ฉันลืมตาขึ้นมาในความฝันของตัวเอง เพื่อหวังจะได้เจอกับเธอคนนั้นอีกครั้ง แต่สถานที่รอบข้างกลับต่างออกไป แทนที่จะเป็นห้องสีดำมืด ๆ เหมือนกับเมื่อวาน กลับเป็นทุ่งหญ้ากว้างสุดสายตา พร้อมกับลมพัดเอื่อยเฉื่อย ฉันกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อหาไอช่า เดอเรส์คนนั้น แต่ฉันกลับพบเจอแต่ทุ่งหญ้ากว้าง ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิต ฉันตัดสินใจลุกขึ้นเดินสำรวจทุ่งหญ้านี้ ฉันเดินไปเรื่อย ๆ ตามกระแสลม แต่ไม่ว่าจะเดินไปไกลแค่ไหนก็ไม่มีวี่แววของเธอเลย
" ไอช่า เธออยู่ไหนน่ะ !!"
ฉันตะโกนเรียกชื่อของเธอท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้างนั้น แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นมีแค่เสียงสะท้อนของฉันเองเท่านั้น ฉันเริ่มถอดใจกับการตามหา ไอช่า เดอเรส์ แล้ว และเดินต่อไปเรื่อย ๆ ในทุ่งหญ้า ขณะนั้นเอง ฉันก็สัมผัสได้ว่ามีใครบางคนอยู่ใกล้ ๆ นี้ ฉันหันกลับไปก็ได้เจอกับต้นไม้ขนาดใหญ่ ใต้ร่มของต้นไม้นั้นมีสาวน้อยกำลังนั่งจิบน้ำชาบนโต๊ะกลมเล็กหรูหรา บนโต๊ะมีถาดวางขนม 3 ชั้นที่ดูหรูหราเช่นกัน ฉันมองคนที่กำลังจิบน้ำชาอยู่อย่างนั้น ท่าทางของเธอดูสง่างามจนอดที่จะละสายตาจากเธอไม่ได้ ก่อนที่เธอจะวางถ้วยชาลง แล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉัน
" นั่งสิคะ เลดี้จัสมิน วันนี้เลดี้แต่งตัวสวยเป็นพิเศษเลยนะคะ "
ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังจะสื่อ แต่งตัวสวย?? ก็แค่เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์กับกางเกงขาสั้น-- เอ๊ะ ? ฉันก้มลงสำรวจตัวเองกลับพบว่าชุดของฉันเปลี่ยนไป จากเสื้อยืดธรรมดากลับกลายเป็นชุดเดรสสีม่วงหรูหรา มีหมวกเป็นเครื่องประดับ ในมือถือร่มกันแดดที่ค่อนข้างจะหรูหราเกินกว่าที่จะเอามาใช้กันแดดอย่างเดียว ฉันทำหน้าตกใจแล้วเงยหน้าขึ้นมามองตัวต้นเหตุ เธอส่งยิ้มให้ฉันราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้ตายสิ น่าหมั่นไส้ชะมัด แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่เพียงเดินถือกระโปรงพอง ๆ นี่ไปที่โต๊ะน้ำชานั่นอย่างยากลำบาก ไอช่าผลักถ้วยน้ำชาเปล่ามาไว้ข้างหน้าฉัน จากนั้นเธอก็เริ่มเทน้ำชาให้ฉันด้วยท่าทางที่ดูสง่างามเช่นเคย อ่า...อิจฉาหล่อนจัง หน้าตาก็สวยแถมด้วยท่าทางที่สง่างามนั่นอีก ฉันกล่าวขอบคุณก่อนจะหยิบถ้วยชาขึ้นมายกดื่ม ฉันเหลือบมองหล่อนหน่อย ๆ แต่หลังจากที่เห็นฉันกำลังดื่มชาที่รินให้นั้นสีหน้าของไอช่าก็แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ตกใจทันที อ้าว ทำไมล่ะ ฉันทำหน้างงงวย ไอช่าถอนหายใจแล้วจึงลุกขึ้นเดินมาหาฉันแล้วสอนมารยาทในการถือถ้วยชา และอื่น ๆ อีกมากมาย ฉันสัมผัสได้ว่ามันทั้งเหนื่อยและไม่เข้าใจเอามาก ๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสร้างมารยาทการดื่มชาให้ยุ่งยากแบบนี้ทำไมสู้ดื่มชาแบบเดิมดีกว่า และในคืนนั้นฉันกับไอช่าก็ได้พูดคุยกันเรื่องมารยาท และไม่ได้เอ่ยถึงการสลับร่างเลย
ฉันสัมผัสได้ว่าฉันในตอนที่ตื่นขึ้นมานั้นเหนื่อยทั้งกายและใจแบบสุด ๆ เดี๋ยวคืนหน้าเธอสอนเรื่องมารยาทในการเข้าสังคมอะไรนั่นแน่ ๆ หรือไม่ก็วิธีการใช้พัดหรือเปล่า....จะอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้รู้สึกอยากพักกายพักใจเอามาก ๆ แต่...วันนี้ฉันต้องไปโรงเรียนเนี่ยสิ หยุดไม่ได้สินะ เมื่อคิดได้ ฉันจึงลากร่างของตัวเองไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปโรงเรียนเหมือนอย่างเคย ฉันเดินไปรอรถโรงเรียนที่ป้ายรถเมล์เหมือนทุกวัน แต่วันนี้ดูเหมือนจะมาช้ากว่าปกติ นี่ก็จะเข้าแถวแล้วด้วยซ้ำ หรือเป็นฉันเองหรือเปล่าที่มาไม่ทันรถโรงเรียน ไม่หรอก ฉันมาตรงเวลานี่นา ฉันทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่ภาวนาให้รถมารับเร็ว ๆ เท่านั้น ในระหว่างที่รอรถโรงเรียนนั้น ฉันสังเกตว่ามีแมวน้อยกำลังนอนอยู่บนถนนอย่างอารมณ์ดี แล้วมีรถกำลังมาทางนี้พอดี ไม่นะเจ้าแมวน้อย หนีไปเร็วเข้าา ดูเหมือนว่าการส่งสัญญาณของฉันนั้นไม่ได้ผล เจ้าแมวน้อยก็กำลังนอนเลียขนของตัวเองอย่างสบายใจอยู่บนถนน ให้ตายสิ เจ้าแมวนี่มีปลอกคอด้วยนี่ น่าจะเป็นแมวมีเจ้าของสินะ ทำไงดีล่ะทาสแมวอย่างฉัน ? ในเมื่ออยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอย่างนี้ สัญชาตญาณและจิตใต้สำนึกของฉันก็กระตุ้นให้ร่างกายขยับไปเอง ฉันวิ่งพุ่งจะเข้าไปคว้าตัวแมวตัวนั้น แต่จู่ ๆ มันก็หนีไป ฮู้วว เกือบไปแล้วล่ะเจ้าแมวน้อย ฉันรู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่เวลาจะมาสบายใจอะไรตอนนี้ เพราะตอนนี้ฉันยืนอยู่กลางถนนที่กำลังจะมีรถบรรทุกคันใหญ่ขับตรงมาทางนี้ ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ตอนนี้ฉันควรจะหลบแท้ ๆ แต่ขามันดันไม่ขยับเลย
ปื๊นนน !!!
ฉันจ้องมองรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความเร็ว ถ้าหากหลบตอนนี้ฉันยังมีโอกาสรอด แต่เจ้าร่างกายตัวดีดันไม่เชื่อฟังคำสั่งเนี่ยสิ ร่างกายฉันแข็งทื่ออยู่กับที่ สีหน้าที่ตกใจและหวาดกลัวกับสิ่งตรงหน้า ฉันสั่นไปหมด ทำอะไรไม่ได้เลย ฉันหลับตาปี๋ แต่ก่อนที่ฉันจะโดนชนนั้น จู่ ๆ ฉันก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูเอามาก ๆ ตะโกนเรียกชื่อฉันจากข้างถนน
" จัสมินน !!! "
โครมม !!!
ร่างกายของฉันกระเด็นลอยออกไปนอกถนน ฉันรู้สึกเจ็บจนชาไปทั่วร่างกาย ฉันมองเห็นเลือดของฉันไหลอาบท่วมไปหมด สติของฉันเริ่มพร่ามัว ฉันได้ยินเสียงคุ้นหูดังแว่วมาจากฝั่งตรงข้ามของถนน และมันก็ค่อย ๆ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เจ้าของเสียงปริศนาเดินเข้ามาใกล้ และช้อนร่างของฉันขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัดว่าคนคนนี้คือใครกันแน่ เสียงสะอื้นไห้ และน้ำเสียงที่เอาแต่เรียกชื่อฉันอย่างตื่นตระหนกพร้อมกันเขย่าตัวฉันเบา ๆ เพื่อเรียกสติของฉัน
" เลิก...เขย่าสักที...มันเจ็บนะไอ้..บ้า "
ฉันรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดเพื่อด่าหมอนี่ออกมา ฉันรู้ว่าตกใจแต่อย่าเขย่าแบบนั้นได้มั้ยยะ ? มันเจ็บย่ะ !
เมื่อหมอนี่ได้ยินคำด่าอันศักดิ์สิทธิ์ของฉันที่ด่าออกมาในขณะที่อยู่ในสภาพใกล้ตายก็ชะงักลง และเริ่มร้องไห้ออกมามากกว่าเดิม ฉันสัมผัสได้ว่าตัวของหมอนี่สั่นไปหมดเหมือนเด็กน้อยขวัญเสีย ฉันเริ่มรู้สึกเสียใจแปลก ๆ และอยากจะยื่นมือไปลูบหัวเพื่อปลอบชะมัด แต่ฉันทำได้เพียงคิดในใจเท่านั้น
" ใครก็ได้!!! ช่วยด้วยครับ!!! ช่วย---ด้วย!!!...ใครก็ได้ช่วยที..! "
น้ำเสียงที่สั่นเทาปะปนกับความตกใจไม่น้อย ฉันพยายามจ้องมองใบหน้าที่แสนคุ้นเคยนั้น และนึกให้ออกว่าหมอนี่คือใคร เพราะฉันไม่อยากจากไปทั้ง ๆ ที่ยังคาใจอยู่แบบนี้ อยู่ ๆ หมอนี่ก็ก้มลงมามองใบหน้าของฉัน และใช้มือลูบแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน อ่า...มือของหมอนี่เปื้อนเลือดของฉันหมดเลยแฮะ มือที่กำลังลูบแก้มของฉันอย่างอบอุ่นนั่นสั่นเทา น้ำตาของหมอนี่ไหลอาบแก้มและหยดลงบนใบหน้าของฉัน ฉันสัมผัสได้ว่าหมอนี่เป็นห่วงฉันมาก ๆ
" อย่าหลับนะ มิน....อดทนอีกนิดนะ...ได้โปรด "
น้ำเสียงที่อ่อนโยนและอบอุ่น ปนเปไปด้วยอารมณ์ความเศร้าเสียใจ ในตอนนั้นฉันรับรู้ได้ทันทีว่าหมอนี่ที่ฉันสงสัยนักหนาน่ะ คือ พี่ชาย ตัวดีของฉันนั่นเอง ฉันค่อย ๆ รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมด และยื่นมือไปหยิกจมูกของหมอนี่อย่างหมั่นไส้
" ไอ้พี่เจบ๊วย.... "
พี่เจจับมือของฉันไว้ในขณะที่น้ำตายังคงไหลอาบแก้มอยู่ ให้ตายสิ...ขี้แยจริง ๆ เลย เป็นพี่ภาษาอะไรเนี่ย ? ภาพเรื่องราวชีวิตของฉันหลั่งไหลเข้ามาในหัว และเริ่มฉายภาพชีวิตของฉันตั้งแต่วันแรกที่ได้ลืมตาดูโลก ตอนที่ฉันได้เดินก้าวแรก ตอนที่ฉันได้เข้าโรงเรียนวันแรก ตอนที่ฉันเริ่มอ่านหนังสือออก และเรื่องราวต่าง ๆ มากมายจนมาถึงปัจจุบันที่อายุ 15 ปี ให้ตายสิ ฉันยังใช้ชีวิตไม่คุ้มด้วยซ้ำ ฉันยังอยากเรียนให้จบสูง ๆ ทำงานหาเงิน และสวมใส่ชุดเจ้าสาวสวย ๆ ด้วยซ้ำ โชคชะตาช่างใจร้ายใจดำเสียจริง
" เป็นพี่แท้ ๆ ....เพิ่งคิดจะ...โผล่หัวมาตอนนี้เนี่ย..นะ ? "
พี่เจเป็นพี่ชายคนเดียวของฉัน ในครอบครัวมี แม่ พี่เจ และฉัน ตั้งแต่จำความได้ฉันก็ไม่เคยเจอพ่อแท้ ๆ ของฉันด้วยซ้ำ เพราะแม่หย่าร้างกับพ่อในระหว่างที่ท้องฉันอยู่ ถึงแม้ในวันนั้นแม่จะสูญเสียทุกสิ่งแต่ก็ยังสามารถเลี้ยงพวกเราสองคนพี่น้องให้เติบโตมาได้ขนาดนี้ เป็นแม่ที่แข็งแกร่งจริง ๆ ฉันใฝ่ฝันอยากจะเป็นแม่ที่สุดยอดให้ได้แบบแม่ของฉันบ้าง แต่คงไม่มีโอกาสนั้นแล้วล่ะ ส่วนพี่เจ เห็นแบบนี้แต่ก็เกเรไม่ใช่น้อย ทำตัวเสเพลไปวัน ๆ แต่ก็ไม่เคยทำตัวหยาบคายกับแม่สักครั้ง กลับมาแกล้งฉันแทนซะงั้น พวกเรามักจะทะเลาะกันตลอด แต่ไม่นานก็คืนดีกัน แต่เมื่อไม่นานมานี้พวกเราทะเลาะกันใหญ่โตจนพี่ไม่คุยกับฉันเลย และหนีออกไปอยู่บ้านเพื่อนไม่กลับบ้าน พี่ไม่เคยทำตัวอ่อนหวานกับน้องสาวคนนี้สักครั้งเลยในชีวิต แต่ฉันก็รับรู้ได้ว่าพี่รักฉันแค่ไหน
" มิน!! ทำใจดี ๆ ไว้นะ! เดี๋ยวรถพยาบาลจะมารับแล้ว...รอหน่อยนะ! "
" ไม่ล่ะ...หนูว่าไม่น่าจะ...ทันแล้วนะ "
" อย่าพูดแบบนั้นนะ! ต้องรอดสิ ชอบโม้ว่าตัวเองแข็งแรงไม่ใช่หรือไง ? "
" ฮะ ๆๆ ขอโทษนะ..."
" บอกว่าอย่าพูดแบบนั้นไง- "
" มินขอโทษที่ต้อง...สร้างความทรงจำแย่ ๆ ให้พี่แบบนี้..."
" มิน! "
ไม่กี่เดือนนี้ก็จะเป็นวันเกิดของพี่เจแล้วสิ ฉันอยากจะฉลองวันเกิดให้พี่เจอีกสักครั้งจัง แต่คงไม่ทันแล้วล่ะ....
" ฝาก...ขอโทษแม่ด้วยนะ "
ฉันสั่งเสียก่อนทุกอย่างรอบข้างเริ่มมืดลง จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกง่วงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ อ่า...ยังมีอะไรให้สั่งเสียอีกเยอะเลยนะ....แต่ร่างกายตัวดีมันไม่ยอมเชื่อฟังเลย หลังจากนั้นฉันก็ได้หลับไหลไปตลอดการโดยไม่รู้ว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไงต่อไป พี่เจจะเสียใจแค่ไหนนะ ? แม่จะช็อคหรือเปล่า ? พ่อจะมางานศพฉันไหมนะ ? เฮ้ออ-
" เด็กน้อย ลืมตาสิ "
น้ำเสียงที่อ่อนโยนของใครบางคนที่เล็ดลอดเข้ามาในห้วงภวังค์ของฉันอย่างปริศนา น้ำเสียงที่สดใสราวกับเสียงนกน้อยเจื้อยแจ้วยาวเช้า ความรู้เจ็บก็มลายหายไปเป็นปลิดทิ้งถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกสบายใจและอบอุ่นราวกับถูกโอบกอดด้วยแสงของดวงตะวัน ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ และได้พบกับ **ไอช่า** ที่นอนอยู่ข้าง ๆ บนเตียงขนาดใหญ่ที่ดูหรูหราราวกับเป็นเตียงของราชวงศ์ คอยจับมือของฉันอย่างอบอุ่น รอบข้างนั้นมืดสนิท มีเพียงเราสองคนเท่านั้น ไอช่านอนจ้องมองฉันด้วยดวงตาคู่สีม่วงที่น่าหลงใหลนั่น ทำให้รู้สึกเหมือนถูกสะกดเอาไว้
" ไอช่า ? "
ฉันเอ่ยพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี่ลง ไอช่ายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน
" เป็นอย่างไรบ้าง ? "
to be continued......
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments