มีสิทธิ์เลือกหรือไม่
"ท่านพี่ เดินช้าๆหน่อยเจ้าค่ะ ข้าเดินตามไม่ทัน"เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งที่รีบตามบุรุษตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น วันนี้ทั้งสองได้มากราบไหว้พระที่ภูเขาตามคำสั่ง ฮูหยินเว่ย
เส้นทางไม่สามารถนำรถม้าขึ้นไปได้ จึงทำให้ต้องเดินทางเท้า เส้นทางลาดชัน นางก็พยายามเดินเร็วขึ้นไปหาท่านพี่ จนเกือบจะถึงอยู่แล้ว แต่สุดท้าย
"ตุบ" นางสะดุดจนเกือบจะล้มเส้นทางที่เป็นขาลง หากล้มลงไป นางคงกลิ้งลงไปแทนการเดิน แต่ยังดีที่ท่านพี่หันมารับนางไว้ทัน
"ซุ่มซ่าม"เสียงแรกที่เอ่ยตำหนินางทันที ไป๋ลูไม่ได้อยากมากับนางเลยด้วยซ้ำ เพราะถูกมารดาบังคับ พอมาด้วยก็เป็นเสียแบบนี้
"ข้าขอโทษเจ้าค่ะ" เขาถอนหายใจก่อนที่พยุงนางยืนขึ้น
"ข้าเบื่อเจ้านัก วันๆ ไม่มีอะไรทำหรือไง มาหาข้าอยู่เรื่อย"
"นอกจากมาหาท่านพี่ก็ ไม่มีแล้วเจ้าค่ะ"นางหลบสายตาของเขาที่จ้องจับผิด
"เชอะ" เขาสบประมาทนางอยู่ในใจ ตั้งแต่รู้จักเข่อซิง สตรีผู้นี้พูดน้อย ใบหน้านิ่งตลอด แต่เวลาใดที่อยู่กับเขามักแสร้งอ่อนแอ เผยใบหน้าที่ร่างเริงออกมา นางทำเหมือนว่าตนเป็นเพียงเป็ดน้อยผู้น่าสงสาร แต่แท้จริงเป็นจิ้งจอกมักมาก นางทำเช่นนี้เพราะตระกูลของนาง มักใหญ่อยากให้ตระกูลเว่ยเกี่ยวดองจนตัวสั่น นางเองก็คงอยากหวังสูงเช่นกัน เขาจะไม่ใจอ่อนกับนางเด็ดขาด
"ท่านพี่ขาข้าพลิดเจ้าค่ะ" นางก้มนั่งลงก่อนจับที่ข้อเท้าตนเอง
"เจ้ามีแผนอะไรอีก"
"เปล่านะเจ้าค่ะ ข้าเจ็บจริงๆ" เพราะว่าที่เดินมาเพียงสองคน บวกกับเริ่มเย็นแล้ว ทำให้ไม่มีใคร ไป๋ลูจึงต้องนั่งยอง และถอดรองเท้าของนาง เงยให้เห็นขาขาวนวลที่มีรอยช่ำนวดขึ้นมา จึงรู้ว่านางไม่ได้เสแสร้ง ก่อนจะมองใบหน้านางที่ไม่สู้ดี
สาวใช้ที่เดินไปมาอย่างกังวล พอกับบ่าวรับใช้ของไป๋ลูที่ยืนนิ่งเงียบ เห็นว่าสาวใช้ตระกูลซือจะเป็นห่วงนาย
"เจ้าเลิกเดินไปมาเถอะ ข้าเวียนหัว"
"มันเรื่องของเจ้า ทำไมนายข้าถึงช้านัก" เหมยหลินเอ่ยไม่ได้สนใจคนด้านหลังที่กำลังส่งสายตารำคาญมา
"ทำไมหรือ ใช้ว่านายเจ้า กำลังพยายามเกี้ยวนายข้าไปหลายยกแล้วกระฆัง"
"นี่เจ้า นั้นปากหรือ คุณหนูหากใช่คนเช่นนั้นไม่" เหมยหลินหันมาต่อว่าคนด้านหลัง ตั้งแต่ที่ตามคุณหนูมา และได้เจอกัน หมิงอี้ผู้นี้ก็ทำให้นางปวดหัวไม่น้อย
"เหมยหลิน" เสียงใครบางคนที่เอ่ยเรียกนาง พอหันไปก็เป็น คุณหนูที่ถูกคุณชายเว่ยแบกไว้ที่หลัง สาวใช้นั้นแทบตกใจ รีบไปพยุงคุณหนู
"คุณหนูเป็นอะไรเจ้าคะ ทำไมถึงกลายเป็นเช่นนี้" ยังไม่ทันเอ่ยอะไร ไป๋ลูจึงถูกบ่าวรับใช้พาไปขึ้นรถม้า โดยไม่ได้ใส่ใจนางต่อ เพราะตอนนี้คนของนางก็มีแล้ว เขาเองก็มีสิ่งที่รีบไปทำเช่นกัน
"ขาพลิกน่ะ"
"คุณหนู มาลำบากแท้ๆ ไปเถอะเจ้าค่ะ" นางที่เห็นว่าเขารีบไปจึงไม่ได้กล่าวอะไร และตอบเหมยหลิน
ตลอดทางที่แบกนางมานั้น เขาไม่เอ่ยสิ่งใด ความอบอุ่นที่แผ่นหลังกว้าง กลิ่มหอมอ่อนๆ ทำให้นางผ่อนคลาย จนไม่รู้เลยว่าถึงตีนเขาแล้ว แม้จะปากร้ายแต่ใจดีไม่น้อย
จวนตระกูลซือ
หลังจากกลับมาได้สามวัน นางต้องพักฝืน จึงไม่สามารถออกด้านนอกได้ แม้ไม่ได้ไปไหน นางก็รู้สึกยินดี เพราะจะได้พักผ่อนเสียบ้าง ไม่ต้องแต่งชุด แต่งหน้าอะไรทั้งสิ้น อยู่แต่ในจวน
"คุณหนูข้าได้มาแล้วเจ้าค่ะ" เสียงเหมยหลินที่รีบวิ่งมา พร้อมกับตำราในอก เข่อซิงรีบนำหนังสือในมือของสาวใช้ เป็นตำราเล่มล่าสุดของนักปราชญ์โจว เกี่ยวกับการไปเที่ยวในที่ต่างๆ นางติดตามตั้งแต่เล่มแรกๆ จนตอนนี้สิบกว่าเล่มได้แล้ว นางชอบในการอ่านตำรา แม้กระทั่งตำราวิชาการของขุนนางที่สตรีไม่จำเป็นต้องอ่านก็ตาม
"คุณหนูกว่าข้าจะหาซื้อได้ ยังดีที่ร้านตำราเปิดใหม่ยังเหลือ แทนลดราคาให้ด้วยเจ้าค่ะ"
"หึ ใช่หรือ ตำราของนักปราชญ์ท่านนี้หาใช่จะสามารถลดราคา แต่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นด้วย"
"จริงเจ้าค่ะ ขนาดเงินที่คุณหนูให้ข้ายังเหลือมาเลยเจ้าค่ะ" ก่อนจะหยิบพวงตำลึงที่พกไปกลัวไม่พอเสียด้วยซ้ำ
"ครั้งหน้าข้าต้องไปเยือนร้านนั้นเสียแล้ว"ขนาดตำราเล่มนี้ยังมีขาย แล้วตำราดังเล่มอื่นเล่า
"คุณหนูเจ้าค่ะ นายท่านเรียกพบเจ้าค่ะ"
"อืม" นางกับเหมยหลินที่กำลังสนทนากันอย่างสนุกก็ถูกสาวใช้อาวุโสเอ่ยเรียก นางถึงกับหุบยิ้มลงทันที
ก่อนที่นางจะรีบแต่งตัว และให้เหมยหลินพยุงไป แม้จะเริ่มหายแต่นางไม่สามารถลงน้ำหนักได้
"คารวะท่านพ่อเจ้าค่ะ"เมื่อมาถึงห้องรับแขก ก็เห็นบิดาที่นั่งรออยู่ สีหน้าที่จับจ้องมาทางนาง
"เท้าเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"
"ดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ" นางเอ่ยเพราะยกยิ้ม
"อืม ดูเจ้าจะไม่ได้เป็นเตือนเป็นร้อนอะไรเลยสินะ" พอบิดาเอ่ยเช่นนั้นทำเอานางนิ่งไปทันที ดูเหมือนจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านเหมือนอารมณ์เสีย "ขนาดการหมั้นของเจ้าผ่านมาตั้งสามปี ยังไม่ทันได้แต่ง ยังมายิ้มอีกหรือ เพียงแค่ทำให้ไป๋ลูยอมแต่งงานกับเจ้ามันยากนักหรือไง" บิดา เริ่มหัวเสียการแต่งงานของนาง เพราะเขาหวังอยากดองกับตระกูลเว่ยนี่มาก
แต่แม้จะได้หมั้นกัน แต่ทางฝ่ายนั้นให้บุตรชายเป็นคนตัดสินงานแต่ง เพราะอยู่ในช่างการสอบขุนนาง และเขาอ้างเรื่องนี้มาบอกบิดามารดา ว่าต้องการทุ่มเทให้แต่การเรียน ทำให้บิดานั้นไม่ค้าน จนตอนนี้เข้าขุนนางได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้มาสู่ขอจริงจัง และจะให้นางทำอย่างไรได้ ก็อยากแต่งงานให้จบๆ แต่เข่อซิงเคารพการตัดสินใจของเขา
"ท่านพ่อ ข้าจะพยายามมากขึ้นเจ้าค่ะ ท่านอย่าได้โมโห" นางพยายามใจเย็นแล้ว รับปากไว้เพื่อให้บิดาใจเย็นลง ตอนนี้จะทำยังไงได้กัน
นางอยู่กับความกดดันนี้มานาน หากแต่จะทำอย่างไร นอกจากทำเจตจำนงของบิดาให้สำเร็จ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 46
Comments