็นออก ก็เห็นถุงกระดาษสีน้ำตาลวางไว้ตรงกลาง

ข้างในมีขนมปังสองก้อนใหญ่

“ขอบใจนะดริสเซลล่า” ฉันหยิบถุงกระดาษนั่นมาไว้ในมือ “ยังร้อน ๆ อยู่เลย น่าจะเพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้”

ฉันฉีกกินทีละนิด และเดินสำรวจตัวบ้านไปในตัว จนกระทั่งไปหยุดอยู่หน้าบันไดชั้นใต้ดิน กลิ่นอับลอยโชยเตะจมูก ฉันย่นจมูกลงเล็กน้อย

และในขณะที่กำลังจะเดินผ่านจุดนั้นไปก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากข้างล่าง ฉันจึงถอยหลังย้อนกลับ

“เสียงอะไร? อับขนาดนี้คงไม่มีใครหรอกมั้ง” ฉันเอ่ยกับตัวเองก่อนจะฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้

ถ้านี่คือเรื่องซินเดอเรลล่า งั้นแสดงว่าคนที่อยู่ข้างล่างก็ต้องเป็น…

“พี่ต้องตา!”

ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเดินลงไปในห้องอับ ๆ ใต้ดินนั่น และเมื่อลงไปถึงก็เห็นเธอคนนั้นนั่งกอดเข่าเอาก้มหน้าซุกอยู่บนฟูกเล็ก ๆ

“เอ่อคือว่า…”

เธอเงยหน้าขึ้นมาตามเสียง และผงะตกใจ

“มีอะไรให้รับใช้คะ?”

“เปล่า ไม่มี… แค่เอานี้มาให้” ฉันยื่นถุงกระดาษสีน้ำตาลให้

เธอรับมาด้วยอาการงุนงง แง้มปากถุงดู

“ขนมปัง?”

“อื้ม ให้ ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม?”

เอลล่าเงียบ มองขนมปังในถุงด้วยความลังเล

“ให้จริง ๆ อร่อยนะ กินมาก่อนแล้ว” ฉันดันถุงในมือเธอ ส่งยิ้มให้ก่อนบอกลา “งั้นไปแล้วนะ”

ฉันรีบเดินกลับขึ้นมายังข้างบน ฉันเกรงว่าขืนอยู่ต่อเธออาจจะเกร็งทำตัวไม่ถูก ในขณะที่ฉันกำลังจะก้าวเท้าขึ้นเหยียบขั้นบันได ก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันตัวกลับ ยืนนิ่งมองเด็กตรงหน้า กัดริมฝีปากครุ่นคิดเล็กน้อย

จุ๊บ

“ฝันดีนะเอลล่า”

ฉันบอกลาเธออีกครั้งก่อนวิ่งกลับขึ้นไป ปล่อยให้เอลล่ายืนทำตาปริบ ๆ

“ไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ตื่นจากฝันสักที” ฉันหาวหวอด อาบน้ำแต่งตัวและเข้านอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!