เมื่อก้าวเท้าออกจากตำหนักหยางหลงก็ทราบได้ทันทีว่าตนถูกไป๋เสวี่ยเฟินหลอก
ไป๋เสวี่ยเฟินคนที่ร้องไห้เมื่อครู่ กลับหัวเราะชอบใจ น้ำตาที่ไหลมานั่นแห้งหายไปตั้งแต่หยางหลงตอบว่า อืม แล้ว
แต่เมื่อมาถึงตำหนักไป๋เสวี่ยเฟินตกใจกลับสภาพของตำหนักของตนเอง ตำหนักเล็ก ๆ ของเขาถูกไฟไหม้ไปเกือบสองในสามส่วน เหลือเพียงโครงตำหนักเท่านั้น
“ต ตำหนักข้า” ไป๋เสวี่ยเฟินทรุดตัวนั่งลงกับพื้นทันที ตำหนักนี้ไม่ต่างอะไรกับตำหนักท้ายจวนตระกูลไป๋ เป็นที่ที่ไป๋เสวี่ยเฟินอยู่แล้วรู้สึกสบายทั้งกายและใจ ทุกคนที่อยู่ในตำหนักนี้แม้จะเป็นบ่าวรับใช้แต่ก็เหมือนคนในครอบครัวของเขา
“ม มีคนตายหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ไป๋เสวี่ยเฟินเอ่ยถามขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ
“ไม่มี” หยางหลงตอบกลับ
ไป๋เสวี่ยเฟินโล่งใจเป็นอย่างมาก สู้ให้ของเสียหายดีกว่าต้องมีคนตายท่ามกลางเปลวเพลิงนั้น
“เพราะเหตุนี้ใช่หรือไม่พระองค์ถึงไม่ให้กระหม่อมกลับตำหนัก?” ดวงตาของไป๋เสวี่ยเฟินวูบไหว เขาอยู่ในอาการจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก จะปั้นหน้าทำเป็นว่าแสร้งว่าไม่เป็นอะไรก็ไม่ได้
“อืม”
“หาตัวคนทำได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ไป๋เสวี่ยเฟินถามขึ้น คนที่กล้าทำแบบนี้มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น
“เจิ้นให้องครักษ์หลิวตามอยู่” หยางหลงตอบเสียงเรียบ
“นี่มันถึงขั้นคิดให้ฮองเฮาตายเลยนะเพคะ!” ผิงผิงรู้สึกไม่ต่างอะไรจากไป๋เสวี่ยเฟิน นางเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เหมือนกัน
“มันผู้ใดเป็นคนทำ ข้าไม่ปล่อยมันไว้แน่!” ไป๋เสวี่ยเฟินกำหมัดแน่น แผ่รังสีสังหารออกมาจนคนรอบข้างต่างพากันหวาดกลัว
“หม่อมฉันก็ไม่ปล่อยไว้เช่นกันเพคะ” ผิงผิงเองก็ปล่อยไอสังหารออกมาเช่นกัน
หยางหลงไม่เคยคิดเลยว่าไป๋เสวี่ยเฟินและผิงผิงจะมีไอสังหารที่เข้มข้นขนาดนี้ อนาคตเขาต้องระวังไป๋เสวี่ยเฟินให้มากขึ้นเสียแล้ว นี้ไม่อยากคิดสภาพตอนไป๋เสวี่ยเฟินรู้เรื่องราวทั้งหมดเลยว่าที่ผ่านมาว่าตัวเขากระทำแบบนั้นเพราะเหตุใด แค่คิดก็เสียวสันหลังแล้ว
ไป๋เสวี่ยเฟินมองไปที่หยางหลง เขาคิดว่าหยางหลงคงรู้เรื่องหรือพอเดาเหตุการณ์ได้ จึงเอาเขาไปอยู่ที่ตำหนักเทียนเฉิง แม้ตอนนั้นเขามีความคิดบ้า ๆ ว่าอยากเผาตำหนักตัวเองแล้วหนีไป แต่พอตำหนักถูกเผาจริงเขากลับรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เขาโชคดีที่ไม่ทำแบบจริง หากเขาคิดและลงมือทำจริง กลับมาดูผลงานของตัวเองก็คงจะรู้สึกเสียใจและโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง
“เริ่มเย็นแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ ทรงกลับตำหนักเถอะพ่ะย่ะค่ะ” เวินกงกงเอ่ยขึ้น
“เฟินเฟิน” หยางหลงเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะประคองไป๋เสวี่ยเฟินเดินออกไป
เดินมาได้สักพักไป๋เสวี่ยเฟินก็ถามขึ้นมาว่า “หากกระหม่อมตายพระองค์จะเสียหรือไม่?”
หยางหลงหยุดเดินแล้วมองไป๋เสวี่ยเฟินทันทีหยางหลงถามขึ้น “ใยถึงถามเช่นนั้น?”
“นั่นสินะกระหม่อมจะถามเพื่ออันใดกัน ในเมื่อกระหม่อมก็ทราบดีว่ามันเป็นอย่างไร” ไป๋เสวี่ยเฟินดันตัวหยางหลงออก หยางหลงกำลังจะเอ่ยตอบไป๋เสวี่ยเฟินเพื่อแย้ง แต่ก็ถูกขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน
หยางหลงอยากบอกร่างบางเหลือเกินว่า เรื่องที่ร่างบางเข้าใจหาใช่แบบนั้นไม่ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยก็ถูกขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน
“ขออภัยเพคะฝ่าบาท ฮองเฮา ทูลฝ่าบาทไป๋หวงกุ้ยเฟยทรงพระประชวรเพคะ” เป็นซูซูสาวใช้ข้างกายของไป๋อิงฮวาที่เอ่ยขัด
“อาอิงป่วยรึ?” หยางหลงเอ่ยขึ้น
“เพคะ ท่านหมอหลวงคาดว่าจะเป็นข่าวดีเพคะ”
“ข่าวดีอย่างนั้นรึ? เจิ้นจะไปหาอาอิง” พูดจบหยางหลงก็เดินออกไปเลย นางกำนันต่างลังเลว่าตนควรตามฮ่องเต้หรือฮองเฮาไปดี จนไป๋เสวี่ยเฟินต้องโบกมือให้ตามไปทั้งหมด ส่วนเขาจะเดินกลับตำหนักเทียนเฉิงเอง
ข่าวดีอย่างนั้นรึ? ฮ่าฮ่าฮ่า คงเป็นลูกสินะ ไป๋เสวี่ยเฟินคิดในใจ ครานี้ไป๋หวงกุ้ยเฟยเล่นแรงถึงขั้นนี้เลยหรือเนี่ย ไป๋เสวี่ยเฟินรู้ความลับที่ว่าไป๋อิงฮวาไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ หากมีข่าวออกมาว่านางตั้งครรภ์คงเป็นเรื่องราวใหญ่โตแน่นอน สนมรักของฮ่องเต้ตั้งครรภ์แรก ตำแหน่งรัชทายาทก็คงไม่พ้นลูกนาง ไป๋เสวี่ยเฟินรู้สึกว่าละครที่ไป๋อิงฮวาจะแสดงช่างน่าดูเหลือเกิน
แต่หยางหลงจะรู้สึกอย่างไรหากรู้ว่าไป๋อิงฮวาโกหก
ไป๋เสวี่ยเฟินนึกสมน้ำหน้าตัวเอง แม้ตอนนี้หยางหลงจะทำดีกับตน แต่คนที่หยางหลงรักก็คือไป๋อิงฮวา แค่คนมาแจ้งว่าไป๋อิงฮวาป่วย หยางหลงก็รีบไปทันที ต่างจากตนต่อให้ป่วนเจียนตาย หยางหลงก็ไม่มาเยี่ยม ทุกครั้งที่มาเยี่ยมก็เพราะไป๋อิงฮวาเป็นคนบอก
อย่างไรเสียคนที่หยางหลงก็คือไป่อิงฮวาหาใช่เขา ไป๋เสวี่ยเฟินผู้นี้ไม่
“ผิงผิง”
“เพคะฮองเฮา”
“คนในหมู่บ้านสบายดีหรือไม่?”
“สบายดีเพคะ เพียงแต่ท่านลุงจงป่วยนิดหน่อยเพคะ ท่านจูจ้านจินเดินทางไปรักษาแล้วเพคะคาดว่าคงถึงแล้ว”
“นิดหน่อยคือแค่ไหนกัน?” ไป๋เสวี่ยเฟินนึกเป็นกังวล ปกติในหมู่บ้านก็จะมีหมออยู่ด้วย แต่พวกเขารักษาได้แค่โรคพื้นฐานทั่วไป หากยากเกินจะเป็นจูจ้านจินที่ไปรักษาให้
“โรคแก่ชราตามประสาเพคะ แต่ช่วงนี้หมอหลวงจูไปเอาสมุนไพรที่นั่น หม่อมฉันคิดว่าท่านหมอคงอยู่จนท่านลุงจงอาการดีขึ้นจึงจะกลับเพคะ”
“อืม ข้าคิดถึงท่านลุงท่านป้า” น้ำเสียงของไป๋เสวี่ยเฟินเศร้าลง ดวงตากลมตาเหม่อมองไปที่ประตูห้องราวกับว่า รอดูว่าใครจะมีคนเปิดเข้ามาเร็ว ๆ นี้หรือไม่
“หม่อมฉันก็คิดถึงเพคะ”
“เรากลับหมู่บ้านกันดีไหมผิงผิง?”
“ไหนตอนแรกพระองค์ว่าจะไม่กลับแล้ว?”
“แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว กลับหมู่บ้านกันเถอะ”
“เพคะ” ผิงผิงตอบรับทันที เธอเอ่ยขอโทษต่อฮ่องเต้ภายในใจ ขออภัยนะเพคะฝ่าบาท อย่างไรเสียฮองเฮาก็ย่อมมาก่อนฝ่าบาทอยู่แล้ว
ทางด้านตำหนักอิงฮวา ไป๋อิงฮวาสวมชุดขาว ใบหน้าซีดเซียวคล้ายคนป่วยนอนอยู่บนเตียง เสียงประกาศหน้าห้องว่าฮ่องเต้เสด็จทำให้นางรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่น้อย
“เป็นอย่างไรบ้างอาอิง?” หยางหลงถามขึ้น
ไป๋อิงฮวาที่อิงหัวซบอกหยางหลงกล่าวตอบ “หม่อมฉันไม่เป็นอะไรมากเพคะ เพียงแค่โดนลูกแกล้งเท่านั้น”
“เจ้าท้องรึ?” หยางหลงถามขึ้น
“เพคะ ฝ่าบาทดีใจไหมเพคะ?” ไป๋อิงฮวาถามขึ้น นางคิดว่าหยางหลงจะมีท่าทีที่ดีใจมากกว่านี้แต่นี่กลับนิ่ง
“ดีใจสิ ในที่สุดเจิ้นก็มีลูกเสียที” หยางหลงคลี่ยิ้มแล้วพูดอย่างดีใจ ทั้งที่ในใจของเขากำลังสับสนเป็นอย่างมาก
ไป๋อิงฮวาที่เห็นท่าทางตื่นเต้นดีใจนั้นก็คลายกังวล สงสัยเมื่อกี้ฝ่าบาทจะยังคงตกใจอยู่ถึงไม่ได้แสดงอาการอะไร
“กี่เดือนแล้วอาอิง?”
“ท่านหมอหลวงบอกว่าสามเดือนจะสี่เดือนแล้วเพคะ”
“แต่ท้องเจ้ายังไม่ใหญ่มากเลย”
“ท้องแรกก็เป็นแบบนี้แหละเพคะฝ่าบาท ไป๋หวงกุ้ยเฟยตัวเล็กด้วย เกรงว่าต้องเข้าเดือนที่ห้าหรือหกถึงจะเห็นชัดเจนเพคะ” เป็นหมอหลวงคนที่มาดูอาการไป๋อิงฮวาเอ่ยขึ้น
“อืม” หยางหลงตอบกลับในลำคอ
ไป๋อิงฮวาเอ่ยขึ้น” หม่อมฉันขอกลับไปอยู่ที่บ้านได้หรือไม่เพคะ หม่อมฉันคิดถึงท่านแม่”
“ให้ลี่ฮูหยินมาหาเจ้าในวังไม่ดีกว่ารึ?”
“ก็ดีเพคะ แต่หม่อมฉันอยากกลับบ้าน” ไป๋อิงฮวาแสร้งทำเป็นเศร้าสร้อย
“แล้วอาอิงไม่สงสารเจิ้นรึ หอบลูกหนีเจิ้นไปอยู่บ้านแม่ยายแบบนี้จะทิ้งเจิ้นอยู่ในวังคนเดียวหรืออย่างไรกัน”
“อยู่คนเดียวที่ไหนกันเพคะ ฝ่าบาททรงมีฮองเฮาแล้วไหนจะพระสนมอีกมากมายอีก หม่อมฉันกลับไปสามสี่เดือนแล้วจะกลับมาดังเดิมเพคะ ให้หม่อมฉันกลับนะเพคะ” ไป๋อิงฮวาอ้อนผู้เป็นสามีของตนทันที
“ตามใจเจ้า ช่วงนี้เจิ้นเองก็งานยุ่ง ให้ลี่ฮูหยินดูแลเจ้าก็น่าจะดี”
ไป๋อิงฮวายิ้มอย่างดีใจ เพราะทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามแผนที่นางวางไว้
“ขอบคุณเพคะฝ่าบาท”
“คืนนี้เจิ้นนอน”
“อ้วกกกกก...”
หยางหลงยังไม่ทันได้พูดจบไป๋อิงฮวาก็ดันเขาออกไปแล้วรีบหยิบกระโถนที่ซูซูยื่นให้ทันที
“ฝ่าบาทช่วยถอยหากหม่อมฉันก่อนหรือไม่เพคะ” ได้ยินไป๋อิงฮวาเอ่ยเช่นนั้น หยางหลงก็ขมวดคิ้วทันที
“เป็นอะไรอาอิง?”
“หม่อมฉันได้กลิ่นพระองค์แล้วอยากอาเจียนเพคะ”
“หมอหลวง” หยางหลงเรียกหมอหลวงทันที
“ไม่ต้องกังวลเพคะ นี่เป็นเพียงอาการแพ้ท้องเท่านั้น สงสัยไป๋หวงกุ้ยเฟยจะเหม็นฝ่าบาทเพคะ”
“เหม็นเจิ้น?”
“เพคะ คนตั้งครรภ์มีหลากหลายอาการแพ้ท้อง บางคนก็เหม็นพวกเครื่องหอม บางคนก็กลิ่นอาหารบางอย่าง บางคนก็เป็นเหมือนไป๋หวงกุ้ยเฟย คือทรงเหม็นสามีเพคะ”
“นานหรือไม่กว่าจะหาย”
“ไม่นานเพคะ เพียงแต่ทางที่ดีอย่ากระตุ้นอาการของไป๋หวงกุ้ยเฟยเลยเพคะ”
“อืม”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 50
Comments