เสียงดนตรีดังกระหึ่มอย่างไม่ขาดสายแสงสีจากไฟกระพริบสาดสองไปทั่วไปทั้งพบชายหญิงทั้งแท้เทียมต่างดื่มเครื่องดื่มมึนเมาร่างกายโยกย้ายไปตามจังหวะของเพลง
ดวงตาทั้งสามคู่ที่อยู่ชั้นสองกำลังจ้องไปทางด้านล่างห้อง VVIPคลับของคิมแทรังที่มีอยู่ห้องเดียวสามารถมองเห็นข้างล่างได้แต่คนข้างล่างมองขึ้นมาไม่เห็นนั้นคือข้อดีของห้องนี้ที่ใช้ในการมองหาเหยื่อที่เขาต้องการ
“นั้นไง” คิมแทรังชี้ไปทางผู้ชายที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน
“ใครเหรอครับ?” เซียวฌอนถามขึ้นอย่างสงสัย
“อู๋ซวนผู้จัดการนายแบบบริษัทเชียนรื่อหงเอเจนซี่ครับ หนึ่งในเด็กในสังกัดของอู๋ซวนคือโจเซฟ” คิมแทรังตอบกลับ
“เขามีของที่เราต้องการใช่ไหม?” เซียวฌอนหันไปถามหวังบรูคลินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“อืม” หวังบรูคลินตอบกลับ
“มาเฟียหวังก็กว้างขว้างเหมือนกันนะเนี่ย” เซียวฌอนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกวน ๆ
หวังบรูคลินได้แต่ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้เซียวฌอนรู้เรื่องครอบครัวของเขาที่เขาปิดพยายามปิดมาตลอดหลายปีจนไม่มีใครรู้ว่าตระกูลหวังมีลูกชายสามคนคือ ‘หวังแจ็คสัน’ ลูกชายคนโตหวัง ‘หวังบรูคลิน’ ลูกชายคนกลางนั่นก็คือตัวเขาเอง และ ‘หวังออกัส’ ลูกชายคนเล็กของตระกูล
ซึ่งปัจจุบันเขากับหวังออกัสทำงานราชการ มีเพียงหวังแจ็คสันพี่ชายคนโตที่คุมงานและดูแลเครือข่ายของตระกูลอยู่และนาน ๆ ทีเขากับหวังออกัสจะเข้าไปช่วย
เซียวฌอนรู้เรื่องของเขาแต่เขาไม่รู้เรื่องของเซียวฌอนเลยรู้เพียงเรื่องพื้นฐานทั่ว ๆ ไป สิ่งที่เขาอยากรู้ก็คือเซียวฌอนเป็นใคร ทำไมไม่มีประวัติครอบครัว แล้วเฮียจางอี้ชิงให้เขาดูแลอีกคนทำไมในเมื่ออีกคนก็ดูแลตัวเองได้
“คุณฌอนเพิ่งกลับมาอาจจะยังไม่รู้เรื่องพวกนี้มากพอ บริษัทเชียนรื่อหงเอเจนซี่เป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ Hua Group Corporation หรือที่เรารู้จักกันในนาม HGC” คิมแทรังเอ่ยขึ้น
“HGC บริษัทสื่อหนึ่งในสามของประเทศเหรอครับ?” เซียวฌอนถามขึ้นด้วยความสนใจ
“ใช่ครับ HCG แบ่งออกเป็นหลายบริษัทย่อยซึ่งแต่ละบริษัทจะให้ผู้จัดการที่ถูกแต่งตั้งโดยประธานบริษัทเป็นคนดูแลแทน เชียนรื่อหงเอเจนซี่เป็นบริษัทย่อยที่โด่งดังในเรื่องนิตยาสารสุขภาพและนิตยาสารเรท 18+ นายแบบนางแบบในบริษัทนั้นเกือบ 60% เป็นลูกค้าของเราทั้งนั้น
และ 10% เป็นพนักงานของเราที่ถูกแมวมองเข้าตาแล้วติดต่อให้ไปทำงานด้วยเมื่อเห็นว่างานไม่ได้หนักและได้เงินดีพนักงานหลายคนจึงลาออกไปเป็นนายแบบเต็มตัว เด็กของผมที่ออกไปทำงานได้ไม่ถึงห้าปีก็ตายบ้าง พิการบ้างป่วยเรื้อรังบ้าง บริษัทนี้ถูกฟ้องหลายครั้งและมักจะจบลงแบบเดิมคือรอดทั้ง ๆ ที่บริษัทนี้ไม่ต่างอะไรกับขบวนการค้ามนุษย์ นายแบบนางแบบถูกบังคับให้กินได้วันละหนึ่งมื้อ หรือไม่ได้กินเลยด้วยซ้ำ ต้องออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อรักษาหุ่น” แววตาของคิมแทรังแสดงความเศร้าบ่นโกรธลงไปด้วยในคือสิ่งที่เซียวฌอนสัมผัสได้
“ทำไมต้องมาหาเด็กที่นี่?” เซียวฌอนถามขึ้นสงสัย ที่อื่นมีเยอะแยะถมเถไปทำไมถึงต้องมาหาเด็กในสังกัดในร้านเหล้าแบบนี้
“ประชากรบนโลกของเรามีผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชาย สิบในร้อยของผู้หญิงพวกนั้นคือสาววาย และเม็ดเงินของเชียนรื่อหงเอเจนซี่ก็มาจากพวกเธอเป็นส่วนใหญ่ คลับของผมเป็นคลับแรก ๆ ที่เปิดเป็นคลับเกย์ เรียกได้ว่าเป็นคนบุกเบิกตีตลาดในบ้านเราเลยก็ว่าได้ ไม่แปลกที่จะโด่งดังมากกว่าที่อื่นไม่ว่าจะเป็นดนตรี อาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงพนักงาน และคนที่มาเที่ยวทุกคนล้วนงานดีทั้งนั้น” คิมแทรังอดที่จะกล่าวอวดคลับของเขานั้นไม่ได้ว่ามันน่าภูมิใจมากแค่ไหนกัน เพราะกว่าจะเปิดมาได้นานขนาดนี้คลับของเขาก็ผ่านอะไรมากเยอะมากเหมือนกัน
“ทำไมรัฐไม่เขาไปจัดการคนพวกนั้น” เซียวฌอนถามขึ้น
“คุณคิดว่าไงล่ะ” หวังบรูคลินถามกลับ
“ปิดปากด้วยเงิน” เซียวฌอนเอ่ยขอสันนิษฐานที่ง่ายที่สุดออกไป
“ใช่ คนพวกนั้นรู้ตัวดีว่าฟ้องไปก็ไม่ชนะ สู้ยอมรับเงินแล้วปิดปากไม่ดีกว่าเหรอ” หวังบรูคลินเอ่ยขึ้นก่อนจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับความคิดของคนเหล่านั้น
“มีคนของรัฐคอยหนุนหลังสินะทั้งทั้งที่พวกคุณก็รู้ข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้วทำไมถึงไม่จัดเลยล่ะ จะปล่อยให้มันยืดเยื้อทำไมกัน” และเป็นเซียวฌอนเองที่เอือมกับการกระทำเหล่านั้นเป็นอย่างมาก มีหลักฐานเก็บครบทุกอย่างแต่ไม่ลงมือจัดการคนชั่ว จะรอให้มีคนตัดริบบิ้นก่อนรึไงพวกเจ้าหน้าที่รัฐถึงจะเข้ามาจัดการกัน
“แม้ว่าหน่วยเราจะได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบได้โดยตรง แต่นั่นมันก็แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะคนพวกนี้คือตัวการย่อยไม่ใช่ตัวการหลัก อำนาจสูงสุดไม่ใช่ประชาชนอย่างเรา แต่มันคือคนที่อยู่หลังฉากนั้นต่างหากล่ะ” หวังบรูคลินเอ่ยขึ้น
“เหมือนจะไม่มีกรอบให้พวกเราแต่ใครจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วมันถูกตีกรอบไว้เพียงแต่กรอบนั้นมันกว้างมากจนเราไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเส้นขอบมันอยู่ตรงไหน เผลอ ๆ ที่ที่เรากำลังยืนอยู่ที่คิดว่าเป็นนอกกรอบ ความจริงมันอาจจะเป็นใจกลางของกรอบที่ตีเอาไว้ก็ได้ ผมพูดถูกไหม?” เซียวฌอนพูดขึ้นก่อนจะไปมองหวังบรูคลินอีกครั้ง
“อืม” หวังบรูคลินตอบรับ
“แล้วคุณรู้ไหม? ว่าคนอย่างเซียวฌอนไม่เคยอยู่ในกรอบอยู่แล้ว ต่อให้กรอบนั้นก็จะกว้างแค่ไหน ผมสามารถทำให้กรอบนั้นมันแคบลงได้อยากสืบให้ถึงตัวการใหญ่ก็ต้องเข้าทางตัวการย่อย” เซียวฌอนยกยิ้มขึ้นก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปทันที
“มึงจะปล่อยไปแบบนั้นเหรอไอ้บรูค” คิมแทรังถามขึ้นอย่างอดเป็นห่วงเซียวฌอนไม่ได้
“ปล่อยไปเถอะกูไม่อยากให้คดีนี้ปล่อยผ่านไปอีกแล้ว” หวังบรูคลินเอ่ยขึ้น
“มึงรู้ไหม? มึงกับคุณฌอนเหมาะสมกันมากเลย ความคิดที่ตามกันทัน มองตาก็รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ กูแทบไม่อยากเชื่อเลยว่ามึงกับคุณเซียวฌอนเพิ่งรู้จักกัน มันเหมือนคนรู้จักกันมานานมากทั้งทั้งที่ความจริงแล้วเพิ่งรู้จักกันและเจอกันได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน” คิมแทรังตบเข้าที่ไหล่ของหวังบรูคลินเบา ๆ” มึงคือไฟที่พร้อมจะแผดเผาทุกอย่างให้เป็นเถ้าได้แต่มันใช้เวลาช้า และคุณฌอนก็คือน้ำมันมันที่จะทำให้ไฟนั้นลุกแรงขึ้นและเผาไหม้เร็วขึ้นนั่นใช่ไหมคือสิ่งที่มึงต้องการให้คุณเซียวฌอนเป็น”
“อืม แม้กูจะไม่อยากได้คู่หูแต่เซียวฌอนก็ไม่ได้แย่อะไรมากขนาดนั้น ถ้าตัดเรื่องความเอาแต่ใจกับเดี๋ยวผีเข้าผีออกจากฌอนได้ก็คือคนเก่งมากคนหนึ่งเลยแหละ”
“คราวนี้ที่หน่วยจากที่ประสาทแดกกับมึงคนเดียวคงต้องประสาทแดกคูณสองแน่นอน เพราะได้คุณฌอนมาร่วมทีมด้วย” คิมแทรังหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะหยุดหัวเราะเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขายังมีเรื่องที่ไม่ได้เอ่ยบอกแกหวังบรูคลิน “เอ่อ นี่ไอ้บรูค”
“ว่า”
“วงในลื้อกันมาว่าองครักษ์เงากำลังจะกลับมาอีกครั้ง มึงเตรียมรับมือได้เลย” บทสนทาถูกเปลี่ยนเป็นเรื่องเครียดขึ้นกว่าเดิม
“เชื่อได้กี่เปอร์เซ็นต์?”
“99.99% อีก 0.01% ไม่แน่ใจเพราะไม่รู้ว่าพวกนั้นจะเริ่มลงมือเมื่อไหร่”
“คราวนี้กูจะจับพวกมันให้ได้” แววตาของหวังบรูคลินฉายแววความมุ่งมั่น
ในขณะที่อีกด้านหนึ่งเซียวฌอนเดินลงมายังชั้นหนึ่ง เสื้อคลุมหนังสีดำที่เขาสวมใส่เมื่อครู่ถูกถอนทิ้งไว้ที่ห้องพัก VVIP ตอนนี้เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวที่เขาตัดส่วนแขนให้ขาดเล็กน้อยเพื่อให้มันดูเซ็กซี่นิด ๆ หน่อย ๆ สวมกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ เรียกได้ว่าดูทั้งหล่อและสวยในเวลาเดียวกันเลยก็ว่าได้
“ขอโทษนะครับ คุณใช่คุณอู๋ซวน ผู้จัดการนายแบบบริษัทเชียนรื่อหงเอเจนซี่รึเปล่าครับ” เซียวฌอนเอ่ยทักบุคคลที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าสุดข้างกายมีหนึ่งหญิงสาวและหนึ่งชายหนุ่มหน้าตาน่ารักที่กำลังรับชมการแสดงบนเวที
“ใช่ครับคุณ...” อู๋ซวยมองหน้าตาและรูปร่างของคนตรงหน้าเขา เขานึกในใจคนอะไรทั้งหล่อทั้งสวยในเวลาเดียวกัน ถ้าได้ไปเป็นนายแบบคงดีไม่น้อยเรียกเงินเข้ากระเป๋าได้เยอะแน่ ๆ แบบนี้ หรือว่าถ้าได้ลิ้มลองก็คงดีไม่น้อย ก่อนจะปัดมือไล่สองคนที่อยู่ก่อนหน้าออกไป
มองเหี้ยไรขนาดนั้น! สายตาน่ารังเกลียดฉิบหายเลย! ไอ้หน้าปลาดุก! เซียวฌอนได้แต่กรนด่าในใจเพราะใบหน้าของเขาจะแสดงอารมณ์อื่นไม่ได้นอกจากยิ้มหวาน ๆ ส่งให้ไอ้หน้าปลาดุกคนนั้นเท่านั้น
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments