หนึ่งชั่วโมงต่อมา
“หาเจอไหมคุณ” หวังบรูคลินเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านมาหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้วอีกฝ่ายยังไม่หยุดสำรวจที่พักของผู้เสียชีวิตเลยแม้แต่น้อย
เซียวฌอนบ่นกับตัวเองอย่างหงุดหงิด “เก็บไว้ไหนวะ!”
หวังบรูคลินที่เห็นว่าเซียวฌอนไม่ตอบคำถามของเขา แต่พูดอะไรก็ไม่รู้อยู่คนเดียวก็เอ่ยถามขึ้น “บ่นอะไรคุณ” ก่อนจะเดินเข้าไปหาเซียวฌอน
“ว่าไงสรุปหาไม่เจอ?”
“...” ไร้เสียงตอบรับจากเซียวฌอน
“ตามข้อตกลงคุณต้องเลี้ยงข้าวผม”
“เอ่อ!” เซียวฌอนปวดหัว เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอะไรถึงได้เอาแต่ให้เขาเลี้ยงข้าว แต่ในเมื่อเขาหาไม่เจอจริง ๆ ก็รับบทลงโทษนั้นไปอย่างไร้ข้อกังขา
“ตามผมมา” หวังบรูคลินจับข้อมือเซียวฌอนลากอีกฝ่ายให้เดินตามเขามา
เซียวฌอนที่โดนลากให้เดินตามก็เดินตามไปแบบงง ๆ “เดี๋ยว!” เซียวฌอนหยุดเดินก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า “จะกลับแล้วเหรอ?”
หวังบรูคลินส่ายหน้า “หาที่นี่ไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ตามผมมา
ฌอน” หวังบรูคลินไม่พูดเปล่าดึงแขนให้เซียวฌอนเดินตามเขาไปอีกครั้ง ส่วนเซียวฌอนก็ได้บอกตัวเองในใจว่า ‘เย็นไว้ฌอน มึงต้องเย็นไว้’
สามสิบนาทีต่อมา
“คลับเกย์!?” เซียวฌอนตะโกนออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นป้ายใหญ่ ๆ ของสถานที่หวังบรูคลินพาเขามา “คุณพาผมมาทำไม!?”
“ตกใจอะไรกันคุณ ทำท่าอย่างกับไม่เคยเข้าไป” หวังบรูคลินมองเซียวฌอนด้วยสายตาแปลกประหลาด
เซียวฌอนสวนกลับอย่างทันควัน “ก็ไม่เคยยังไงล่ะไอ้บ้า!”
หวังบรูคลินขมวดคิ้ว เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่เคยมาสถานที่แบบนี้ แต่พอเห็นท่าทางตื่น ๆ ของอีกฝ่ายก็คงเป็นเรื่องจริงที่อีกฝ่ายไม่เคยไปเที่ยวสถานที่แบบนี้จริง ๆ “ถือว่าเปิดประสบการณ์ใหม่” พูดจบหวังบรูคลินก็เดินลงจากรถไปทันที
ต่างจากเซียวฌอนที่ยังทำใจลงจากรถไม่ได้ เขาไม่คิดว่าคนอย่างหวังบรูคลินจะรู้จักสถานที่แบบนี้ด้วย หวังบรูคลินที่เห็นเซียวฌอนไม่ยอมลงสักทีก็เปิดประตูรถให้อีกฝ่ายลงมาทันที
“จะนั่งบ่นอีกนานไหม ลงมา” หวังบรูคลินเอ่ยเสียงเรียบ เซียวฌอนเดินลงจากรถทันทีอย่างว่าง่าย บอกตามตรงว่าคลับเกย์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เขาไม่คิดจะเข้าไปเลยแม้แต่น้อย เพราะคนอย่างเขาถ้าหิวจริงก็มีคนมาต่อคิวให้เลือกกินอยู่แล้ว อีกอย่างเขาชอบไปเที่ยวผับหรือคลับแบบปกติมากกว่า เพราะมีให้เลือกหลากหลายมากกว่า
หวังบรูคลินเดินนำเซียวฌอนเข้าไปในตัวอาคาร เซียวฌอนเห็นพนักงานที่พยักหน้าให้หวังบรูคลินอย่างคุ้นเคย แสดงว่าอีกฝ่ายต้องมาที่นี่บ่อยมากแน่นอน
“Hey! บรูค” คิมแทรังที่เห็นใบหน้าของเพื่อนของเขาที่นาน ๆ จะมาทีเดินเข้าก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
“ไงแทรัง” หวังบรูคลินชกมือคิมแทรังเป็นการทักทาย
“เป็นไงบ้าง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” คิมแทรังถามขึ้น
“ก็ดี”
คิมแทรังพยักหน้า ก่อนเหลือบไปมองคนที่เพื่อนของเขาพามาด้วยด้วยความสงสัย “แล้วนี่...?”
หวังบรูคลินจึงเอ่ยแนะนำตัวเซียวฌอนทันที “เซียวฌอน เพื่อนที่ทำงาน”
“อ๋อ” คิมแทรังพยักหน้าเข้าใจ พร้อมกับส่งยิ้มให้เซียวฌอน
หวังบรูคลินเองก็ไม่ลืมที่จะแนะนำตัวเพื่อนของเขาให้เซียวฌอนได้รู้จักเช่นเดียวกัน “ฌอนนี่แทรังเพื่อนผม”
“อ่า เซียวฌอนยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” เซียวฌอนหันไปยิ้มและจับมือทักทายกับคิมแทรัง
“ช…เช่นกันครับ” คิมแทรังจับมือเซียวฌอนด้วยความเขินอายรอยยิ้มหวานนั้น คุณฌอนช่างเป็นคนที่สวยและน่ารักจริง ๆ คิมแทรังคิดในใจ
หวังบรูคลินขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าเขาอาจจะกำลังเป็นบ้าไปแล้วก็ได้ ช่วงที่ผ่านมาเขาสังเกตอีกฝ่ายมากเกินไป พอเห็นท่าทางที่อีกทำกับคนอื่นไม่เหมือนที่ทำกับเขา เขาก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน ไหนจะที่ชอบแจกยิ้มหวานให้คนอื่นไปทั่วอีก คิดว่าตัวเองยิ้มสวยมากรึไงกัน
หวังบรูคลินรีบเอ่ยขัดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ไปที่ห้องได้แล้ว”
“เค ว่าแต่ไม่สั่งอะไรหน่อยเหรอ” คิมแทรังเอ่ยถามขึ้น
“คุณหิวไหม?” หวังบรูคลินหันไปถามเซียวฌอน เขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอกเพราะกินข้าวเที่ยงมาเรียบร้อยแล้ว แต่อีกฝ่ายที่ยังไม่ได้อะไรเลยนอกจากกาแฟตอนเช้า
“ก็...” เซียวฌอนยังไม่ทันได้ตอบอะไรหวังบรูคลินก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน “มึงสั่งอะไรมาก็ได้สามสี่อย่าง กูขึ้นไปรอบนห้องก็แล้วกัน แล้วก็เครื่องดื่มขอน้ำเปล่านะ” ไม่ต้องให้เซียวฌอนบอกว่าหิวเขาก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังหิว เพราะตอนที่เขาถามว่าหิวไหมสายตาของอีกฝ่ายเปร่งประกายราวกับได้ของที่ถูกใจตัวเอง
คิมแทรังตอบกลับ “เค”
“ไป” หวังบรูคลินจับข้อมือเซียวฌอนลากให้อีกฝ่ายเดินตามเขามาอีกครั้ง
“โอ๊ย! คุณจะดึงผมทำไหม? เนี่ย! ผมเดินเองได้นะ ปล่อย” เซียวฌอนพยายามสะบัดมือของหวังบรูคลินออก แต่อีกฝ่ายกลับจับเขาแน่นเหลือเกิน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นบ้าอะไรบอกให้เขาเดินตามไปง่าย ๆ ไม่ได้รึไงกัน ทำไมถึงชอบลากกันก็ไม่รู้
“เดินตามมาเงียบ ๆ”
“เอาแต่ใจฉิบหายเลยไอ้บ้า” เซียวฌอนบ่นออกมาเบา ๆ เพราะความหงุดหงิด เขาปล่อยให้หวังบรูคลินจับข้อมือเขาเดินไปแบบนั้น เพราะต่อให้เถียงหรือพยายามสะบัดออกก็ไม่เป็นผล
จะไม่ให้เขาบอกอีกฝ่ายเอาแต่ตัวเองได้ยังไงกัน เขาจะฟ้องคุณลุงคอยดูสิ!
หวังบรูคลินพาเซียวฌอนมาที่ห้อง VVIP เขาเปิดประตูเข้าไปอย่างเคยชินก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง โดยไม่ลืมที่จะดึงเซียวฌอนให้นั่งลงข้างกัน
“คุณพาผมมาที่นี่ทำไม?” เมื่อข้อมือเป็นอิสระเซียวฌอนก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“มาหาเข็มฉีดยาไง”
“ที่นี่เนี่ยนะ?” เซียวฌอนไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่น้อย
“พอร้านเปิดเต็มรูปแบบคุณก็จะรู้เอง”
“อืม คุณมาที่นี่บ่อยเหรอถึงได้รู้จักคุณแทรัง คุณแทรังเป็นเจ้าของที่นี่เหรอ?”
“นาน ๆ มาที ถ้าอยากข้อมูลอะไร”
“พูดอยากกับที่นี่เป็นแหล่งข่าวอย่างงั้นแหละ”
“อืม”
“ที่นี่เนี่ยนะ!” เซียวฌอนถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เขาแค่พูดออกไปเล่น ๆ เองนะ
หวังบรูคลินตอบกลับเสียงเรียบ “อืม”
“จริงอะ?” เซียวฌอนเขาขอถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจอีกรอบ
หวังบรูคลินถอนลมหายใจออกมาอย่างเอือมระอาก่อนจะตอบอีกฝ่ายว่า “อืม ถามมากจริง ๆ เลยคุณที่เมกาไม่มีแบบนี้รึไง”
“ก็มีแต่น้อยมากไม่คิดว่าที่นี่จะมีด้วยแถมร้านยังใหญ่อีกด้วย” ประเทศก่อนหน้าที่เขาอาศัยอยู่ก็มีแหล่งข่าวหลากหลายพื้นที่เหมือนกัน แต่ถ้าหากเป็นพวกผับหรือคลับใหญ่ ๆ จะไม่ค่อยได้เป็นแหล่งเท่าไหร่ เพราะที่ดังส่วนใหญ่เป็นของคนนอกทั้งนั้น ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ที่นี่ร้านใหญ่มากและดูเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเลยก็ว่าได้ แต่จะว่าไปคิมแทรังเพื่อนของหวังบรูคลินก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือว่าอีกฝ่ายเป็นคนของตระกูลหวัง ยังมีเรื่องที่เขายังไม่รู้อีกเยอะสินะ
“อืม คุณนั่งรอผมอยู่นี่แป๊บนะเดี๋ยวผมมา” หวังบรูคลินพูดจบก็ลุกขึ้นยืนทันที
เซียวฌอนรีบรั้งแขนของหวังบรูคลินเอาไว้ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัยว่า “คุณจะไปไหน?”
“เข้าห้องน้ำ คุณตามไปด้วยรึไง”
“รีบ ๆ ไปเลยไป๊” เซียวฌอนรีบสะบัดมือไล่หวังอีกฝ่ายให้ออกไปทันที
“หึ” กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ในห้องน้ำหวังบรูคลินได้นัดคิมแทรังออกมาเพื่อพูดคุยเรื่องที่เขาได้ให้อีกฝ่ายสืบค้นหาข้อมูลให้
“ไอ้แท” หวังบรูคลินเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเบา ๆ
คิมแทรังยื่นแท็บเล็ตให้อีกฝ่ายดูข้อมูลทันที “ไม่เจอข้อมูลอะไรเพิ่มเลย กูหาได้เหมือนที่เฮียแจ็คหามาให้มึงนั่นแหละ”
“ข้อมูลทางการมึงหารึยัง?”
“มึงไม่ให้ไอ้บิลหาให้วะ ไอ้บิลเข้าน่าจะง่ายกว่ากูเข้าเอง”
“เข้าแล้ว”
“ได้เหมือนกูว่างั้น”
“อืม”
“แล้วมึงไปสนใจเรื่องของเขาทำไหมวะ ปกติไม่เห็นมึงจะให้สืบหาประวัติเพื่อนร่วมงานแบบนี้เลย” คิมแทรังถามขึ้นด้วยความสงสัย แค่ภาพก่อนหน้าที่เขาเห็นไอ้เพื่อนตัวดีจับแขนดึงให้คนน่ารักให้เดินตามมันไปอย่างไม่ปล่อยมือแล้ว เรื่องนี้เขาว่าต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอีกแน่นอน เพราะปกติแล้วเพื่อนของเขาเป็นถือตัวจะตายไป
“เฮียอี้ฝากให้กูดูแลเขาแต่พอกูถามว่าดูแลทำไม เฮียกลับตอบกูว่าไม่ต้องรู้หรอกถึงเวลากูจะรู้เอง”
“แต่มึงไม่อยากรอว่างั้น”
“เอ่อ ความลับกูน้อยคนนักที่จะรู้แต่เซียวฌอนรู้ได้ไงก่อนเรื่องนี้”
“เฮียอี้อาจบอกรึเปล่ามึง”
“ไม่มีทางเฮียก็ไม่อยากให้กูเปิดเผยตัวตนเหมือนกัน”
“กูจะสืบต่อให้ระหว่างนี้มึงก็ตามติดเขาตามที่เฮียอี้บอกก็แล้วกัน”
“อืม”
“ไปกันเถอะ ออกมานานเดี๋ยวคุณเขาสงสัย”
“อืม” หวังบรูคลินรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป โดยที่พวกเขาทั้งสองคนไม่รู้ตัวเลยว่าบนสนทนาระหว่างพวกเขาทั้งสองคนนั้นได้ มีบุคคลอื่นฟังอยู่ด้วย
องครักษ์เงา (3)
17:47 น.
M: หวังบรูคลินพยายามความลับของเซียวฌอน
King: จับตาดูไว้
M: อืม
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments