ฮ่องเต้โฉมงามพลิกแผ่นดิน
เดือนสองในนครหลวง อากาศของฤดูใบ้ไม้ผลิหนาวเย็นเล็กน้อย ภายในห้องบรรทม เหล่านางกำนันที่มีสีหน้าเบิกบานกำลังถือน้ำร้อน และผ้าเช็ดหน้าเดินเข้าไปในยังตำหนักที่เป็นขั้นตอน
บนเตียงมังกรสีทองอร่ามมีมือขาวๆ ยื่นออกมา ขันทีน้อยซึ่งรออยู่ด้านข้างมองจ้องสองเท้าเปลือยเปล่าของฮ่องเต้ที่จะแตะพื้นอย่างอกสั่นขวัญ ยามนี้หัวหน้าขันที เถียนฝูเซินกำลังอุ่นฉลองพระบาทให้ฮ่องเต้อยู่ด้านนอกจึงไม่มีผู้ใดห้ามได้ ทุกอิริยาบถของฝ่าบาทที่เพิ่งหายจากอาการประชวรรุนแรงทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นตระหนก
ขันทีน้อยตกใจ ก้าวไปข้างหน้าแล้วหมอบลงหน้าเตียง เท้าของผู้สูงศักดิ์ที่สุดในใต้ล่าเหยื่อบนหลังของขันทีน้อยได้ทันเวลา
ศีรษะของขันทีน้อยชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาพยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง กล่าวอย่างติดๆขัดๆ"ฝ่าบาทจะสัมผัสความเย็นไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ"
ฮ่องเต้หัวเราะด้วยเสียงหนึ่ง ก่อนจะยิ้มแล้วด่าขึ้นมาว่า "ไสหัวไปทางโน้น" ขันทีน้อยไม่กล้าที่จะไม่ฟังคำเขาแต่ก็ไม่กล้าปล่อยให้เขาลงพื้นทั้งอย่างนี้จึงกล่าวอย่างบังอาจว่า"ไม่ได้แพ้ค่ะบนพื้นมันเย็นไอเย็นนี้จะแทรกซึมเข้าสู่เพราะวรกายมังกรจากพระบาทได้พ่ะย่ะค่ะ"
เทียนฟู่ฉันเพิ่งเข้ามาได้ยินขันทีน้อยกล่าวประโยคนี้ รีบคุกเข่าลงกับพื้นทันควัน ถือรองเท้ามังกรอยู่ในมือแสร้งร่ำไห้ว่า" ฝ่าบาท กระหม่อมมาปรนนิบัติให้พระองค์ลงพื้น พระองค์จะวางฝ่าบาทลงมาไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ หัวใจของกะหล่ำแทบจะหลุดออกมาจากคอแล้ว"
กู้หยวนไป๋หลุดหัวเราะทันใด "เจิ้น* เห็นว่าวันๆ หนึ่งหัวใจเจ้าหลุดออกมา 7-8 รอบ
เถียนฝูเซิงหัวเราะหึๆ จับสองเท้าของฮ่องเต้อย่างระมัดระวัง จนอดที่จะถอนหายใจมิได้
เขาไม่ใช่ฮ่องเต้ที่จริงจังอะไรนัก หากแต่เป็นหนุ่มหมั้นผู้เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจจาก ศตวรรษที่ 21 ต่างหาก เพราะขณะที่กำลังเล่นกระโดดร่มในวินาทีที่เขาทะลุผ่านชั้นเมฆมานั้น พอลืมตาขึ้นอีกทีก็ดันตื่นมาในร่างนี้เสียแล้ว
ราชวงศ์นี้มีชื่อเรียกว่าต้าเหินซึ่งไม่มีในบันทึกทางประวัติศาสตร์ น่าจะเป็นโลกสมมติที่สร้างขึ้น ระดับ เทียบเท่ากับราชวงศ์ซ่งเหนือ
ร่างกายของกูหยวนป่ายนี้เป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์โดยกำเนิดละอ่อนแอมากเกินไป การเป็นฮ่องเต้จึงไม่ค่อยดีนัก
ตอนที่กู้หยวนไป๋มาถึง ก็ปรากฏร่องรอยของระบอบขันทีเผด็จการแล้วโดยทั่วไปเมื่อเกิดระบอบขันทีเผด็จการมักจะหมายความว่าราชวงศ์นั้นได้กำเนิดมาตอนกลางหรือปลายแล้ว ขุนนางผู้มีอำนาจขยายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นขันทีเองก็ต้องการที่จะคุมทัพ กู้หยวนไป๋ใช้เวลา 3 ปีเต็มในการลากร่างอมโรคนี้ ล้มขุนนางผู้มีอำนาจและขันทีลงมาในคราวเดียว ชำระล้างราชวงศ์เก่าและฝ่ายในปรับสมดุลอำนาจทั้ง 3 ฝ่ายเป็นการชั่วคราว ฟื้นฟูอำนาจแห่งจักรพรรดิให้เป็นดั่งกาลก่อน
ในขณะที่เขาถูมือเตรียมต่อสู้และตั้งรับภารกิจครั้งใหญ่ ร่างกายก็ไม่อาจทนทานได้ ทั้งปลายฤดูหนาวมาถึงก็พัดพาสายลมอันหนาวเหน็บมาด้วย ช่วงไม่กี่วันที่กูหยวนไปป่วยหนัก เขาได้ยิน 1 หรือ 2 ชื่อที่คุ้นเคยอย่างยิ่ง
______________________________________________
*เจิ้น เป็นคำที่ฮ่องเต้ใช้เรียกแทนตัวเอง แปลว่า 'เรา'
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments