ชื่อเสียงของหยางหลงดังสนั่นมาตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นองค์รัชทายาทด้วยซ้ำ เด็กชายที่ฮ่องเต้และฮองเฮาพากลับเข้ามาในวังหลวง เป็นหยางเฉินเองที่ปล่อยข่าวว่าเจียงฮองเฮาของตนตั้งครรภ์เลยไปอยู่ที่อารามอู๋หมิงเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย พอคลอดถึงได้กลับมาวังหลวงดังเดิม
แต่ความจริงหยางหลงหาใช่ลูกจริง ๆ ของฮ่องเต้กับฮองเฮา เขาเป็นเด็กที่เกิดจากหญิงตั้งครรภ์ที่อาศัยอยู่ในอารามอู๋หมิงเหมือนกับเจียงฮองเฮา แต่โชคร้ายแม่เด็กตายตอนคลอด เจียงฮองเฮาที่ถูกชะตากับแม่ของเด็กเป็นอย่างมาก จึงรับเด็กคนนั้นมาเลี้ยงเป็นลูกของตน เพราะนางตั้งครรภ์เองไม่ได้
แรก ๆ ก็มีเหล่าขุนนางสงสัยในตัวหยางหลงว่าใช่ลูกของฮ่องเต้และฮองเฮาจริงหรือไม่ แต่พอหยางหลงโตขึ้น ไม่รู้ว่าสวรรค์เมตตาหรืออย่างไร หยางหลงดันมีใบหน้าคล้ายฮ่องเต้หยางเฉินสองในสี่ส่วน เหล่าขุนนางที่เคลือบแคลงใจเริ่มหายไป ทุกคนต่างยอมรับในตัวหยางหลงมากยิ่งขึ้น
เมื่อขึ้นเป็นองค์รัชทายาทก็มีแต่เรื่องวุ่นวาย เหล่าขุนนางที่หวังอำนาจต่างพาบุตรชายและบุตรสาวของตนมาเข้าเฝ้าหยางหลงทั้งวัน แม้จะสั่งปิดตำหนักไม่ให้ใครเข้าเฝ้า เหล่าขุนนางพวกนั้นก็กระเตงลูกของพวกเขาไปดักรอตามสถานที่ต่าง ๆ ที่องค์รัชทายาทหยางหลงเสด็จไป
หยางหลงมีความสามารถทั้งด้านบู๊และบุ๋น เป็นองค์รัชทายาทที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถและความเหี้ยมโหด เป็นเพราะตอนหยางหลงอายุได้สิบสามปี เขาสามารถนำพากองทัพให้ชนะข้าศึกจากชนเผ่าถานที่ขึ้นชื่อเรื่องพิษ หยางหลงใช้ทหารกล้าเพียงสามสิบนายก็สามารถเอาชนะคนจากชนเผ่าถานห้าพันกว่าคนได้เพียงไม่ถึงวัน
ต่อมาอายุสิบห้าปี หยางหลงก็จับกบฏ ต่อบ้านเมืองได้ เขาสั่งตัดหัวกบฏ เหล่านั้นหน้าพระราชวังแล้วให้ทหารเผาให้เรียบร้อยไม่ได้เสียบประจานแต่อย่างใด แต่คนที่เป็นหัวหน้ากบฏ ถูกประหารกลางท้องพระโรงต่อหน้าเหล่าขุนนางทั้งหลายเพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ว่าหากผู้ใดคิดเป็นกบฏ จุดจบของพวกเขาคือตายเท่านั้น
จากนั้นก็ให้นำหัวของกบฏ ตั้งไว้กลางท้องพระโรง ปล่อยให้ส่งกลิ่นเหม็นจนคลื่นเหียนไปทั่วท้องพระโรง แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ไม่ได้เอ่ยปากห้ามองค์รัชทายาทหยางหลงแต่อย่างใด พระองค์กลับพอใจการกระทำของลูกชายเป็นอย่างมาก
บิดา มารดาตามใจบุตรชายเช่นนั้น มีหรือที่ขุนนางเช่นพวกเขาจะกล้าเอ่ยให้เอาหัวกบฏที่ส่งกลิ่นเหม็นสาบออกไปได้
พอมีสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้หยางเฉิน ตัวหยางหลงเองก็มีชื่อเสียงว่าเป็นองค์รัชทายาทไร้หัวใจ เพราะเขาหาได้รักว่าที่พระชายาของตนไม่ คนที่เขารักคือพี่สาวของว่าที่พระชายาต่างหาก เรื่องนี้จึงกลายเป็นรักสามเส้าที่โด่งดังไปทั่วแคว้นฉินและต่างแคว้น แต่หารู้ไม่ว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งนั้น
“กระหม่อมจะเรียกตัวเขากลับมาพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” ไป๋อวี๋ เสนาบดีฝ่ายซ้ายผู้เป็นบิดาของไป๋ฮองเฮา (ไป๋เสวี่ยเฟิน) ไป๋หวงกุ้ยเฟย (ไป๋อิงฮวา) ราชครูไป๋ (ไป๋หลาง) และแม่ทัพใหญ่ไป๋ถานเอ่ยขึ้น
อดีตเขาเคยคิดร่วมมือล้มล้างตระกูลราชวงศ์ แต่พอบุตรสาวได้เป็นหวงกุ้ยเฟยและบุตรชายได้เป็นฮองเฮา เขาก็ล้มเลิกทันที ในเมื่อตอนนี้เขาอยู่สบายดีอยู่แล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าสิ่งใดมาเพิ่มเติม ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลต่อลูกสาวของเขาที่กำลังจะได้ขึ้นเป็นฮองเฮาแทนลูกบ่าวอย่างไป๋เสวี่ยเฟินก็เป็นได้ ยิ่งตอนนี้ลูกชายคนโตของเขาทำให้ฮ่องเต้ทรงไม่ไว้วางพระทัย ยิ่งส่งผลเสียต่อตระกูลไป๋เป็นอย่างมาก
“เช่นนั้นเจิ้นก็หวังว่าท่านแม่ทัพไป๋จะมีข้ออธิบายที่ดีให้เจิ้นได้ทราบ พวกท่านคงทราบดีว่าเจิ้นเกลียดการถูกหักหลัง หากเจิ้นจับได้พวกท่านทั้งหลายคงรู้ว่าเจิ้นจะทำอะไร” หยางหลงกล่าวเสียงเข้ม
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” เหล่าขุนนางต่างพากันรีบตอบกลับทันทีด้วยความหวาดกลัว
ในอีกด้านหนึ่ง ณ ตำหนักเทียนเฉิง
“เป็นแบบที่พระองค์ทรงคิดไว้ไม่มีผิดเพคะ” ผิงผิงเอ่ยขึ้นเบา ๆ กับไป๋เสวี่ยเฟิน ที่นี่ไม่ปลอดภัยหากนางพูดเสียงดังเกรงว่าหูตาในตำหนักเทียนเฉิงจะเอาไปพูดต่อได้
“ข้าควรทำอย่างไรดี ผิงผิง” ไป๋เสวี่ยเฟินเอ่ยถามหาความคิดเห็น
“ข้าไม่เคยคิดฆ่าผู้อื่น เหตุใดผู้อื่นถึงคิดฆ่าข้า พวกเขาได้ดีกว่าข้ามากมาย เหตุใดถึงยังต้องกำจัดข้า” ไป๋เสวี่ยเฟินเอ่ยด้วยความเหนื่อยใจ
“พวกเขาให้สิ่งใดมา เราก็ควรมอบสิ่งนั้นคืนไปเหมือนทุกคราดีหรือไม่เพคะ” ผิงผิงเสนอความคิด
ทุกครั้งหากไป๋เสวี่ยเฟินโดนแกล้งแบบไหน ไป๋เสวี่ยเฟินและผิงผิงจะแกล้งคืนดังแบบที่คนผู้นั้นทำ แต่หากให้ไปวางเพลิงเผาเรือนเพื่อเอาคืน ไป๋เสวี่ยเฟินก็ไม่อยากทำ
“เผาตำหนักอิงฮวาหรือ? แบบนั้นข้าไม่เอาด้วยหรอกนะ” ไป๋เสวี่ยเฟินปฏิเสธเสียงเข้ม
“แล้วพระองค์จะไม่แก้แค้นหรือเพคะ?”
“ข้าว่าข้าควรปล่อยนางไป สุดท้ายเวรกรรมคงตามนางทันสักวัน” ไป๋เสวี่ยเฟินเอ่ยอย่างปลงตก คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า นับวันไป๋อิงฮวายิ่งลงมือโจ่งแจ้งมากยิ่งขึ้น ผลักเขาตกสระบัว วางยาพิษ ไหนจะสั่งให้คนมาเผาตำหนักของเขาอีก คงอยากจะให้เขาตายจริง ๆ นะ
“พระองค์ก็ทรงตรัสเช่นนี้ทุกครา ไป๋หวงกุ้ยเฟยตั้งใจหมายจะเอาชีวิตพระองค์ไม่รู้จักกี่ครา ทั้งวางยา ผลักพระองค์ตกน้ำ ล่าสุดก็เผาตำหนัก ไหนจะแย่งคนรักของพระองค์อีก”
“เรื่องอื่นเจ้าพูดถูกที่นางทำกับข้า แต่เรื่องที่นางแย่งคนรักของข้าหาจริงไม่ เป็นข้าต่างหากที่แย่งมาจากนาง แต่ก็แย่งไม่ได้อยู่ดี เหตุใดความรักถึงเจ็บปวดเพียงนี้ผิงผิง”
“โถ่ฮองเฮาของหม่อมฉัน...” ผิงผิงไม่รู้จะปลอบใจฮองเฮาของนางอย่างไรแล้ว นางเพียงหวังว่าฮ่องเต้จะทรงจัดการเรื่องวุ่นวายนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปมากกว่านี้
สามวันต่อมา
“เกิดเรื่องใหญ่เพคะฝ่าบาท!” ซูซูวิ่งมากลางท้องพระโรงอย่างตื่นตระหนกจนลืมความกลัวโทษประหารเสียแล้ว
“ไม่เห็นรึไงว่าฝ่าบาททรงงานอยู่!” เวินกงกงตวาดใส่ซูซูจนนางสะดุ้ง
“ห หามิได้เพคะ เกิดเรื่องใหญ่กับไป๋หวงกุ้ยเฟยเพคะ!”
“อาอิงเป็นอะไร!?” หยางหลงถามขึ้นด้วยตกใจ ยามนี้ไม่ใช่ว่าไป๋อิงฮวากำลังจะกลับจวนรึ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้
“ฮองเฮาเพคะ! ฮองเฮาแทงไป๋หวงกุ้ยเฟยเพคะ!” สิ้นคำตอบของซูซูทุกคนต่างพากันตกใจ หยางหลงรีบลงจากบันลังก์มังกรทองรีบเดินออกจากท้องพระโรงไปอย่างเร่งรีบ เหล่าขุนนางต่างพากันตามฮ่องเต้ไปยังจุดที่สองคนนั้นอยู่ทันที
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 50
Comments