EP.18 วันนี้พี่ต้องไปทำธุระข้างน่าเสียดายอดพาเราไปเที่ยวเลย
จิ๊บ ๆ ๆ ๆ
“อื้อ”
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเป็นสัญญาณว่าเริ่มวันใหม่ นกกระจอกออกมาร้องเล่นหยอกเย้ากันยามเช้าอย่างมีความสุขแต่ดูเหมือนจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้มีความสุขกับพวกนกเหล่านั้น
“อื้อออ หยุดร้องสักที”
คีย์เริ่มดิ้นไปมาเพราะรู้สึกโดนรบกวนจากเสียงพวกนกในยามเช้า
“โว้ย ไม่นอนก็ได้”
เจ้าตัวสะบัดผ้าห่มลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างหัวเสียเพราะยังงัวเงียจากการโดนปลุกโดยไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่เช้า
คือปกติผมก็เป็นคนรักสัตว์นะแต่นี่มันวันเสาร์ไง ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยจะได้ยินเสียงพวกนกแต่ทำไมพอมาวันหยุดถึงได้เสียงดังกันนักนะ เฮ้อ กะจะนอนตื่นซะเที่ยง ๆ สักหน่อยเสียอารมณ์หมด
เจ้าตัวน้อยหอบร่างเดินโงนเงนไปเปิดประตูเพื่อจะเดินไปอาบน้ำ
แอ๊ด ~
กลิ่นหอมของอาหารลอยเข้ามาในจมูกจนคนที่เดินโงนเงนในตอนแรกเริ่มมีสติขึ้นมา
“อ้าว ตื่นเช้าจังเลยนะ”
คีตะที่กำลังชงกาแฟอยู่ในห้องครัวหันมาถามคีย์ที่เพิ่งจะเปิดประตูเข้ามา
คนพูดนี่ตื่นเช้ากว่าผมอีกไม่ใช่หรอ
“สวัสดีครับ พี่คีตะก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะครับหรือว่าวันนี้ต้องไปมอหรอครับ” ผมพยักหัวเล็กน้อยเป็นการทักทายก่อนจะถามในสิ่งที่สงสัยออกไป
“เปล่าหรอก พี่แค่ตื่นเช้าจนชินแล้วน่ะเอากาแฟหน่อยมั้ย” พี่คีตะเลิกคิ้วพร้อมกับยิ้มออกมาขณะที่ตอบคำถามผม
“ไม่เป็นไรครับผมไม่กินกาแฟ ห้าว” ชิบ เผลอหาวออกไปได้ไงเนี่ย โอ้ย เป็นการเริ่มต้นวันที่แย่มาก
หลังจากพูดจบคีย์ก็เผลอหาวออกมาจนน้ำตาเลอะขอบตาก่อนที่เจ้าตัวจะกุลีกุจอยกมือขึ้นมาขยี้ตา ภาพตรงหน้าเรียกรอยยิ้มให้กับคนที่ยืนมองอยู่ตรงข้ามได้เป็นอย่างดี
“งั้นกินข้าวเช้าก่อนสิพี่เพิ่งทำเสร็จเอง”
“แหม เกรงใจจังเลยครับแล้วมีอะไรกินบ้างหรอครับ” คีย์ที่ตอนแรกเอามือเกาหัวท่าทางเกรงใจแต่พอประโยคหลังก็ตาลุกวาวขึั้นมาทันที
“ฮ่า ๆ” คีตะหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้กับท่าทางน่าเอ็นดูตรงหน้า
เอ๊ะ ทำไมพี่คีตะหัวเราะล่ะนี่ผมทำอะไรผิดไปรึเปล่า
เจ้าตัวต้นเรื่องที่ยังไม่รู้เรื่องได้แต่ยืนกะพริบตาอย่างงุนงงก่อนที่คีตะจะส่ายหน้าออกมาเบา ๆ และพูดต่อ
“โทษที ไปนั่งก่อนสิเดี๋ยวพี่ยกไปให้”
“ครับ” ผมเดินมานั่งที่โซฟาที่คุ้นเคย
พี่คีตะถือจานมาวางที่โต๊ะก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ผมสายตาของผมโฟกัสไปที่อาหารในจานมันค่อนข้างจะหน้าตาแปลก ๆ มีขนมปังที่ดูเหมือนจะมีไข่และซอสและแฮมหรืออะไรบางอย่างโปะอยู่ข้างบน
“นี่คือ” ผมถามพร้อมกับหันหน้าไปมองพี่คีตะ
“เอ้กเบเนดิกต์ลองชิมดูสิ”
“ครับ” ผมหันกลับมามองอาหารตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะหยิบมีดกับส้อมมาค่อย ๆ หั่นลงตรงกลางพอผมหั่นไปได้นิดนึงไข่ข้างบนก็แตกไหลเยิ้มออกมาบนขนมปัง ว้าว น่ากินนะเนี่ย
คีย์ใช้ส้อมจิ้มสิ่งที่หั่นไว้ก่อนจะใส่มันเข้าปากไปอย่างรวดเร็วและก็เริ่มเคี้ยวอาหารจนแก้วกลม ๆ ขยับไปมาเหมือนหนูแฮมเตอร์ตอนกินเมล็ดทานตะวันก็ไม่ปาน
“หืม อร่อยมากเลยครับ” คีย์ตาเป็นประกายก่อนจะหันไปมองหน้าคีตะอย่าง
“จริงหรอแค่เราชอบพี่ก็ดีใจแล้วล่ะ” คีตะเลิกคิ้วพร้อมกับเผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมา
“จริงครับ ผมไม่เคยกินเมนูนี้มาก่อนเลยแต่รู้ว่ามันอร่อยมาก ๆ เลย” เอาดี ๆ ผมว่าพี่คีตะอาจจะเป็นเชฟที่สอนหนังสือได้นิดหน่อยก็ได้นะ
“แล้วคนอื่นไม่ลงมากินข้าวหรอครับ” ผมหันไปถามพี่คีตะถ้าโทมะก็พอรู้อยู่แล้วว่าคงยังไม่ตื่น แต่พี่เจไดตั้งแต่วันนั้นผมก็ยังไม่ได้เจอพี่เค้าอีกเลยทั้งที่อยู่บ้านเดียวกันแท้ ๆ แต่กับไม่ค่อยได้เจอกันเลย
“เจไดออกไปแต่เช้าแล้วล่ะส่วนโทมะคงยังไม่ตื่น”
ผมหยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบกลับว่าเข้าใจ
“วันนี้วันหยุดหนิมีแพลนจะไปไหนมั้ย” คีตะถามพร้อมกับอมยิ้มเอ็นดูคนที่กำลังแก้มตุ่ยเหมือนหนูแฮมเตอร์ข้างหน้า
“อืมมมม ไม่มีครับ” ผมเหลือบตามองเพดานก่อนจะคิดไปคิดมา ไม่มีอ่ะคือผมก็ไม่ได้มีแพลนว่าจะหลุดเข้ามาในเกมไง เลยไม่ได้วางแผนล่วงหน้าไว้ว่าจะไปเที่ยวไหนบ้าง เหอ ๆ
“วันนี้พี่ต้องไปทำธุระข้างนอกกลับมาอีกทีก็คงดึก ๆ เลย น่าเสียดายอดพาเราไปเที่ยวเลย” พี่คีตะพูดพร้อมกับยิ้มบาง ๆ
“ครับ อ่อไม่เป็นไรหรอกครับเดี๋ยวผมนั่งทำรายงานที่บ้านนี่แหละ” ว่าแต่นี่ผมเผลอเมาและไปคุยกับพี่คีตะตอนไหนรึเปล่าว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน ไม่เห็นจะจำได้เลย
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะค่อย ๆ กินล่ะเดี๋ยวติดคอ” พี่คีตะลุกขึ้นก่อนจะเอามือมาวางบนหัวผมและลูบเบา ๆ ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าและเดินออกไปจากบ้าน
เฮ้ ผมไม่ใช่หมานะคนเดียวที่เป็นหมาน่ะน่าจะเป็นโทมะมากกว่า แค่ก ๆ โอ้ย ติดคอ
“แค่ก ๆ” คีย์เอามือขึ้นมาทุบอกเบา ๆ ก่อนจะรีบหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม
“ห้าว ~ ลูลูชกู่ดมอนิ่งงง” พูดไม่ทันขาดคำเจ้าหมาส้มก็เดินเปิดประตูเข้ามา หูย ตายยากสุด ๆ
“มอนิ่ง โทมะพี่คีตะทำอาหารเช้าไว้ให้แล้วไปหยิบมากินสิ”
“อันนี้อ่ะหรอ ว้าวน่ากินจัง” โทมะที่ตอนแรกกำลังงัวเงียแต่พอหันไปเห็นอาหารปุ๊บก็ตาลุกวาวทันทีอาการงัวเงียหายเป็นปิดทิ้ง
โทมะเดินไปหยิบจานอาหารก่อนจะเดินมานั่งข้าง ๆ ลูลูชก่อนจะลงมือหั่นเอ้กเบเนดิกต์และกินเข้าไปคำโต
“หืมมมม” โทมะหันมาทำตาโตใส่ผมพร้อมกับที่ยังเคี้ยวอาหารอยู่คำโต
“โห อร่อยสุด ๆ อ่ะเหมือนที่กินที่โรงแรมเลยพี่คีตะเนี่ยควรไปเปิดร้านอาหารนะคงขายดีสุด ๆ ง่ำ ๆ” โทมะพูดออกมาอย่างกระตือรือร้นก่อนจะตักอาหารคำโตเข้าปากอีกรอบ
“ฮึ ๆ เราก็ว่างั้นแหละ” คีย์ยิ้มออกมาก่อนจะตอบโทมะกลับไป
“จริงสิ วันนี้วันหยุดลูลูชอยากไปไหนมั้ย” โทมะหันมาถามผมแต่ก็ยังเคี้ยวไม่หยุด
“อืม เราว่าจะอยู่บ้านทำรายงานอ่ะมีหลายวิชาที่ยังทำไม่เสร็จเลย”
“อ๋อ อืมงั้นเราว่าทำด้วยกันเถอะ” โทมะพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับหันมายิ้มให้ผม
“ได้สิ” ผมตอบพร้อมกับยิ้มกลับไป
หลังจากกินข้าวกันเสร็จโทมะก็อาสาเอาจานไปล้างให้แม้ว่าผมจะปฏิเสธไปสามร้อยเจ็บสิบห้ารอบแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เป็นผลผมเลยถอดใจและเดินไปอาบน้ำตามคำบอกของเจ้าหมาชิบะยักษ์
พวกเราเลือกที่จะมาทำงานกันในห้องของผมโทมะคอยรีเสิร์ชข้อมูลส่วนผมก็เอาข้อมูลมาเรียบเรียงลงรายงานอีกทีถึงโทมะจะแอบนอนในห้องเรียนบ่อย แต่ความจริงก็เป็นคนตั้งใจเรียนเหมือนกันนะเนี่ยดูเอาการเอางานกว่าที่คิด
พวกเราตั้งใจโฟกัสกับการทำงานจนลืมมองฟ้าข้างนอกหน้าต่างเลย ในระหว่างที่ทำโทมะก็ไปเอาขนมมานั่งแบ่งกันกินด้วย จนผมลืมความหิวไปเลยด้วย
“อ้า เสร็จซักทีนั่งจนปวดหลังแล้วอ่ะ” โทมะลุกขึ้นบิดตัวไปมาก่อนเอามือทุบหลังตัวเองเบา ๆ อย่างโอดครวญ
“นั่นสิ เสร็จซักทีนี่เรานั่งทำกันจนเย็นเลยหรอเนี่ย” ผมหันไปมองฟ้าข้างนอกหน้าต่างที่เปลี่ยนเป็นสีส้มแซมน้ำเงินซะแล้ว
“หิวมั้ย เราไปหาอะไรกินข้างนอกกันมั้ยหรือว่าจะสั่งอะไรมากินที่บ้านกันดี” โทมะหันมาถามผม
“อืม ขี้เกียจไปข้างนอกอ่ะสั่งมากินเลยก็ได้”
“งั้นสั่งในแอพนะลูลูชอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย” โทมะหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าแอพสั่งอาหารก่อนจะหันมาถามผม
“พิซซ่าเป็นไง” เมนูเด็กอ้วนโนหนึ่งต้องเข้า
“ดีเลยเราก็อยากกินพอดี อ่ะ ลูลูชเอาไปกดเลือกเองดีกว่าว่าจะเอาเซตไหน” โทมะยิ้มอย่างดีใจพร้อมกับยื่นมือถือของตัวเองมาให้ผม
“อืมม เอาเซตนี้ละกัน” ผมเลื่อน ๆ ดูแปปนึงก่อนจะเลือกเซตขอบชีสที่มีสปาเก็ตตี้ ไก่นิวออลีน แล้วก็ชีสสติ๊ก”
“โทมะเลือกหน้าเลยเราเลือกเซตแล้ว” ผมยื่นมือถือกับไปให้โทมะก่อนจะหรี่ตาจ้องไปที่หน้าของโทมะเพื่อจะสื่อว่า ชั้นรู้นะว่านายกำลังคิดอะไรเลือกมาซะดี ๆ
“โอเค ๆ เราเลือกก็ได้ งั้นเอาเป็นซีฟู้ดค็อกเทลละกันนะ โอเคมั้ย?”
โทมะรับมือถือคืนไปก่อนจะหัวเราะออกมาน้อย ๆ กับท่าทางของผม
“อื้อ โอเค” ผมพยักหน้ารับ
“งั้นกดสั่งและนะ เรียบร้อย ไปนั่งรอตรงห้องรับแขกกันมั้ย”
“เอาสิ”
ผมกับโทมะเดินมานั่งดูทีวีรอระหว่างพิซซ่ามาส่งที่ห้องรับแขก จะว่าไปนี่ก็ใกล้จะหัวค่ำแล้วนะพี่เจไดกับพี่คีตะยังไม่กลับมาเลย จะกินข้าวมารึยังนะเมื่อกี้ก็ลืมสั่งเผื่อด้วย
ติ้ง
“อ้ะ เหมือนไรเดอร์จะมาถึงแล้วเราออกไปเอาก่อนนะ” โทมะหันมาพูดผมเลยพยักหน้ารับก่อนโทมะจะเดินออกไปเอาอาหาร
“ทา ดา มาแล้ว” โทมะเดินหิ้วถุงใส่พิซซ่าขนาดใหญ่มาสองถุง
“แค่ได้กลิ่นก็หิวแล้วอ่ะ ค่าอาหารเท่าไหร่หรอเดี๋ยวเราโอนส่วนของเราให้”
“ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง” โทมะพูดพร้อมกับเริ่มเอาของในถุงและพิซซ่าออกมากลาง
“ได้ไงล่ะกินด้วยกันก็ต้องหารคนละครึ่งสิ” คีย์ที่เริ่มหน้างอพูดตอบกลับโทมะไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“งั้นเอาไว้เป็นมื้อหน้าลูลูชค่อยเลี้ยงเราละกันสลับกัน โอเคมั้ย”
“เอางั้นก็ได้” ถ้าผมปฏิเสธคงได้เถียงกันอีกยาวเอาตามนั้นไปก่อนละกัน
ผมลุกไปหยิบจานกับส้อมและมีดกลับมาวางบนโต๊ะก่อนจะช่วยโทมะจัดวางอาหารให้เรียบร้อย
“เอ้ะ” คีย์สอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ อาหารพร้อมกับส่งเสียงออกมาเหมือนกับตกใจในบางอย่าง
“มีอะไรหรอลูลูช” โทมะถามพร้อมกับหันมามองหน้าผม
“ทำไมมัน ไม่มี ไม่มีโค้กล่าาาา ไม่น้า” โอ้ย ผมก็ลืมดูเลยว่าในเซตมันมีโค้กด้วยมั้ยการกินพิซซ่าที่ไม่มีน้ำอัดลมนี่มันเรียกว่าการกินพิซซ่าได้ด้วยหรอ
“ให้เราออกไปซื้อให้มั้ย” โทมะรีบลุกขึ้นพูดพร้อมกับทำท่าว่าจะออกไปซื้อให้
“เดี๋ยว ไม่ต้องเดี๋ยวเราไปเองโทมะนั่งกินรอไปก่อนเถอะ” ผมเป็นคนอยากกินผมก็ต้องไปซื้อเองสิ ถ้ายังให้โทมะไปซื้อให้อีกเนี่ยก็จะเกินไปหน่อยนะ
“ไม่เป็นไรเราไปได้” โทมะก็ยังดื้อเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
“ไม่เอาเราไปเอง ไปแปปเดียวมินิมาร์ทอยู่แค่ตรงนี้เอง”
“งั้นเดี๋ยวเราไปเป็นเพื่”
“หยุด ขอไม่รับความเห็นต่างนายรออยู่นี่แหละไม่งั้นจะโกรธและนะ” ผมรีบชิงพูดก่อนที่โทมะจะพูดจบและพอผมพูดจบก็รีบวิ่งออกมาข้างนอกเลย
นายทำได้คีย์ในที่สุดนายก็ปฏิเสธโทมะได้ พัฒนาการไปอีกขั้นแล้วสินะตัวชั้น เย้
ผมเดินมาสักพักก็ถึงมินิมาร์ทแถวบ้าน รีบเข้าไปซื้อดีกว่าเดี๋ยวโทมะจะรอนาน
“ฮึก ๆ ฮือ แม่งเอ้ย!”
ผมสะดุ้งเพราะได้ยินเสียงเหมือนใครสักคนตะโกนออกมาจากซอยเล็ก ๆ ที่ติดกับร้านมินิมาร์ท
“ฟู่” ตกใจหมด ใครมาตะโกนแถวนี้กันเสียงมาจากซอยข้างหน้าสินะ
ความจริงผมควรจะไม่สนใจเสียงบ้านั่นและรีบเดินเข้าไปซื้อโค้กก่อนจะรีบผึ่งกับบ้านไปกินพิซซ่าแสนอร่อย แต่ แต่ซอยข้างหน้านี้มันมืดมากจนผมมองจากตรงนี้ไม่เห็นเลยว่าข้างในเป็นยังไง ถ้าเกิดว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้นล่ะ!
เกมนี้มันมีอีเว้นท์สยองขวัญด้วยมั้ยนะ บรื้อ แค่คิดก็ขนลุกแล้วแต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเดินอีกแค่ห้าก้าวก็ถึงแล้วเดินไปชะโงกหน้าดูหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง
คีย์ค่อย ๆ ก้าวขาเดินจากตรงหน้ามินิมาร์ทไปทางซอยเล็ก ๆ ที่ติดอยู่กับร้านมินิมาร์ท เจ้าตัวเดินไปด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เอียงตัวเพื่อมองเข้าไปในซอย
ในซอยมืดมากมีเพียงเสาไฟเล็ก ๆ อันนึงตั้งอยู่ทำให้เห็นแสงแค่บางเบา แต่ถึงขนาดนั้นก็เพียงพอให้เห็นร่างของคน ๆ นึงที่กำลังยืนเอามือพิงกับกำแพงพร้อมร้องไห้ออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเจ็บปวดมาก ๆ
“ฮึก ๆ ทำไมต้องเป็นอย่างงี้ด้วยวะ แม่ง”
นั่นมัน……….พี่เจไดหนิ!!!
_________________________________
Talk with writer
สองมือกราบลงใต้ตรงตักรีด เอื้อออ ไรท์รู้สึกผิดอย่างสุดซึ้งกับการหายตัวไปของไรท์ราวกับโดนลักพาตัว แต่ความจริงคือเราเครียด ๆ นิดหน่อยค่ะทุกคน 555 ไม่รู้ว่าจะเหมือนคำแก้ตัวรึเปล่าแต่พอเครียดแล้วมันแต่งไม่ออกเลย
แต่ในระหว่างที่เราพักอยู่เราก็ได้รับฟีดแบคจากน้อง ๆ ใกล้ตัวหลายคนเลยที่พอรู้ว่าเราแต่งนิยายก็อยากตามมาอ่าน ขอบคุณน้อง ๆ ทุกคนเลยนะคะ สำหรับการซัพพอร์ตและฟีดแบคดี ๆ ทำให้พี่มีกำลังใจแต่งและใจฟูขึ้นมาเยอะเลย
ความจริงพอเริ่มมีคนที่รอนิยายเราอยู่ลึก ๆ แล้วเราก็แอบกดดันว่าจะแต่งออกมาไม่ดีเท่าที่ทุกคนคาดหวังเลยอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของความเครียดด้วยค่ะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะทุกคน เราขอสัญญาว่า นิยายเรื่องนี้ต้องแต่งจบอย่างแน่นอนค่ะ!!! ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาก ๆ นะคะ
ไวน์ลดา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments