30 ปีต่อมา
“เจ้า…รอข้าก่อน…เดี๋ยว!!”
กลิ่นกายที่หอมฟุ้งกระตุ้นให้ร่างใหญ่สะดุ้งตื่นอย่างกระตือรือร้นจากการหลับฝัน มือแกร่งยกขึ้นปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดบนใบหน้าอย่างวุ่นวาย พลันหายใจรัวหอบถี่อยู่บนเตียงใหญ่ เป็นแบบนี้มาเนิ่นนานในคืนวันที่พระจันทร์เต็มดวง
“เจ้าเป็นสตรีอยู่ที่ดินแดนใดกันเล่า ข้าจะออกตามหาเจ้าให้เจอ”
บุรุษร่างสูงใหญ่กำยำและสมส่วน บุตรชายแห่งไฟท์แอดเตอร์ผู้แข็งแกร่ง พลางจ้องมองตนเองในกระจกใบใหญ่ ดวงตาสีฟ้าครามดูเยือกเย็น ใบหน้าที่ถูกปลุกปั้นและแต่งแต้มให้หล่อคมคายดังเทพบุตรในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ชายแกร่งบ่นพึมพำถึงสตรีที่งดงามและกลิ่นกายที่หอมเย้ายวนราวต้องมนต์ คอยปลุกเร้าอารมณ์และแรงปรารถนาของเพอร์ซี่ได้อย่างท่วมท้น
ห้องโถงใหญ่ในปราสาท
“หลังจากที่นางหายเข้าไปในแสงสีขาวนั้นข้าคลั่งแทบตาย หัวใจอ่อนแรงและสับสนอยู่ตั้งหลายปี จนเพอร์ซี่…”
เสียงของชายชราผมขาวยาวม้วนพันกันกับหนวดเคราดูยุ่งเหยิงพะรุงพะรังเป็นรังนกไร้ซึ่งการดูแลเอาใจใส่ให้สละสลวยสมกับตำแหน่งพระราชาแห่งไฟท์แอดเตอร์ มือไม้ถือแก้วเหล้าปัดไปมาอย่างคนเมามายไร้สติ นั่งยกขาสองข้างอยู่บนบัลลังก์ขนาดใหญ่ ปากหนาพูดพร่ำไปถึงเรื่องราวในอดีตที่ทำให้ไฟท์เนอร์ผู้แข็งแกร่งกลับกลายมาเป็นชายชราขี้เมา หลังจากที่ลาเกรซกลับดินแดนพายกัสไปเมื่อ 30 ปีก่อน ไม่มีสตรีนางใดที่จะเข้ามาแทนที่ราชินีได้เลย ถึงแม้จะมีสตรีที่สวยงามจากแคว้นแดนอื่นมาเสนอตัวต่อเขาก็ตามแต่
“เดี๋ยวไอเซ็ก!! เจ้าอย่าพึ่งไปฟังข้าเล่าให้จบก่อน”
ชายชราหยุดชะงักทันที รีบห้ามปรามต่อเหล่าข้าบริวารไม่ให้ออกจากห้อง เมื่อเห็นบุตรชายเพียงคนเดียวเดินย่างก้าวเข้ามา
“ท่านพ่อ!! ท่านเมามากแล้วกลับเข้าไปนอนในห้องนอนเถิด”
“โอ้ว เพอร์ซี่บุตรแห่งแอดเตอร์และเทพแห่งความเยือกเย็น เจ้าออกมาห้ามข้าเพราะเจ้าก็นอนไม่หลับหลังจากฝันถึงนางอีกแล้วใช่ไหม”
ชายชราเอ่ยถามจี้ปมในใจของบุตรชายอย่างรู้ทัน หลายปีที่ผ่านมาเพอร์ซี่มักเฝ้าฝันถึงสตรีนางนี้มาตลอดในคืนวันที่พระจันทร์เต็มดวง
“ท่านรู้ทันข้าทุกอย่าง”
“ลูกรักของข้า เจ้าตามหานางมานานแล้วแต่ก็ไม่เคยเจอ เจ้าลองขอพรและอธิษฐานจากสิ่งที่แขวนอยู่ที่คอเจ้าดูสิ”
นิ้วมือเหี่ยวของชายชราชี้ส่ายไปส่ายมา ตรงไปยังอัญมณีสีน้ำเงินที่เปล่งแสงระยิบระยับสวยงามอร่ามตาห้อยอยู่ต้นคอของบุตรชาย
“ท่านพ่อมันก็แค่นิทานหลอกเด็กที่ท่านใช้หลอกข้ามาตลอด มันเป็นแค่อัญมณีที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนที่นางจะหายไปเท่านั้นเอง”
“เพอร์ซี่ เจ้าเองก็รู้ว่าเจ้าไม่ใช่บุรุษที่ปกติทั่วๆ ไปเฉกเช่นบุรุษคนอื่นๆ ในโลแซง นั้นเป็นเพราะสายเลือดเทพเจ้าในตัวของเจ้า สักวันเจ้าจะค้นพบพลังในตัวมันลูกรัก”
ชายชรายังคงเชื่อมั่นในขนนกสีน้ำเงินอย่างแน่วแน่ แต่แตกต่างจากบุตรชายที่เห็นมันเป็นแค่อัญมณีที่สวยงาม และเป็นสิ่งของชิ้นสุดท้ายที่ผู้เป็นมารดาทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าตั้งแต่เด็กเท่านั้น เขาไม่เคยคิดจะเชื่อเรื่องนิทานหลอกเด็กที่ผู้เป็นบิดาเล่าให้ฟังเลยแม้แต่น้อย
“ข้าแข็งแกร่งได้เพราะตัวข้าท่านพ่อ เพราะข้ามีความพิเศษกว่าคนอื่นๆ ไร้ผู้เทียมทานในโลแซงไม่ใช่พลังจากเทพเจ้าบ้าบออะไรนั้น”
เพอร์ซี่ตวาดผู้เป็นบิดาดังลั่นด้วยความหงุดหงิดจากคำพูดที่แสนงี่เง่าของไฟท์เนอร์ แต่ทันใดนั้น
ตูมมมมมม!!
แสงสีน้ำเงินพุ่งกระเด็นออกมาจากขนนกสีน้ำเงินที่แขวนอยู่ที่สร้อยคอของเพอร์ซี่ แสงเกิดประกายไฟขนาดเล็กกระทบกับกำแพงปราสาท เกิดควันสีดำลอยฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งพื้นห้อง สร้างความตื่นตะลึงให้แก่สองพ่อลูกและเหล่าข้าบริวารที่อยู่ในห้องนั้นทันที
“พะ เพอร์ซี่เจ้าทำอะไรลงไป”
“ทะ..ท่านพ่อ ท่านเห็นเหมือนที่ข้าเห็นหรือไม่!!”
จากชายชราที่เมามายไร้ซึ่งสติเปิดตากว้าง สร่างเมาในฉับพลัน เมื่อเห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะรีบวิ่งลงจากบัลลังก์ตรงมาหาบุตรชายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่ที่พื้นด้วยความตื่นตกใจ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments