เซียวฌอนหันไปตามเสียงที่เอ่ยถามเขา เมื่อเห็นว่าเป็นหวังบรูคลินจากตอนแรกที่เซียวฌอนคิดจะตอบแบบดี ๆ เขากลับกวนอีกฝ่ายก็เลยเลือกที่ตอบไปว่า “คิดว่าผมพูดลอย ๆ รึไงคุณ”
“หลักฐาน” แต่หวังบรูคลินไม่ได้เล่นกับเซียวฌอน เขาส่งสายตากดดันไปที่เซียวฌอน
เซียวฌอนรับรู้ถึงบรรยากาศกดดันที่ออกมาจากตัวและดวงตาของหวังบรูคลินที่จ้องมาที่เขา ส่วนโซเฟียก็รีบเอามือออกจากแขนของเซียวฌอนทันที เพราะเธอเองก็รับรู้ถึงรังสีกดดันนี้เหมือนกัน
“เอาไป!” เซียวฌอนยัดซองสีน้ำตาลใส่มือบรูคลิน หวังบรูคลินขมวดคิ้วด้วยไม่เข้าใจ ก่อนจะเปิดซองเอกสารดู ในนั้นมีรูปภาพอยู่หลายสิบใบในอากัปกิริยาที่ต่อเนื่องกันและไม่ต่อเนื่องกัน
“นี่มัน...” ลิษาที่เห็นรูปภาพในมือของหวังบรูคลินก็พูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“เจ้าหน้าที่ไม่ซื่อตรงแบบนี้ ผมหวังว่าคุณจะจัดการเขานะครับคุณบรูคลิน” เซียวฌอนจ้องมองไปที่หวังบรูคลิน เอาสิ คิดว่าตัวเองส่งสายตากดดันคนอื่นเป็นแค่ฝ่ายเดียวรึไงกัน
“ผมขอตัว” พูดจบเซียวฌอนก็เดินออกจากห้องไปทันที ส่วนหวังบรูคลินยืนนิ่งไม่พูดอะไร
เควินรับรูปมาดู “ทำไมเขาชอบเจออะไรที่เราไม่เจอวะ”
ลิษา “นั่นสิ”
“ไอ้บรูค” บิลลี่ตั้งใจจะหันหน้าไปคุยกับเพื่อนของเธอที่ยืนนิ่ง แต่หันกลับอีกทีอีกฝ่ายก็เดินเร็วออกจากห้องไปเสียแล้ว “จะรีบไปไหนของมันวะนั่น”
หวังบรูคลินวิ่งตามเซียวฌอนออกมาข้างนอก ก่อนจะรั้งแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ “เดี๋ยวคุณ”
“อะไรอีกครับ” เซียวฌอนหันไปถามคนที่ดึงแขนของเขาด้วยใบหน้านิ่ง
“คุณได้รูปภาพพวกนี้มาได้ไง” หวังบรูคลินชูภาพในมือให้เซียวฌอนเห็น
“ผมก็ถ่ายเอาเองสิครับ” เซียวฌอนตอบไปตามความจริง
“คุณไปกับใคร?” หวังบรูคลินเอ่ยถามขึ้น
เซียวฌอนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเพิ่มมากยิ่งขึ้น ดวงตาและท่าทางของเซียวฌอนตอนนี้บ่งบอกได้ว่าเขารำคาญหวังบรูคลินขั้นสุด “คนเดียวจบนะ ปล่อยแขนผมได้รึยัง ผมมีงานต้องไปทำต่อ”
“คุณรู้เรื่องได้ยังไง” แต่เหมือนว่าหวังบรูคลินจะไม่ได้สนใจท่าทางรำคาญของเซียวฌอนเลย เขายังคงเลือกที่จะถามคำถามที่เขาต้องการคำตอบอยู่
“ตามีก็สังเกตเอาสิครับคุณ” เซียวฌอนพยายามจะสะบัดแขนเพื่อสลัดเอามือของอีกฝ่ายออก
ไม่รู้ทำไมเวลาคุยกันทีไรอีกฝ่ายถึงชอบจับแขนเขาเอาไว้แบบนี้กัน
“ทำไมไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ ต่อให้คุณมีฝีมือแค่ไหนแต่ก็ไม่ควรทำอะไรคนเดียว” หวังบรูคลินเอ่ยตำหนิเซียวฌอน รูปที่อีกฝ่ายถ่ายมาได้เป็นรูปจากการแอบถ่าย โดยปกติแล้วต้องมีคนไปด้วยอย่างน้อยหนึ่งคน แต่เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายที่เพิ่งกลับมาตามคนพวกนี้ไปได้ยังไงกัน
“โทษทีนะครับ ผมเป็นพวกคิดได้ก็ทำเลย เอาไว้ครั้งหน้าจะบอกก่อนก็แล้วกัน” เซียวฌอนพยายามตัดจบประโยคด้วยการยอมรับอย่างรวดเร็วโดยไม่โต้เถียง
แต่มีเหรอที่หวังบรูคลินจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังประชดเขาอยู่ “ดื้อรั้น”
“นี่คุณ!” เซียวฌอนรู้สึกอยากจะเอากาแฟร้อนแก้วนี้สาดใส่อีกฝ่ายเสียจริง แต่เขาก็ได้แต่ข่มอารมณ์ไม่ให้ลงมือ “เอาเวลาที่กวนผมไปตามจับลูกน้องคุณไม่ดีกว่าเหรอคุณบรูคลิน เนื้อเน่าก็ควรตัดทิ้ง” เซียวฌอนเน้นเสียงประโยคสุดท้าย
“ไม่ต้องบอกผมก็ตัดทิ้งอยู่แล้ว” หวังบรูคลินไม่ปล่อยให้คนที่ทรยศได้อยู่อย่างสบายใจหรอก
“งั้นผมขอตัว”
“เชิญ” หวังบรูคลินปล่อยมือที่จับแขนของเซียวฌอนออก
เซียวฌอนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจับเขาแรงมากขนาดไหน แต่ที่เขารู้ก็คือตอนที่อีกฝ่ายปล่อยมือเหมือนจะเกิดความรู้สึกเจ็บบริเวณที่ข้อมือ
เซียวฌอนเดินห่างจากหวังบรูคลินพอที่จะไม่ให้อีกตัวคว้าตัวเขาเอาไว้อีก จากนั้นก็หันกลับมามองแผ่นหลังของหวังบรูคลินที่กำลังเดินไป
“เดี๋ยว!”
หวังบรูคลินหยุดเดิน เขาค่อย ๆ หันกลับมองตามเสียงเรียกของเซียวฌอน
เซียวฌอนยกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับพูดด้วยท่าทางสบาย “คุณหวังกับคุณแจ็คสันสบายดีใช่ไหมครับ”
“!!!”
หวังบรูคลินยืนนิ่งราวกับถูกแช่แข็งเมื่อได้ยินชื่อของคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้ยินออกมาจากปากของคนตรงหน้าได้
“คุณรู้ได้ยังไง” หวังบรูคลินพยายามข่มท่าทางของตัวเองให้เป็นปกติที่สุด
“คุณหวังบรูคลินผมมองอะไรที่คนเขาพลาดกัน คุณเป็นคนบอกเองหนิครับ” พูดจบเซียวฌอนก็กระตุกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับยักคิ้วอย่างกวน ๆ ให้หวังบรูคลิน จากนั้นก็เดินจากไปทันที
ทิ้งให้หวังบรูคลินยืนนิ่งกำลังคิดว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องครอบครัวของเขาได้อย่างไรกัน
อีกฝ่ายเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศไม่ใช่อย่างงั้นเหรอ?
สองวันต่อมา ณ ห้องประชุม
“ตอนนี้ ส.ส.เลี่ยวปั๋ว ส.ส.อี้ฉวี้ และแอร์โฮสเตสซู่ซินฮวา ฟื้นแล้วครับ ทางโรงพยาบาลเพิ่งโทรมาบอกรายงานผมเมื่อกี้” เฮนรี่เอ่ยขึ้น
“อืม งั้นเรารีบประชุมกันจะได้รีบไปเก็บหลักฐาน” จางอี้ชิงเอ่ยขึ้น
โซเฟียยิ้มก่อนจะลุกขึ้นยืน “งั้นเฟียรายงานเลยนะคะ”
จางอี้ชิง “ครับ”
“ศพที่พี่ฌอนเจอเรายืนยันตัวตนได้แล้วค่ะ ชื่อหย่างข่าย เป็นเลขาของ ส.ส.เลี่ยวปั๋ว “โซเฟียกดเลื่อนหน้าจอเป็นหน้าข้อมูลของผู้เสียชีวิต
หย่างข่าย อายุ 38 ปี เพศชาย อาชีพเลขาธิการ
ที่อยู่ปัจจุบัน....................
ช่องทางติดต่อ...................
เซียวฌอนอ่านข้อมูลที่แสดงบนหน้าจออย่างช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ “เลขาตกเครื่อง บอสใส่ชูชีพดิ่งลงมา หึ” เซียวฌอนกระตุกยิ้มที่มุมปาก โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่เขาพึมพำออกไปนั้นได้ยินกันทั้งห้องประชุม
นิโคลินที่ได้ยินคำพูดของเซียวฌอนก็รีบห้ามปรามไม่ให้เพื่อนสนิทไม่ให้คิดเรื่องราวที่มันดูเข้าทางอะไรตอนนี้ “รอให้รายงานจบก่อนสิฌอนอย่าเพิ่งคิดอะไรแบบนี้”
“ก็ได้ ต่อเลยครับน้องเฟีย” เซียวฌอนเพิ่งรู้ว่าทุกคนต่างจ้องมาที่เขาราวกับว่าเขาพูดอะไรผิดอะไรอย่างนั้น จึงผายมือไปทางโซเฟียให้โซเฟียพูดต่อ
“น้องเฟีย?” โซเฟียเอ่ยย้ำขึ้น
ส่วนเซียวฌอนก็งงว่าเขาทำอะไรผิดรึเปล่าทำไมหญิงสาวถึงได้มีท่าทางนิ่งแบบนั้น แค่เรียกน้องเฟียเองนะ?
“เฟียเขิน” โซเฟียทุบโต๊ะด้วยความเขินอาย คนที่นี่มักจะเรียกเธอว่าโซเฟียไม่ก็เฟียเฉย ๆ เซียวฌอนเป็นคนแรกที่เรียกเธอว่าน้องเฟีย แถมอีกฝ่ายยังเรียกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอีก
ให้ตายสิ โซเฟียหลงผู้ชายคนนี้มากขึ้นกว่าเดิมอีก
ท่าทางโซเฟียทำให้เซียวฌอนหลุดยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติออกมาด้วยความตลกกับท่าทางของหญิงสาว เขารู้แล้วว่าเขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย โซเฟียแค่เขินเขาก็เท่านั้นเอง
บิลลี่เห็นอาการสะดีดสะดิ้งของโซเฟียก็จับโซเฟียให้อยู่นิ่ง “เฟียอย่าเพิ่งแรด รายงานผลก่อน”
โซเฟียจิปากอย่างหงุดหงิดใจ “เฮียก็” เธอพยายามรวมรวบสติที่หลุดออกไปให้กับคำว่า น้องเฟีย ให้สิไม่เอาไม่คิด เดี๋ยวก็หลุดอีกหรอก!
โซเฟียหายใจเข้าฮึบเอาไว้ก่อนจะพูดรายงานต่อ “ต่อเลยนะคะ เจอแอลกอฮอล์ 1.4 ในเลือดและยังพบฟลูออกซิทีน ด้วยค่ะ”
“ได้ตรวจหาสารย้อนหลังไหมเฟีย” หวังบรูคลินเอ่ยถามขึ้น
โซเฟียยกยิ้มอย่างภูมิใจกับความรอบครอบของตัวเอง “ตรวจอยู่แล้ว นี่ค่ะ” โซเฟียเลื่อนสไลด์ไปหน้าถัดไปทันที
เซียวฌอนพึงพำกับตัวเองเบา ๆ “รับ Prozac มาตลอด ตัวอื่น ๆ ก็พบได้ทั่วไป เอ๊ะ” แต่แล้วก็มีสิ่งที่ทำให้เซียวฌอนสะดุดตา “อันนี้สินะสนใจขึ้นมาหน่อย”
“Dilaudid ” หวังบรูคลินและเซียวฌอนเอ่ยออกมาเบา ๆ พร้อมกัน เมื่อรู้ว่าตัวว่าเพิ่งพูดออกไปพร้อมกันทั้งสองก็มองหน้ากันด้วยความไม่พอใจ และคนที่ไม่พอใจมาก ๆ ดูเหมือนจะเป็นเซียวฌอน
“ไม่มีในประวัติการรักษาด้วย” จางอี้ชิงเปิดประวัติการรักษาของผู้เสียชีวิตขึ้นดู
“มันอันตรายเหรอครับ?” เฮนรี่เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย เขาเป็นเด็กใหม่ของทีมเรื่องบางเรื่องเขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมากหรอก ต่างจากพวกรุ่นพี่ที่รู้เรื่องราวต่าง ๆ มากกว่าเขา จึงเป็นอยู่บ่อยครั้งที่เขาถามออกไป และดูเหมือนว่าพวกรุ่นพี่ก็ไม่ได้รำคาญกับที่เขาถามแต่อย่างใด กลับกลายเป็นชอบด้วยซ้ำที่เขากล้าถามในสิ่งที่ไม่รู้ออกมา
นิโคลินตอบกลับ “อืม คุณหยางข่ายเป็นโรคซึมเศร้าได้รับยา prozac ไดลอดิดหรือไฮโดรมอร์โฟนเป็นยาต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยา prozac เพราะมันส่งผลต่อการเผาผลาญของเอนไซม์ CYP2D63 ในตับ”
Prozac หรือ Fluoxetine คือ ยาที่ใช้รักษาอาการของโรคซึมเศร้า
Dilaudid ประเภทของยาที่เรียกว่ายาแก้ปวด opioid มันทำงานในสมองเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกของร่างกายและตอบสนองต่อความเจ็บปวด
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments