ซินเดอเรลล่า​ I'M Your Stepsister (มีEBOOK​ Meb)​

ซินเดอเรลล่า​ I'M Your Stepsister (มีEBOOK​ Meb)​

บทที่หนึ่ง

เสียงกริ่งดังบอกเวลาใกล้จะแปดนาฬิกาตรง แถวหน้าเสาธงเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และฉัน! ที่กำลังวิ่งใส่เกียร์หมาเพื่อให้ทันแถวตอนเช้า เดือนนี้ฉันหมดโควตามาสายไปเมื่อสองวันก่อน ถ้าครั้งนี้ไม่ทันซวยแน่ ไม่อยากโดนจับไปทำจิตอาสา และประตูหน้าโรงเรียนกำลังถูกปิดไปต่อหน้าต่อตา

“เวรเอ๊ยยย!” ฉันเบรกจนหน้าแทบจะทิ่มกับประตูรั้ว

“แอ็ก… อู้ยยยยย” ฉันร้องซี๊ดหน้าเหยเก

“โทษทีเพื่อน หยุดไม่ทัน”

ฉันหันไปมองหน้าเอาเรื่องคนที่วิ่งมาชนจนฉันร่างแบน หน้ากระแทกกับซี่เหล็กของประตู

“ขอโทษจริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจ แหะ” นักเรียนชายพุงพลุ้ยพูดด้วยเสียงแหบแห้ง

“ตุ๊ต๊ะ!” ฉันตะเบ็งเสียงเอ่ยชื่อ กัดฟันกรอดข่มอารมณ์หงุดหงิด หงุดหงิดที่เข้าแถวสายอีกจนได้ อีกแค่เส้นยาแดงผ่าแปดก็จะรอดแล้วแท้ ๆ มิหนำซ้ำยังโดนอัดกระแทกเจ็บตัวไปหมดอีกต่างหาก

“นังโ-ส-น! หงุดหงิดอะไรแต่เช้า พาลไปเรื่อย เมนไม่มารึไง” เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา

ฉันไม่ต้องหันไปมองก็รู้เลยว่าใครกำลังแขวะอยู่ มีคนเดียวเท่านั้นที่เรียกชื่อฉันแบบนี้

“ค่ะคุณแสนดี! ฉันชื่อโสนเว้ย โสนน้อยเรือนงามน่ะ แกนี่หัดทำตัวให้เหมาะกับชื่อทีเถอะแสนดี!” ฉันกดเสียงต่ำเน้นชื่อแสนดีที่แสนเลว

“กินรังแตนมาแน่ ๆ เลิกหงุดหงิด เดี๋ยววันนี้แสนดีคนนี้จะพาแกไปส่องพี่ต้องตา โอเค๊?”

แสนดีรู้ว่าจุดอ่อนที่สุดของฉันในตอนนี้ก็คือพี่ต้องตาคนสวย คนอะไรก็ไม่รู้งามทั้งใบหน้า ทั้งท่วงท่าการเดิน กิริยาที่เรียบร้อยอ่อนหวานไม่ว่าจะพูดจะจา แถมเวลาเดินผ่านกลิ่นหอม ๆ ของดอกไม้อะไรก็ไม่รู้ก็โชยเตะจมูกอยู่ตลอด ๆ คนอะไรก็ไม่รู้ช่างเพียบพร้อมเหมาะที่จะมาเป็นแฟนของฉัน

“ตื่น ตื่น ตื่น” แสนดีตบมือต่อหน้าเพื่อปลุกให้ฉันสะดุ้งจากอาการเพ้อ

“ตื่นอะไร ไม่ได้หลับ”

“ตื่นจากฝันลม ๆ แล้ง ๆ ต้องให้เรียกสติอีกกี่หมื่นครั้งแกถึงจะจำว่าหมาวัดไม่ควรได้คาบดอกฟ้า”

ดูมันพูดเข้าสิ เอาซะใจที่กำลังฟูฟ่องกลายเป็นฟูแฟบ “กำลังใจน่ะมีไหม!”

“ก็อยากให้ แต่ที่แกอยากได้มันเกินเอื้อมปะ”

“ไม่ลองไม่รู้ วันนี้แหละ!” ฉันเงยหน้ามองหน้า วันนี้ฉันจะเข้าไปขอเบอร์ พอได้เบอร์เราก็จะมีไลน์ พอเรามีช่องทางติดต่อก็จะเดินหน้าลุย!!

“ทำไม จะไปขอเบอร์โทรเหมือนคราวก่อนน่ะเหรอ สีหน้าตอนนี้มั่นใจสุดขีด แต่พอไปถึงหน้างานกลับวิ่งหนีจุกตูด เพลีย” แสนดีมองบน

ครั้งก่อนฉันบอกกับเธอคล้าย ๆ แบบนี้และสุดท้ายฉันก็ไม่กล้าขอตามที่มันบอกมานั่นแหละ

“แต่คราวนี้ครั้งนี้ของจริง จริงแท้แน่นอน ไม่เชื่อเดี๋ยวเลี้ยงขนม” ฉันวางเดิมพันให้กับตัวเอง ยังไงฉันก็ต้องทำสำเร็จเพราะฉันไม่ยอมเสียเงินเลี้ยงแสนดีแน่ ๆ

จริง ๆ ก็ไม่ค่อยจะงกเท่าไหร่หรอก

“สาธุ เดี๋ยวนึกก่อนนะว่าอยากกินอะไร จะเอาให้ล้มละลาย”

“หึ เดิมพันครั้งนี้แกไม่มีวันชนะ”

“สาธุ ๆ” แสนดีทำประชด

“อะแฮ่ม! อะแฮ่ม! สายแล้วยังจะคุยกันอีก เข้ามาเรียงแถวมุมนี้” อาจารย์ประจำเวรหน้าประตูเปิดประตูต้อนเด็กมาสายให้ไปเข้าแถวตามที่จัดไว้ให้เฉพาะเด็กพิเศษกลุ่มมาสายนี้โดยเฉพาะ

หลังจากกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จเป็นที่เรียบร้อย นักเรียนที่มาเช้าทันเข้าแถวก็ทยอยขึ้นห้องรอเรียนตามปรกติ เหลือแต่กลุ่มเด็กที่มาสายที่ขึ้นช้าสุด เพราะอาจารย์กำลังไล่เช็กชื่อตามชั้นปีและห้องว่าใครบ้างที่เกินลิมิตมาสายภายในเดือน

หนึ่งเดือนสามารถมาสายได้สามครั้ง ถ้าหากเกินสามครั้งต้องทำจิตอาสาตามที่อาจารย์กำหนด ซึ่งแต่ละครั้งก็จะต่างกัน สลับวน ๆ กันไป แล้วแต่ว่า ณ ช่วงเวลานั้นส่วนไหนต้องการคนช่วย

“เธออยู่ชั้นไหนห้องไหน ชื่ออะไร” อาจารย์ถามนักเรียนตรงหน้า

“มอสี่ห้องสาม ชื่อแสนดีค่ะ”

อาจารย์เปิดสมุดบัญชีหนังหมาลายจุด หรี่ตาไล่หารายชื่อก่อนจะปิดสมุดลงตามเดิม “แสนดีเดือนนี้สายเป็นครั้งแรก มิน่าถึงไม่คุ้นหน้า คราวหลังอย่าให้มีครั้งที่สองที่สามล่ะ”

“แล้วหนูล่ะคะอาจารย์” ฉันยื่นหน้าเข้าไปถามอย่างใสซื่อบริสุทธิ์

“เดี๋ยวคิดก่อนว่าจะส่งเธอไปทางไหนดี” อาจารย์พูดแล้วเดินผ่านไปหานักเรียนอีกคน

ฉันต้องรีบยื้ออาจารย์ไว้ “เดี๋ยวสิคะ ทำไมของหนูอาจารย์ไม่เปิดสมุดนั่นเลยคะ ไม่ถามหนูสักนิ๊ดเลยเหรอคะว่าอยู่ห้องไหน ชื่ออะไร”

“ครูคนไหนไม่รู้จักเธอบ้าง! เปิดให้เสียเวลาทำไม ส่งตัวไปเลยง่ายกว่า”

“โธ่ อาจารย์คะ ถ้าเกิดสมมติว่าเดือนนี้หนูสายเป็นครั้งแรกของเดือน อาจารย์ทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่เลยนะคะ ที่ให้คนบริสุทธิ์ต้องได้รับโทษ”

“อารัมภบทเข้าไป ครูดูเรียบร้อยแล้ว เดือนนี้ครั้งที่ห้าแล้วนะโสน! สงสัยต้องหาวิธีทำโทษใหม่แล้วมั้งถึงจะจำ”

อาจารย์พูดจนตอนนี้หน้าฉันหดเหลือสองนิ้วแล้วเนี่ย อายคนอื่นจังวุ้ย เอ๊ะหรือเราไม่ควรอาย? ควรจะชินได้แล้วเนาะ

“เที่ยงนี้อย่าลืมนะแสนดี พี่ต้องตาน่ะพี่ต้องตาคนสวยของฉัน” ฉันกระซิบทบทวนความจำเพื่อนอีกสักรอบ

“เออ เดี๋ยวพาไป แต่ตอนเที่ยงแกไม่น่ารอด น่าจะได้ไปทำจิตอาสาเก็บชั่วโมงมากกว่า”

จริงด้วย ฉันต้องรอฟังคำสั่งว่าครั้งนี้จะได้ส่งตัวไปทำงานที่ไหนในโรงเรียน

เมื่ออาจารย์ตรวจเช็กนักเรียนแต่ละแถวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ย้อนกลับมาหาฉัน ย้อนกลับมาบอกจุดหมายปลายทางที่ต้องไปทำในเที่ยงนี้

“ช่วงนี้ห้องสมุดงานเยอะ ไปเป็นบรรณารักษ์ช่วยเช็กหนังสือ จัดเก็บเข้าที่แล้วกัน ตลอดหนึ่งเดือนทุกเที่ยง ให้เวลาทานข้าวสิบนาที”

“สิบนาทีเองเหรอคะอาจารย์ มันน้อยไปนะคะ ไหนจะต้องต่อแถวซื้อข้าว ไหนจะต้องกิน” ฉันบ่นและพยายามจะต่อรองขอยืดเวลา

“จะมีใบเช็กชื่อลงเวลาอยู่หน้าห้อง” อาจารย์เอ่ยต่อโดยที่ไม่สนใจในสิ่งที่ฉันกำลังพยายามอ้อนวอนอยู่เลยสักนิด

“แต่ว่า...”

“ตามนั้น ไม่งั้นสองเดือน” อาจารย์ยื่นคำขาด จึงทำให้ฉันเถียงต่อไม่ได้ ขืนเถียงต่อมีหวังจากหนึ่งเดือนจะเป็นสามเดือน

“ค่ะ”

“วันนี้เริ่มวันแรก” อาจารย์บอกเสร็จก็เดินจากไป ปล่อยให้ฉันยืนทำตาปริบ ๆ เบะปากใส่แสนดี

“ฮืออออ พี่ต้องตาคนสวย” ฉันร้องโอดครวญ วันนี้คงไม่ได้เจอพี่ต้องตาคนสวยแล้ว เอ๊ะ!? ไม่สิ ปรกติพี่ต้องตาชอบมาห้องสมุดนี่

โอ้พระเจ้ามันยอดมาก อย่างน้อยสวรรค์ก็เข้าข้างละวะ ไอ้โสนเอ๊ย!

“หน้าระรื่น เมื่อกี้ยังเศร้าสลดเหมือนไม่ได้ขี้มาสามวันอยู่เลย” แสนดีเหล่มอง เพื่อนของเธออาการหนักเอาการ ผิดหวังจนสติล่องลอยไป คงกู่ไม่กลับ

“หึ! เดี๋ยวหลังเลิกเรียนฉันจะเอาเบอร์มาโชว์ คอยดูแล้วกัน!” ฉันบอกแสนดีก่อนจะหรี่ตา แสดงสีหน้าภาคภูมิใจในตัวเอง

ภาคภูมิใจเรื่องอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่อยากทำหน้าแบบนี้

“เลิกยืนเก๊กได้แล้ว จะขึ้นเรียนไหมหะโ-ส-น!”

“โสนเว้ย! ขึ้นดิ รอไร ไปกัน” และฉันก็รีบวิ่งตามหางแถวที่ทิ้งช่วงจนขาดตอน

ฉันมองเข็มนาฬิกา หูก็คอยฟังเสียงเตือนหมดเวลาและมือก็เตรียมพร้อมที่จะเก็บหนังสืออุปกรณ์การเรียนลงใต้โต๊ะ และเมื่อเสียงที่รอดังขึ้น ฉันก็กวาดทุกอย่างยัด ๆ เข้าใต้โต๊ะไปอย่างรีบร้อน มือคว้าขวดน้ำเปล่า กระเป๋าเงินและพุ่งตัวออกจากห้องเรียนคนแรกประดุจดั่งสายฟ้าฟาด

ฉันต้องถึงโรงอาหารเป็นคนแรกของโรงเรียน!!

แฮ่ก แฮ่ก

“ป้..า..ค...ะ แฮ่ก แฮ่ก” ฉันยืนหอบอยู่หน้าร้านขายข้าว เหนื่อยหน่อยแต่ก็ได้ตามเป้าหมาย

“พักหายใจหายคอก่อนลูก”

“เอานี่...กับนี่ค่ะ” ฉันสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ค่อย ๆ พยุงตัวยืดหลังตรง ชี้นิ้วสั่งอาหาร ลาบและฮอตดอกราดข้าว ตอนนี้ยังเหนื่อยเกินที่จะสั่งอาหารแบบเรียกชื่อเมนูเต็มยศ

ทันทีที่รับจานข้าวจากป้าขายอาหาร ฉันก็รีบเดินจ้ำไปหาที่นั่ง กินแต่ละคำก็คอยดูเวลาตลอด ต้องรีบยัดเข้าไปให้หมดให้อิ่ม เรื่องเวลาอาจารย์เป๊ะมาก สายคือสาย มาช้าไปเสี่ยววินาทีก็คือสาย จะชักแม่น้ำทั้งห้าหาเหตุผลอธิบายยังไงก็ชักไม่ขึ้น ดังนั้นไม่สายดีที่สุด

สามนาทีสุดท้าย

“โห กินหมดแล้ว ฉันเพิ่งจะได้ข้าวเอง” แสนดีบอก เธอนั่งวางจานข้าวลงข้าง ๆ

“เออมาพอดีเลย ฝากเก็บหน่อยนะ ขอบใจแสนดี” ฉันไหว้วานฝากแสนดีจัดการต่อให้

“ไอ้นี่!”

“ขอบใจนะแสนดี” ฉันตีมึนขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือแบบยัดเยียด

สองนาทีสุดท้าย

ทุกวันห้องสมุดมันก็ไม่ได้ไกลเท่าไหร่ ทำไมวันนี้มันไกลนัก เหมือนวิ่งจากเหนือไปใต้

ทันทีที่ขาฉันก้าวเข้าห้องสมุดก้าวแรก อาจารย์บรรณารักษ์ก็เอ่ยขึ้น

“ทันเวลาพอดี ช้าอีกนิดโดนรายงานแน่โสน” และอาจารย์ก็ก้มติ๊กเช็กชื่อ

อาจารย์เขาทำงานกันเป็นทีมเวิร์กจริง ๆ ส่งรายชื่อคนโดนทำโทษได้รวดเร็ว

“วันนี้หนูต้องทำอะไรบ้างคะ พอดีเพิ่งเคยมาทำที่นี่ครั้งแรก”

ปรกติฉันโดนแต่ให้ไปเก็บขยะ เอะอะเก็บขยะ ไม่ก็ทำความสะอาดห้องประชุมบ้าง ขัดส้วมยังโดนมาแล้ว ครั้งนี้งานสบายหน่อย แค่จัดหนังสือเก็บเข้าที่ตามหมวดหมู่ มันจะไปเหนื่อยอะไรแถมทำในห้องแอร์อีก สบายมาก!

“ทำนี่ก่อนแล้วกัน เอาหนังสือที่อยู่บนโต๊ะคืนหนังสือไปเก็บเข้าที่ตามหมวดหมู่”

ฉันหันไปตามมือของอาจารย์ที่ชี้ไปทางนั้นทีทางนี้ที เมื่อสายตาไปหยุดอยู่ที่โต๊ะ ลมก็แทบจับ

“โห กองใหญ่ยิ่งกว่าภูเขาไฟฟูจิ!” ฉันไล่หนังสือที่ระเกะระกะตามใต้โต๊ะยันแหงนหน้ามองจนแทบจะทะลุเพดาน

“นี่ห้องสมุดนะคะนักเรียน อย่าส่งเสียงดัง เดี๋ยวมีรายงาน” อาจารย์บรรณารักษ์กล่าวตักเตือนผสมขู่

ขู่เก่งจริง ๆ คิดว่าโสนคนนี้ไม่กลัวเหรอคะ? ใช่ค่ะ โสนกลัว

“แหนะยืนอยู่ทำไม ไปทำได้แล้ว อย่างน้อยวันนี้ต้องให้ลดไปครึ่งหนึ่งรู้ไหม”

“ค่ะอาจารย์”

ฉันหอบหนังสือส่วนหนึ่งหลังจากแยกหมวดหมู่แล้ว ตรงไปยังชั้นหนังสือสุดมุมห้อง ค่อย ๆ จัดเข้าที่เล่มแล้วเล่มเล่า จนหนังสือในมือที่พอถือมาได้เหลือในมือเพียงหนึ่งเล่ม และไอ้เล่มที่ถืออยู่ช่องเก็บมันดันสูงเหนือหัว ฉันกวาดสายตามองหาเครื่องมือช่วยเหลือ

“เก้าอี้หายไปไหนนะ เหมือนเห็นอยู่แถวนี้นี่” ฉันก้ม ๆ มอง ๆ กวาดสายตาหาเก้าอี้บันได ทันได้หาเจอสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นพี่ต้องตา! ฉันก็เลยหยุดการค้นหาไอ้เจ้าเก้าอี้บันไดไปชั่วคราว ขออู้มองอาหารตาหาความชุ่มฉ่ำในหัวใจก่อนแล้วกัน

ฉันใช้ชั้นหนังสือเป็นกำบังเอาไว้แอบมอง ดูสิคนอะไรสวยไปทุกอณูยันรูขุมขน คิ้วก็โค้งโก่งได้รูป สันจมูกก็โด่ง ตากลมโต ขนตาหนายาวเป็นแพ ผมดำขลับ ผิวผ่องมีออร่า แถมยังตูม ๆ สะบะระฮึ่ม

ในขณะที่ฉันกำลังพินิจพิจารณาความสมบูรณ์แบบของพี่ต้องตาอยู่นั่น ก็มีใครก็ไม่รู้มาขัดอารมณ์ คอยสะกิดอยู่นั่นแหละ เอามือปัดทิ้งแล้วทิ้งอีกก็ยังสะกิด สงสัยต้องหันไปจัดการ

“นี่ อย่ายุ่ง...น่...า แหะ สวัสดีค่ะอาจารย์” ฉันยิ้มหน้าเจื่อนให้อาจารย์บรรณารักษ์

“มีเรื่องรายงานแล้วหนึ่ง” อาจารย์เอ่ยหน้านิ่งและเดินหายกลับไปประจำที่โต๊ะประจำตำแหน่ง โดยไม่ปล่อยให้ฉันร้องขออ้อนวอน มิหนำซ้ำยังจ้องดูการกระทำของฉันต่ออย่างไม่ละสายตา

ฉันกลืนน้ำลายฝืด ๆ ลงคอ ทำอะไรแทบไม่ถูก ในเมื่อหาเก้าอี้บันไดไม่เจอก็ใช้ขามันกระโดดเก็บหนังสือเล่มนี้เลยแล้วกัน

“อึ๊บ!”

ฉันกระโดดอยู่สองสามหยอง พยายามสอดหนังสือเล่มใหญ่แสนจะหนักเข้าชั้น ส่วนมากหนังสือที่อยู่สุดมุมห้องเป็นหนังสือจำพวกสารานุกรมเล่มหนาเตอะ จนในที่สุดก็วางได้เป็นที่เรียบร้อย แต่ทันทีที่ปลายเท้าของฉันแตะลงกับพื้น หนังสือเล่มหนึ่งก็ร่วงลงมา สันหนังสือฟาดเข้ากลางศีรษะดังตุ๊บ!

มือกุมหัวล้มทั้งยืน ทรุดคุกเข่าลงกับพื้น ตัวโคลงเคลงด้วยความมึน ตาเริ่มพร่ามัว ก่อนสติจะดับ สายตาเหลือบไปเห็นสันหนังสือที่มีชื่อเล่มว่า ‘ซินเดอเรลล่า สตอรี่’

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!