“ได้โปรดปล่อยกระหม่อมไปได้หรือไม่” ไป๋เสวี่ยเฟินพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“เหตุใดเจิ้นต้องปล่อยเจ้าไป?”
“เพราะพระองค์ไม่ได้รักกระหม่อม...และตอนนี้กระหม่อมก็หมดรักพระองค์แล้ว”
หมดรัก?
ไป๋เสวี่ยเฟินหมดรักในตัวเขาแล้วอย่างนั้นรึ
“ต่อให้เจ้าหมดรักเจิ้นแล้วอย่างไร เจ้าคิดจะไปจากเจิ้นได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือฮองเฮา” หยางหลงพอจะเข้าใจแล้วว่า ตั้งแต่ที่อีกฝ่ายฟื้นขึ้นมาเหตุใดสามเดือนมานี้ไป๋เสวี่ยเฟินจึงสงบเงียบอยู่แต่ในตำหนักของตนเอง
แต่จะมีใครรู้บ้างความสงบของไป๋เสวี่ยเฟินไม่ต่างอะไรกับคลื่นใต้น้ำ
ไป๋เสวี่ยเฟินจะขอหย่า ซึ่งไม่เคยมีฮองเฮา มารดาของแผ่นดินไหนทำมาก่อน แผ่นดินทั่วโลกคงได้สั่นสะเทือนเป็นแน่นอนหากไป๋เสวี่ยเฟินทำเยี่ยงนั้นจริง
“การจากไปของกระหม่อมทำให้พระองค์ไม่พึงพอใจหรือพ่ะย่ะค่ะ หรือว่ากระหม่อมต้องตายพระองค์ถึงจะพอใจ พระองค์จึงจะสามารถปล่อยกระหม่อมไปได้”
“ไป๋เสวี่ยเฟิน!” หยางหลงบีบข้อมือของไป๋เสวี่ยเฟินแน่นด้วยความโมโห
“กระหม่อมพอแล้วพ่ะย่ะค่ะ ได้โปรดทรงหย่ากับกระหม่อม กระหม่อมไม่ต้องการความรักจากพระองค์แล้ว การจากไปของกระหม่อมจะทำให้เรื่องราวที่มันสมควรเป็นตั้งแต่แรก ดั่งปรารถนาของพระองค์”
ไป๋เสวี่ยเฟินขอร้องทั้งน้ำตา หยางหลงทราบดีว่าน้ำตาของไป๋เสวี่ยเฟินครั้งนี้ออกมาจากใจจริง ๆ ไม่ใช่น้ำตาที่เสแสร้งแกล้งทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา
มือหนาค่อย ๆ เกลี่ยน้ำตาออกอย่างเบามือ ไป๋เสวี่ยเฟินยามนี้เหมือนกับไป๋เสวี่ยเฟินตอนเด็กเป็นอย่างมาก เด็กบริสุทธิ์ที่เขาเคยเอ็นดู เด็กที่ตอนนั้นเป็นคนที่คอยสร้างรอยยิ้มให้เขา
“เจิ้นไม่มีวันหย่ากับเจ้า อาเฟิน” พูดจบร่างหนาก็เริ่มต้นบทรักอีกครั้ง “เจ้าต้องอยู่กับข้าตลอดไป เฟินเฟิน”
สองร่างรวมเป็นหนึ่ง แม้อีกหนึ่งพยายามขัดขืน แต่ความต้องการนั้นปิดไม่มิด ใจที่พยายามจะหักห้าม แต่ความรู้สึกที่แท้ก็เป็นเครื่องหมายที่ย้ำเตือนว่าไป๋เสวี่ยเฟินอย่างไรเสียก็ไม่ทางรักผู้อื่นได้นอกจากหยางหลง
ไป๋เสวี่ยเฟินตกเป็นของหยางหลงอย่างสมบูรณ์ อย่างที่คนที่ดื่มสุรามงคลด้วยกันควรทำ
ใช่แล้ว ไป๋เสวี่ยเฟินคิดผิดว่าหยางหลงไม่ได้ดื่มสุรามงคลกับตน แต่เปล่าเลย หยางหลงดื่มสุรามงคลจอกนั้นหลังจากกลับเข้ามาในห้องหอ ใครต่อใครต่างพากันคิดว่าในคืนนั้นหยางหลงหนีออกไปเพื่อหาไป๋อิงฮวา
แต่เปล่าเลย หยางหลงหนีไปนั่งเงียบ ๆ คนเดียวกลางป่าไผ่ จนลืมเวลาว่าตนควรกลับไปได้แล้ว
เมื่อมาถึงห้องหอก็พบกับไป๋เสวี่ยเฟินที่นอนอยู่ในเตียงนอน ที่หางตางามมีคราบน้ำตาที่แห้งติดอยู่ เขามองไปบนโต๊ะมีจอกสุราหนึ่งแห้งกับจอกสุราหนึ่งเต็ม ไป๋เสวี่ยเฟินดื่มสุรามงคลไปแล้วและคงรอให้เขามาดื่มด้วย หยางหลงดื่มสุราจอกนั้นแล้วนอนข้างกายไป๋เสวี่ยเฟินในคืนนั้น ก่อนจะออกไปตั้งแต่เช้ามืด
ร่างกายของไป๋เสวี่ยเฟินบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน มือกำผ้าปูที่นอนแน่น
“ด ได้โปรด พ พอเถอะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม- ห เหนื่อย” ไป๋เสวี่ยเฟินพูดออกมาเป็นประโยคที่ไม่ติดต่อกันเท่าไหร่ เขาเหนื่อยมากจริง ๆ ยิ่งบอกให้พอเหมือนยิ่งยุให้หยางหลงทำมากขึ้น
“เหนื่อยแล้วรึ?” หยางหลงถามขึ้นทั้ง ๆ ที่แกนกายยังคงกระแทกใส่ไป๋เสวี่ยเฟินอย่างไม่หยุดหย่อน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นบวกเสียงครวญครางที่เล็ดลอดออกไปพรุ่งนี้คงสร้างเรื่องแพร่กระจายไปทั่ววังหลวงเป็นอย่างแน่
“พ พ่ะย่ะค่ะ อ๊าาาาา” ไป๋เสวี่ยเฟินร้องเสียงหลงเมื่อหยางหลงกระแทกโดนจุดต้องห้าม หยางหลงกระแทกเข้าอย่างต่อเนื่องทั้งแรงและเร็วจน
“อ๊าาาาา” หยางหลงกระตุกตัวสองสามทีเมื่อเขาถึงจุดหมาย
“กระหม่อมง่วง” ไป๋เสวี่ยเฟินพูดเสียงเบาและเผลอหลับไปในที่สุด เขาทั้งเหนื่อยมาก หยางหลงไม่หยุดยั้งเลย ไม่รู้ว่าทำไปกี่รอบ รู้แค่ว่าตัวเขาหมดแรงแล้ว และรู้ว่าก่อนที่เขาจะหลับไปนั้นเขาได้ยินเสียงไก่ขัน
จะเช้าแล้วหรือ?
เมื่อเห็นว่าอีกคนหลับไปเพราะความเหนื่อยหยางหลงก็หยุดการกระทำทันที เขาถอดแกนกายออกจากช่องทางรักของไป๋เสวี่ยเฟิน ทำให้น้ำรักที่เขาปล่อยในตัวของไป๋เสวี่ยเฟินไหลออกมาด้วย บนตัวของไป๋เสวี่ยเฟินมีรอยกลีบกุหลาบกระจายไปทั่วตัวที่หยางหลงทำเอาไว้ หยางหลงจัดการใส่เสื้อให้ไป๋เสวี่ยเฟินและนอนลงข้างกัน นี่เป็นครั้งที่สองที่หยางหลงและไป๋เสวี่ยเฟินนอนหลับไปด้วยกัน
แต่ต่างกันทีเมื่อไป๋เสวี่ยเฟินตื่นขึ้นมารับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังกอดตนอยู่
“ฝ ฝ่าบาท” ไป๋เสวี่ยเฟินเรียกเสียงเบา ร่างกายเจ็บระบมไปหมด และเขายังรู้สึกมีไข้อีกด้วย
“ตื่นแล้วรึ?” หยางหลงลืมตาขึ้นถามด้วยเสียงเรียบ
“พ่ะย่ะค่ะ” ไป๋เสวี่ยเฟินตอบพร้อมกับขยับกายเพื่อให้ห่างจากหยางหลง แต่พอจะขยับร่างกายเขาก็ปวดร้าวไปทั่วทั้งตัว
“อยู่เฉย ๆ ยิ่งขยับยิ่งเจ็บ”
ไป๋เสวี่ยเฟินหยุดขยับแล้วถามขึ้นว่า “ตอนนี้ยามไหนแล้วเพคะ?”
“ยามเว่ย (13.00 – 14.59 น.) ”
“ฮะ!” ไป๋เสวี่ยเฟินร้องออกมาด้วยความตกใจ นี่เขาหลับไปนานถึงขนาดนี้เลยหรือเนี่ย
“ฝ่าบาทไม่ว่าราชการหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ไป๋เสวี่ยเฟินถามขึ้นด้วยความสงสัย ยามนี้หยางหลงควรว่าราชการกับเหล่าขุนนางที่ท้องพระโรงมิใช่หรือ เหตุใดถึงมาอยู่ที่ตำหนักของตน
“เจ้าป่วย”
ไป๋เสวี่ยเฟินตกใจเป็นอย่างมาก เหตุเพราะเขาป่วยหรือพระองค์ถึงไม่ไปว่าราชการ เมื่อก่อนเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไรหาเคยสนไม่ เหตุใดครั้งนี้ถึงสน หรือเพราะเมื่อเรื่องคืน?
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 50
Comments