4ความช่วยเหลือจากนางกำนัล
เช้าวันถัดมา
“ข้ามาพบท่านอ๋อง รบกวนพี่ทหารผู้ใดผู้หนึ่งไปรายงานให้หน่อยนะเจ้าคะ”
ทันทีที่เดินทางมาถึงหน้าจวนของเฉินตงหยาง
อ้ายชิงก็รีบละล่ำละลักกล่าวบอกทหารยาม ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าอยู่บริเวณด้านหน้าตำหนักด้วยอาการร้อนใจ
ดวงตากลมโตมองหน้าทหารยามทั้งสองสลับกันไปมาอย่างเฝ้ารอ
ทว่าอีกฝ่ายท่าทางดูไร้วี่แววว่าจะขยับกายไปไหน
แถมยังมองจ้องอ้ายชิงกลับด้วยสายตาดูแคลน
อ้ายชิงก้มลงสำรวจตรวจดูร่างกายจึงพบถึงสาเหตุของสายตานั่น
เมื่อวานนางถูกเหล่านางกำนัลใจดำจับขัง
แถมเมื่อคืนยังเอาแต่คิดหาคำพูดมากมายมาวอนขอความช่วยเหลือจากอ๋องเฉิน
พอเช้าวันนี้จึงรีบเดินทางออกจากวังหลวงมายังที่นี่
ไม่ทันได้สังเกตว่าสภาพตนเองทรุดโทรมมากเพียงใด
เสื้อผ้าชั้นดีที่สวมใส่เปรอะเปื้อนคราบสกปรก
แถมยังมีรอยขาดแหว่งจากการหลบหนีออกจากห้องเก็บฝืนอีก
จึงไม่แปลกหากทหารสองนายนี้จะมองนางราวกับเป็นขอทาน
“ข้าเป็นนางกำนัลขององค์หญิงซูฮวา
มีเรื่องด่วนต้องการพบท่านอ๋องจริงๆ พวกท่านช่วยข้าหน่อยเถอะนะ”
อ้ายชิงวอนขออีกครั้ง นางแสดงสีหน้าเว้าวอนอย่างน่าสงสาร
ทว่าจิตใจคนยากแท้หยั่งถึง ยากจะพบเจอคนที่จิตใจดีมีเมตตา
“เหอะ! ถ้าสารรูปอย่างเจ้าเป็นนางกำนัลในวัง ข้าคงเป็นขุนนางชั้นสูงไปแล้ว ไปๆ
ไปหาขอทานที่อื่น อย่ามาเกะกะสร้างความวุ่นวายแถวนี้”
นอกจากจะไม่ช่วยเหลือทหารสองนายนี้ยังดูแคลนอ้ายชิงอย่างชัดเจน
พวกเขาใช้ทวนที่ถืออยู่ดันร่างเล็กให้ถอยหลังออกจากหน้าประตูตำหนัก
ด้วยความสูงที่มีไม่มากนักส่งผลให้ช่วงขาสั้นๆ
ก้าวตามแรงดันไม่ทัน อ้ายชิงจึงล้มหงายหลังลงกับพื้นก้นจ้ำเบ้า
ใบหน้าสวยที่เปื้อนคราบเขม่าเหยเกด้วยความรู้สึกเจ็บบั้นท้าย
ทหารทั้งสองนายหันหลังกลับไปประจำที่ของตน สายตาทอดมองสตรีซึ่งยังคงนั่งกองอยู่บนพื้นด้วยสายตาเหยียดหยาม
อ้ายชิงค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นปัดฝุ่นบนอาภรณ์ออก แหงนหน้ามองป้ายตำหนักหนิงหวางอย่างผิดหวังที่ไม่อาจเข้าไปด้านในได้
“ข้าคงต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่สินะ”
อ้ายชิงเบนสายตากลับมาจ้องมองทหารเฝ้ายามอีกครั้ง
ดูท่าแล้วหากอยู่ในสภาพนี้คงไม่มีโอกาสได้เข้าไปด้านในแน่ๆ
นางจึงตัดสินใจหันหลังเดินกลับทางเก่า
ร่างเล็กเลือนลับไปได้เพียงไม่นาน
ประตูหน้าตำหนักหนิงหวางก็ถูกเปิดออกจากบุคคลซึ่งอยู่ด้านใน
ปรากฏร่างสูงโปร่งกำยำของเฉินตงหยาง
แต่งกายด้วยอาภรณ์สีดำรัดกุมคล้ายจะออกไปทำบางสิ่งด้านนอก
โดยมีเฟยฉีเดินถือคันธนูและกระบอกเก็บลูกศรตามหลังออกมา
“คารวะท่านอ๋อง”
ทหารเฝ้ายามทั้งสองกล่าวทักทายผู้เป็นเจ้านายด้วยความเคารพ
เฉินตงหยางเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยตอบรับ ขณะเฟยฉีเดินไปจูงม้าสองตัวที่ผูกไว้ข้างๆ
มาให้
“ข้าจะออกไปล่าสัตว์ที่เชิงเขาหลังจวนสักสองสามวัน
ใครมาพบหากมีธุระสำคัญให้แม่นมเป็นคนรับเรื่องไว้”
สั่งการเสร็จจึงกระโดดขึ้นขี่ม้าด้วยท่วงท่าทะมัดทะแมง
ควบตะบึงทะยานไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว โดยมีเฟยฉีตามประกบไม่ห่าง
เฉินตงหยางจิตใจว้าวุ่นสับสนไม่เป็นอันทำอะไร
แม้กระทั่งนอนก็ข่มตาให้หลับลงไม่ได้
วนคิดถึงแต่เรื่องของโจวซูฮวาอยู่ทุกชั่วขณะหายใจ
เกิดความเป็นห่วงกังวลอยากทราบข่าวคราวของนาง ทว่ากลับไม่กล้าส่งคนไปตามสืบ
เลือกที่จะเก็บความคิดฟุ้งซ่านเอาไว้ในใจเพียงลำพัง
หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปโดยไม่จัดการอันใด
ดูท่ามีหวังงานราษฎร์งานหลวงต่างๆ อาจทำไม่สำเร็จ
เฉินตงหยางจึงตัดสินใจไปทำในสิ่งที่โปรดปรานอย่างการท่องป่าล่าสัตว์
หาเก้งกวางให้แม่ครัวในจวนปรุงอาหารเลิศรสไว้ทานดีกว่า
เผื่ออาการว้าวุ่นใจอาจจางหาย กลับมาแล้วเรื่องราวทั้งหมดคงเข้าที่เข้าทางอย่างที่ควรจะเป็น
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 99
Comments
manisa
ruang rindu
2023-06-03
0