ค่าประสบการณ์ที่ใช้อัพเลเวลจะเพิ่มขึ้นทุกๆสองเท่า อย่างเช่นเลเวล 1 ใช้ค่าประสบการณ์ 200 เลเวล 2 จะใช้ค่าประสบการณ์ 400 หน่วย แต่ยังมีอีกเงื่อนไขนึงที่เขาไม่รู้
เมื่อใดก็ตามที่เพลเยอร์เลเวลเหนือกว่ามอนเตอร์ที่ล่า ค่าประการณ์ที่ได้รับจะลดลงไป 50 เปอเซนต์ เพราะแบบนั้นจึงถูกบังคับให้เปลี่ยนพื้นที่ล่าจากจุดเดิม ไปจุดที่เลเวลสูงกว่าโดยปริยาย
และตอนนี้เอง..
[เลเวลอัพ> เลเวลปัจจุบัน 3]
[ได้ระบค่าสถานะพิเศษของโซลคิลเลอร์ 5 หน่วย]
[ค่าประสบการณ์ปัจจุบัน 30/800]
เขาสังหารมันไปอีกสี่ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ตัวละ 80 และหลังจากนี้ค่าประสบการณ์ของพวกมันจะลดลงเหลือแค่ตัวละ 40 และหากประจวบคิดรวมกับจำนวนของมันที่เหลือประมาณ 20 ตัวแล้วล่ะก็..
หลังจากออกจากที่แห่งนี้เขาจะเลื่อนขึ้นไปเป็นเลเวล 4 ! จากที่ได้ยินมาดูเหมือนว่าผู้เล่นจะใช้เวลาประมาณ 3-7 วันในการทะลวงเลเวลไปถึง 10 แต่สำหรับเขาเวลาเพียง 1ชั่วโมงเศษ ก็ไปถึงเลเวล 3 ได้แล้ว? แบบนี้ถือว่าเร็วรึเปล่านะ
"เรื่องนั้นไว้ค่อยคิดทีหลัง"
เขากวาดสายตามองกบนับยี่สิบตัวที่วิ่งกรูเข้ามาไม่ขาดสาย ก่อนกระดกโพชั่นสีเลือดและโพชั่นวิญญาณลงคอโดยใช้ช่องหว่างระหว่างนิ้วคีบคอขวด ก่อนจะโยนทิ้งไปแล้วยกแขนเสื้อปาดมุมปาก
[โพชั่นสีเลือด คลาสพื้นฐาน ระดับ F ถูกใช้งาน]
[โพชั่นวิญญาณ คลาสพื้นฐาน ระดับ F ถูกใช้งาน]
[พลังชีวิต +25 หน่วย] พลังชีวิตปัจจุบัน 85/100 หน่วย
[พลังวิญญาณ +25 หน่วย] พลังวิญญาณปัจจุบัน 65/100 หน่วย
จากที่คำนวนแบบคร่าวแล้ว เขาจะใช้พลังวิญญาณประมาณ 5-10 หน่วยในการฆ่ามันแต่ละตัว และใช้พลังชีวิตอีกนิดหน่อย เพราะงั้นหากคำนวนกับปริมาณโพชั่นที่เหลืออยู่..ไอ้พวกยี่สิบตัวข้างหน้านี้ มันจะกลายเป็นค่าประสบการณ์ให้เขาในไม่ช้า!
เขาสลับคาตานะแทนมีดสั้นอีกครั้ง ก่อนใช้อิไอขุนนางกบพุ่งทะยานฟันร่างกบตัวแรกขาดเป็นสองส่วน ด้วยความเร็วจนกบเลเวลต่ำพวกนี้ขยับตัวตามไม่ทัน หลังจากฟันตัวแรกเสร็จเขาสลับมีดสันขึ้นมาแทงทะลุคอหอยมันอีกตัวจนตกตายไปอย่างรวดเร็ว
[ค่าความชำนาญมีดสั้นเพิ่มขึ้น 4 หน่วย]
[ได้รับค่าประสบการณ์ 80 หน่วยจากการสังหารกบยักษ์ 2 ตัว]
ยิ่งความชำนาญมีดเพิ่มเขารู้และสัมผัสได้เลย ว่ามันคล่องมือและกระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีดสั้นในมือตอนนี้ กลายเป็นส่วนนึงของอวัยวะบนร่างกายไปแล้ว!
ฉว๊ะ!! คอกบยักษ์ตัวนึงขาดกระจุยในเวลาสั้นๆ ก่อนเขาจะถูกแทงด้วยคมหอกสวนกลับมาจนต้องยกแขนซ้ายขึ้นกันบัง
ฉึก! แขนซ้ายถูกแทงทะลุจนเลือดกระฉูดเต็มหน้า ความเจ็บปวดมหาศาลเข้าแทรกแทรงจนแทบกรีดร้องเสียงหลง
อ๊าก! กรอด! เขากัดฟันทนจนเส้นเลือดปูดโพลนขึ้นบนใบหน้า ก่อนออกแรกถีบและใช้มีดสั้นปาเข้ากลางหน้าผากมันจนสิ้นลมหายใจ
แต่ถึงอย่างนั้นหอกที่ทะลวงแขนซ้ายเมื่อครู่ก็ยังไม่หลุดออกไปแต่อย่างใด
'เวรแล้วไง..นี่คือผลจากอัตราซิงโครไนท์ 99 เปอเซนต์เหรอ! เจ็บชะมัด!"
[ความเสียหายที่ได้รับเพิ่มขึ้นจากเลือดไหล]
[ความเสียหายเพิ่มขึ้นจากอาวุธที่ไม่สามารถเอาออกได้]
[พลังชีวิตลดลง 1 หน่วยต่อ 1 วินาที]
เลวร้ายสุดๆ! ตอนนี้กบรอบทิศทางวิ่งกรูเข้ามาโดยมีหอกเหล็กนำหน้า ถ้าหากเขามัวแต่ชักช้าแล้วไม่ดึงมันออกในครั้งเดียวมีหวังได้ถูกแทงจนพรุนแน่! เพราะมีหอกนี้ฝังอยู่ในแขน ทำให้การเคลื่อนไหวยากกว่าเดิมหลายเท่า
'เดี๋ยวสิ...อวัยวะในเกมส์นี้มันงอกใหม่ได้ด้วยโพชั่นรึเปล่านะ?'
ตึกตัก...ตึกตัก เสียงหัวใจเต้นโครมราวกับกลองศึก การลังเลในช่วงเวลาสั้นๆได้เกิดขึ้นในจิตใจ ถ้าหากเขาตัดแขนซ้ายออกแล้วมันจะง่ายขึ้นรึเปล่า? ทนเจ็บแทบตายเพียงครั้งเดียว ดีกว่าถูกแทงจนร่างพรุน แน่นอนว่าเขาคิดแบบนั้น
แต่ถ้าหากฟันแขนขาดไปแล้วมันจะสามารถงอกใหม่ได้ด้วยโพชั่นรึเปล่า?
'ไม่มีเวลามาให้คิดแล้ว!'
ครูสดึงดาบคาตานะในฝักออกมา ก่อนจะกัดฟันตัดสินใจเด็ดขาดแล้วสับคมดาบดำลงท่อนแขนตัวเอง
ฉับ! เสียงคมดาบคมกริบกระชากแขนซ้ายขาดกระเด็น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องเขย่าขวัญไปทั่วทั้งป่าของชายหนุ่ม
อ๊ากกกก!!!!!!!!!!! ตุบๆๆๆ! เขาใช้กำปั้นกระแทกเข้าหน้าอกอย่างแรงเพื่อระบายความเจ็บปวด เสียงหอบหายใจดังถี่หลายครั้งอย่างไม่เป็นจังหวะ ร่างกายทรุดลงเพราะเสียเลือดจำนวนมากจนหน้าซีด ก่อนมือที่สั่นเทาจากความเจ็บปวดจะรีบกรอกโพชั่นสีเลือดเข้าปากอย่างรวดเร็ว
อึก..อึก เพียงโพชั้นขวดแรกหมดลงไป อาการบาดเจ็บก็ทุเลาลงเล็กน้อย แต่ที่น่าเสียดายคือแขนมันไม่งอกขึ้นมาใหม่นี่สิ!
"นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไปวะเนี่ย?!"
ครูสกระดกโพชั่นอีกสองขวดจนเลือดหยุดไหล ความเจ็บปวดเมื่อครู่ก็มลายหายสิ้นไป ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
"ดูเหมือนพวกแกจะถูกตั้งค่ามาให้มีความรู้สึกนึกคิดหรือสัญชาตญาณสัตว์ป่าด้วยสินะ การกระทำของฉันเมื่อกี้ทำให้พวกแกหยุดชะงักและไม่กล้าเข้ามา"
"ถึงจะน่าแปลกใจแต่ก็ต้องขอบคุณ"
ดาบคาตานะในมือขวายกขึ้นชี้ไปทางพวกมัน ตอนนี้เขาต้องระวังเรื่องอวัยวะฉีกขาดมากขึ้นกว่าเดิมแล้วสิ แต่อย่างไรก็ตาม...ไอ้กบเวรตะไลพวกนี้มันต้องได้รับความทรมาณมากกว่าเขาเป็นร้อยเท่าพันเท่า!
"อิไอขุนนางกบ!"
ครูสย่อตัวลงก่อนดีดทะยานออกไปอีกครั้ง แน่นอนว่าเป้าหมายเขาในครั้งนี้ไม่ใช่การลองผิดลองถูกอีกต่อไปแล้ว เขาต้องกระชับเวลาให้มากขึ้นเพื่อไปยังเลเวลที่สูงกว่า!
"หมอนั่นมันหมาบ้าชัดๆ ทำไมถึงสนใจกันครับ"
ในขณะที่ครูสกำลังเข่นฆ่ากบศัตรูคู่ฉกาจบนหนองน้ำอย่างบ้าคลั่ง กลับมีบุคคลสองคนที่ยืนมองอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ
หนึ่งเป็นชายสูงราว 165 เซนติเมตร รูปร่างผอม ตัวเล็ก เรือนผมสีฟ้าอ่อน ตัดซอยไว้หน้าม้า ถักผมด้านข้างเป็นจงอยลงมา สวมชุดคอปกรัดรูปแต่เป็นชายผ้าคลุมยาว
อีกคนเป็นผู้หญิงผมสีเงินยาวถึงกลางหลัง สูงประมาณ 170 เซนติเมตร นัยตาสีแดงเหมือนเลือด สวมชุดคลุมสีดำดูน่าเกรงขาม แถมยังมีออร่าแปลกๆรอบตัว ดูเย็นยะเยือกและอันตรายกว่าชายหนุ่มคนแรกเป็นอย่างมาก
"เขามีมัน...แถมยังหนาแน่นยิ่งกว่าใครที่เคยเห็นมา"
"หมายถึงอะไรครับ?"
ชายหนุ่มกล่าวถามในขณะที่ดวงตายังคงมองดูการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างกบกว่ายี่สิบตัวและชายบ้าเพียงคนเดียว
"ปกติแล้วออร่าจะถูกแบ่งชั้นลำดับ สีน้ำเงิน เคยฆ่าคนมาก่อน สีม่วง ฆ่าคนจนเคยชิน สีแดง ฆ่ามากกว่า 100 ศพ จิตของคนพวกนั้นจะเริ่มแปรเปลี่ยนไป"
"ของฉันคือสีแดงดำ เป็นคนที่ฆ่าจนเคยชิน แน่นอนว่ามันมากที่สุดแล้วถ้าหากเทียบกับบรรดาเหล่าเอลเดอร์ทั้ง 7 คน"
หญิงสาวหรี่ตามองชัดๆอีกครั้ง แน่นอนว่าบุคคลทั่วไปจะมองไม่เห็นออร่าแบบนี้หรอก เพราะระบบจะกำหนดให้มีแต่พวกเดียวกันที่มองเห็น หรือไม่ก็เจ้าตัวตั้งใจให้เห็น
ปกติแล้วในบรรดาเจ็ดเอลเดอร์ หรือที่ถูกขนานนามว่าจักรพรรดิแห่งโลกใต้ดินทั้งเจ็ดคน มีแค่สามคนเท่านั้นที่มีออร่าสีแดงดำ ซึ่งแน่นอนว่ามันคือจุดสูงสุดและไม่เคยมีสีอื่นปรากฏขึ้นมานอกเหนือจากนี้
แต่ทว่าออร่าที่มันปกคลุมชายตรงหน้านี้..มันกำลังทำให้ร่างกายเธอสั่นสะท้านจนพูดไม่ออก
"ที่ฉันสนใจและเฝ้ามองก็เพราะออร่าของชายคนนี้...เป็นสีดำสนิท"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 60
Comments