บทที่สอง​ 1/2

ฉันพยายามลืมตาขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังข้างหู แต่พยายามลืมเท่าไหร่ก็ลืมตาไม่ขึ้น เปลือกตามันหนักผสมกับอาการวิงเวียน

หนังสือนิทานบ้าอะไรเล่มหนายังกับสารานุกรมประวัติศาสตร์สงครามโลก อีกอย่างมันไม่สมควรจะมาอยู่หมวดนี้ช่องนี้ไม่ใช่เหรอไง! ใครมันมือบอนมายัดไว้มั่ว ๆ ต้องลำบากคนจัดหนังสืออย่างฉันอีก

“อนาสตาเซียตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน! อนาสตาเซีย แม่บอกให้ลืมตาลุกขึ้นมา!!” เสียงแหลมแสบแก้วหูตะโกนดังลั่น

“แกก็อีกคนดริสเซลล่า! ฉันเหลืออดกับพวกแกแล้วนะ! อนาสตาเซีย! ดริสเซลล่า! ตื่น!!!!!” เสียงแผดร้องดังอย่างต่อเนื่อง หากมีแก้วน้ำตั้งอยู่ก็คงจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ

ร่างกายของฉันดีดตัวลุกขึ้นนั่งอัตโนมัติ หนังตาที่หนักอึ้งก็ดีดขึ้นเช่นกัน และสิ่งที่อยู่ตรงหน้าฉันคือห้องกำแพงอิฐสี่เหลี่ยมกับเตียงขนาดห้าฟุตวางไว้กลางห้อง

ถึงแม้ว่าผนังห้องจะก่อด้วยอิฐแต่ภายในถูกตกแต่งอย่างสวยงาม

มุมนี้คือส่วนไหนของห้องสมุด? รีโนเวทใหม่งั้นเหรอ? ตอนไหนกันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย

ฉันเหม่อมองไปรอบห้องด้วยอาการมึนงง มองเห็นเด็กผู้หญิงผมสีแดงกระโดดลงจากเตียงด้วยอาการร้อนรนและเดินหายออกจากห้องไป

นี่ไม่ใช่ห้องสมุด....

แล้วฉันอยู่ที่ไหน หรือกำลังฝันถึงเรื่องอะไรอยู่ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย แล้วเสียงแสบแก้วหูของยัยป้าทรงผมกะบังลมก็แสบลึกเข้าทรวงใน เหมือนจริงมาก เหมือนมาก

ทำไมจ้องเขม็งเหมือนจะฉีกฉันเป็นชิ้น ๆ แบบนั้นล่ะ ขนลุก

“อนาสตาเซียไปสิ ไม่ตามพี่แกไปอาบน้ำแต่งตัวรึไง ลุก!!” เธอตะโกนลั่นสุดเสียงอย่างหัวเสีย

ฉันสะดุ้งพุ่งกระโจนตัวออกจากห้องตามเด็กหัวแดงนั่นไปอย่างรวดเร็ว ว่าแต่ต้องตามไปไหนนะ? อาบน้ำแต่งตัว ห้องน้ำอยู่ไหนล่ะทีนี้ ลองเรียกเด็กนั่นดูแล้วกัน

“ดริส...เซลล่า” น้ำเสียงที่เปล่งออกไปไม่เต็มคำมากนัก เนื่องจากฉันไม่มั่นใจในชื่อของเธอ

“มัวเรียกอยู่ทำไม รีบเข้ามาสิ เดี๋ยวก็โดนคุณแม่ดุอีกหรอก เมื่อกี้ยังโดนไม่พอใช่ไหม รีบเข้ามา” เธอชะโงกหน้า กวักมือเรียก

ถ้านี่คือความฝัน งั้นก็เล่นตามบทไปเถอะ เดี๋ยวก็ตื่นแล้ว เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้วจึงเดินตามเข้าไปอย่างว่าง่าย สองมือเอื้อมหยิบแปรงสีฟันแถมยังต้องใช้สองเท้าเขย่งยืดตัวเพื่อเป็นการช่วยหยิบอีกด้วย

เฮ้อ ฝันทั้งทีดันเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยก ทำอะไรก็ลำบากไปหมด

“เสร็จแล้ว ทำอะไรต่อ” ฉันหันไปหาเด็กผมสีแดง

“ก็เหมือนทุกวัน”

“แล้วไอ้ที่ว่าเหมือนเดิมทุกวันคือทำอะไรเล่า”

“เอ๊ะ! ก็แต่งตัว เตรียมทานอาหารเช้าแล้วก็เรียน” เธอชักสีหน้าใส่ แต่ก็ตอบคำถามให้พอหายสงสัยอยู่บ้าง

“บ้านหลังนี้อยู่กันกี่คนเหรอ”

เมื่อฉันถามคำถามประโยคนี้ออกไป สีหน้าของคนถูกถามแสดงออกอย่างชัดเจน เหมือนกำลังก่นด่าอยู่ในใจ เธอถอนหายใจแรง บ่งบอกว่าเริ่มไม่พออกพอใจ

“พี่ น้อง คุณแม่ และนังซินนังคนใช้!” เธอชี้ตัวเองและชี้นิ้วมาที่ฉัน

“น้อง?” คราวนี้ฉันชี้เข้าหาตัวเอง เธอพยักหน้าบอกว่าใช่ ฉันคือน้องของเธอ ก็ยังดีที่หัวฉันเป็นสีน้ำตาล ไม่แดงแบบเชิญชวนเรียกวัวกระทิง

ฉันยืนมองชุดกระโปรงทรงสุ่มยาวคลุมตาตุ่มที่ต้องใส่อย่างสงบนิ่ง นี่มันเสื้อผ้าอะไรกัน ใส่ได้จริง ๆ น่ะเหรอ

“ใส่สิ” ดริสเซลล่าดึงชุดออกจากไม้แขวนและโยนมาบนเตียงต่อหน้าฉัน เมื่อสวมใส่เสร็จแล้วก็เห็นป้าผมกระบังผมนั่งรออยู่ก่อน อาหารถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบคอยไว้แล้ว

“หนึ่ง สอง สาม” มีทั้งหมดสามจาน ไหนเมื่อกี้เด็กผมแดงนั่นบอกว่าบ้านหลังนี้อยู่กันสี่คน ทำไมบนโต๊ะถึงมีแค่นี้

“อนาสตาเซีย! แกมัวแต่นับอะไร มานั่งได้แล้ว ทานเสร็จจะได้เข้าเรียน”

คนบ้านนี้นิยมตะคอกเรียกชื่อกันหรือยังไง หูชาตั้งแต่รู้สึกตัวยันตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่ฉันจะตื่นจากฝันบ้า ๆ นี่สักที หวังว่าหูคงไม่ดับไปก่อน

อยากจะถามเหลือเกินเรื่องจำนวนจานข้าวบนโต๊ะ แต่ดูท่าแล้วไม่ควรถาม สนใจอาหารบนโต๊ะดีกว่า มีทั้งซุปข้าวโพดกับสปาเกตตีแสนหอมฉุย

ฉันกำส้อมหมุนเส้นขึ้นและในขณะที่กำลังจะเอาเข้าปาก มือก็ถูกฟาดจนส้อมหลุดกระเด็นข้ามหัวไป

“อนาสตาเซีย! ใครสั่งใครสอนให้กินแบบนี้! มารยาทผู้ดีมันหายไปไหนหมด!”

“คุณแม่คะ วันนี้ปล่อยน้องไปเถอะค่ะ วันนี้น้องดูแปลกตั้งแต่ตื่นนอนแล้ว” ดริสเซลล่ารีบลุกขึ้นห้ามเลดี้เทรเมนผู้เป็นมารดา

เลดี้เทรเมนจ้องเขม็ง นัยน์ตาแข็งกร้าว เธอถอนหายใจอย่างหงุดหงิด นั่งลงแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

“ต้องทานซุปก่อน” ดริสเซลล่ากระซิบบอก

ซุปงั้นเหรอ? แล้วทำไมฉันจะกินเส้นก่อนไม่ได้...ซุปก็ซุป จะได้ไม่มีปัญหา

ฉันเลื่อนจานตรงหน้าไปไว้ข้าง ๆ และหยิบจานซุปข้าวโพดมาแทนที่ แต่เมื่อจะเอาเข้าปากก็โดนอีกรอบ

“ไร้มารยาทแบบนี้ ไม่ต้องกินมันแล้ว!” เลดี้เทรเมนปัดมือคว่ำจานชาม

ฉันทำอะไรผิดอีกเนี่ย! ฉันหันไปมองหน้าดริสเซลล่าเพื่อขอความช่วยเหลือ หล่อนทำเพียงถอนหายใจโดยไม่บอกอะไร

“พวกเราต้องเตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ นะ ขืนไร้มารยาทแบบนี้มีหวังเจ้าชายไม่สนแกแน่! เหลืออีกไม่กี่ปีนะ!”

เจ้าชายอะไรวะ ฉันจะได้เป็นเจ้าหญิงงั้นเหรอ?

“สงสัยต้องกำชับอาจารย์ให้เข้มงวดกับแกแล้วสิ! ดริสเซลล่าแกดูน้องแกด้วยนะ!” เลดี้เทรเมนหันไปกำชับลูกสาวคนโต

“ค่ะ คุณแม่” หล่อนก้มหน้าก้มตา

“อ๋อ อนาสตาเซียมื้อนี้ไม่ต้องกิน… ไปรอในห้องเลยไป!” เธอชี้นิ้วไปยังห้องข้างหน้า

ยัยป้านี่เกรี้ยวกราดเสียเหลือเกิน ไม่กินก็ไม่กิน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!