หลักจากที่เด็กน้อยกินบัวลอยเสร็จ เธอก็ผลอยหลับไป ก็นะ ยังเป็นเด็กนี่
เรามาเล่าประวัติคร่าวๆกันดีกว่า
หลังจากที่"มู่อี่หลิง"จมน้ำ เธอก็ได้เสียชีวิตลงและมาเกิดใหม่ในร่างของ"ปัทมา"พระธิดาองค์ที่ ๔ ของท้าวสามนต์และนางมณโฑ และเธอได้ลืมตาขึ้นมาในตอนที่เธออายุได้เพียง ๑ สัปดาห์เท่านั้น และความซนของเธอทำให้หลังจากนี้ในวัยเด็กที่แสนสุขสบาย จะมียักษ์มีมารมายุ่งเกี่ยวไม่วุ่นในแต่ละวัน เพราะมู่อี่หลิงหนะ ไม่ชอบอยู่นิ่งๆเป็นนิสัย เสน่ห์แรงตั้งแต่เด็ก ความวุ่นวายโกลาหล และความวายป่วงจะมาหาเธอเยอะแค่ไหน ไปต่อกันเล๊ยยย
ท้าวสามนต์ค่อยๆช้อนร่างน้อยๆขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ก่อนจะเยื้องย่างออกจากโรงครัว กลับตำหนักอย่างระมัดระวัง
*[ท้าวสามนต์]*
เราย่างเยื้องเบาๆ ไม่ให้ลูกสาวที่รักของเราตื่น
นางมีนิสัยประหลาด รู้ความแต่เด็ก โตไปต้องเก่งกาจเป็นแน่
แต่อีกใจนึงกลับคิดจะเชิญโหราจารย์ กับหมดผีมาดูลูกคนนี้เสียหน่อย ถ้าผีเข้าจะได้แก้ทัน ก่อนลูกข้าจักวิปลาศไปเสีย ยังเด็กแท้ๆวัยกำลังเรียนรู้
ถึงแล้วๆ
ข้าวางลูกสาวก่อนจะเดินไปหามณโฑที่นอนอยู่บนแท่นบรรทม
หมอหลวงบอกกับข้าว่านางต้องพักฟื้นไปอีก ๑ เดือนในยามนี้คนที่ต้องดูลูกมีเพียงข้ากับข้าบาทที่รู้เรื่องเด็กเพียงเท่านั้น
ปัญหาสงครามก็ทุเลาลงแล้ว เมืองเริ่มใหญ่โตขึ้นมากทำให้ปวดหัวมิใช่น้อย แต่เพื่อลูกๆและมเหสีแล้วแค่นี้ข้าก็ไหว
"ฝ่าบาท!!! มีชาวบ้านมาร้องทุกข์เรื่องจังกอบแพงเกินไปพะยะค่ะ!"อำมาตย์สิงห์เดินเข้ามา
"เดี๋ยวข้าไป"ข้ากล่าว
"อื้อ~? อันใดหรือเพคะ?"มณโฑลืมตาขึ้น
"เจ้านอนต่อเถิดเดี๋ยวพี่จะไปแล้ว พี่ไม่กวนเจ้าแล้ว"ว่าพลางเดินออกไป
< ๒ ปีผ่านไป >
บ้านเมืองเริ่มใหญ่โตขึ้น มีคนพลุกพล่านมากมายกว่าแต่ก่อน ครึกครึ้นและวุ่นวาย หมู่นกหมู่กาป่าไม้มากขึ้นจากการดูแลรักษาของผู้คน
*[ปัทมา]*
ตอนนี้ข้ามีน้องมาเพิ่มถึง ๒ คน อีกคนหนึ่งกำลังเป็นวัยหัดเดิน ส่วนอีกคนก็กำลังอยู่ในครรภ์ของนางมณโฆ ให้ตายเถอะ! ปีละคน!?
ข้านั่งอยู่บนแคร่ไม้สลักพร้อมทั้งนั่งปักผ้าไปด้วย
"ปัทมา~พี่เด็ดดอกไม้มาฝาก~"ลูกคนที่๑วิลาวัณย์กล่าว ก่อนจะวิ่งโร่มาทางนี้ พร้อมมีบ่าวถือกระด้งใส่ดอกไม้เดินตามหลังมา
"นี่ๆ ข้าเอาบัวลอยมาให้เจ้า!"ลูกคนที่๓ พนารัตน์กล่าว ก่อนจะหยิบและตั้งถ้วยบัวลอยเพื่อดันมาหาข้า
"ทำไมต้องเอามาให้นางด้วยเป็นขี้ข้านางรึ!?"ลูกคนที่ ๒ พรรณผกากล่าว
"อะ! นี่! เอาไป! เราเอามาฝากจากห้องเครื่อง"พรรณผกากล่าวอีกครั้ง พลางหันหน้าเดินกลับไป ก่อนจะมีบ่าวหยิบมันหวานมาวางข้างๆข้า
นางชอบมันหวานสินะ
"พิ...ฉาว..พี่...ปัด..ทา..มา.."ลูกสาวคนที่๕ ผกากรองค่อยๆเดินต้วมเตี้ยมมาจากมุมหนึ่งของวัง
"ไงคะ? เจ้าตัวเล็ก"ข้ากล่าว ก่อนจะอุ้มเด็กน้อยผกากรองมานั่งบนตักของตน
"เจ้าก็ตัวเล็กนะปัทมา"พี่ใหญ่สุด วิลาวัณย์กล่าว ก่อนจะยิ้มและกลับไปนั่งร้อยมาลัยต่อ
"ท่านพี่ก็นะเจ้าคะ"ข้ายิ้มก่อนจะตีลมเบาๆ ไม่ให้โดนตัวพี่ๆ เพื่อแสดงถึงการตอบรับการพูดหยอกของท่าน
ตึกๆๆๆๆๆๆ
มีทหารนับไม่ถ่วนวิ่งปรี่ผ่านพวกเราไป
เกิดอะไรขึ้นกันหนะ!?
"ท่านพี่เพคะ น้องว่าท่านพี่กลับตำหนักกันเถิดเพคะ"ข้ากล่าวก่อนจะนำทุกคนกลับตำหนัก
"เดี๋ยวข้าไปส่งทุกคนเอง"ข้ายิ้มเพื่อให้ทุกคนไม่แตกตื่น และข้าค่อยๆนำทุกคนกลับตำหนักโดยไล่จากน้องคนเล็กสุดไปยังพี่คนโตที่สุด
ผ่านไปไม่นานข้าก็ส่งทุกคนกลับตำหนักเสร็จ
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
ทหารต่างยังพากันวิ่งวุ่นรอบๆกำแพงเมือง
< เสด็จแม่ใหม่เจ้าหละ? >
มีเสียงหนึ่งก้องกังวาลอยู่ในหัว
ใครหนะ? ช่างเถิดหาเสด็จแม่ก่อนดีกว่า
ตึกๆๆๆๆ
ข้าวิ่งสวนกับทหารหลายกลุ่มแต่ก็ไม่พบเสด็จแม่
ข้ารีบวิ่งไปที่ตำหนักของพระองค์
ใช้เวลาไม่นานข้าก็วิ่งมาถึง
ข้ารีบเข้าไปทันที
ไม่...มี!!?
"เสด็จแม่!!!!"ข้ากู่ตะโกนสุดเสียง
ไม่มีใครตอบ!!!!
ข้ารีบวิ่งไปอีกครั้ง
< ประตูชั้นนอกของเมือง >
อะไรหน่ะ!?
ข้ารีบวิ่งฝ่าประตูวัง
แกร๊ง!
มีทหารที่เฝ้าประตู ๒ คนยกหอกเหล็กกั้นประตูวังไว้
"พระธิดา!ตอนนี้ห้ามออกไปนะพะยะค่ะ"ทหาร ๑ ใน ๔ ที่เฝ้าประตูกล่าว
ข้ารีบเดินกลับก่อนจะตัดสินใจ!
ปีนกำแพงออกไปดีกว่า!!
< กระโดดเลย >
เสียงอันใดอีกเนี่ย?
ข้าตัดสินใจลองกระโดดดู
คนบ้าอะไรกระโดดข้ามกำแพงได้ บ้าไป...
ข้าถึงกับชะงักเพราะข้านั้นกระโดดสูงมากกว่ากำแพงเสียอีก ข้าตกลงไปที่นอกวัง
มันร่อนลงเร็วกว่าเมื่อกี๊!!!?
ตายๆๆๆๆ
และแล้วเท้าข้าก็แตะพื้น
ไม่เป็นอะไรเลย?
ข้าตั้งสติได้ก่อนจะวิ่งต่อไป อาณาจักรช่างกว้างใหญ่ไพศาล มิแปลกที่จักมีสงคราม
ข้าวิ่งไปนานเพียงใดก็มิทราบได้ รู้เพียงแค่น้องสาวที่ยังมิคลอดกับท่านแม่ต้องปลอดภัย
แฮกๆ!
กำแพงชั้นนอก! ข้าเห็นแล้ว!!!
ข้าหยุดวิ่งในทันทีที่เห็นทหารหลายคนรายล้อมประตูชั้นนอกไว้ ในวันนี้ประตูใหญ่บานนี้ปิดตายไร้ซึ่งวิ่แววนกและผีเสื้อผ่านเล็ดลอดเข้ามา
ข้ากระโดดขึ้นอีกครั้งด้วยแรงทั้งหมดที่มี
ว้าวว~! ข้าบินได้!!!
< นั่น >
ไหน?
ข้าก้มลงดูได้เท้าที่ตนเยื้องย่าง
พวกมันจับแม่ข้าเป็นตัวประกัน?
หนอย~!
< ท่านอยากได้พลังไหม? >
อยากสิ!
< ดังที่ท่านปราถนา >
พูดจบดวงตาข้างขวาข้าก็เจ็บแปลบขึ้นมา แต่ก็ดีขึ้นหลังจากผ่านไปแค่ครู่เดียว
< ท่านมู่อี่หลิง ข้ามีนามว่า ผิงผิง เป็นภูตไฟและเป็นมรดกจากท่านมู่จื่อฮวานขอรับ >
ไฟ? ดวงไฟในฝันของข้าในวันนั้นคือเจ้าหรอ?
< ใช่ขอรับ >
< แต่ตอนนี้โปรดทำดังที่ท่านปราถนาด้วยขอรับ >
ได้สิ
< กล่าวตามข้าขอรับ >
ได้!
< หอกเทพอัคคี!!! >
"หอกเทพอัคคี!!!"
โปรดติดตามตอนต่อไป
next episode <🔻>
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments