หลังจากอึงเฟยเฉินตามจุนเซอมู่เฉาขึ้นไปบนยอดไม้ ทั้งสองก็ประจัญหน้ากัน. ทางฝั่งจุนเซอมู่เฉายืนหยั่งองอาจกล้าหาญ. แต่ฝั่งอึงเฟยเฉินกับยืนโซเซด้วยฤทธิ์ของสุราอยู่ ในมือของทั้งสองคนถือยอดศาสตราวุธอยู่คือ ทวนวายุ และขวานผ่ายุทธภพด้วยอึงเฟยเฉินและจุนเซอมู่เฉามีธาตุเป็นของตัวเองซึ่งจะสามารถใช้พลังธาตุของตัวเองได้อย่างคล่องแคล่วแถมยังสามรถหลอมรวมกับอาวุธได้อีกด้วย ทั้งสองคนมองตากันสักพักพร้อมมีลมโชยมาฉับพลันทวนในมือของอึงเฟยเฉินก็พุ่งเข้าหาซุนเจอมู่เฉาแต่บวกกับความเมา ทำให้การแทงตรงนั้นเบี้ยว จุนเซอมู่เฉาใช้ขวานปัดป้องการโจมตี. หลังจากนั้นจุนเซอมู่เฉาได้กระโดดขึ้นสูงและฟาดขวานลงมา อึงเฟยเฉินใช้ทวนกันไว้ได้อย่างหวุดหวิด ถึงจะป้องกันการโจมตีนี้ได้แต่ก็ต้องรับแรงกดที่รุนแรงทำให้อึงเฟยเฉินจะร่วงลงไปข้างล่าง อึงเฟยเฉินยังไม่ทันถึงพื้นดินก็ดีดตัวเองขึ้นมาพร้อมกับพุ่งทวนไปอีกรอบ จุนเซอมู่เฉาเห็น จึงตั้งกระบวนท่าเตรียมตัวป้องกัน แต่อึงเฟยเฉินกับดึงทวนกับและพุ่งกับมาด้วยความแรง จุนเซอมู่เฉาไม่ทันระวัง แต่ด้วยระดับฝีมือนั้นมิได้เป็นรองกับอึงเฟยเฉิน ทำให้หลบการโจมตีนี้ไปได้ ระหว่างที่ทั้งสองสู้กันอยู่อย่างดุเดือดด้านล่างได้ปรากฎเงาปริศนานอนดูพวกเขากันอยู่บนกิ่งไม้พร้อมเรียกบุคคลลึกที่นอนหายใจโรยให้ดูการประชันกันระยอดฝีมือพร้อมทั้งบ่นว่า"เจ้านี่น้าาา. คิดจะสังหารใครไม่สังหาร. ดันจะไปสังหารคนอย่างอึงเฟยเฉิน คนผู้นี้แม้เมารึถูกยาพิษก็ยังสามารถต่อกรกับยอดฝีมือของพรรคต่างๆได้โดยไม่มีอาการบาดเจ็บโดยเล็กน้อย แม้ข้าจะไม่ได้ขึ้นไปสู้กลับพวกเค้าแต่ก็สัมผัสได้ถึงลมอ่อนๆ ที่โชยมา ทำให้นึกถึงวันวาน หึหึ"พอพูดเสร็จก็ให้ลูกน้องทั้งสองนำตัวบุคคลลึกลับกลับไปรักษา พร้อม ทั้งลอยกลับไป แต่วิชาตัวเบาของคนผู้นี้แม้เบาขนาดใหนก็ไม่สามารถรอดพ้นจากหูของยอดฝีมือทั้งสองได้ เมื่อทั้งสองได้ยินก็หยุดสู้กันทันทีพร้อมกับหันไปมองชายปริศนา ทางฝั่งจุนเซอมู่เฉาก็ถามอึงเฟยเฉินว่า"ออกมาจากคุกซาอีได้ตั้งแต่ตอนไหนละ"ทางฝั่งอึงก็ตอบกับไปว่า"คงจะซักพักแล้วแหละ"จากนั้นทั้งสองก็เลิกสู้กันพร้อมกลับไปในที่ของตน ระหว่างเดินทางกลับอึงเฟยเฉินก็บ่นพรึมพรัมตามภาษาคนเมา พอโจรป่าได้ยินเข้าก็ดักไว้หมายจะปล้นอึงเฟยเฉิน ไม่นานอึงเฟยเฉินก็กลับถึงพรรคพร้อมทั้งได้ยังข่าวว่า ได้พบศพโจรป่าถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ตรงแถบป่าเขตในเมือง แต่อึงเฟยเฉินกับไม่สนใจพร้อมทั้งเดินกลับไปที่จวนเพื่อพักผ่อน.
พอตื่นขึ้นก็พบว่าเวลาได้ร่วงเลยมาถึงตอนดึกแล้ว ด้วยความงัวเงียจึงลุกไปล้างหน้าระหว่างนั้นได้มีทหารวิ่งโหวกเหวกโวยวายเข้ามา อึงเฟยเฉินได้ยินจึงตำหนิทหารผู้นั้นว่า"เจ้าโวยวายเข้ามาเจ้ารู้รึไม่ว่าคนอื่นเค้าเหมื่อยล้าจากการทำงาน"ทหารได้ทำหน้าตกใจที่เห็นอึงเฟยเฉินแต่ด้วยความรีบจึงกล่าวว่า"เรียนท่านประมุขมีคนพบศพโจรป่าถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมอยู่ในเขตชายป่า เราควรทำอย่างไรดีอึงเฟยเฉินเดินไปนั่งที่เก้าอี้พร้อมกล่าวว่า"เจ้าไม่ต้องไปสนใจหรอกว่าใครทำอะไร. เจ้ามีหน้าที่คอยฝึกทหารก็ฝึกทหารไป งั้นเอางี้ข้าให้ทหารเจ้าคุม5แสนให้เจ้าฝึกเอาเองถ้าเจ้านำทหารไปออกรบแล้วมีชัยกลับมาข้าจะเลื่อนยศเป็นเเม่ทัพคนที่4 ทหารผู้นั้นได้หันมามองหน้าอึงเฟยเฉินพร้อมกล่าวว่า"ข้าเป็นเเค่นายกองเล็กๆคงมิได้มีวาสนาหรอก"อึงเฟยเฉินกล่าวเสียงดัง"มีสิ. ทุกคนมีวาสนาและโอกาสทั้งนั้นแหละ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะคว้ามันไว้รึป่าว"หลังจากกล่าวจบอึงเฟยเฉินก็ได้กลับไปที่จวนเพื่ออาบน้ำ ส่วนทหารคนนั้นก็ยังยืนเอ๋ออยู่กับที่พร้อมกับทำหน้างง ว่าประมุขเรานั้นท่าจะบ้า.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments