วันต่อมา เวลา 06:12 น.
เซียวฌอนกำลังเดินอย่างช้า ๆ บริเวณสวนสาธารณะใกล้ที่พักของเขา ถึงแม้ว่าเมื่อคืนเขาจะนอนดึกมากแค่ไหนแต่ร่างกายของเขาเหมือนมันจำไปแล้วว่าต้องตื่นมาวิ่งตอนเช้า แม้ว่าเขาจะง่วงก็ตามแต่ก็ขมตานอนหลับต่อไม่ได้อยู่ดี
“เฮียอี้นี้ช่างรู้ใจเราเสียจริงรู้ว่าน้องชอบวิ่งก็หาคอนโดใกล้ ๆ สวนสาธารณะให้ แบบนี้ต้องให้รางวัลแล้ว” เซียวฌอนกำลังดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัวของเขา สวนสาธารณะแห่งนี้นอกจากเจ้าหน้าที่รัฐแล้วก็ยังมีคนทั่วไปที่พากันมาวิ่งหรือเดินออกกำลังกายตอนเช้า แถมยังมีบ้างคนพาเจ้าหมาสี่ขาออกมาวิ่งด้วย
“อะ!” เซียวฌอนร้องออกมาเมื่อเขาถูกแรงกระแทกจากด้านหลังก่อนจะล้มตัวลงกับพื้น
“โอ๊ย! คุณ!” หวังบรูคลินชี้นิ้วไปที่เซียวฌอน
“คุณ!” เซียวฌอนเองก็ชี้นิ้วไปที่หวังบรูคลินเช่นกัน เมื่อเช้าเขาก้าวเท้าข้างไหนออกจากบ้านกันเนี่ย ทำไมถึงได้ซวยแต่เช้าแบบนี้ เขารีบลูกขึ้นปัดฝุ่นทันที “วิ่งยังไงของคุณเนี่ย! ลืมเอาตามาด้วยรึไง!”
หวังบรูคลินหัวร้อนทันทีอีกฝ่ายเป็นคนมาชนเขาก่อนแท้ ๆ กลับมาโทษว่าเขาเป็นคนชนมันถูกต้องรึไงกัน “ใครกันแน่ คุณเป็นคนเดินมาชนผมเองนะ
เซียวฌอน “คุณนั่นแหละทึ่วิ่งมาชนผม!”
หวังบรูคลิน “ลืมตาให้กว้าง ๆ แล้วมองดูทางหน่อยไหมคุณ คุณเดินผิดเลน”
ให้ตายสิไอ้ฌอน! มั่วแต่ดูข้างทางเป็นไงล่ะมึง เดินเข้าเลนวิ่งเฉยเลย
“ว่าไงครับ ตกลงใครผิดกันแน่”
“เอ่อ ขอโทษ จบนะ อารมณ์เสียแต่เช้าเลยวุ้ย!” พูดจบเซียวฌอนก็หันหลังกลับไปทันทีอย่างไม่สบอารมณ์
“เดี๋ยว” หวังบรูคลินเอ่ยขึ้น
เซียวฌอนหันกลับไปมองอย่างหงุดหงิด “อะไรอีกวะ”
หวังบรูคลินชี้ไปที่เข่าของเซียวฌอน “เข่าคุณ”
“เชี่ย!” เซียวอุทานออกมาเมื่อเห็นเข่าของเขามีรอยแผลจากการหกล้มเมื่อครู่ “ล้มแรงขนาดนั้นเลยเหรอวะเนี่ย” เขาใช้นิ้วแตะ ๆ ไปที่รอบแผล ก็ไม่ได้เจ็บเท่าไหร่นะ คงไม่เป็นอะไรหรอก
“ไปทำแผล” หวังบรูคลินดึงมือเซียวฌอนให้เดินตามเข้ามา
“เห้ยคุณ!” เซียวฌอนตกใจที่จู่ ๆ เขาก็โดนอีกฝ่ายลากให้เดินตามไปอย่างงง ๆ “ผมเดินเองได้ไม่ต้องจูง คุณบรูคลินได้ยินผมปะเนี่ย”
แต่เหมือนหวังบรูคลินจะข้ามเสียงของเซียวฌอนไป เขาลากเซียวฌอนมาจนถึงห้องพยาบาลที่สวนสาธารณะแห่งนี้มีเอาไว้ให้บริการเวลาคนมาเที่ยวหรือมาออกกำลังกายได้รับบาดเจ็บ
“สวนสาธารณะนี้มีห้องพยาบาลด้วยเหรอเนี่ย” เซียวฌอนมองห้องพยาบาลอย่างตื่นเต้น น้อยนักที่จะเห็นว่าสวนสาธารณะมีสถานพยาบาลไว้คอยให้บริการ จึงไม่แปลกที่ตอนนี้ดวงตาของเขากำลังเป็นประกายเพราะมันดูแปลกใหม่
“มีไว้เพื่อคนซุ่มซ่ามแบบคุณไง”
“ผมไม่ได้ซุ่มซ่ามสักหน่อย!”
“เหรอ”
“โอ๊ย! เจ็บนะคุณ เบา ๆ หน่อยไม่ได้รึไง
“แผลแค่นี้เองทำเป็นร้องโอดครวญไปได้”
“แอลกอฮอล์นะคุณที่คุณถืออยู่อะ คิดว่ามันไม่แสบรึไง” เซียวฌอนรีบจับมือห้ามหวังหบรูคลินที่ถือสำลีที่ชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลเอาไว้กำลังจะเช็ดเข้าที่แผลหัวเข่าของเขาที่แตก พร้อมกับทำท่าทางราวกับจะร้องไห้
หวังบรูคลินมองคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ก็ยังกลัวแค่แอลกอฮอล์ล้างแผลเนี่ยนะ แล้วนั่นทำหน้าอะไรกัน คิดว่าน่ารักมากรึไง
หวังบรูคลินไม่สนใจ เขาใช้สำลีเช็ดที่แผลบริเวณหัวของเซียวฌอนทันที
“ซี๊ด…” เซียวฌอนส่งเสียงออกมาเพราะรู้สึกแสบ อีตาบ้านี่ไม่ฟังกันบางเลยรึไงกัน!
แต่จะว่าไปมือก็เบาเหมือนกันนะไอ้ลูกหมา
“คุณมาวิ่งที่นี่ได้ยังไง” หวังบรูคลินถามขึ้น
เซียวฌอนตอบกลับ “สวนสาธารณะนี้เป็นของคุณรึไงกันผมถึงมาวิ่งไม่ได้”
หวังบรูคลินถอนหายใจกับคำตอบที่เขาได้ คิดไว้ไม่มีผิดจริง ๆ อีกฝ่ายกวนเขาตลอดเลย อุตส่าห์ถามดี ๆ แล้วนะ
“คุณพักอยู่แถวนี้เหรอ”
“ทำไมผมต้องบอกคุณ โอ๊ย!” เซียวฌอนร้องออกมาเมื่อหวังบรูคลินกดสำลีแอลกอฮอล์ใส่แผลเขาเต็ม ๆ “ไอ้บ้านี่! มันแสบนะเว้ย!”
หวังบรูคลินส่งเสียงหึในลำคออย่างพอใจเมื่อเห็นเซียวฌอนโวยวาย “ตอบมา ถ้าไม่ตอบผมจะคิดว่าคุณตามผมมา”
“ตามคุณ? เหอะ” เซียวฌอนกลอกตามองบน คนอะไรมั่นหน้าขนาดนี้ .ทำไมผมต้องตามคุณคนอย่างคุณเนี่ยนะมีอะไรให้ผมต้องตาม หลงตัวเองเกินไปรึเปล่าคุณ”
“จะตอบผมดี ๆ หรือจะให้ผมราดแอลกอฮอล์ลงแผลของคุณ” หวังบรูคลินหยิบเอาขวดแอลกอฮอล์ขึ้นมาถือขู่
เซียวฌอนที่เห็นเช่นนั้นก็รีบบอกความจริงไปทันที เพราะดูจากสายตาของหวังบรูคลินแล้วอีกฝ่ายได้ทำอย่างที่พูดแน่นอน “เอ่อ ๆ ผมพักอยู่แถวนี้แหละเฮียอี้เป็นคนหาคอนโดให้”
“พักอยู่ที่ไหน?”
“ถามทำไม? คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย”
“เซียวฌอน” หวังบรูคลินกดเสียงต่ำ
“อยู่บีเจคอนโด” เซียวฌอนเอ่ยตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่เขาก็ต้องตอบไปตามความจริงเพราะแววตาของอีกฝ่ายดูน่ากลัวจริง ๆ
ทำไมเราต้องกลัวมันด้วยวะเนี่ย!
หวังบรูคลินตอยกลับสั้น ๆ “อืม”
“ถามขนาดนี้ไม่ถามเลขห้อง รหัสห้องกูเลยวะ” เซียวฌอนพึมพำเบาเบา เขารู้สึกความหมั่นไส้หวังบรูคลินเป็นอย่างมาก
“เสร็จแล้ว” หวังบรูคลินเอ่ยขึ้นเมื่อเขาทำแผลให้เซียวฌอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ขอบคุณ” เซียวฌอนลุกขึ้นยืนทันทีแต่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายที่ทำแผลให้เขา ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเขาสามารถทำแผลได้เองก็ตามเหอะ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายอยากทำให้เขาก็ไม่ขัดศรัทธาแน่นอน
“บอกผมมาสิ” หวังบรูคลินเอ่ยขึ้น
เซียวฌอนขมวดคิ้วด้วยความงงงวยว่าหวังบรูคลินหมายถึงอะไร “บอกอะไร?”
“ก็เลขห้องกับรหัสห้องของคุณไง” หวังบรูคลินตอบกลับ เขาได้ยินสิ่งที่เซียวฌอนพึมพำ ไม่สิ เรียกว่าพูดออกมาเลยก็ว่าได้ เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ดพูดเบาอะไรขนาดนั้น
สัตว์ พูดเบา ๆ ยังได้ยินอยู่นะ! หูดียิ่งกว่าหูหมาอีก!
เซียวฌอนชักสีหน้าใส่อีกฝ่ายทันที “เป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย! ผมชนคุณจนสมองกระทบกระเทือนเลยรึไง หรือว่าความจริงแล้วคุณเป็นโรคจิต”
เดี๋ยวนะ มาหาว่าเขาเป็นโรคจิตได้อย่างไรกัน ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนพูดเองแท้ ๆ “ก็คุณบอกให้ผมถามเอง” หวังบรูคลินกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต! แบร่!” เซียวฌอนแลบลิ้นใส่หวังบรูคลินด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเดินฟึดฟัดออกไปข้างนอก
“หึ” หวังบรูคลินกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นแผ่นหลังของเซียวฌอนที่เดินฟึดฟัดออกไป “เหมือนเด็กเลยแหะ” หวังบรูคลินหลุดหัวออกมา
เซียวฌอนที่ได้ยินเสียงหัวเราะของหวังบรูคลินก็หันกลับไปมองค้อนอีกฝ่ายทันทีพร้อมกับชู้นิ้วกลางให้หวังบรูคลินแล้วก็เดินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
“คุณรอผมด้วย!” หวังบรูคลินตะโกนตามหลังอีกฝ่าย ก่อนจะวิ่งตามอีกฝ่ายไป จะว่าไปเซียวฌอนเวลาโมโหก็น่าหมั่นไส้เหมือนกันแหะ
เซียวฌอนที่เห็นว่าหวังบรูคลินตามหลังเขามาก็หันกลับไปตะโกนใส่อีกฝ่ายทันที “อย่าตามมานะไอ้หมาบรูคลิน! ไอ้โรคจิต!”
แต่ก็มีเสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมาแทรกประโยคของเซียวฌอนเข้า “ใครก็ได้โทรเรียกตำรวจให้ที! มีคนตาย! มีคนตาย!”
เซียวฌอนชะงักเท้าแล้วมองไปยังตอนทางเสียงก่อนจะหันหน้าไปทางหวังบรูคลินแล้วเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเบา ๆ “คุณ…”
หวังบรูคลินพยักหน้าอย่างเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เขาเดินเข้าไปหาเซียวฌอนแล้วดึงแขนอีกฝ่ายให้เดินตามเขามาทันที “ไปกัน”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments