“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ชาที่จะส่งให้พระสนมมาถึงแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ ให้แจกจ่ายเลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ....” เวินกงกงมองผู้เป็นนายนั่งนิ่งอย่างเหม่อลอย เขาพยายามเรียกหลายครั้งแล้วแต่เหมือนฝ่าบาทจะไม่ได้ยินที่เขาเรียกเลยแม้แต่น้อย จนเขาต้องเดินเข้าไปสะกิด
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ชาของพระสนมมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หยางหลงที่จิตใจล่องลอยตกใจเล็กน้อยจึงรีบพาจิตที่เหม่อลอยนั้นกลับเข้าร่างทันที
“แจกจ่ายเลย”
“พ่ะย่ะค่ะ” พูดจบเวินกงกงก็ออกจากห้องไปจัดการตามคำสั่งทันที
“ทรงคิดอะไรอยู่หรือพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท คงไม่ใช่คิดเรื่องของน้องกระหม่อมนะพ่ะย่ะค่ะ” ชายร่างสมส่วน ผิวไม่จัดว่าขาวหรือคล้ำจนเกินไป พูดขึ้นหลังจากวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ
“หากเจิ้นคิดเรื่องของน้องท่านราชครูเล่า”
“หากจริงกระหม่อมก็คงจะดีใจว่าฝ่าบาททรงเห็นน้องของหม่อมฉันอยู่ในสายตาเสียที หลังจากมีแต่พี่สาวของกระหม่อม”
ไป๋หลางจ้องมองมาที่หยางหลงอย่างไม่วางตา หากใครรู้เข้า เขาคงโดนประหารเป็นแน่ที่ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวต่อฮ่องเต้
“อาเฟินเป็นฮองเฮาของเจิ้น เจิ้นไม่เคยไม่มองอาเฟิน”
“ทรงมองด้วยสายตาไหนพ่ะย่ะค่ะ แบบที่เฟินเอ้อร์มองพระองค์หรือเปล่า”
“เจิ้นเคยมองอาเฟินด้วยสายตาอย่างอื่นด้วยหรือท่านราชครูไป๋”
“แล้วทรงปล่อยให้น้องของกระหม่อมเกือบตายได้อย่างไรกัน!”
ไป๋หลางวางแก้วชากระแทกกับโต๊ะเสียงดังปังด้วยความโมโห ตัวเขาเพิ่งกลับมาจากไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับต่างแคว้นมา กลับมาก็ได้ยินว่าไป๋เสวี่ยเฟินจมน้ำเกือบเอาตัวไม่รอด พี่ชายที่รักน้องแบบเขามีหรือจะอยู่เฉย
“เจิ้นก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเช่นกัน” เรื่องที่ไป๋เสวี่ยเฟินเกือบตายนั้นเขาไม่คาดคิดมาก่อน ใครจะไปรู้เล่าว่าคนที่แกล้งคนอื่นไปเรื่อย ก่อกวนวังหลวงไม่หยุดจะไม่ระวังตัวเช่นนี้
“ทรงหาตัวผู้กระทำพบหรือไม่?”
“ท่านราชครูก็น่าจะทราบดีกว่าใครว่าผู้ใดทำ”
“แล้วจะปล่อยเรื่องแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน กระหม่อมได้ยินมาว่าหลังจากเฟินเอ้อร์ฟื้นก็เอาแต่กักตัวอยู่แต่ในตำหนักมิออกไปไหน คงไม่ใช่หมดรักฝ่าบาทแล้วจึงพยายามตัดใจอยู่หรอกกระมัง”
คำพูดของไป๋หลางเหมือนมีดกรีดเนื้อเสียจริง ไป๋หลางมองเห็นว่าฮ่องเต้ไม่ตอบอะไร แต่ตนก็พอจะเดาออกจากอาการเหล่านั้น
“อ่า...สงสัยคงจะจริง” ไป๋หลางนึกหัวเราะสมน้ำหน้าหยางหลงอยู่ในใจ
“กระหม่อมขอทูลตามตรง หากไม่รักน้องของกระหม่อมพระองค์ก็ควรปล่อยน้องกระหม่อมไป หรือหากกลัวก็ควรปล่อยไปเช่นกัน หากคิดได้กลับไปรับมาก็ยังไม่สาย ดีกว่าปล่อยให้เฟินเอ้อร์อยู่ในสภาพแบบนี้ เมื่อก่อนเฟินเอ้อร์อาจดื้อดึงไม่ยอมไป แต่ครั้งนี้กระหม่อมว่าไม่ เฟินเอ้อร์เติบโตขึ้นหลังจากฟื้นจากความตาย เรื่องนี้พระองค์ก็คงทราบดี”
“เจิ้นรู้ แต่เจิ้นเห็นอาเฟินเป็นแบบนี้ เจิ้นก็ไม่อยากปล่อยไป”
“พระองค์กลัวว่าจะไม่ได้เฟินเอ้อร์กลับคืนใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“อืม”
“ทรงเป็นผู้สร้างเรื่องราวเหล่านั้นเอง ฝ่าบาทก็น่าจะทราบข้อเสียของมันดี เหตุใดพระองค์ถึงยังทรงทำ”
หยางหลงคิดในใจ นั่นสินะเหตุใดข้าถึงทำแบบนี้กัน มีหลากหลายวิธีเหตุใดถึงได้ใช้วิธีนี้
ไป๋หลางเห็นว่าฮ่องเต้ทรงนิ่งราวคิดอะไรอยู่จึงพูดขึ้น “กระหม่อมขอทูลอีกเรื่อง ไม่ว่าเฟินเอ้อร์จะตัดสินใจอย่างไร กระหม่อมผู้เป็นพี่ชายย่อมไม่ขัดและพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ ต่อให้กระหม่อมจะต้องฆ่าพระองค์เพื่อเฟินเอ้อร์ กระหม่อมก็ยินดีที่จะทำ”
หยางหลงสัมผัสได้ถึงความหนักแน่นในคำพูดของไป๋หลาง แม้ไป๋หลางจะสนใจตำราต่างจากคนในตระกูลไป๋คนอื่นที่สนใจการรบ แต่เรื่องการต่อสู้ไป๋หลางก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีติดตัว แม้แต่หยางหลงยังเคยพลาดท่าให้กับไป๋หลางเพราะความเจ้าเล่ห์ของไป๋หลางเลย
“หากเจิ้นตาย ท่านราชครูคิดว่าอาเฟินจะอยู่ได้หรือ”
“ได้ไม่ได้ฝ่าบาทก็ทรงลองดูก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋หลางยกยิ้มอย่างท้าทาย
“สงสัยงานที่เจิ้นให้ท่านราชครูไปทำคงน้อยเกินไปใช่หรือไม่ ท่านราชครูถึงมีเวลาสรรหาคำมาต่อปากต่อคำกับเจิ้นได้”
หยางหลงไม่โกรธไป๋หลางแต่อย่างใดที่ไป๋หลางไม่เกรงกลัวเขาแบบคนอื่น เพียงแต่รำคาญเท่านั้น ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับไป๋เสวี่ยเฟิน ไป๋หลางยิ่งพยายามจะเอาชนะเขาให้ได้อยู่ตลอดเวลาตามประสาคนหวงน้อง
“หามิได้พ่ะย่ะค่ะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋หลางหายไปอย่างรวดเร็ว
งานที่ไป๋หลางทำตอนนี้เรียกได้ว่าเกินหน้าที่ของราชครูที่ต้องอบรมสั่งสอนเหล่าราชวงศ์ในวังเป็นอย่างมาก มีที่ไหนให้ราชครูแบบเขาไปปราบโจรแม้ว่าจะเป็นโจรธรรมดาก็เถอะ โดยอ้างว่าไปให้สอนหนังสือเด็ก ๆ หากว่าไป๋หลางขี้หวงมากแล้ว หยางหลงก็คงไม่ต่างกัน เพียงแต่แสดงออกมากันคนละแบบ
“จะไปหาอาเฟินก็ไป แต่เจิ้นจะไปด้วย” หยางหลงเข้าประเด็นทันที
ทั้ง ๆ ที่ไป๋หลางสามารถเข้าไปหาไป๋เสวี่ยเฟินได้อย่างอิสระ แต่เพราะกฎบ้า ๆ ของหยางหลงที่ตั้งขึ้นมาว่า ไม่ว่าจะใครก็ตามหากจะเข้าเฝ้าฮองเฮาของเขา ต้องมาขออนุญาตจากฮ่องเต้ก่อน หากไม่จะถือว่าเป็นการนัดพบนั้นอาจเป็นชนวนก่อให้เกิดกบฏ
หลายคนจึงพากันคิดไปว่าไป๋เสวี่ยเฟินเป็นตัวอันตราย หัวอ่อน อาจถูกชักจูงได้ง่าย ฮ่องเต้จึงทรงทำแบบนี้เพื่อป้องกันบัลลังก์ของตนเอง
แต่คนอย่างไป๋หลางหรือจะไม่รู้ว่าที่ฮ่องเต้ทรงทำแบบนั้น เพราะหวงน้องชายของตนมากกว่า ใครใช้เฟินเอ้อร์น่ารักกันเล่า
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 50
Comments