ไม่ใช่แค่ร้านทองเมื่อครู่ที่ไล่เขาอละไม่พูดไม่คุยด้วย แต่ร้านอื่นๆก็ยังเป็นเช่นกัน
"พอดีที่นี่ไม่รับคนแล้วครับ"
"ร้านเรารับคนมีวุฒิการศึกษานะคะ"
"อย่างน้อยต้องมีวุฒิ ม.6 นะคะ ถึงจะสมัครได้"
คำกล่าวหลายต่อหลายคำมันดังก้องในหัว แต่ชายหนุ่มที่แม้จะเจอคำพูดพวกนั้นก็ยังคงเดินหาต่อไป เพราะไม่ว่าคำกล่าวพวกนั้นมันจะรุนแรงแค่ไหนแต่มันก็ยังไม่เจ็บปวดเท่ากับความรู้สึกของน้องสาวที่เสียไปแล้วได้
เขารู้ดีว่าตัวเขาในตอนนี้และก่อนหน้านี้มันแย่ขนาดไหน หลงระเลิงในเงินตราและอำนาจจนไม่กลับมาดูแลผู้เป็นแม่ ถ้าหากจะให้พูดอย่างตรงไปตรงมาเลยก็...เขานี่แหละคือต้นเหตุที่ทำให้แม่ต้องตาย
[เป็นเรื่องน่ายินดีนะคะที่ตอนนี้ทัพกิลด์ ทศกัณฑ์ของประเทศไทย มีผู้เล่นคนนึงที่ขึ้นไปติดอันดับพลังรบสูงสุดของโลกได้!]
[เขาเป็นผู้เล่นคนเดียวในไทย ที่สามารถสังหารผู้พิทักษ์หุบเขาวงกตมรณะเลเวล 70, ผู้พิทักษ์สุสานมารทมิฬเลเวล 95 ด้วยตัวคนเดียวได้! และยังติดหนึ่งในสิบผู้มีพลังรบสูงสุดของสมรภูมิใต้ดินออนไลน์แล้วค่ะ!]
[ครับ ผมคิดว่าตอนนี้ในไทยคงไม่มีผู้เล่นคนไหนสามารถเอาชนะเขาได้แล้ว และกิลด์ทศกัณฑ์ของไทยก็มีโอกาสขึ้นเป็นกิลด์ชั้นนำของโลกแล้วด้วยครับ]
[คุณคิดว่าเพลเยอร์แนวหน้าพวกนี้สามารถหาเงินได้วันละเท่าไหร่? ถ้าหากเขากลายเป็นเพลเยอร์เวิลคลาส?]
ชายหนุ่มเงยหน้ามองภาพฉายขนาดมหึมา ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนพลางยกมือขึ้นบังแสงหลากสีที่สาดเข้าตา
"โปรโมทเกมออนไลน์เหรอ? สมัยนี้เกมออนไลน์พัฒนาไปถึงขั้นนี้เลยเหรอ"
ชายหนุ่มตกใจไม่น้อย เพราะเมื่อราวๆสิบปีก่อนเขาเองก็เคยเล่นเกมในคอมพิวเตอร์ แต่ภาพที่เล่นในตอนนั้นยังเป็นแบบแปดบิตอยู่เลย พูดง่ายๆคือภาพที่ฉายอยู่บนหน้าจอขนาดมหึมาตอนนี้ มันแตกต่างกับเกมในอดีตหลายขุมเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่อยากให้ความสนใจเรื่องอื่นอีกแล้ว น้องสาวของเขาต้องทำงานหาเงินคนเดียว ทั้งส่งตัวเองเรียน ไหนจะค่าบ้านค่ารถ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอลำบากแค่ไหน
เขาไม่ควรจะมาสนใจเรื่องอื่นนอกจากการหางานในช่วงเวลานี้
'คงทำได้แค่ก้มหน้าแล้วเดินต่อไปสินะ..'
ชายหนุ่มดึงหมวกคลุมศีรษะ ก่อนจะหันหน้าม้วนตัวออกไปจากจุดเดิม แต่ทว่ายังไม่ทันที่ขาคู่นี้ได้ก้าวออกไปด้านหน้า เสียงพูดคุยจากปากพิธีกรก็ดังกระฉ่อนเข้าหูราวกับโดนกระแทก
[เจ็ดร้อยล้านบาทต่อเดือน นี่คือรายได้ของพวกเขาในตอนนี้ครับ ด้วยความที่ขึ้นเป็นระดับท็อปในประเทศไม่แปลกที่จะมีสปอนเซอร์มากมายเข้ามาสนับสนุน แถมตัวเพลเยอร์เองก็ยังแลกเปลี่ยนเงินในเกมมาเป็นเงินจริงได้ ผ่านการรองรับจากธนาคารสากลอีก]
"นี่ฉัน...หูฝาดรึเปล่า?"
[ก็นะ พวกเขาไปถึงคลาสสามของการเปลี่ยนอาชีพแล้ว การหาไอเท็มราคาแสนสองแสนมาขายให้ผู้เล่นระดับต่ำกว่าเป็นช่องทางหาเงินดีๆเลยหล่ะ นั่นทำให้รายได้ส่วนตัวของพวกเขามหาศาลกว่ารายได้รวมของกิลด์สะอีกครับ]
"หะ...หาเงินได้ วันละสองแสน?!"
"กับเกมๆเดียวเนี่ยนะ!"
เขาไม่อาจเก็บความสุขุมได้อีกต่อไป มันทำให้จิตใจที่เหี่ยวเฉานั้นชุ่มน้ำและจุดประกายความระทึกขึ้นมาอีกครั้ง
เขาบีบหน้าอกตัวเองจนเสื้อแขนยาวยับไปด้วย ดวงตาคู่นี้มองสัญลักษณ์เกมด้านบนหน้าจอไม่แม้แต่จะกะพริบ ตอนนี้หูเขาไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงของพิธีกร ราวกับมันดับสนิทไปตั้งแต่ได้ยินรายได้พวกเพลเยอร์แล้ว?!
[จะว่าไปลืมพูดถึงเรื่องนี้เลยนะคะ เห็นว่าวันพรุ่งนี้ทางบริษัทเกม สมรภูมิใต้ดินออนไลน์ จะมาเปิดบูทแจกของรางวัลที่เซนทัลxxx หนึ่งในของรางวัลนั้นยังเป็นแคปซูนเล่นเกมพร้อมบัตรสมัครเพลเยอร์รวมราคากว่า 2 แสนบาทเชียวนะคะ]
[ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นสินะครับ แต่อายุขนาดนี้แล้วผมคงไม่ไปแย่งกับวัยรุ่นแน่นอน แต่ถ้าเป็นสมัยหนุ่มๆนะ ผมนี่ไม่พลาดแน่นอนครับ]
[แหม ถ้าได้พูดแล้วยาวเลยนะคะ เราไปถึงเรื่องต่อไปกันเลยดีกว่าค่ะ]
_____
วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2565
ปัง! เสียงเปิดประตูอย่างแรงในช่วงเวลาเช้าตรู่ดังขึ้นจนผู้เป็นน้องสาวสะดุ้งตกใจ
"จะไปไหนอีกแล้วน่ะ?! เรื่องเมื่อคืนก็ยังไม่เคลียร์กันเลยนะ"
"ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ!"
ชายหนุ่มรีบผูกเชือกรองเท้าในขณะที่ปากยังคาบขนมปังชิ้นนึง ทำเอาน้องสาวที่กำลังถูบ้านขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"รีบไปไหนของเค้านะ สองสามวันก่อนยังเห็นไม่กระตือรือล้นอยู่เลย"
เธอไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเห็นพี่ชายวิ่งแจ้นออกนอกบ้านแบบนั้นก็คงไปหาสมัครงานนั่นแหละ ดีแล้วที่เขาคิดได้หลังจากได้ยินเสียงบ่นไปขนาดนั้น
อย่างน้อยไม่ว่าจะได้งานอะไร ขอแค่ช่วยแบ่งเบาภาระเธอ ก่อนช่วงจะเปิดเทอมก็ยังดี
บรื้น!! เสียงสตาทรถดังลั่น ทำเอาผู้เป็นน้องสาวรีบวิ่งออกมาดูพร้อมตะโกนเรียก
"พี่จะไปไหนเนี่ย?! ช่วงเที่ยงหนูจะได้เอารถไปซื้อของเตรียมเปิดเทอมนะ"
"ไม่เกินเที่ยงหรอก..เดี๋ยวกลับมา"
ชายหนุ่มบิดจักรยานยนต์ยี่ห้อเวฟรุ่นเก่าออกจากหน้าบ้านอย่างไม่รีรอ เดินทางมุ่งตรงไปเซนทัลดังกล่าวอย่างกระตือรือล้น
การเดินทางแม้จะเป็นช่วงเช้าแต่รถกลับติดจนน่าแปลกใจ ทำให้เขาใช้เวลาหลายสิบนาทีกว่าจะมาถึงบูทที่นักข่าวประกาศไว้เมื่อวาน
"คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ คงเป็นเพราะมาเช้าล่ะมั้ง"
เขากวาดสายตามองผู้คนที่ไม่หนาตามากนักเดินผ่านไปมาบริเวณหน้าบูท ก่อนเดินตรงไปถามเจ้าหน้าที่ด้วยความมีมารยาท
"ต้องทำยังไงถึงจะได้เครื่องเล่นฟรีเหรอครับ?"
พนักงานถึงกับสะดุ้งเมื่อมีคนมาถามแบบตรงๆ แถมความรู้สึกเมื่อมองตาชายคนนี้ยังดูมืดมนแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
"เชิญทางนี้เลยครับ คุณได้เอาบัตรประชาชนมาไหมครับ?"
"เอ๋? ไม่เห็นรู้ว่าต้องเอาบัตรมาเลยนี่ครับ"
"อ๋อ ไม่เป็นไรๆ แค่จำเลขได้ก็พอแล้วครับ"
เจ้าหน้าที่ยิ้มแห้งเมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของชายคนนี้ ทำไมแค่สีหน้าแปลกใจของอีกฝ่ายมันทำให้เขาเหงื่อตกได้เลยนะ?
"เขียนเลขบัตร ชื่อจริง นามสกุลจริง ชื่อเล่น แล้วก็เดินไปฝั่งด้านนั้นได้เลยครับ ถ้าหากคุณผ่านการทดสอบ ทางเราจะส่งแคปซูน บัตรเพลเยอร์ รวมถึงคู่มือการเล่นไปตามที่อยู่ในเลขบัตรนี้ครับ"
"อา.."
เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก แต่ก็กรอกข้อมูลลงไปตามพนักงานแนะนำ
"คุณชื่อโซลเหรอครับ?"
"ใช่ แปลกเหรอ?"
"ปะ..เปล่าครับ โซลแปลว่าวิญญาณ ซึ่งเกมของเราก็มีพลังวิญญาณเป็นแกนหลัก ก็เลยทักถามแค่นั้นเองครับ"
เจ้าหน้าที่โบกไม้โบกมือยิ้มแห้ง ก่อนจะนำชายหนุ่มเดินไปอีกทาง ซึ่งมีวัยรุ่นหลายต่อหลายคนกำลังทำการทดสอบอยู่
"มันคืออะไรเหรอ?"
โซลกล่าวถามพลางจ้องมองเครื่องเล่นแปลกประหลาด มันเป็นลูวิ่งขนาดใหญ่ ด้านหน้าและด้านข้างมีสิ่งกีดขวางมากมาย ถัดไปอีกในระยะยี่สิบห้าเมตรมีชายสวมสูตรถือปืนคู่ยืนอยู่
"เป็นเกมง่ายๆ แค่หลบกระสุนครับ ถ้าหากคุณหลบกระสุนแล้วไปหยิบปืนตรงนั้น"
พนักงานชี้ไปที่จุดหลบจุดนึง ซึ่งมีปืนพกบรรจุกระสุนหนึ่งนัดเอาไว้
"แล้วยิงเข้าจุดตายจุดใดก็ได้บนตัวผู้ชายสวมสูตร ก็เท่ากับคุณผ่านการทดสอบครับ นี่เป็นกิจกรรมง่ายๆแต่น้อยคนจะผ่านได้ครับ"
"เหรอ?"
โซลเดินเข้าไปใกล้ๆ จ้องมองลู่วิ่งและระยะทางที่ไม่ได้ไกลมากนัก หากวิ่งไปหลบไปยังไงก็ถึงอยู่แล้วนี่?
แล้วอะไรที่ทำให้เกมนี้มันยากล่ะ?
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 60
Comments